310 - เดิมพัน
ตู้เฟยถอนหายใจและกล่าวว่า
"ในเรื่องนี้ข้าก็รู้สึกเช่นกัน ในตอนที่พลังศักดิ์สิทธิ์ถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของเขามันจะทำหน้าที่เหมือนเกราะป้องกันไม่มีผู้ใดสามารถโจมตีทะลวงผ่านได้"
หลี่เหอซุ่ยเผยสีหน้าวิตกกังวลและกล่าวว่า “แสงศักดิ์สิทธิ์ของเขาแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ และลุกโชติช่วงเหมือนดวงอาทิตย์
ข้ารู้สึกว่าถึงแม้จะเป็นร่างศักดิ์สิทธิ์ก็ยากที่จะเอาชนะคนผู้นี้ได้ ในโลกนี้ข้าคิดว่ามีเพียงญาณวิเศษด้านการโจมตีในทักษะลับทั้งเก้าของดินแดนรกร้างเท่านั้นที่พอจะเอาชนะได้"
“เจ้าหมายถึงวิชาของราชาศักดิ์สิทธิ์เจียงไท่ซู!?” ตู้เฟยขมวดคิ้ว
“ใช่ มีความเป็นไปได้สูงที่เด็กน้อยนี่จะครอบครองญาณวิเศษลึกลับประเภทป้องกันในเก้าทักษะลับ!” หลี่เหอสุ่ยมีสีหน้าไม่มั่นใจ
ถัดจากเขาเจียงฮั่วเหรินนิ่งเงียบไม่เอ่ยวาจา เจียงไท่ซูเป็นบรรพบุรุษของเขา แต่น่าเสียดายที่ทักษะลับในด้านการโจมตีได้หายสาบสูญไปนานแล้ว
"นั่นก็ไม่แน่หรอก มันจะต้องมีวิชาอื่นที่สามารถเอาชนะเด็กน้อยนี้ได้อย่างแน่นอน" อู๋จงเทียนกล่าวอย่างสบาย ๆ
“มันจะมีจริงๆหรือ” คนอื่นๆหลายคนประหลาดใจและสงสัย
“พวกเราอยู่ในดินแดนรกร้างตะวันออกจนคิดว่านี่คือดินแดนเดียวในโลก พวกเจ้าไม่รู้หรือว่าเมื่อเทียบกับคนที่อยู่ในภาคกลางพวกเราไม่นับเป็นอะไรเลย”
อู๋จงเทียนกวาดตามองไปยังองค์ชายต้าเซี่ยซึ่งกำลังเดินไปพร้อมกับบุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงข้างหน้าเขาและกล่าวว่า
"ปราณจักรพรรดิ์ของราชวงศ์ต้าเซี่ยมีอำนาจเหนือสวรรค์และปฐพี กล่าวกันว่านี่เป็นญาณวิเศษอันดับหนึ่งของโลก ข้าคิดว่าเขาจะต้องสามารถจัดการกับบุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงได้”
องค์ชายต้าเซี่ยปลดปล่อยแสงสีทองบางๆออกมาจากร่างกายตลอดเวลา นั่นคือปราณมังกรของราชวงศ์เซี่ย หากสังเกตอย่างจริงจังจะมองเห็นมังกรเก้าตัวที่เคลื่อนไหวอยู่รอบๆร่างกายของเขา
“ข้าไม่รู้ว่าญาณวิเศษไหนที่แข็งแกร่งกว่าระหว่าง ปราณมังกรและทักษะการโจมตีของราชันย์ศักดิ์สิทธิ์เจียง
ผู้คนในอาณาจักรกลางภาคภูมิใจในตัวเองอยู่เสมอ แต่ในตอนนั้นพวกเขาก็ไม่กล้าเข้ามายุ่งเกี่ยวกับภาคตะวันออกของเรา " ตู้เฟยรู้สึกเสียดายอย่างหาที่เปรียบมิได้
ในขณะนี้ ทั้งบุตรศักดิ์สิทธิ์ศักดิ์สิทธิแสงโชติช่วงและองค์ชายต้าเซี่ยกำลังตรวจสอบหิน ศิลามหัศจรรย์ทั้งเก้าก้อนไม่ทราบว่าถูกคนตรวจสอบไปกี่ครั้งแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ตรวจสอบมัน
ในเวลานี้เย่ฟ่านและเหยาซีกำลังคุยกันอย่างมีความสุข พวกเขาพูดคุยและหัวเราะในขณะที่เดินไปข้างหน้าทำให้โจรตัวน้อยหลายคนถอนหายใจออกมาด้วยความเศร้าเสียดาย
