965-966
1/8
Ep.965
เมื่อซูเฉินเข้ามาใกล้ สิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้าเขาคือสัตว์ร้ายมิติหลายร้อยตัว
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! ในที่สุดก็ได้เจอมนุษย์ซักที!” สัตว์ร้ายมิติขั้น 10 หัวเราะออกมาดังๆ พวกมันเข้าสู่มิติท้ารบมาก็นานแล้ว แต่ยังไม่เจอมนุษย์เลย จู่ๆก็เจอซูเฉินที่นี่ ทำให้พวกมันตื่นเต้นมาก
ณ เวลานี้ ทั้งหมดกระจายกันปิดล้อมซูเฉิน แต่ละตัวจับจ้องซูเฉินอย่างตื่นเต้นดีใจ ปฏิบัติราวกับซูเฉินคือเหยื่อ
“มนุษย์ แล้วพวกหมื่นเผ่าพันธุ์ที่เหลือฝั่งเจ้าเล่า? พวกมันไปอยู่ที่ไหน จงสารภาพมาตามตรง! แล้วพวกเราจะยอมให้เจ้าตายโดยไม่ต้องโดนถลกหนัง!”
สัตว์ร้ายมิติขั้น 10 จ้องซูเฉินเขม็ง เอ่ยถามเสียงเย็น
“ไม่มีใครมาหรอก” ซูเฉินถูจมูกเขา ตอบสั้นๆอย่างเฉยเมย บนมุมปากฉายแววหยอกล้อ
“ดูท่าพวกแกอยากจะกินฉันน่าดูเลยนี่ แต่ขอแนะนำให้ล้มเลิกความคิดนี้ซะดีกว่านะ ถ้ายังดื้อรั้น พวกแกจะตายอย่างน่าสังเวช!”
ทันทีที่คำนี้หลุดออกมา บริเวณโดยรอบเงียบสงัดไปครู่หนึ่ง ต่อมา บังเกิดเสียงหัวเราะดังลั่น
เหล่าสัตว์ร้ายมิติในที่นี้มองซูเฉินด้วยสายตาราวกับกำลังมองคนโง่
พวกเขาไม่เข้าใจจริงๆ ซูเฉินกล้าดียังไงถึงได้หยิ่งยโสขนาดนี้
ต่อให้ซูเฉินจะมีฐานฝึกตนถึงขั้น 10 แล้วมันอย่างไร? ที่นี่มีสัตว์ร้ายมิติอยู่นับร้อยตัว นอกจากนั้นยังมีขั้น 10 อีกหลายตัว หากโจมตีพร้อมกัน ขอแค่แวบเดียวก็สามารถฉีกซูเฉินเป็นชิ้นๆได้แล้ว
“มนุษย์ จงคุกเข่าต่อหน้าข้าแล้วอ้อนวอนให้ข้าให้อภัยเสีย มิเช่นนั้นข้าจะให้เจ้าลิ้มรสความรู้สึกมีชีวิตอยู่ไม่สู้ยอมตาย!”
สัตว์ร้ายมิติหัวเราะชั่วร้าย วาจาใหญ่โตของซูเฉินทำให้มันไม่พอใจมาก เวลานี้ได้ตัดสินใจแล้ว ว่าจะให้ซูเฉินต้องทนทุกข์ทรมานเจียนตาย
ซูเฉินเบ้ปาก ในจังหวะที่สัตว์ร้ายมิติขั้น 10 ยังไม่ทันระวังตัว เขาระเบิดพลังจิตออกไป ยกมันตัวลอยจากพื้น กระชากเข้ามาเบื้องหน้า จากนั้นยื่นมือข้างหนึ่งกดลงบนไหล่มัน เอ่ยเสียงเย็น “คุกเข่าลง”
สัตว์ร้ายมิติขั้น 10 ไม่มีเวลาได้กล่าวสักครึ่งคำ พลันสัมผัสได้ถึงพลังมหาศาลที่ไม่อาจมีผู้ใดเทียบ คุกเข่าลงแทบเท้าซูเฉินอย่างไม่อาจควบคุม
ซู๊ดดดดด!
ได้เห็นฉากนี้ เหล่าสัตว์ร้ายมิติสูดหายใจเย็นเยียบ
สัตว์ร้ายมิติขั้น 10 ต่อหน้าซูเฉินกลับไม่มีเรี่ยวแรงแม้จะต่อต้าน
ซูเฉินต้องทรงพลังมากแค่ไหนกันจึงจะทำแบบนี้ได้?
ในพริบตา คลื่นของความหวาดกลัวแผ่ซ่านไปทั่วหัวใจของพวกมัน กำลังรบของซูเฉินเหนือกว่าที่จินตนาการไว้อย่างสิ้นเชิง นี่สร้างแรงกดดันเป็นอย่างมาก
“มนุษย์ รีบปล่อยเขา! หรือจะให้พวกเราหักกระดูกเจ้า!”
