967-968
3/8
Ep.967
“ไม่ใช่” นกสำรวจตอบกลับอย่างรวดเร็ว จากนั้นอธิบายว่า “เจ้านาย ที่มาของอันตรายนั้นแข็งแกร่งกว่าสัตว์ร้ายมิติระดับเทวะทั้งสามตัวนี้หลายเท่านัก แต่ตอนนี้เขาได้หายไปแล้ว ไม่สามารถรับรู้ถึงสัญญาณอันตรายได้อีก”
ไม่ใช่?
ซูเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ไม่มีเวลาให้ใช้สมองแล้ว เพราะสัตว์ร้ายมิติระดับเทวะทั้งสามตัวได้มาถึงเบื้องหน้าเขาเป็นที่เรียบร้อย
“มนุษย์ เจ้าอยู่ในระดับเทวะแท้ๆแต่ทำไมถึงได้แหกกฏและเข้ามาในมิติท้ารบแล้วสังหารหมู่ลูกหลานของพวกเรา เจ้าต้องอธิบายมา!”
สัตว์ร้ายมิติระดับเทวะมองซูเฉิน เอ่ยถามเสียงเย็น
คำอธิบาย?
ซูเฉินเบ้ปาก “พวกแกต้องการคำอธิบายแบบไหน?”
“จงมอบทุกสิ่งบนตัวเจ้ามา แล้วทำลายฐานฝึกตนเสีย จากนั้นกลับไปรับการลงโทษกับพวกเรา!” สัตว์ร้ายมิติกล่าวอย่างเดือดดาล สีหน้าของมัน คล้ายกับต้องการกลืนกินซูเฉิน
“สัตว์ร้ายมิติแบบพวกแกนี่สมองหมูกันทุกตัวเลยรึไง?” ซูเฉินเย้ยหยัน
สำหรับผู้ฝึกตน สูญเสียฐานฝึกตนไปขอยอมตายเสียดีกว่า
สัตว์ร้ายมิติร้องขอเช่นนี้ เกรงว่าสมองของพวกมันคงถูกน้ำท่วมไปแล้ว
“ในเมื่อเจ้าไม่รู้จักชั่วดี เช่นนั้นก็ตายซะ!”
สัตว์ร้ายมิติระดับเทวะตวาดโกรธเคือง คว้าค้อนเหล็กยักษ์ขึ้นมา กระโจนจากเบื้องบน เข้าทุบซูเฉิน
“ช่างไม่รู้จักเจียมตัว!” ซูเฉินเองก็ไม่คิดเกรงใจ ง้างแขนและขว้าง [ภูเขาหยวนเหออู่จี๋]
[ภูเขาหยวนเหออู่จี๋] ขยายขึ้นเป็นสิบจั้งทันที กลายสภาพเป็นภูเขาขนาดย่อม กดทับลงเหนือสัตว์ร้ายมิติที่พุ่งเข้ามา
บังเกิดเสียงบรึ้ม! ดังกึกก้อง
สัตว์ร้ายมิติระดับเทวะถูกบดลงกับพื้นไปพร้อมค้อนของมัน จบชีวิตตายคาที่
ได้เห็นฉากนี้ สัตว์ร้ายมิติระดับเทวะอีกสองตัวหวาดกลัวจับใจ สั่นสะท้านไปทั้งร่าง
จวบจนกระทั่งบัดนี้ พวกมันถึงเพิ่งตระหนักได้ว่าตนเองกำลังเผชิญหน้ากับการดำรงอยู่แบบใด
สามารถสังหารสัตว์ร้ายมิติระดับเทวะได้อย่างง่ายดาย นี่มากพอแล้วที่จะอธิบายว่ากำลังรบของซูเฉินน่าหวาดผวาเพียงไหน
สัตว์ร้ายมิติระดับเทวะสองตัวหันมองหน้ากัน หมุนตัววิ่งหนีไปทันที
ซูเฉินเดิมต้องการจะไล่ตาม แต่ทันใดนั้นเอง จู่ๆเสียงๆหนึ่งก็ดังขึ้นในใจเขา
เสียงนี้เหมือนกับตอนที่เก็บชิ้นส่วนได้ไม่มีผิดเพี้ยน
“ปลุกพลังพิเศษ [ภูติเงาก้าวพริบตา]”
“เมื่อใช้ทักษะนี้ จะสามารถช่วยให้ร่างแยกเคลื่อนย้ายออกไปได้ 100 เมตรในพริบตาเดียว โดยที่ร่างต้นไม่ต้องเคลื่อนไหวใดๆ ทั้งยังอยู่ในสภาวะล่องหนอีกด้วย”
“นี่ฉันปลุกพลังพิเศษได้แล้วหรอ?”
