308 - ศากยมุนีอยู่ที่ไหน
308 - ศากยมุนีอยู่ที่ไหน
ทหารองครักษ์ปล่อยให้เย่ฟ่านผ่านเข้าไป เมื่อเข้ามาแล้วเย่ฟ่านก็รีบยกยอขึ้นอีกครั้ง
“ข้าเห็นฝ่าบาทเป็นเหมือนดวงอาทิตย์ที่อยู่บนท้องฟ้า รัศมีพลังที่ถูกปลดปล่อยออกมาราวกับเป็นราชามังกรในตำนาน มันทำให้ข้ารู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก”
“นักพรตตัวน้อยมาทำด้วยเรื่องอะไร เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว” องค์ชายแห่งราชวงศ์เซี่ยไม่หวั่นไหวกับคำพูดของเขา
ในตอนนี้เย่ฟ่านกำลังมองดูองค์หญิงแห่งต้าเซียซึ่งเป็นเพียงแม่ชีตัวเล็กๆอายุ 15 หรือ 16 ปี นางแต่งกายด้วยชุดแม่ชีสีขาวสวมจีวรสีเขียวในขณะที่หมวกไหมพรมของนางก็เป็นสีขาวเช่นกัน
นางอายุไม่มากแต่มีความงดงามไม่ธรรมดา แม้จะไม่มีกลิ่นอายยั่วยวนของหญิงสาวที่เติบโตเต็มวัย แต่ความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาของนางก็สามารถโยกคลอนจิตใจของบุรุษทุกคนได้
แม่ชีน้อยคนนี้บริสุทธิ์มาก นางไร้เดียงสา และตอนนี้ดวงตากลมโตของนางก็จ้องมองไปที่ใบหน้าของเขาด้วยความสงสัย
“แม่นางท่านนี้มีจิตวิญญาณของเทพสิงสถิต โครงกระดูกของร่างกายอ่อนไหวเหมือนกับดอกบัวพระพุทธเจ้า นี่จะต้องเป็นพระโพธิสัตว์ที่กลับชาติมาเกิดอย่างแน่นอน” เย่ฟ่านพูดอย่างจริงจัง
ดวงตากลมโตของแม่ชีตัวน้อยวอกแวกไปมาเต็มไปด้วยความขบขันในคำพูดของเขา ซึ่งมันทำให้ใบหน้าของนางดูน่ารักเป็นอย่างมาก
“ให้ตายสิ ยิ่งข้าดูเด็กคนนี้มากเท่าไหร่ยิ่งคิดว่าเขามีพรสวรรค์มากเหลือเกิน” แม้แต่อู๋จงเทียนที่สงบนิ่งราวกับสิงโตก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชม
“เด็กคนนี้ถึงกับกล้าถอดชุดชั้นในของสตรีศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงเขาจะมีฝีไม้ลายมือธรรมดาได้อย่างไร” หลี่เหอสุ่ยถอนหายใจและกล่าวว่า
"ข้าอยากเดินเข้าไปตักเตือนแม่ชีตัวน้อยคนนั้นจริงๆ นางบริสุทธิ์ไร้เดียงสามากเกินไปข้าไม่ต้องการให้นางตกอยู่ในอุบายของเจ้าสัตว์ร้ายตัวนี้"
ในอีกด้านหนึ่งใบหน้าขององค์ชายราชวงศ์เซี่ยเริ่มเย็นชามากขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้ชัดว่านักพรตตัวน้อยนี้เข้ามาเพื่อเกี้ยวพาราสีน้องสาวของเขาจะให้เขาพอใจได้อย่างไร
เย่ฟ่านก็สังเกตเห็นท่าทีขององค์ชายต้าเซี่ยโดยธรรมชาติ และในขณะนั้นเขาก็รีบท่องบทสวดนักพรตและหันกลับไปกล่าวด้วยสีหน้าสงบนิ่งว่า
“ฝ่าบาทพลังของมังกรถูกฝังอยู่ในท้องฟ้า ในอนาคตเจ้าจะต้องได้ขึ้นเป็นใหญ่อย่างแน่นอน แต่ตอนนี้สิ่งที่เจ้าขาดไปอย่างเดียวคือการบ่มเพาะพลังปราณจักรพรรดิ”
องค์ชายของต้าเซี่ยพูดอย่างเฉยเมยว่า
“เจ้ามีข้อเสนอแนะอะไรไหม?”
