ตอนที่ 19 พลังที่แท้จริง
ตอนที่ 19 พลังที่แท้จริง
ติดตามข่าวสาร/พูดคุยเสนอแนะความคิดเห็นได้ที่เพจผู้แปล FB: ND Translate นิยายแปลไทย
วัตสันในตอนนี้ยืนอยู่ที่ใจกลางของห้องโถงใหญ่ คนงานโดยรอบได้แต่เหลือบมองเขาโดยที่ไม่กล้าขยับไปไหน
เด็กชายตรงหน้าเป็นผู้มีพลังระดับเงิน แม้แต่ผู้คุ้มกันที่แข็งแกร่งที่สุดในฟาร์มแห่งนี้ก็ยังเป็นเพียงนักรบระดับทองแดงเท่านั้น พลังของนักรบระดับเงินเทียบเท่าได้กับพลังของนักรบระดับทองแดงกว่าหลายสิบคน แม้ว่านักรบระดับเงินจะไม่สามารถเอาชนะศัตรูจำนวนมากได้ แต่นักรบระดับเงินก็ยังมีไพ่ตายอยู่ เพียงแค่บินขึ้นไปบนฟ้าก็จะไม่มีใครหยุดยั้งนักรบระดับเงินได้แล้ว
ไมล์จะกล้าเผชิญหน้ากับผู้มีพลังอันน่าสะพรึงกลัวแบบนี้ได้ยังไงกัน?
ไมล์รู้สึกประหลาดใจ ในตอนที่ตัวเขารวบรวมข้อมูล ตัวเขาได้ส่งคนไปสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลของครอบครัวแกรี่มาหมดแล้ว สิ่งที่ไมล์รู้มีแค่เพียงพวกเขาเป็นบารอนผู้ยากจน ไมล์ไม่รู้มาก่อนเลยว่าในบรรดาตระกูลแกรี่จะมีนักรบระดับเงินอยู่ด้วย ถ้าหากรู้ตัวตั้งแต่แรกคงจะไม่มีทางเลยที่ตัวเขาจะวางแผนปล้นไก่หอมหวนห้าสีแบบนี้
ไมล์ได้แต่โทษลูกน้องที่ทำงานไม่ได้เรื่อง แต่ไม่ว่าจะยังไงมันก็สายเกินไปแล้ว สถานการณ์ที่ไมล์กำลังเผชิญหน้าอยู่เป็นสถานการณ์ที่ไม่มีทางออกเลย
“หยุดเด็กคนนี้ซะ ใครก็ตามที่หยุดมันได้จะได้รับค่าจ้างเพิ่มสองเท่า ไม่สิห้าเท่า!” ไมล์กัดฟันตะโกนออกมาก่อนจะรีบวิ่งออกไปจากห้องโถงด้วยความตื่นตระหนก
เมื่ออารมณ์ของวัตสันโกรธจนถึงขีดสุด เมื่อถึงตอนนั้นไมล์คงจะไม่มีทางรอดแน่ วิธีที่ดีที่สุดที่จะเอาตัวรอดนั่นก็คือการไปยังคุกใต้ดิน ยังไงซะก็ยังมีซีคและซีโน่ที่ยังใช้เป็นตัวประกันได้อยู่ ถ้าหากไมล์ไม่สามารถเอาตัวรอดได้ อย่างน้อยที่สุดเขาก็คงจะลากพี่น้องของวัตสันไปได้ด้วย
ค่าจ้างห้าเท่า!