สัตว์ร้ายมิติขั้น 10 อีกตัวตวาดใส่ซูเฉิน แม้ความแข็งแกร่งของซูเฉินจะทำให้มันหวาดกลัว แต่เมื่อนึกถึงพรรคพวกมากมายรอบด้าน ที่หากร่วมมือกันโจมตี ก็เพียงพอที่จะกำจัดซูเฉินได้ มันก็ไม่กลัวอีกต่อไป
“จัดให้ตามที่ขอ”
ซูเฉินยิ้มบาง เหยียดแขนกางฝ่ามือออกไป และบีบศีรษะของสัตว์ร้ายมิติเบื้องหน้าเป็นเนื้อเหลวทันที ก่อนขว้างทิ้งอย่างไม่ใยดี
โครม!
เมื่อศพไร้หัวของสัตว์ร้ายมิติร่วงลงกับพื้น หัวใจของเหล่าสัตว์ร้ายมิติรอบด้านสั่นสะท้านอย่างรุนแรง แต่ไม่นาน ความหวาดกลัวนี้ก็ถูกแทนที่ด้วยความโกรธ
“ลงมือพร้อมกัน ฆ่าเขาซะ!”
ภายใต้การรุมล้อม สัตว์ร้ายมิติทั้งหมดโจมตีซูเฉิน
ซูเฉินกวาดสายตาเย็นชา เรียก[ดาบเสริมมนตรา] ออกมา หลังจากถ่ายเทเวทย์สายฟ้า ก็ตัดกวาดในดาบเดียว
คลื่นอสนีบาตอันน่าพรั่นพรึงแผ่กระจาย ชั่วพริบตาเดียว เหล่าสัตว์ร้ายมิติทั้งหมดในที่นี้ถูกสังหารสิ้น
ซูเฉินรวบรวมชิ้นส่วนที่ดรอป ยืนนิ่งใช้สมองอยู่ซักพัก
การสังหารหมู่ครั้งนี้ฆ่าสัตว์ร้ายมิติไปนับร้อยตัว แต่เขากลับไม่สามารถปลุกพลังพิเศษขึ้นมาได้
ตรงจุดนี้ ทำให้เขาอารมณ์เสียเล็กน้อย ถึงกระนั้น ซูเฉินก็ได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว
ข้างในมิติท้ารบมีสัตว์ร้ายมิติมากมายอยู่ หากฆ่ากลุ่มนี้แล้วไม่สามารถปลุกพลัง ก็ไปล่าฝูงต่อไปเอาก็ได้
2/8
Ep.966
ต่อมา เขาเปิดถุงเก็บของ สื่อสารกับ [รถศึกอัจฉริยะ]
“เสี่ยวจือ ฟังก์ชั่นการตรวจจับของนายใช้ได้ผลในที่นี้ไหม?”
มิติท้ารบนั้นกว้างใหญ่ แม้จะมีสัตว์ร้ายมิติเข้ามาเป็นจำนวนมาก แต่เมื่อพวกมันอยู่กระจัดกระจายกัน ก็เป็นการยากที่จะค้นพบร่องรอย
หาก [รถศึกอัจฉริยะ] สามารถตรวจจับได้ ซูเฉินก็จะค้นหาที่อยู่ของพวกสัตว์ร้ายมิติได้อย่างรวดเร็ว และนั่นจะช่วยให้ประหยัดเวลาได้มาก
“เจ้านาย ฉันสามารถใช้ฟังก์ชั่นตรวจจับได้” [รถศึกอัจฉริยะ] ตอบ
หัวใจของซูเฉินรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง เอ่ยสั่งว่า “เสี่ยวจือ งั้นรบกวนค้นหาที่อยู่ของพวกสัตว์ร้ายมิติที”
…
หลายวันต่อมา ด้วยความช่วยเหลือของ [รถศึกอัจฉริยะ] ซูเฉินสามารถฆ่าสัตว์ร้ายมิติได้นับพันตัว กอบโกยชิ้นส่วนได้นับหมื่น
กระนั้น พลังพิเศษที่เขาปรารถนา กลับยังไม่สามารถปลุกขึ้นมาได้
“ดูเหมือนว่าฉันคงไม่มีโอกาสได้ปลุกพลังกับเขาซะแล้ว” ซูเฉินถอนหายใจเบาๆ
การเข้าสู่มิติท้ารบมีโอกาสที่จะปลุกพลังพิเศษได้ แต่เขากลับไม่นึกเลยว่าโอกาสจะต่ำขนาดนี้ ปัจจุบันเขาได้สังหารสัตว์ร้ายมิติไปเป็นพันๆตัวแล้ว หากมีพลังให้ปลุก มันคงตื่นขึ้นตั้งนานแล้ว
หลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ซูเฉินเปิด [มิติสันโดษ] และ [พื้นที่สัตว์เลี้ยง]
เรียกคนอื่นๆและเหล่าสัตว์เลี้ยงวิญญาณออกมา
ในเมื่อเขาไม่สามารถปลุกพลัง งั้นก็ให้โอกาสนี้กับคนอื่นๆเถอะ
“ซูเฉิน ที่นี่คือมิติท้ารบงั้นหรือ?”