ซูเฉินรู้สึกประหลาดใจจนอธิบายไม่ถูก ตอนแรก เขาคิดว่าจะไม่สามารถปลุกพลังได้เสียแล้ว ไม่เคยคิดเลยว่าพอฆ่าสัตว์ร้ายมิติระดับเทวะ จะสามารถปลุกทักษะ [ภูติเงาก้าวพริบตา] ได้ ช่างเป็นความสุขที่คาดไม่ถึง
[ภูติเงาก้าวพริบตา] สำหรับคนอื่นๆเป็นแค่โครงไก่ไร้รสชาติ เพราะมันมีผลเฉพาะร่างแยกเท่านั้น เนื่องจากผู้ฝึกตนที่ครอบครองร่างแยกมีเพียงน้อยนิด น้อยชนิดที่ว่าสามารถนับด้วยนิ้วมือได้
ขณะที่ซูเฉิน หากว่ากันในเชิงเทคนิค จิตจำลองก็ถือว่าเป็นร่างแยกเช่นกัน
เจ้าตัวมองไปยังทิศทางที่สัตว์ร้ายมิติระดับเทวะสองตัวหลบหนีไกลออกไป มุมปากหยักโค้งเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
แทบจะในทันทีหลังจากนั้น แสงสีขาวกระพริบไหวบนร่างกายเขา เห็นซูเฉินที่เหมือนกับร่างจริงทุกประการ มิใช่ใดอื่นเป็นจิตจำลองของเขาเอง
ทันทีที่จิตจำลองปรากฏตัว มันหายวับไปในอากาศทันที ไม่กี่อึดใจต่อมา เกิดสองเสียงกรีดร้องน่าสังเวชดังเข้ามาจากระยะไกล
สัตว์ร้ายมิติระดับเทวะทั้งสอง ถูกจิตจำลองกุดหัวในชั่วอึดใจเดียว
เห็นแบบนี้ มุมปากของซูเฉินยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย
พลังใหม่ที่ปลุกขึ้น เป็นธรรมดาที่ต้องพิสูจน์ผลลัพธ์ของมัน และความสามารถของ [ภูติเงาก้าวพริบตา] ไม่ได้ทำให้เขาผิดหวัง
ต่อมา เขาเรียกเก็บจิตจำลอง มุ่งหน้ากลับไปยังทางเข้า
การเข้าสู่มิติท้ารบในครั้งนี้ ไม่เพียงสามารถกอบโกยชิ้นส่วนได้เป็นจำนวนมาก แต่ยังปลุกพลังพิเศษได้อีกด้วย เรียกได้ว่าอิ่มแปล้กันเลยทีเดียว
ส่วนอันตรายที่ลอบแอบดูเมื่อครู่ เนื่องจากไม่อาจหาตำแหน่งที่แน่นอนของมันได้ ซูเฉินจึงล้มเลิกความคิดที่จะตามตัวมัน
4/8
Ep.968
หนึ่งวันต่อมา ซูเฉินมาถึงทางเข้าในตอนแรก
ยังไงก็ตามเมื่อเขามาถึง ใครจะทันคิดว่าทางเข้าได้หายไปเสียแล้ว
สถานการณ์ที่เกิดขึ้น มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว นั่นคือทางเข้าด้านนอกของมิติท้ารบได้ถูกทำลายลง และผู้ที่ทำแบบนี้ได้ คงไม่พ้นระดับเทวะของเหล่าหมื่นเผ่าพันธุ์ ไม่ก็นักพรตเทียนซ่าน หรือทั้งคู่อาจร่วมมือกัน ก็มีโอกาสเป็นไปได้สูงเช่นกัน
ซูเฉินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ติดต่อหา [รถศึกอัจฉริยะ] “เสี่ยวจือ นายพาฉันออกจากที่นี่ได้ไหม?”
“เจ้านาย เขตแดนที่นี่ทรงพลังเกินไป นอกเสียจากจะอัพเกรดฉันอีกขั้นหนึ่ง ไม่อย่างนั้นอย่าหวังว่าจะสามารถข้ามเขตแดนได้” [รถศึกอัจริยะ] ตอบกลับอย่างรวดเร็ว
ได้ยินแบบนั้น คิ้วของซูเฉินขมวดเข้าหากัน
[รถศึกอัจฉริยะ] ปัจจุบันอยู่ในรูปแบบขั้น 12 หากเทียบกับผู้ฝึกตนแล้ว มันอยู่ในระดับเทวะ ซึ่งการอัพเกรดสู่ขั้น 13 ต้องใช้หัวใจจักรกลจำนวนมาก ขณะที่ในมือเขา เหลือแค่สี่ดวงเท่านั้น
ยังขาดอีกเยอะเกินไป หากจะใช้วิธีนี้คงไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้
“พลาดแล้วสิฉัน” ซูเฉินถอนหายใจ
ฝ่ายตรงข้ามทำลายทางเข้า จุดประสงค์นั้นชัดเจนมาก นั่นคือต้องการขังเขาไว้ในมิติท้ารบ
ก่อนเข้าสู่มิติท้ารบ ซูเฉินไม่ทันฉุกคิดถึงเรื่องนี้ ประมาทเกินไปจริงๆ
แต่จะยังไงก็ช่างมิติท้ารบเกี่ยวพันธ์ถึงเรื่องการปลุกพลังของเขา และเขาไม่เชื่อว่าตัวเองจะถูกขังอยู่ที่นี่ตลอดไป
อย่างไรก็ตาม เกรงว่าระยะเวลาที่ถูกขังอาจยาวนานถึงร้อยปี ซึ่งนานขนาดนั้น บางทีนักพรตเทียนซ่านอาจได้เลื่อนขั้นสู่ขอบเขตเทพเจ้าแล้วก็ได้
ซูเฉินไม่อาจรอนานถึงขนาดนั้น เขาต้องรีบหาทางออกไปจากที่นี่
ซูเฉินนึกทบทวนอยู่ครู่หนึ่ง เปิด [พื้นที่เลี้ยงสัตว์] และสนทนากับหงส์เพลิง
“เสี่ยวเหยียน ทางออกจากมิติท้ารบถูกทำลาย ฉันยังมีทางอื่นให้หนีไปจากที่นี่อีกไหม?”
