ตอนที่ 115 ความตายของกระทิงโลหิต
ตอนที่ 115 ความตายของกระทิงโลหิต
สนามรบบนเส้นทางภูเขา สถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยเลือด ฝุ่น ควันและความวุ่นวาย กองกำลังทหารรับจ้างต่างจับดาบขึ้นเข่นฆ่ากองกำลังโจรของกระทิงโลหิต
ขณะเดียวกันกองกำลังโจรของกระทิงโลหิตก็ใช้ความป่าเถื่อนเข้าสังหารกองกำลังทหารรับจ้างเช่นกัน ยังไม่มีใครถอยหนี แต่ขวัญกำลังใจของทั้งสองฝ่ายต่างก็เริ่มหมดลง ส่วนหนึ่งกองกำลังทหารรับจ้างสู้เพื่อเงิน แต่ถ้าตาย เงินที่ไหนก็ไม่ได้ใช้
ด้านกองกำลังโจรของกระทิงโลหิต พวกมันเป็นโจรมิใช่ทหารจึงไม่มีความกล้าหาญใดนอกจากความป่าเถื่อนและเห็นแก่ตัว สมุนโจรของกระทิงโลหิตต่างหันไปมองรอบกายและหัวหน้ากองกำลังของมันที่กำลังสู้อยู่กับนักรบฝึกหัดสามคนที่ล้อมกรอบอยู่
วิลเลียมและโจชัวสองคนต่างใช้ดาบของตนเข้าห้ำหั่นกับกระทิงโลหิตอย่างดุดัน ส่วนลูก้านั้นเขารอบเล้นไปตามสนามรบหาจังหวะเล่นงานทีเผลอ
“พวกเจ้าคิดจะสังหารข้าได้ง่าย ๆ อย่างนั้นเหรอ” กระทิงโลหิตเลือดขึ้นหน้า มันไม่เคยลำคานใครเท่ากับทั้งสามคนนี้มาก่อน
การที่โดนนักรบฝึกหัดระดับ 2 เล่นงานถือเป็นสิ่งที่น่าอายสำหรับกระทิงโลหิต มันเหมือนราชาสิงโตโดนเหล่าไฮยีน่าลอบกัด
ในตอนแรกมันคิดว่าจะทำให้กองกำลังทหารรับจ้างเสียหายจนพวกมันไม่กล้าขึ้นมาไล่ล่ากองกำลังโจรกระทิงโลหิตของตนอีก แต่ใครจะไปคิดว่าในวินาทีล่าถอยกลับโดนชายคนหนึ่งลอบโจมตี
แถมชายเจ้าเล่ห์ผู้นั้นยังให้สหายของมันสองคนเข้ามาสู้พัวพันกับตนก่อนจะลอบโจมตีจากวงนอก
“ตาย!!! ศิลปะการต่อสู้ ฟาดฟันขึ้น 3” กระทิงโลหิตจับดาบสองมือยาวสองเมตรฟันใส่ทั้งวิลเลียมและโจชัว
วิลเลียมและโจชัวเห็นเช่นนั้นต่างก็ถอยหนีด้วยใบหน้าขาวซีด ในใจทั้งสองต่างหวั่นเกรงพลังของกระทิงโลหิต
ดาบของกระทิงโลหิตฟันเข้าไปที่หินขนาด 3 เมตรที่พบได้ทั่วไปบนเขาหินแห่งนี้
หินถูกผ่าแยกออกเป็นสอง แต่ก่อนที่มันได้แยกจากกันสมบูรณ์ก็ไม่อาจจะทนพลังของศิลปะการต่อสู้ระดับ 3 ได้จึงพากันแตกร้าวและกระจายไปสองทิศทาง
ทั้งวิลเลียมและโจชัวต่างก็โดนเศษหินกระแทกใส่ตัว บังคับทั้งสองถอยออกห่างหลายเมตร ทำให้ตอนนี้ไม่มีใครขัดขวางกระทิงโลหิตอีก
“ถอย!!...กลับไปที่ฐาน” กระทิงโลหิตไม่ได้ตามโจมตีทั้งคู่ซ้ำอีกรอบ แต่เลือกจะถอยกลับไปที่ค่ายรังโจรของพวกมัน ที่นั่นเป็นเส้นทางเข้าออกทางเดียว จึงสามารถป้องกันและหลบอยู่รอดในนั้นได้หลายสิบวัน ระหว่างนั้นพอทุกคนหายดี
ถ้ากองกำลังทหารรับจ้างยังเลือกจะเฝ้าปิดล้อมพวกตน กระทิงโลหิตก็จะใช้วิธีที่โจรถนัดนั้นคือรอบโจมตียามค่ำคืน
แต่แล้วในตอนนั้นเองอยู่ ๆ ก็มีควันไฟลอยออกมาจากในถ้ำรังโจรของพวกกัน และนั้นคือฝีมือของลูก้าที่จุดไฟไว้ในตอนแรก
“บัดซบใครกัน...อ๊ากกก!!”