เฉินเฟิงและคนอื่นๆหันมาถามซูเฉิน นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เข้าสู่มิติท้ารบ เลยดูตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
ซูเฉินพยักหน้า กำชับว่า “เดี๋ยวฉันจะพาพวกนายไปล่าสัตว์ร้ายมิติ ต้องคว้าโอกาสนี้ไว้นะ จะได้ปลุกพลังกันได้”
เฉินเฟิงและคนอื่นๆตระหนักดีว่าเรื่องการปลุกพลังสำคัญเพียงใด ทั้งหมดต่างพยักหน้าว่าเข้าใจ
ต่อมา ซูเฉินพาทุกคนออกล่าสัตว์ร้ายมิติ
ในช่วงเวลานี้ มีสัตว์ร้ายมิติมากกว่า 2,000 ตัวถูกสังหาร
ซูเฉินไม่ได้ลงมือ ปล่อยโอกาสทั้งหมดแก่คนอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม โอกาสที่จะปลุกพลังได้นั้นต่ำกว่าที่คิด หลังจากฆ่าสัตว์ร้ายมิติจำนวนมาก มีเพียงสามคนเท่านั้นที่สามารถปลุกพลังได้
ผู้โชคดีที่ว่าก็ได้แก่ ตันหลิน ,หยางเฉียน และสือต้าหนิว
ตันหลินสามารถปลุกพลังรักษา พลังนี้สามารถรักษาได้ทั้งตัวเองและผู้อื่น เป็นความสามารถสายสนับสนุน
พลังพิเศษที่ตื่นขึ้นของหยางเฉียนคือการบิน นี่ค่อนข้างคล้ายคลึงกับ [ก้าวเมฆามรกต] เป็นความสามารถที่ดีอย่างหนึ่ง
สือต้าหนิวสามารถปลุกความสามารถในการเสริมพละกำลัง ยามเปิดใช้งานจะช่วยเพิ่มพละกำลังของตนเองได้เป็นสองเท่า แม้จะเทียบไม่ได้กับ [เทคนิคลับร้อยเท่าสะท้านฟ้า] แต่พละกำลังที่เพิ่มขึ้นมา ก็มากพอแล้วที่จะใช้บดขยี้ศัตรูในขั้นเดียวกัน
สัตว์ร้ายมิติถูกล่าจนแทบหมดสิ้น ซูเฉินจึงไม่คิดรั้งอยู่ในมิติท้ารบอีกต่อไป เพราะยังมีงานประมูลในเมืองมู่กวงรออยู่
ต่อมา เขารวบทุกคนกลับเข้าไปใน [มิติสันโดษ] ขณะที่กำลังจะจากไป จู่ๆนกสำรวจก็ร้องเตือนขึ้น “เจ้านาย ข้าสัมผัสได้ว่ามีผู้แข็งแกร่งกำลังซุ่มอยู่ใกล้ๆ เหมือนว่าเขากำลังจับตาดูพวกเราอยู่ แต่ข้าไม่สามารถระบุตำแหน่งของเขาได้”
“หือ?”
ซูเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย ในมิติท้ารบ ผู้แข็งแกร่งที่สุดอยู่ที่ขั้น 10 เท่านั้น
แล้วการดำรงอยู่ของขั้น 10 จะทำให้นกสำรวจรู้สึกถึงอันตรายได้อย่างไร
ซูเฉินหรี่ตาลง ตริตรองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเปิดถุงเก็บของแล้วเอ่ยถาม [รถศึกอัจฉริยะ] ว่า “เสี่ยวจือ สแกนรอบๆที ดูว่ามีผู้แข็งแกร่งซ่อนตัวอยู่รึเปล่า”
[รถศึกอัจฉริยะ] เปิดฟังก์ชั่นตรวจจับ ตอบกลับว่า “เจ้านาย มีสัตว์ร้ายมิติระดับเทวะสามตัวกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้”
แม้สัตว์ร้ายมิติจะมีระดับสูงถึงเทวะ แต่ที่นี่สามารถปลดปล่อยพลังออกมาได้แค่ขั้น 10 เท่านั้น
ซูเฉินจึงไม่สนใจพวกมันเลย แต่ก็ยังเกิดความสงสัยอยู่เล็กน้อยเช่นกัน ว่าคนที่ทำให้นกสำรวจรู้สึกถึงอันตราย จะใช่เจ้าพวกนี้จริงๆน่ะหรอ?
“เสี่ยวซุ่น อันตรายที่นายรู้สึกได้ มาจากสัตว์ร้ายมิติระดับเทวะสามตัวนี้ใช่ไหม?”