971-972
7/8
Ep.971
“ประมาณหมื่นปีก่อน” หงส์เพลิงตอบ
ซูเฉินพยักหน้า จากนั้นปิด [พื้นที่เลี้ยงสัตว์] มองไปยังอสูรเทพปลุกพลัง เอ่ยเสียงเรียบว่า “ฉันยืนยันดูแล้ว แกไม่ได้โกหกจริงๆ ยังไงก็ตาม ฉันก็ยังยืนยันคำเดิม ว่าถ้าอยากรอดชีวิต ก็ต้องมาเป็นสัตว์เลี้ยงวิญญาณของฉัน!”
เพราะท้ายที่สุดแล้ว อสูรเทพกลืนฟ้า ถึงอย่างไรมีฐานฝึกตนสูงถึงเทวะขั้น 5 ต่อให้กำลังรบของมันอ่อนแอขนาดไหน ก็ยังถือเป็นภัยคุกคามใหญ่หลวง ซูเฉินจะไม่มีทางยอมปล่อยมันไว้ข้างตัว
แน่นอน หลังจากได้ทราบถึงความสามารถของอสูรเทพปลุกพลังแล้ว เขาก็ยิ่งปรารถนาจะครอบครองมัน
ดังนั้นเขาจึงให้ตัวเลือกกับมันก่อน หากอสูรเทพปลุกพลังมีสมอง ทุกอย่างก็คุยกันง่าย แต่หากไม่มีสมอง ซูเฉินก็จะใช้วิธีบีบบังคับ ให้อสูรเทพไม่มีทางเลือกอื่น
“มนุษย์ อย่าให้มันมากเกินไปนัก ข้าเป็นถึงอสูรเทพเชียวนะ!”
เมื่อเห็นว่าซูเฉินกำลังข่มขู่มัน อสูรเทพปลุกพลังอุทานออกมาด้วยความโกรธ
“ไม่รู้จักชั่วดี!” ซูเฉินแค่นเสียงฮึ่ม ทันใดนั้นระเบิดพลังแห่งจิตวิญญาณบดขยี้อสูรเทพ
“มนุษย์ เจ้าคนน่ารังเกียจ!” อสูรเทพปลุกพลังดิ้นรนสุดกำลัง แต่ก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากพันธนาการของซูเฉินได้
และสิ่งที่เห็นในสายตา คือภาพของซูเฉินที่ก้าวตรงเข้ามาดั่งเทพสังหาร
อสูรเทพขวัญหนีดีฝ่อ ร้องโวยวายว่า “อย่านะ! ทุกเรื่องต่อรองกันได้ เจ้าใจเย็นก่อน!”
ซูเฉินไม่สนใจ ยื่นมือใหญ่ออกไป คว้าอสูรเทพปลุกพลังไว้บนฝ่ามือ เอ่ยเสียงเย็นว่า “ฉันจะให้โอกาสแกเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าไม่ยอมตกลงก็เตรียมโดนบี้ตายได้เลย!”
อสูรเทพปลุกพลังสั่นเทิ้มไปทั้งร่าง ขดตัวเป็นลูกบอล เอ่ยเสียงสั่นเทา “ข้ายอมแล้ว!”
ภายใต้แรงกดดันอันแข็งกล้าของซูเฉิน สุดท้ายมันก็ยอมลดราวาศอก แม้ในหัวใจจะไม่ยินยอม แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
ซูเฉินรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง กลั้นไม่ไหวหลุดยิ้มออกมา จากนั้นหยิบ [โพชั่นสัตว์เลี้ยง] ออกมาทีเดียวห้าขวด สั่งให้อสูรเทพดื่มลงไป
ฐานฝึกตนของอสูรเทพปลุกพลังสูงกว่าเขา ดังนั้นซูเฉินกลัวว่า [โพชั่นสัตว์เลี้ยง] จะไม่ทำงาน จึงหยิบออกมาทีเดียวห้าขวดรวด
มองไปยังน้ำยาทั้งห้าขวดตรงหน้า อสูรเทพปลุกพลังเกิดอาการต่อต้านเล็กน้อย แต่พอถูกสายตาเย็นชาของซูเฉินจิกมอง มันก็ยอมกลืนทั้งหมดลงอย่างเชื่อฟัง
“เจ้านาย!
ไม่นาน ดวงตาของอสูรเทพปลุกพลังก็กลายเป็นอ่อนโยน ดูเชื่องกว่าตอนแรกเยอะ ในแววตามันทอประกายดูสนิทสนมกับซูเฉินมากขึ้น
เห็นภาพนี้ มุมปากของซูเฉินยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย คลายมือใหญ่ที่กำอสูรเทพปลุกพลัง พร้อมถอน [เทคนิคปลุกศูนย์รวมวิญญาณสวรรค์]
อสูรเทพปลุกพลังถูกทำให้เชื่องแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องระวังมันอีก
“เสี่ยวซิง นายช่วยคนอื่นปลุกพลังพิเศษได้ยังไง?” ซูเฉินถาม
นี่คือประเด็นสำคัญที่สุด หากได้รับคำตอบ ก็สามารถช่วยวให้คนรอบตัวเขาปลุกพลังได้
“เจ้านาย ข้าจำเป็นต้องดูดซับพลังงานจำนวนหนึ่ง จึงจะสามารถช่วยปลุกพลังแบบสุ่มแก่ผู้อื่นได้” อสูรเทพปลุกพลังตอบตามจริง
ดูดซับพลังงาน?