เขาต้องการขับไล่นักพรตผู้นี้ออกไปและไม่ต้องการให้มันเข้าใกล้น้องสาวของเขา
เย่ฟ่านรู้เจตนาของฝ่ายตรงข้ามแต่ไม่มีทางที่เขาจะหนีไปอย่างแน่นอน เขาอยากรู้ว่าศากยมุนีอยู่ในโลกนี้หรือไม่และจิตใจของเขาร้อนรนเป็นอย่างมาก
“ข้าต้องการมอบของบางอย่างให้กับพวกเจ้า รับรองว่าในองค์ชายจะได้ครองต้าเซี่ยอย่างแน่นอน”
“เจ้านักพรต เจ้ารู้อะไรเกี่ยวกับความยิ่งใหญ่ของโลก เจ้ารู้อะไรเกี่ยวกับปราณจักรพรรดิ์?” ผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ที่อยู่ข้างๆมองเห็นความไม่พอใจขององค์ชายและต้องการขับไล่เย่ฟ่านออกไป
“ข้าจะไม่รู้ได้อย่างไร? มีมหาญาณวิเศษสี่อย่างอยู่ในจักรวาล และปราณจักรพรรดิก็คือหนึ่งในนั้น เจ้าเข้าใจไหม” เย่ฟ่านย้อนกลับไปแบบมั่วๆ
“เจ้า ......” ผู้บัญชาการทหารรู้สึกโกรธเล็กน้อย
“สี่วิชาที่เจ้าพูดถึงมีอะไรบ้าง?” องค์ชายต้าเซี่ยถาม
“เต๋าใหญ่ ท้องฟ้าก็ใหญ่ โลกก็ใหญ่ จักรพรรดิก็ใหญ่ด้วย” เย่ฟ่านพูดอย่างสงบ แต่ดวงตาของเขามุ่งไปที่แม่ชีตัวน้อย
องค์ชายต้าเซี่ยเพิ่งถูกกระตุ้นความสนใจแต่เมื่อมองเห็นสายตาของเย่ฟ่านเขาก็ถูกกระตุ้นความโกรธขึ้นอีกครั้ง
“สี่อย่างนี้มีความเชื่อมโยงกันหรือไม่?”
“จักรพรรดิเป็นมนุษย์ เต๋าก็มีความเกี่ยวข้องกับมนุษย์แต่เชื่อมโยงไปถึงสวรรค์ ข้ามีหนังสือวิถีจักรพรรดิ์สวรรค์ขอเพียงเจ้าปฏิบัติตามหนังสือเล่มนี้สุดท้ายเจ้าก็จะได้เป็นจักรพรรดิอย่างแน่นอน”
“อ่า เจ้าสัตว์ร้าย เพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ไม่ว่าเรื่องไร้ยางอายแบบไหนเขาก็สามารถทำได้” ไม่ไกลออกไปหลี่เหอสุ่ยส่ายหน้าด้วยความระอา
“หลอกได้จริงๆ?!” ตู้เฟยก็มีสีหน้างุนงง
"เจ้าอย่าได้ประมาท ทุกคำพูดของเด็กน้อยนี้มีความลึกซึ้งอยู่ในตัว" อู๋จงเทียนครุ่นคิด
“ข้าเห็นว่าเจ้ามาที่นี่เพื่อองค์หญิง เจ้าพูดเรื่องไร้สาระอะไร!” ในที่สุดผู้บัญชาการทหารก็ทนให้ไหว
“ในความเป็นจริงเชข้ามาหาพวกเจ้าก็เพราะมีคำถามบางอย่าง”
“อยากถามอะไรล่ะ” องค์ชายต้าเซี่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“ข้าอยากจะถามพวกเจ้าว่าศากยมุนียังมีชีวิตอยู่ไหม?” เย่ฟ่านจ้องมองแม่ชีตัวน้อยด้วยท่าทางเคร่งขรึมและจริงจัง
แม่ชีน้อยมีใบหน้าตื่นตระหนกเล็กน้อย และรีบวิ่งเข้าไปซ่อนอยู่ด้านหลังของพี่ชาย
ทันทีที่ได้ยินคำพูดของเย่ฟ่านใบหน้าขององค์ชายต้าเซี่ยก็เปลี่ยนไปอย่างรุนแรง เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า
“ข้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังพูดถึงอะไร!”
คำว่าศากยมุนีราวกับว่ามันมีพลังอสูรที่แปลกประหลาด ไม่เพียงแต่ทำให้ใบหน้าขององค์ชายต้าเซี่ยเปลี่ยนสีเท่านั้น แต่ยังทำให้บุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงไหวซึ่งอยู่ไม่ไกลมีใบหน้าเปลี่ยนแปลงเช่นกัน
เขาหันกลับมามองทางนี้และเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว
เย่ฟ่านสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของสีหน้าพวกเขาได้อย่างชัดเจน หัวใจของเขาอัดแน่นไปด้วยความตกใจ คำว่าศากยมุนีมีพลังเวทย์มนตร์บางอย่างหรือไม่?