ขณะที่กระทิงโลหิตกำลังตกใจกับควันไฟที่ลอยออกจากถ้ำ ในตอนนั้นก็มีดาบแทงเข้าที่ข้างเอวของมัน เสียบเข้าไปลึกมาจนน่าหวาดเสียว
คนที่ลงมือไม่ใช่ใคร แต่เป็นลูคัสผู้ที่ตอนนี้กำลังแสยะยิ้มให้กับกระทิงโลหิต
“เจ้า...อ๊ากก!” กระทิงโลหิตกัดฟันแน่นมือข้างหนึ่งคว้าจับไปที่มือของลูก้าเพื่อจะผลักมีดออกไม่ให้เสียบลึกเข้าไปมากกว่านี้ แต่ลูก้านั้นกลับบิดมีดในมือไปมาสร้างความเจ็บปวดให้กับกระทิงโลหิตเป็นอย่างยิ่ง
กระทิงโลหิตมองไปที่ดวงตาของลูคัส มันรู้สึกลึก ๆ ว่าเด็กคนนี้คือตัวอันตรายสุด ๆ ไปเลย
“เจ้าฆ่า ข้าไม่ได้”
“ทำไมจะไม่ได้” ลูคัสยิ้มตาหยีตอบกลับไป
“ศิลปะการต่อสู้ ฟาดฟันขั้น 2”
ในตอนนั้นเอง วิลเลียมที่เห็นว่าได้จังหวะเหมาะก็รอบฉวยโอกาสที่กระทิงโลหิตกำลังจนใจลูคัสอยู่ใช้ดาบฟันเข้าแผ่นหลังของกระทิงโลหิตเข้าเต็มแรง คมดาบของสองมือของวิลเลียมตัดผ่านเกราะหนังของกระทิงโลหิต เฉือนบาดฟาดฟันเข้าที่แผ่นหลัง
สร้างบาดแผลฉกรรจ์ให้กับกระทิงโลหิต
“อ๊ากก!!!”
กระทิงโลหิตร้องด้วยความเจ็บ เลือดไหลออกจากแผลผ่านเกราะหยดลงพื้นหินดินแดง แต่กระทิงโลหิตก็สมกับฉายากระทิงโลหิตมันถึงทนอย่างน่าตกใจ กระทิงโลหิตปล่อยมือที่จับกับมือของลูคัส ก่อนจะใช้จังหวะที่มีดยังไม่เสียบลึกเข้ามาใช้มือต่อยเข้าไปที่ใบหน้าของลูคัส
ลูคัสรีบถอยกลับ แต่กำปั้นของกระทิงโลหิตก็ยังเฉี่ยวเข้าไปที่ข้างแก้ม ลูคัสรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่อัดปะทะเข้ามา ยังดีที่เป็นแค่การเฉี่ยว ถ้าโดนเต็มแรงกระดูกใบหน้าของลูคัสคงแหลก
นอกจากโจมตีลูกคัสกลับไปแล้ว กระทิงโลหิตยังยกดาบในมือฟันใส่วิลเลียม ทำให้วิลเลียมไม่มีทางเลือกต้องใช้ดาบขึ้นมาต้านรับการโจมตี
วิลเลียมรับการโจมตีของกระทิงโลหิตด้วยกำลังทั้งหมด ความแรงของการโจมตีทำเอาวิลเลียมตัวถอยหลัง เท้าลากไปกับพื้นยาว 3 เมตร
“ตายซะ!” โจชัวลงมือจู่โจมใส่กระทิงโลหิตดาบในมือยกขึ้นสูงฟันลงมาราวกับต้องการแยกร่างของโจชัวออกเป็นสอง
แต่ทั้งสามยังประเมินกระทิงโลหิตต่ำไปขั้นหนึ่ง กระทิงโลหิตคว้าเข้าไปในชายเสื้อข้างเอวหยิบปืนสั้นออกมา ก่อนจะยิงใส่โจชัว
ปัง!