คนงานที่ได้ฟังแบบนั้นก็มีแรงจูงใจเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล สายตาที่ลังเลของทุกคนเปลี่ยนไปเหลือแต่ความแน่วแน่ ทุกคนต่างก็มุ่งมั่นที่จะรับรางวัลก้อนใหญ่ คำสั่งไมล์ไม่ใช่คำสั่งที่จะให้เอาชนะวัตสัน มันเป็นเพียงการหยุดเขาเอาไว้เท่านั้น การหยุดวัตสันได้ไม่กี่นาทีก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ได้รับค่าจ้างที่เทียบเท่าได้กับค่าจ้างกว่าครึ่งปี โอกาสที่ดีแบบนี้ไม่ได้มีมาง่ายๆ
“พวกเรามาร่วมมือกันเถอะ”
“ไปพร้อมกัน”
คนงานทุกคนต่างก็จับสิ่งที่พอจะเป็นอาวุธได้ ทั้งเก้าอี้ โต๊ะ หรือแม้แต่ขวดไวน์เปล่า ทุกคนต่างก็วิ่งไปหาวัตสัน
วัตสันที่เห็นฝูงชนไม่ได้ตื่นตระหนกแต่อย่างใด ตัวเขาหันกลับมาก่อนที่จะเริ่มเคลื่อนไหวแทน ปีกเพลิงของวัตสันกางออก ปีกซ้ายได้เปลี่ยนรูปลักษณ์จนกลายเป็นโล่สีแดง เก้าอี้รวมไปถึงข้าวของทุกอย่างที่ถูกขว้างมาต่างก็ถูกโล่สีแดงแผดเผา ทุกอย่างสลายเหลือแต่เถ้าถ่านก่อนที่จะได้สัมผัสตัวของวัตสัน
ส่วนปีกด้านขวาได้เปลี่ยนขนนกนับร้อยให้กลายเป็นคมมีด คมมีดทุกเล่มได้พุ่งออกมาพร้อมกับเปลวเพลิง คมมีดส่วนใหญ่เจาะทะลุต้นขาของเหล่าคนงานไปอย่างรวดเร็ว
ก่อนที่จะมีเลือดไหลออกมา เปลวเพลิงที่คมดาบก็ได้เผาผลาญจนบาดแผลไหม้เกรียมไปซะก่อน
พรึ๊บ!
คมมีดที่ลอยไปกับสายลมผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว คนงานกว่าหลายสิบคนที่ถูกโจมตีได้แต่ล้มลงกับพื้น ทุกคนได้แต่จับบาดแผลก่อนที่จะร้องคร่ำครวญออกมาด้วยความเจ็บปวด ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะความลังเลของวัตสัน วัตสันลังเลที่จะสังหารทุกคน
ผนังของห้องโถงรวมไปถึงของตกแต่งทั้งหลายต่างก็ถูกเปลวไฟเผาไหม้ไปด้วย
“ปกป้องนายท่านเอาไว้!” ผู้คุ้มกันนับสิบที่ยืนอยู่ด้านนอกต่างก็มองเห็นภาพการต่อสู้ดี เปลือกตาของทุกคนกระตุกอย่างควบคุมไม่ได้ แม้จะกลัวแค่ไหนแต่พวกเขาก็ยังวิ่งเข้ามา
ผู้ที่นำหน้ามาก็คือชายร่างกำยำ ชายคนนั้นสวมใส่ชุดเกราะที่ถูกสร้างมาจากพลังต่อสู้ มันเป็นชุดเกราะที่หนากว่าสามนิ้ว พื้นผิวของชุดเกราะดูราวกับสายน้ำกำลังหลั่งไหล มันใช่ลวดลายอะไร มันเป็นเกราะพลังการต่อสู้ธาตุน้ำนั่นเอง