“เจ้ารู้อะไรเกี่ยวกับหินต้นกำเนิดด้วยไหมนักพรต?” เหยาซีถาม
“การศึกษาของนักพรตผู้น่าสงสารนั้นมีความหลากหลายแต่ไม่ได้ถูกขัดเกลาไม่มีอะไรสำเร็จ เป็นเพียงการล้อเล่นเล็กน้อย ในเรื่องของต้นกำเนิดนี้ก็เป็นอย่างหนึ่ง” เย่ฟ่านยิ้ม
“ข้าคิดว่านักพรตเจ้าถ่อมตัวเกินไปแล้ว เหตุไฉนไม่ลองดูสักครั้ง” เหยาซียิ้มบางๆขนตาของนางสั่นเล็กน้อย
เมื่อได้ยินคำเหล่านี้องค์ชายต้าเซี่ยและบุตรศักดิ์สิทธิแสงโชติช่วงก็มองเข้ามาในทิศทางนี้และมีลักษณะการแสดงออกที่แตกต่างกัน
องค์ชายต้าเซี่ยไม่มีความรู้สึกที่ดีต่อเขา นี่อาจเป็นปัญหาทั่วไปของการเป็นพี่ชาย เขามักกลัวเสมอว่าจะมีเด็กเลวบางคนที่ต้องการหลอกลวงน้องสาวของเขา
ในทางกลับกันบุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงกลับยิ้มอย่างสงบและมองไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์เลย
แม่ชีตัวน้อยก็แอบมองเย่ฟ่าน นางเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและไร้เดียงสาอย่างสมบูรณ์
"ถ้าอย่างนั้นนักพรตผู้น่าสงสารต้องแสดงความทุเรศแล้ว" เย่ฟ่านก้าวไปข้างหน้าแต่ไม่เอื้อมมือออกไป เขาเดินวนรอบหินเก้าก้อนสองครั้งและมีสีหน้าครุ่นคิด
ในขณะนั้นมีร่างเพรียวบางที่งดงามปรากฏขึ้นอยู่ไม่ไกลจากศาลา สตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกมองไปที่เย่ฟ่านซึ่งกำลังตรวจสอบหินด้วยความมุ่งหวัง
นางเฝ้าดูอย่างเงียบๆตั้งแต่เย่ฟ่านพูดคำว่าศากยมุนีและกล่าวพุทธวจนออกมา เรื่องนี้ทำให้นนางตกตะลึงอย่างยิ่งและต้องการเห็นเขาแสดงความมหัศจรรย์อีกครั้ง
เย่ฟ่านวนไปมาหลายครั้งและตบก้อนที่ใหญ่ที่สุดจากนั้นก็สะบัดแขนเสื้อไปที่หินที่เล็กที่สุดและพูดอย่างไม่ใส่ใจ
“หินสองก้อนนี้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์บางอย่าง ส่วนที่เหลือเป็นเพียงหินเปล่า”
รอบๆทางมีเสียงหัวเราะดังขึ้นเบาๆ
“ไร้สาระ เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์จริงๆ?”
“ข้าคิดว่าเขาเป็นคนไร้สาระโดยสิ้นเชิง ด้วยประสบการณ์หลายปีในการเล่นการพนัน หินสองก้อนนั้นเป็นหินขาวอย่างแน่นอน ไม่มีอะไรเลย”
"มีบางคนที่ชอบทำตัวให้ผู้อื่นสนใจ พวกเราไม่ต้องให้ค่าเขา"
......
“โอ้ นักพรต แน่ใจเหรอ?” องค์ชายต้าเซี่ยมีเจตนาเย้ยหยันอย่างชัดเจน
"ความรู้ของนักพรตผู้น่าสงสารนั้นจำกัด มันเป็นเพียงแค่ความคิดเห็นแบบสุ่ม" เย่ฟ่านกล่าวอย่างสุภาพ
องค์ชายขององค์ชายต้าเซี่ยส่ายหัวและกล่าวว่า
"ข้ามั่นใจว่ามันไม่ใช่หนึ่งในก้อนนี้"
เขามาที่นี่โดยหวังจะขโมยหัวใจของสตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยก ตามที่ทุกคนรู้จนกระทั่งวันนี้เขาก็ยังไม่เคยลงมือตรวจสอบ แต่แน่นอนว่าเขาย่อมมีการเตรียมตัวมาอย่างดี
เย่ฟ่านยิ้มและพูดว่า “ทำไมพวกเราไม่ลองเดิมพันกันดู?”