กระสุนตะกั่วยิงเข้าไปที่หัวไหล่ของโจชัวที่ยังตกตะลึงไม่หาย จนร่างของมันตกลงพื้นดังตุบ
วิลเลียมถึงกับตกใจกับสิ่งที่เห็น เพราะไม่คิดว่าหัวหน้าโจรกระจอกผู้หนึ่งจะมีอาวุธปืนราคาแพงได้
ลูคัสหรี่ตาลงอย่างมีนัยโดยไม่พูดอะไร
ก่อนจะกระทิงโลหิตอาศัยจังหวะนั้นถอยหนีออกมาพร้อมกับสมุนโจร 5 คนที่ล้อมรอบปกป้องกระทิงโลหิตไว้ตรงกลาง
ส่วนสมุนโจรคนอื่น ๆ ที่ยังรอดเหลืออยู่ประมาณ 20 คนต่างก็วิ่งตามหลังไปหนีไปด้วย
“ไล่ตามมันไป” วิลเลียมตั้งสติร้องบอกทุกคน
“ไม่อย่าตาม” แต่แล้วหนึ่งในผู้นำกองกำลังทหารรับจ้างก็บอกกับพวกของตน ทำให้วิลเลียมโมโหสุด ๆ
“เจ้าคิดจะทำอะไร ข้าจ้างพวกเจ้ามานะ”
“ท่านไม่เห็นหรือว่าทหารของข้าบาดเจ็บหนักและล้มตายมากแค่ไหน พวกเราควรถอยกันก่อน”
“นั้นคือความเสี่ยงในอาชีพของพวกเจ้าอยู่แล้ว อย่าลืมว่าตามข้อตกลงของเราเจ้าจะได้เงินเป็นส่วนแบ่งทรัพย์สมบัติของพวกโจร ถ้าถอยตอนนี้พวกเจ้าจะไม่ได้อะไร” วิลเลียมกล่าว ก่อนจะรีบวิ่งตามกระทิงโลหิตขึ้นไปบนด้านบนเขา
ลูคัสและโจชัวก็ไม่รอช้ารีบตามวิลเลียมไปเช่นกัน สำหรับพวกมันแล้วหัวของกระทิงโลหิตมีค่ามาก ซึ่งมันขอเป้าหมายหลักของพวกมัน
หัวหน้ากองกำลังมองไปที่ทั้งสามคนกัดฟันคิดหนัก ในตอนที่มันเลือกจะไปพากองกำลังทหารรับจ้างมานั้น เพราะคิดว่าจะใช้การลอบโจมตีหรือไม่ก็ดังรอให้โจรออกไปปล้นก่อนจะจู่โจม มันถึงได้มั่นใจมากกว่ากองกำลังทหารรับจ้างแค่นี้เพียงพอต่อการกวาดล้างกลุ่มโจรกระทิงโลหิต
แต่ใครจะไปคิดว่าอยู่ ๆ ก็กองกำลังโจรของกระทิงโลหิตก็ยกพวกมาลอบโจมตีกองกำลังทหารรับจ้างของมันก่อน โดยที่พวกมันยังไม่ได้เตรียมตัว
ทำให้ในช่วงแรกของการต่อสู้ กองกำลังทหารรับจ้างเสียเปรียบมาก แต่ด้วยความเป็นทหารรับจ้างจึงสู้ได้กับโจรได้อย่างน้อย 1 ต่อ 3 ยิ่งเป็นโจรระดับล่างด้วยจึงสามารถสู้ 1 ต่อ 4 ได้ จึงทำให้พลิกสถานการณ์กลับมาได้ในช่วงกลางของการต่อสู้
และสุดท้ายก็สังหารโจรได้จำนวนมาก จนพวกโจรยอมถอยหนี แต่นั่นก็นำมาซึ่งกองกำลังทหารรับจ้างที่สูญเสียอย่างหนัก
มันจึงลังเล เพราะถ้ายังตามโจรไปอีก พวกมันอาจจะเสียหายมากกว่านี้
“บ้าเอ๊ย พวกคุณหนูคุณชายพวกนี้มันไม่รู้หรือไงว่าพวกโจรคงมีกองกำลังอยู่ในรังของพวกมันอีก แต่ก็ไม่แน่เพราะ...” หัวหน้ากองกำลังทหารรับจ้างมองไปยังถ้ำของพวกโจรที่มีควันไฟลอยออกมา ก่อนจะรีบวิ่งตามไป
กระทิงโลหิตเห็นว่ามีคนวิ่งตามตนมาอยู่ไกล ๆ จึงเร่งฝีเท้าขึ้นพร้อมกับกล่าว “ใครตัดหัวพวกมันได้ข้าจะแต่งตั้งให้เป็นรองหัวหน้าโจร”
โจรที่หนีมาได้ยินก้รู้สึกตาลุกวาว แต่พวกมันไม่โง่ เพราะนั้นเท่ากับวิ่งกลับไปตาย แต่แล้วขณะที่หัวหน้าโจรจะได้พูดอะไรออกมาอยู่ ๆ ก็มีลูกศรปักเข้าไปที่กลางหน้าอกของหนึ่งในลูกสมุนโจรของมัน