ชายร่างกำยำถือหอกยาวเอาไว้ในมือ ที่หอกเองก็ถูกปกคลุมไปด้วยพลังการต่อสู้เช่นกัน ที่ด้ามหอกมีลักษณะคล้ายกับมังกร ชายร่างกำยำจับหอกด้วยมือทั้งสองข้างก่อนที่จะเริ่มหมุนมันให้หอกกลายเป็นวงล้อ วงล้อหอกเป็นเหมือนกับการป้องกันสุญญากาศ การป้องกันนั้นสามารถปัดป้องขนนกจากปีกของวัตสันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เป็นธรรมดาที่ไฟจะต้องพ่ายแพ้ให้กับน้ำ แม้ว่าปีกเพลิงโลกันตร์ฟินิกซ์จะเป็นปีกที่เปี่ยมไปด้วยเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ของฟินิกซ์ที่แตกต่างจากเปลวไฟธรรมดา แต่วัตสันก็ยังไม่เชี่ยวชาญในการใช้พลังการต่อสู้และยังไม่ใช่นักรบระดับเงินจริงๆ ไม่แปลกที่การโจมตีของเขาจะถูกสกัดกั้นไว้ได้
วัตสันที่จู่โจมไม่ได้ผลทำได้เพียงใช้ปีกทั้งสองข้างตั้งป้องกัน การโจมตีของนักรบระดับทองแดงกว่าสิบคนเป็นการโจมตีที่หนักหน่วงกว่าที่คิด วัตสันที่ถูกโจมตีค่อยๆ ถอยติดกับกำแพงไป
ไมล์ที่อยู่ในระหว่างการหลบหนีมองย้อนกลับไป ตัวเขาเห็นวัตสันกำลังถอยกลับไปอย่างช้าๆ เมื่อเห็นแบบนั้นอารมณ์ที่เป็นกังวลมาโดยตลอดก็หายจางไป “เด็กนี่กล้ามาขู่กันซะได้ คิดว่านักรบระดับเงินจะแข็งแกร่งกว่านี้ซะอีก นี่ฉันกังวลอะไรไปกัน! เด็กนี่คงจะเพิ่งกลายเป็นนักรบระดับเงิน มันคงจะไม่มีประสบการณ์การต่อสู้มากนัก”
“อัลเลน ถ้าหากนายกำจัดเด็กนี่ได้ฉันจะให้ค่าจ้างสิบเท่า! แต่ถ้าหากจับมันได้ฉันจะให้ค่าจ้างยี่สิบเท่ารวมถึงไข่ของไก่หอมหวนห้าสีอีกสิบฟอง!” หลังจากที่ทิ้งท้ายคำสั่ง ไมล์ก็ได้เปิดประตูก่อนที่จะหนีไปอย่างผ่อนคลาย
อัลเลนก็คือผู้นำของเหล่าผู้คุ้มกันและยังเป็นนักรบระดับทองแดง เขาเป็นชายผู้ใช้หอก ทักษะการใช้หอกถือเป็นหนึ่งในทักษะหายากในหมู่ของนักรบทองแดงก็ว่าได้
“ครับ นายท่าน” ดวงตาของอัลเลนดูเป็นประกายมากกว่าเดิม ค่าจ้างยี่สิบเท่าเป็นสิ่งที่จูงใจอัลเลนได้อย่างดี นอกจากนี้ยังมีไข่ของไก่หอมหวนห้าสีอีกกว่าสิบฟอง อัลเลนเป็นชายวัยสี่สิบปี ถ้าหากปล่อยให้เวลาผ่านไปอัลเลนก็คงจะไม่สามารถพัฒนาตัวเองอะไรได้อีก แต่ในตอนนี้ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปแล้ว ผลจากการกินไข่ของไก่หอมหวนห้าสีดีจนสุดแสนจะบรรยาย เพียงแค่กินไข่ฟองเดียวก็จะเพิ่มพละกำลังให้กับผู้กินได้กว่าร้อยชั่ง ถ้าหากกินไข่สิบฟองก็จะเท่ากับว่าอัลเลนจะมีพละกำลังเพิ่มถึงพันชั่ง