ซูเฉินทวนคำ เลียบเคียงถามว่า “พลังงานที่ว่า หมายถึงพลังงานที่ถูกปล่อยอกมาหลังจากผู้ฝึกตนตกสู่ความตายใช่ไหม?”
ตันหลินและคนอื่นๆ รวมถึงตัวเขา ทุกคนล้วนได้รับพลังพิเศษมาหลังจากสังหารสัตว์ร้ายมิติ
นั่นหมายความว่า มีโอกาสสูงว่าพลังงานจะมาจากจุดนี้
“พลังงานที่หลงเหลืออยู่บนร่างผู้ฝึกตน หรือจะเป็นของเหลววิญญาณก็สามารถดูดซับได้เช่นกัน” อสูรเทพปลุกพลังอธิบาย
ได้ยินแบบนั้น ดวงตาของซูเฉินเปล่งประกายขึ้นทันใด
เขามีน้ำพุแห่งชีวิตอยู่ในมือ มันสามารถสร้างของเหลววิญญาณหรือน้ำอมฤตได้อย่างต่อเนื่อง หากส่งต่อให้อสูรเทพปลุกพลังดื่มกิน ไม่ใช่ว่าซูเฉินจะใช้มันปลุกพลังพิเศษได้ไม่จำกัดหรอกหรือ?
8/8
Ep.972
“เสี่ยวซิง ไอ้ที่บอกว่าสุ่มพลังให้กับคนอื่น มันไม่มีจำนวนจำกัดใช่ไหม?” ซูเฉินถาม
“ขอรับ” อสูรเทพปลุกพลังตอบยืนยัน
ซูเฉินพยักหน้าเล็กน้อย นั่นหมายความว่า ตราบใดที่อสูรเทพปลุกพลังเข้าไปใน [พื้นที่เลี้ยงสัตว์] หรือ [มิติสันโดษ] แล้วซูเฉินป้อนน้ำอมฤตให้อย่างต่อเนื่อง มันก็จะใช้ความสามารถปลุกพลังได้ไม่หยุด แล้วทุกคนก็จะได้รับผลประโยชน์จากเรื่องนี้ สามารถปลุกพลังขึ้นมากันถ้วนหน้า
“เจ้านาย แม้ข้าจะสามารถใช้ความสามารถนี้ได้อย่างต่อเนื่อง กระนั้น แต่ละคนจะสามารถรับการปลุกพลังพิเศษได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น” อสูรเทพปลุกพลังเตือน
แค่ครั้งเดียวเองหรอ …
ซูเฉินพึมพำ เดิมที เขาถึงขั้นจินตนาการไปไกลว่าจะถือโอกาสนี้ปลุกพลังพิเศษซักสี่ห้าทักษะ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า ความหวังนี้จะพังทลายลง
อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้รู้สึกแย่อะไรขนาดนั้น เพราะท้ายที่สุดแล้วเขาสามารถปลุกพลัง [ภูติเงาก้าวพริบตา] ให้ตื่นขึ้นได้ นี่ก็ทำให้ซูเฉินพอใจมากแล้ว
“เจ้านาย แต่ถ้าข้าเลื่อนขั้นสู่ขอบเขตเทพเจ้าได้ ความสามารถของข้าจะพัฒนาไปอีกขั้น ถึงเวลานั้นข้าสามารถมอบ ‘สุดยอดพลังศักดิ์สิทธิ์’ ให้แก่ผ้ที่ต้องการได้ อสูรเทพปลุกพลังกล่าวอีกครั้ง
สุดยอดพลังศักดิ์สิทธิ์?