จากนั้นก็ตามมาด้วยศรที่สองและสาม สังหารไปสามคน
พร้อมกันนั้นก็มีหญิงสาวกระโดดออกมาจากข้างทางวาดดาบตวัดฟันเข้าใส่โจรอีกสองคนจนตาย
“พวกเจ้า...” กระทิงโลหิตต้องการจะกล่าวแต่ก็ไม่ทัน
ในตอนนั้นเองมีค้อนขนาดใหญ่พุ่งเข้าใส่มัน ด้วยความที่บาดเจ็บมาก่อนหน้านั้นบวกกับต่อสู้มานานกว่า 20 นาที จึงแสดงพลังออกมาไม่ถึงครึ่งของสภาพที่สมบูรณ์
จึงไม่อาจจะรับการลอบโจมตีนี้ได้ทัน
ค้อนสั่นสะเทือนกระแทกเข้าไปกลางอกของกระทิงโลหิตจนตัวของมันลอยถอยหลัง ดาบในมือหลุดออกจากมือกระเด็นไปไกลหลายเมตรจากตัวของมัน
กระทิงโลหิตรู้สึกว่ากระดูกซี่โครงและหน้าอกร้าวไปหมด มันกระอักเลือกออกมา พยายามกระเสือกกระสนลุกขึ้นเพื่อหนี
แต่ยังไม่หยดแค่นั้นมีอาที่เข้าประชิดตัวมันแล้วใช้ดาบเดซี่แทงเข้าไปหากระทิงโลหิตตรง ๆ
“ข้าจะไม่ตายที่นี่” กระทิงโลหิตคำรามลั่นใช้มือเปล่าจับไปที่ดาบเดซี่ คมดาบเฉือนตัดเข้าไปที่มือทั้งสองของกระทิงโลหิต เลือดหยดลงเป็นสายธาร และกำลังจะตัดเฉือนกระดูกนิ้วมือของมัน แต่สายตาของกระทิงโลหิต ณ ขณะนี้เต็มไปด้วยความบ้าคลั่งที่จะมีชีวิตอยู่รอด กระทิงโลหิตพยายามข่มขวัญด้วยระดับที่เหนือกว่า แต่เมื่อมองไปที่ดวงตาของหญิงสาวที่ลอบโจมตีตน กระทิงโลหิตกลับเห็นแต่ความเฉยชาราวกับตัวมันกลายเป็นศพไปแล้ว
ในตอนนั้นมันก็รู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว ภาพที่มันมองเห็นราวกับโลกหมุนกลับไปมา แต่ที่จริงแล้วหัวของมันต่างหากที่หลุดออกจากคอตกลงกระแทกกับพื้น
ในที่สุดมันก็พึ่งรู้ตัวว่ามีชายหนุ่มผู้ถือดาบหักอยู่ข้างหลังของมันเป็นคนตัดหัวของมันออก ในใจของกระทิงโลหิตอยากจะถามกลับไปว่า “ตั้งแต่ตอนไหน” แต่มันก็มิมีโอกาสนั้นอีก
มีอาก้มลงไปหยิบศีรษะของกระทิงโลหิตที่หล่นอยู่แทบเท้าขึ้นมา ส่วนกายนั้นเขารีบค้นตัวของกระทิงโลหิตในทันที เพราะเขาเห็นว่าก่อนหน้านั้นกระทิงโลหิตนั้นใช้อาวุธปืน หลังจากเอาของทุกอย่างในตัวกระทิงโลหิตมาชายหนุ่มก็ลุกขึ้นยืน มองไปที่โจรที่หนีตายมาได้ทันกำลังตรงมายังพวกเขาสองคน กายและมีอาจึงเลือกจะถอนตัวกลับออกมาในทันที เพราะตอนนี้เป้าหมายอย่างหัวของกระทิงโลหิตสำเร็จลุล่วงแล้ว
“เดวิน! หยุดนะเจ้าบัดซบ!! เจ้าคิดจะทำอะไร!!!” เสียงของวิลเลียมร้องคำรามด้วยความโกรธแค้น
กายหันไปมองทางต้นเสียงที่ห่างไปไกลพอควร ในที่สุดเขาก็รู้แล้วว่าใครคือคนที่พากองกำลังทหารรับจ้างมาล่ากระทิงโลหิต
วิลเลียม ลูคัสและโจชัว พวกนี้นี่เอง ไม่สิเราควรคิดออกได้ตั้งนานแล้ว สมกับเป็นพวกที่ชอบใช้คนจำนวนมากเข้าสู้
กายหันไปยิ้มมุมปากให้กับวิลเลียมก่อนจะพากันถอยออกมาโดยไม่สนใจท่าทีของวิลเลียมและพรรคพวกแม้แต่น้อย