ถ้าหากอัลเลนโชคดี บางทีตัวเขาอาจจะกลายเป็นนักรบระดับเงินได้ นอกจากนี้การต่อสู้กับวัตสันก็ไม่ได้ยากลำบากอะไร สุดท้ายแล้วอัลเลนก็ตระหนักได้ว่าเด็กคนนี้ไม่ได้แข็งแกร่งเทียบเท่ากับนักรบระดับเงินตัวจริง แม้ว่าจะมีความสามารถที่น่ากลัวรวมไปถึงปีกคู่แต่เด็กคนนี้จะต้องมีความแข็งแกร่งในระดับทองแดงอย่างแน่นอน
“ดูเหมือนว่าข่าวการค้นพบไก่หอมหวนห้าสีของนายท่านจะเป็นเรื่องจริงสินะ เด็กนี่คงจะได้กินไข่ไปจนมีพละกำลังมากมายถึงขนาดนี้ได้ ถ้าหากฉันกินไข่เท่าๆ กัน ฉันจะต้อง...” เมื่ออัลเลนคิดได้แบบนั้น หัวใจของเขาก็เต้นรั่ว อัลเลนมุ่งมั่นที่จะโจมตีวัตสันอย่างกระตือรือร้น
‘ดูเหมือนว่าฉันจะต้องหาโอกาสถามหาวิธีการฝึกฝนบ่มเพาะพลังการต่อสู้กับพี่ใหญ่แล้วสินะ’ วัตสันได้แต่ใช้ความคิดอยู่กับตัวเอง แม้ว่าปีกเพลิงโลกันตร์ฟินิกซ์จะดูเหมือนกับปีกที่ถูกสร้างมาจากพลังการต่อสู้ แต่ถ้าหากต้องสู้กับผู้มีประสบการณ์การต่อสู้จริงๆ พลังความสามารถที่มีจะต้องถูกมองออกอย่างง่ายดาย ‘นักรบระดับทองแดงแข็งแกร่งจริงๆ ด้วย ถ้าหากไม่ทุ่มสุดกำลัง ฉันก็คงจะเอาชนะไม่ได้แน่’
“ทุกคนถอยไปซะ ผมต้องการแค่ชีวิตไมล์เท่านั้น! ผมไม่ได้เก่งการต่อสู้ระยะประชิด อย่าได้ทิ้งชีวิตไปอย่างเปล่าประโยชน์เลย” วัตสันรู้แล้วว่าขาดอะไรหลังจากได้ผ่านการต่อสู้ในครั้งนี้ แม้ว่าตัวเขาจะมีพละกำลังที่เพิ่มขึ้นถึงสองพันช่าง แต่ถึงแบบนั้นมันก็ไม่ได้ห่างชั้นอะไรกับนักรบระดับทองแดงอยู่ดี และยังมีประสบการณ์ต่อสู้ที่ยังขาดไปอีกด้วย
“โอ้? นายไม่เก่งการต่อสู้ระยะประชิดอย่างงั้นเหรอ? แล้วนายเชี่ยวชาญอะไรกันล่ะ?”
“แกน่ะเป็นแค่เด็กเหลือขอ แค่หัวหน้าของพวกเรายังชนะไม่ได้ แล้วแกยังจะอวดอ้างอะไรไร้ยางอายได้อีกอย่างงั้นเหรอ?” เมื่อเห็นวัตสันพูดจาแบบผู้ใหญ่ทั้งๆ ที่ยังเป็นเด็ก ผู้คุ้มกันกว่าหลายสิบคนก็รู้สึกแปลกใจ บางคนก็หัวเราะให้กับการกระทำนั้น
ทุกๆ คนต่างก็คิดว่าวัตสันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา และเพราะแบบนั้นจึงไม่มีใครเกรงกลัววัตสัน
“เดี๋ยวพวกคุณก็จะรู้เองครับว่าผมเก่งอะไร” วัตสันยังคงมีสีหน้าที่เรียบเฉย
เวทมนตร์ระดับเงิน: เวทอัญเชิญเหล่านักรบวารี!
วัตสันเอามือออกจากแขนเสื้อก่อนที่จะร่ายเวทมนตร์ เมื่อทำการร่ายเวทเสร็จตัวเขาก็หันไปมองเพดานด้านบน “ผมสงสัยจริงๆ ว่าคฤหาสน์หลังนี้จะแข็งแรงสักแค่ไหน?”
ตู๊ม!
