ตอนที่ 1075-1076 ทุกอย่างเป็นไปได้
ถ้าเขาพบรักกับคนในตระกูลทั่วไป ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรต่อตระกูลไป่มากนัก
เพราะอย่างนั้น เธอจึงไม่คิดมากเกี่ยวกับภูมิหลังทางครอบครัวของว่าที่ลูกสะใภ้
ตราบใดที่ลูกชายของเธอชอบ ก็ปล่อยให้เป็นเช่นนั้น
ไป่ซู๋ถูขมับและอธิบายว่า
“แม่ครับ ไม่ใช่อย่างที่แม่คิดจริง ๆ นักแสดงหญิงคนนั้นเขามีแฟนแล้ว แล้วที่ผมดูแลเธอเป็นพิเศษ ก็เป็นเพราะมีคนขอให้ช่วย”
“อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ เธอเหมือนตัวนำโชคของผม ผมรู้สึกแปลก ๆ เวลาอยู่กับเธอ เลยอาจจะทำดีให้มากกว่าคนอื่นก็เท่านั้นเอง แต่ทั้งหมดนี่มันไม่เกี่ยวกับเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ อะไรเลย”
“ผมไม่ได้หลงรักเธอ”
คุณผู้หญิงไป่ตกตะลึง “รู้สึกแปลก ๆ ยังไงกัน”
ไป่ซู๋คิดอย่างจริงจังก่อนจะพูด “ตอนที่อยู่กับเธอ ผมรู้สึกว่าเธอเหมือนน้องสาวของผม อยากจะอยู่ใกล้ ๆ แต่ไม่ใช่ว่าอยากอยู่ใกล้เพราะเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ อะไรหรอกนะครับ”
“ก็จริง ที่เรายังหาเธอไม่พบ” ไป่ซู๋พยักหน้า “ผมก็รู้ว่าเธอไม่ใช่น้องสาวของผม แต่เวลาอยู่กับเธอ ผมมักจะจินตนาการภาพที่ว่าเธอคือน้องสาวของผม แม่ครับ เธอเป็นเด็กที่น่ารักมาก ถ้าแม่ได้เจอ แม่ก็คงจะรู้สึกแบบเดียวกันไ
“อีกอย่าง ถึงแม้ผมจะเคยเห็นน้องสาวแค่รูปสมัยเด็ก แต่เธอดูคล้ายกับคนในรูปมาก”
หลังจากได้ยินเช่นนั้น แม่ไป่จึงถามด้วยความอยากรู้
“จริงเหรอ? เธอดูเหมือน้องสาวของลูกจริงเหรอ? ลูกห้า ลูกรู้ว่าน้องสาวของลูกอยู่ในเมืองหยุนเฉิงใช่ไหม? แล้วผู้หญิงที่ลูกพูดถึงมาจากเมืองหยุนเฉิงด้วยหรือเปล่า? เธออาจจะเป็น...”
“ผมก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน” ไป่ซู๋ขัดจังหวะคุณผู้หญิงไป่ พร้อมกับถอนหายใจเบา ๆ
“แต่ความเป็นไปได้ก็น้อยมาก แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เธอเป็นคนหยุนเฉิงและอาศัยอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เด็ก”
แม่ไป่ไม่คิดเช่นลูกชายของตน
เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนพูดออกมา
“ยังไง ตอนนี้เราก็รู้แล้วว่าน้องของลูกเขาอยู่เมืองหยุนเฉิง ถ้าอย่างนั้นมีเด็กสาวที่อายุเท่ากับเธอ ก็อาจจะใช่ก็ได้ แล้วเด็กคนนี้อายุเท่าไหร่ล่ะ?”
“สิบเก้าครับ”
“สิบเก้า?” ท่าทางของคุณผู้หญิงไป่เปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอจริงจังมากขึ้น
“น้องสาวของลูก ก็อายุสิบเก้าเหมือนกัน ได้ถามวันเกิดของเธอมารึเปล่า?”