ซูเฉินตื่นตัวขึ้นเล็กน้อย นั่นเพราะแค่อำนาจของพลังศักดิ์สิทธิ์ ก็ร้ายกาจชนิดทำลายสวรรค์ถล่มปฐพีได้แล้ว อย่างตัวซูเฉินเอง กระบวนท่าที่สามารถเรียกว่าเป็นพลังศักดิ์สิทธิ์ได้ มีแค่ [ทักษะต่อสู้หมื่นแสงสิบเงาสะท้อน] และท่าผสานเวทย์ไฟน้ำแข็งเท่านั้น
ซึ่งทั้งสองอย่างนี้อยู่แค่ระดับ ‘พลังศักดิ์ศิทธิ์’ เท่านั้น เมื่อเทียบกับ ‘สุดยอดพลังศักดิ์สิทธิ์’ ที่มอบอสูรเทพจะมอบให้ ยังคงห่างชั้นอีกมาก
สำหรับ [หมื่นกระบี่คืนสู่หนึ่ง] อาจถือได้ว่าเป็นสุดยอดพลังศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม กระบวนท่านี้ ซูเฉินจำเป็นต้องฝึกถึงขั้น 3 ก่อนจึงจะสามารถเรียกว่าเป็นสุดยอดพลังศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างเต็มปากเต็มคำ
ปัจจุบันกระบวนท่า [ร้อยกระบี่คืนสู่หนึ่ง] ยังถือเป็นเพียงพลังศักดิ์สิทธิ์ธรรมดาเท่านั้น
“เสี่ยวซิง แล้วต้องทำยังไงนายถึงจะยกระดับเป็นอสูรเทพได้เร็วที่สุด?” ซูเฉินถาม
สุดยอดพลังศักดิ์สิทธิ์ดึงดูดเขาเป็นอย่างมาก
“หากได้ดูดซับพลังงานอย่างต่อเนื่อง ข้าก็จะสามารถเลื่อนขั้นได้ แต่ระยะเวลาค่อนข้างยาวนาน กระนั้น ยังมีอีกทางลัด แต่เกรงว่ามันคงยากเกินไป เรียกได้ว่าแทบไม่มีโอกาสเป็นไปได้เลย” อสูรเทพปลุกพลังเอ่ยขึ้นอย่างช้าๆ
“บอกรายละเอียดมา” ซูเฉินถามต่อ
หากมีทางลัด แน่นอนว่าเขาต้องเลือกทางลัด
“กลืนกินซากศพของอสูรเทพ” อสูรเทพปลุกพลังสารภาพตามตรง
นับแต่มหาศึกเมื่อหมื่นปีก่อน ผู้แข็งแกร่งในขอบเขตเทพเจ้าล่วงลับเกือบหมดสิ้น แม้อสูรเทพปลุกพลังจะเป็นหนึ่งในจำนวนน้อยที่รอดมาได้ แต่ก็ต้องตกอยู่ในสภาพน่าสังเวช
แล้วอีกอย่าง ต่อให้อสูรเทพยังเหลือรอดอยู่บนโลกใบนี้ แต่กำลังรบของมันคงมหาศาลอย่างมิอาจหาผู้ใดเทียบ แล้วพวกเขาจะฆ่าและกลืนกินศพมันได้อย่างไร?
นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าต่อให้อสูรเทพปลุกพลังบอกทางลัด ก็ไม่ช่วยอะไรอยู่ดี
ศพของอสูรเทพ?
สมองของซูเฉินเริ่มปั่นความคิด ระหว่างนั้นเอง เขาฉุกคิดถึงวิหารสวรรค์หวนหยู
ช่วงที่เขาอยู่ในอาณาจักรซอมบี้ ซอมบี้ระดับเทวะขั้น 3 เคยกล่าวไว้ว่า มีอสูรเทพที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ในวิหารสวรรค์หวนหยู
หากซูเฉินต้องการให้อสูรเทพปลุกพลังเลื่อนขั้นขึ้นสู่ขอบเขตเทพเจ้า ก็จำเป็นต้องไปยังวิหารสวรรค์หวนหยู
อย่างไรก็ตาม ถึงอย่างไรวิหารสวรรค์เป็นสถานที่อันตราย แม้อยากจะเข้าไป ก็จำเป็นต้องเตรียมตัวให้พร้อม
นอกจากนี้ ปัจจุบันเขายังมีเรื่องราวมากมายต้องทำ จำเป็นต้องจัดการเรื่องเหล่านี้ให้เรียบร้อยก่อนถึงจะไปยังวิหารสวรรค์หวนหยูได้
ซูเฉินสลายความคิดนี้ หันไปถามว่า “เสี่ยวซิง พอจะมีทางออกจากที่นี่ไหม?”
อสูรเทพปลุกพลังก็ถูกกำราบแล้ว เรื่องเร่งด่วนต่อไปคือการออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
“ข้ารู้จักตำแหน่งหนึ่งที่ค่อนข้างเปราะบาง หากระเบิดการโจมตีที่รุนแรงมากพอ น่าจะสามารถเจาะมันได้” อสูรเทพปลุกพลังนึกทบทวนอยู่เล็กน้อยก่อนตอบกลับ
“นำทางไปเดี๋ยวนี้เลย” ซูเฉินเร่งเร้า สิ่งที่ซูเฉินขาดเหลือน้อยที่สุดในโลกใบนี้ คือการโจมตีที่ทรงพลัง
ท่าผสานเวทย์ไฟและน้ำแข็งเข้าด้วยกัน หรือกระบวนท่า [ร้อยกระบี่คืนสู่หนึ่ง] น่าจะเพียงพอทำลายมันได้
“ขอรับ”
อสูรเทพปลุกพลังไม่ลังเล นำทางซูเฉินตรงไปในทิศทางเดียว