ในระหว่างที่ถามคำถามอยู่ เสียงฟ้าร้องก็ได้ดังขึ้น มันเป็นเสียงที่ดังอยู่เหนือหัวของทุกคน ไม่นานนักเพดานด้านบนก็เริ่มแตก รอยแตกที่มีขยายจนเพดานทั้งหมดพังทลาย น้ำที่ดูคล้ายเสาตกลงมาจากฟากฟ้ากว่าสิบต้น เสาน้ำทั้งหมดได้กลายเป็นนักรบวารี นักรบวารีแต่ละตนมาพร้อมกับหอกยาวในมือ เพียงแค่การกวาดอาวุธแค่ครั้งเดียว นักรบวารีก็ได้จัดการกับผู้คุ้มกันระดับเหล็กกว่าหลายสิบคนไป ชุดเกราะของทุกคนต่างก็ได้รับความเสียหายจากการโจมตีนั้น
นี่มัน...เวทมนตร์อย่างงั้นเหรอ? ผู้คุ้มกันที่ถูกโจมตีพยายามยกตัวขึ้นมาด้วยความตื่นตระหนก สิ่งที่ทุกคนเห็นมันทำให้รู้สึกประหลาดใจมากกว่าเดิม
นักรบวารีที่ปรากฏตัวกำลังต่อสู้กับอัลเลน หอกของทั้งคู่เข้าปะทะกัน ไม่มีฝ่ายไหนได้เปรียบเสียเปรียบ แต่เมื่อนักรบวารีอีกตนเข้าร่วมการต่อสู้ อัลเลนก็เริ่มตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบในทันที หอกทั้งสองเล่มแทงเฉียดคอของอัลเลนจากสองช่องทาง อัลเลนไม่มีทางเลือกนอกซะจากต้องคุกเข่าลงกับพื้น ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงก่อนที่หอกในมือจะตกลงสู่พื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง
มีผู้คุ้มกันกว่าหลายสิบคนที่กำลังคุ้มกันไม่ให้วัตสันเคลื่อนที่ไปยังด้านหน้าได้
ตึ๊ก! ตึ๊ก! ตึ๊ก!
แต่เมื่อพบกับเสียงฝีเท้าอันมั่นคง ผู้คุ้มกันทั้งหลายไม่อาจรับมืออะไรกับเหล่านักรบวารีได้เลย นักรบวารีที่ถูกอัญเชิญออกมาแข็งแกร่งกว่าอัลเลนซะด้วยซ้ำ นี่มันเวทมนตร์ระดับอะไรกันแน่? ...
“นี่มันเวทมนตร์ระดับเงิน!”
หลายคนกู่ร้องออกมาด้วยความตกใจ เสียงแห่งความสิ้นหวังและความกลัวแผ่ซ่านไปทั่วหัวใจของทุกคน เด็กคนนี้ไม่ได้มีเพียงนักรบระดับเงินเท่านั้น แต่ยังเป็นนักเวทย์ระดับเงินด้วย ทุกคนจะสามารถต่อสู้กับเด็กคนนี้ได้จริงๆ อย่างงั้นเหรอ? เขาเป็นมนุษย์จริงๆ สินะ?
ในตอนนี้ทุกคนเข้าใจแล้วว่าวัตสันไม่ได้พูดอวดอ้าง นอกจากปีกพลังการต่อสู้เขายังมีเวทมนตร์อันทรงพลัง พลังทั้งสองรูปแบบต่างก็มีระดับเงิน วัตสันเป็นเพียงเด็กอายุสิบขวบเท่านั้น ด้วยอายุที่น้อยนิดแต่กลับมีความสามารถในการต่อสู้ที่เกินวัยไปมาก
แม้ว่าวัตสันจะเป็นเด็กผอมบางก็ตาม แต่ถึงแบบนั้นตัวเขาก็สร้างแรงกดดันราวกับภูเขาอันใหญ่ยักษ์ได้ ทุกคนไม่อาจที่จะข้ามผ่านภูเขายักษ์ลูกนี้ไปได้เลย ทุกคนเริ่มที่จะหมดใจต่อสู้ไปเรื่อยๆ ไม่มีใครกล้าเคลื่อนไหวแม้จะได้ค่าจ้างเพิ่มเป็นร้อยเท่าก็ตาม เงินอันมหาศาลคงจะไม่มีค่าอะไรถ้าหากคนคนนั้นไม่สามารถรอดชีวิตกลับไปได้
ติดตามข่าวสาร/พูดคุยเสนอแนะความคิดเห็นได้ที่เพจผู้แปล FB: ND Translate นิยายแปลไทย