“หา??”
หงส์เพลิงตัวแข็งทื่อไปครู่หนึ่ง ก่อนส่ายหัวและกล่าวว่า “เจ้านาย ถ้าทางเชื่อมกับมิติท้ารบถูกปิดลง พวกเราไม่มีทางออกไปได้แน่นอน”
“งั้นคนที่เคยเข้ามิติท้ารบมาก่อน แล้วออกไม่ทันเวลา หลังทางเชื่อมปิดลง ไม่มีใครสามารถออกจากที่นี่ได้อีกเลยหรอ” ซูเฉินถามหยั่งเชิง
“เจ้านาย มิติท้ารบจะเปิดขึ้นครั้งเดียวในรอบร้อยปี คนที่ติดอยู่ที่นี่ ไม่เพียงแต่ไม่เคยมีใครสามารถออกไปได้เท่านั้น แต่ข่าวสารทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับคนๆนั้นก็ยังหายไปด้วย” หงส์เพลิงตอบ
หายไป?
ซูเฉินทวนคำ หายไปในที่นี้ ก็เหมือนกับตายไปแล้วเลยน่ะสิ
ช่วงที่ผ่านมา ซูเฉินท่องไปในมิติท้ารบแห่งนี้ได้หลายวันแล้ว เขาพบว่าที่แห่งนี้แม้ค่อนข้างแห้งแล้ง แต่ก็มีแหล่งน้ำและอาหาร อีกทั้งทุกคนที่เข้ามาข้างใน ล้วนเป็นเหล่ายอดฝีมือในบรรดายอดมีฝือ แล้วพวกเขาจะตายได้อย่างไร?
‘หรือว่าพวกเขาจะถูกฆ่า?’
ความคิดนี้ผุดเข้ามาในใจของซูเฉิน
ก่อนหน้านี้ นกสำรวจได้กล่าวถึงการดำรงอยู่อันทรงพลังที่ซ่อนตัวอยู่ที่นี่ มีโอกาสเป็นไปได้สูงทีเดียวว่าจะเป็นฝีมือเขา
แต่ทำไม … คนผู้นั้นถึงไม่ปรากฏตัวเล่า?
ขณะที่ซูเฉินกำลังครุ่นคิด หงส์เพลิงก็ร้องเตือน “เจ้านาย ทางผ่านของหมื่นเผ่าพันธุ์ถูกปิดก็จริง แต่พวกเราสามารถไปทางฝั่งสัตว์ร้ายมิติก็ได้นี่นา!”
สำหรับเรื่องนี้ อันที่จริงซูเฉินลองพิจารณามาก่อนแล้ว เขาส่ายหัวและกล่าวว่า “อีกฝ่ายไม่ใช่คนโง่ ตั้งแต่ที่พวกมันมีจุดประสงค์ที่จะขังฉัน พวกมันต้องติดต่อกับพวกสัตว์ร้ายมิติ แล้วปิดทางฝั่งนั้นด้วยแล้วแน่ๆ”
“อา!”
หงส์เพลิงพยักหน้าว่าเข้าใจ แล้วไม่เอ่ยอะไรอีก
แต่ในเวลานั้นเอง นกสำรวจร้องเตือนขึ้นอย่างกะทันหัน “เจ้านาย ตัวตนทรงพลังผู้นั้นได้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งแล้ว และกำลังมุ่งหน้ามาทางพวกเรา!”
หางตาซูเฉินกระตุก เก็บหงส์เพลิงและนกสำรวจเข้าไปใน [พื้นที่เลี้ยงสัตว์] จากนั้นย่ำอย่างแรง ทะยานขึ้นไปในอากาศ
ทันทีที่เขาลอยขึ้นจากพื้นดิน วินาทีต่อมา ปากยักษ์ผุดขึ้น และงับ! ในตำแหน่งเดิมที่เขาเคยยืนอยู่
หากไม่ใช่เพราะซูเฉินตัดสินใจฉับไว เขาคงถูกมันเขมือบไปแล้ว