“อืม เดิมพันแบบไหน” องค์ชายต้าเซี่ยถาม
“ถ้าข้าพูดได้ถูกต้อง ข้าเพียงต้องการสนทนากับน้องสาวของท่านเพียงเล็กน้อย” เย่ฟ่านชี้ไปที่แม่ชีตัวน้อย
องค์ชายต้าเซี่ยมีความสนใจในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก แต่เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเย่ฟ่านหัวใจของเขาก็หนักหน่วงในทันที
แม่ชีตัวน้อยย่นจมูกและโบกมือให้เย่ฟ่านเป็นความหมายว่าไม่ต้องการที่จะสนทนากับเขา
“นักพรต เจ้าแน่ใจหรือว่าในหินสองก้อนนี้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์จริงๆ?” บุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงถาม
“นี่เป็นเพียงข้อสันนิษฐานของนักพรตผู้น่าสงสาร”
เหยาซีก้าวไปข้างหน้าและยิ้ม "ข้าคิดว่าความเข้าใจของ นักพรตนั้นไม่ธรรมดา"
ในเวลานี้สิ่งที่ผู้คนคาดไม่ถึงก็คือ สตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกก็ปรากฏตัวขึ้นด้วยความสนใจเช่นกัน
“ปรมาจารย์นักพรตท่านนี้ ท่านเลือกหินสองก้อนนี้จริงหรือ?” น้ำเสียงของนางดุจเสียงเพลงจากสวรรค์ มันช่างไพเราะสั่นสะเทือนจิตใจของผู้คน
คนรอบข้างต่างก็ประหลาดใจ พวกเขาไม่เคยคาดหวังว่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกจะมาด้วยตนเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
“นักพรตผู้น่าสงสารเพียงเลือกหินสองก้อนนี้แบบสุ่มไม่คิดจะรบกวนการพักผ่อนอย่างสงบสุขของเทพธิดา” เย่ฟ่านส่งเสียงสรรเสริญเทพเต๋า และกล่าวคำทักทาย
สตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบทักทายเขากลับด้วยท่าทางอ่อนหวาน เช่นกัน
รูปร่างและผิวพรรณของนางนั้นงดงามอย่างยิ่งแต่ที่น่าเสียดายที่สุดก็คือใบหน้าของนางถูกผ้าเบาบางผืนหนึ่งปิดบังไว้ทำให้ผู้คนรู้สึกคันหัวใจยากที่จะเกา
ถึงแม้ใบหน้าของนางจะไม่ได้ปรากฏ แต่เพียงกริยาอันอ่อนช้อยและรูปร่างงดงามโดดเด่นก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนลุ่มหลงจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว
นี่เป็นครั้งแรกที่เย่ฟ่านและสตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกอยู่ใกล้กัน เมื่อนางเอ่ยวาจาขึ้นมาเย่ฟ่านก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมอ่อนๆของดอกไม้
เมื่อสังเกตเห็นการสูดดมของเขาสตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกก็ถอยหลังกลับไปเล็กน้อยจากนั้นจึงกล่าวว่า
"ปรมาจารย์นักพรต มีพื้นฐานในการเลือกหินสองก้อนนี้หรือไม่"
คนรอบข้างต่างประหลาดใจพวกเขาไม่เชื่อว่าเย่ฟ่านสามารถค้นพบความลับได้จริงๆ แต่พวกเขาก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกให้ความสนใจอะไรกับนักพรตผู้นี้
“นักพรตเต๋าผู้น่าสงสารเพียงอาศัยสัญชาตญาณของตัวเองเท่านั้น หินทั้งสองก้อนนี้ทำให้พลังโลหิตในร่างกายของข้าเดือดพล่านอย่างรุนแรง”เย่ฟ่านพูดถึงสิ่งที่หวังซู่และเอ้อหรงจื่อบอกเขา
ศัตรูตัวฉกาจของเขาอย่างเช่นสตรีศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงเหยาซีไม่สามารถจดจำเขาได้เห็นได้ชัดว่าวิชาศักดิ์สิทธิ์ที่บันทึกในตำราต้นกำเนิดสวรรค์มีความมหัศจรรย์อย่างมาก
เมื่อมีโอกาสมาถึงเย่ฟ่านตั้งใจจะเปิดเผยใบหน้าที่หล่อเหลาของตัวเองต่อสตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยก หากโชควาสนานำพาบางทีพวกเขาอาจได้เป็นคู่ครองกัน?
“โอ้ มีเรื่องแบบนี้ ......” สตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกพยักหน้าและไม่แสดงความคิดเห็นมากเกินไป
หลังจากนั้น นางมองไปที่องค์ชายต้าเซี่ยและกล่าวว่า
"ฝ่าบาทคิดเห็นอย่างไร เจ้าเลือกหินทั้งสองก้อนของตัวเองแล้วหรือไม่"
องค์ชายต้าเซี่ยพยักหน้าและกล่าวว่า
"ข้าได้เลือกหินสองก้อนแล้ว"
เขาชี้ไปที่ก้อนที่ใหญ่ที่สุดหนักสองพันจิน แล้วตบก้อนหินที่หนักกว่าร้อยจินที่อยู่ต่อหน้า