ไป่ซู๋ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะส่ายหน้า “ไม่ได้ถาม”
“งั้นก็รีบไปถามมาสิ” คุณผู้หญิงไป่พูดอย่างกระวนกระวายว่า
“ใครจะไปรู้ เธออาจจะเป็นลูกสาวสุดที่รักที่แม่กำลังตามหาก็ได้ รีบเอารูปถ่ายของเธอมาให้แม่ดูหน่อยเร็วเข้า แม่อยากดูว่าเธอหน้าตาเหมือนกับเสี่ยวฉีไหม?”
ไป่ซู๋พูด “...แม่ครับ เธอไม่ใช่...”
จะมีความบังเอิญแบบนี้ในโลกได้ยังไง
เพียงเพราะเขารู้สึกว่าเฉียวเมียนเมียนคล้ายกับน้องสาวของเขา เธอก็เป็นน้องสาวของเขาจริง ๆ อย่างงั้นหรือ?
“ขอดูรูปของเธอก่อน” คุณผู้หญิงไป่จ้องมองเขาอย่างไม่พอใจ
“แล้วลูกรู้ได้ยังไง ว่าไม่ใช่เธอ? อาจจะใช่ก็ได้นี่ ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้หรอก อะไรก็เกิดขึ้นได้”
ไป่ซู๋ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากเปิดรูปถ่ายของเฉียวเมียนเมียนให้เธอดู
คุณผู้หญิงไป่มองคนในรูปอย่างจริงจัง ไม่นานเธอก็รู้สึกตื่นเต้น
“จริง ๆ ด้วย เธอคล้ายกับเสี่ยวฉีมาก โดยเฉพาะตากับจมูก เหมือนกับเสี่ยวฉีตอนเด็ก ๆ อย่างกับแกะ”
“แม่ว่าเธออาจจะเป็นเสี่ยวฉีของเราก็ได้นะ”
“แม่ อย่าล้อเล่นน่า” ไป่ซู๋มองไปที่คุณผู้หญิงไป่อย่างช่วยไม่ได้
“ไม่มีอะไรจะบังเอิญขนาดนี้หรอก แม้ว่าผมจะอยากให้เธอเป็นน้องสาวของผมจริง ๆ ก็ตาม แต่ความเป็นไปได้ก็น้อยมาก”
เขาไม่อยากให้คุณผู้หญิงไป่คาดหวังไว้สูง และสุดท้ายต้องมาผิด
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
ยิ่งหวังมาก ความเสียใจก็จะยิ่งมากตามไปด้วย
“ลูกห้า ตอนที่แม่ฝากน้องสาวของลูกไว้กับคนอื่น ผมคิดว่าจะไปรับเธอกลับทันทีที่เรื่องร้าย ๆ ของครอบครัวเราจบ แต่ตอนนั้นแม่ไม่รู้ว่าเธอเป็นตายร้ายดียังไง นานเท่าไหร่แล้ว?”
“เพื่อป้องกันไม่ใช่เกิดความเข้าใจผิดในอนาคต แม่ได้ทิ้งรอยไว้ที่ตัวของน้องสาวของลูก”
“ถ้ายืนยันเรื่องนี้ได้ ถ้าเราเห็นว่าเธอมีรอยนั่น เธอต้องเป็นน้องสาวของลูกอย่างแน่นอน”
ขณะที่คุณผู้หญิงไป่พูด เธอคว้ามือของไป่ซู๋อย่างตื่นเต้น
“ลูกห้า ถ้ารู้อยากรู้ใช่เธอไหม ลูกก็แค่ดูว่าเธอมีรอยนั่นไหม”
นี่เป็นครั้งแรกที่ไป่ซู๋ได้ยินเรื่องนี้ เขาอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ
“ทำเครื่องหมาย? แม่พูดถึงเครื่องหมายอะไร?”
“ไฝยังไงล่ะ” คุณผู้หญิงไป่หายใจเข้าลึก ๆ พยายามระงับความตื่นเต้นของเธอ
“ไฝปดง แม่เป็นคนทำเอง ตำแหน่งอยู่ที่ก้นของเธอ แต่แม่ลืมไปแล้วว่าอยู่ทางด้านซ้ายหรือด้านขวา แต่อยู่ที่ก้นนั่นแหละ”
ไป่ซู๋พูดไม่ออก “...”
ไฝที่ก้น?
เขาจะยืนยันได้ยังไง?
หากจะถามเฉียวเมียนเมียนออกไปตรง ๆ ว่าเธอมีไฝสีแดงที่ก้นไหม?
เธอคงคิดว่าเขาเป็นคนวิปริต
ทันทีที่คุณผู้หญิงไป่พูดจบ เธอนึกถึงเรื่องนี้และขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ลูกคงไม่สามารถถามเรื่องนี้กับเธอได้ แต่จะยืนยันเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยาก งั้นหาเวลาพาเธอมาที่บ้านของเรา แม่จะเป็นคนยืนยันเรื่องนี้เอง”
ไป่ซู๋เดิมทีคิดว่าเรื่องนี้อาจเป็นเพียงเรื่องบังเอิญที่เป็นไปไม่ได้
แต่ตอนนี้ เขาได้ยินเรื่องที่คุณผู้หญิงไป่พูด ความเฉยเมยทีแรกของเขากลับกลายเป็นเรื่องจริง
เขาไม่เคยรู้เกี่ยวกับสัญลักษณ์นั่นมาก่อนเลย
นี่เป็นครั้งแรกที่แม่ไป่พูดถึงเรื่องนี้ให้เขาฟัง
“แม่ครับ อีกสองวันจะมีงานวันเกิดใช่ไหม? ผมจะชวนเธอมา” ไป่ซู๋หลับตาลงและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดต่อ “เมื่อถึงเวลานั่น จะยืนยันหรือไม่ก็แล้วแต่แม่”
“ได้” คุณผู้หญิงไป่กำหมัดแน่น เธอรอต่อไปไม่ไหวแล้ว
“แม่จะจัดการเรื่องนี่ล่วงหน้า ถ้าเธอคือเสี่ยวฉี แม่จะรักเธอ รักเธอให้มาก ๆ และทำดีกับเธอให้มากที่สุดเท่าที่แม่จะทำได้”
“แม่จะไม่ปล่อยให้เธอต้องทนทุกข์ทรมานอย่างที่ผ่านมาอีกแล้ว”
“จากนี้ไป เธอจะเป็นลูกสาวของตระกูลไป่ และเป็นแก้วตาดวงใจของพวกเรา”
ที่มุมห้องโถง
มีร่างสีขาวยืนอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากคุณผู้หญิงไป่และไป่ซู๋คุยกันจบแล้ว ร่างสีขาวก็จากไปอย่างเงียบ ๆ
...
ในรถ
เซินโย่วได้รับข้อความ เธอเปิดอ่านและหลังจากอ่านเสร็จ สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป
คุณผู้หญิงเซินนั่งอยู่ข้าง ๆ เธอสังเกตว่ามีบางอย่างผิดปกติ เธอถามขึ้นทันทีว่า
“โย่วโย่ว มีอะไรรึเปล่าลูก ไม่สบายตรงไหนไหม?”
เซินโย่วส่ายหน้าและคิดถึงข้อความที่เธอเพิ่งอ่านไปเมื่อกี้ เธอเม้มริมฝีปากแน่น และเงียบไปครู่หนึ่ง เธอกำโทรศัพท์แน่นแล้วถามว่า
“แม่คะ แม่รู้ไหมว่าครอบครัวไป่ มีลูกสาวหายไปคนหนึ่ง”