เหยาซีก็มาทางนี้ด้วย นางไม่รู้ว่าศากยมุนีหมายถึงอะไรแต่นางสัมผัสได้ถึงความแปลกๆทางสีหน้าของบุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วง
ในเวลาเดียวกันเย่ฟ่านสัมผัสได้ถึงการจ้องมองของใครบางคน หลังจากนั้นไม่นานสตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกผู้ที่เต็มไปด้วยความลึกลับก็เดินเข้ามาทางนี้ด้วยเช่นกัน
“เมื่อเห็นความจริง ทุกสิ่งทุกอย่างก็คือความว่างเปล่า” เย่ฟ่านกล่าวพุทธวจนะ พร้อมกับมองดูแม่ชีน้อยผู้สะอาดและบริสุทธิ์
“นี่เป็นเรื่องที่ข้าสงสัยอย่างยิ่ง ศากยมุนียังมีชีวิตอยู่หรือไม่?”
แม่ชีตัวน้อยร่างกายสั่นสะท้าน นางอ้าปากขึ้นเล็กน้อยแต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร
องค์ชายต้าเซี่ยยืนอยู่ด้านหน้าของนางราวกับภูเขาขนาดใหญ่ พลังศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในร่างกายของเขาเบ่งบานออกมาอย่างถึงที่สุด เขาจ้องมองเยี่ยฟ่านอย่างเย็นชาและกล่าวว่า
"ในพุทธศาสนาของเราไม่เคยมีชื่อนี้ อย่าถามพวกเราอีก!"
ศากยมุนีเป็นข้อห้ามหรือไม่? เย่ฟ่านมีสีหน้างุนงง
"อริยสัจ 4 ทิศ 6 ธรรมคุณ 6 สัปปุริสธรรม 7 อิทธิบาท 4 อบายมุข 6" เย่ฟ่านทดสอบแม่ชีตัวน้อยด้วยคำสอนของพระพุทธองค์และในที่สุดก็ถามด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า
“พระพุทธเจ้าอยู่ที่ไหนกันแน่?”
"ในทะเลทรายตะวันตกมีเขาพระสุเมรุตั้งอยู่ที่นั่น ถ้าอยากรู้เจ้าก็ไปหาเอาเอง" องค์ชายต้าเซียกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เมื่อเย่ฟ่านได้ยินคำว่าเเขาพระสุเมรุจิตใจของเขาก็สั่นสะท้าน มันคือที่สถิตขององค์ศากยมุนีจริงหรือ?
"ข้าต้องการทราบรายละเอียดเกี่ยวกับศากยมุนีที่เจ้าพูดถึง" บุตรศักดิ์สิทธิแสงโชติช่วงเดินเข้ามาพูดกับเย่ฟ่านด้วยรอยยิ้ม
หัวใจของเย่ฟ่านสั่นไหว เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับพุทธศาสนาในโลกนี้ มิฉะนั้นแล้วทำไมองค์ชายต้าเซี่ยผู้ยิ่งใหญ่และบุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงจึงเป็นเช่นนี้
เย่ฟ่านคิดในใจมากมาย เกิดอะไรขึ้นเมื่อสองพันกว่าปีที่แล้ว ศากยมุนีมาโลกนี้หรือไม่ เขามีเรื่องราวอย่างไรกับชาวพื้นเมือง ทำไมเมื่อเอ่ยถึงชื่อของพระองค์องค์ชายเซี่ยผู้ยิ่งใหญ่จึงหน้าเปลี่ยนสี?
หากมีเรื่องราวที่ซ่อนอยู่ที่นี่ เราต้องค้นหาให้ได้ ราชวงศ์เซี่ยเป็นถึงราชวงศ์อมตะที่เคยมีเซียนสิงสถิตอยู่ พวกเขาจะต้องเข้าใจถึงเรื่องราวบางอย่างอย่างแน่นอน
บุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงยิ้มอย่างอ่อนโยน ฟันของเขาขาวสดใสเป็นประกายแม้แต่ผมของเขาก็ยังเปล่งแสงสีทอง เขามีท่าทางเป็นมิตรและมองมายังเย่ฟ่านด้วยความสนใจ
เย่ฟ่านส่ายหัวและกล่าวว่า “นักพรตผู้น่าสงสารเป็นผู้ฝึกฝนพเนจรเดินทางไปในสี่มุมโลก ข้าบังเอิญได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันทำให้จิตใจของข้าสับสนดังนั้นข้าจึงมาถามแม่นางท่านนี้”
เขาไม่ได้แสร้งทำเป็นต้วนเต๋อ ตอนนี้ร่างของเขาสูงใหญ่ สวมชุดนักพรตอันล้ำค่า แม้ว่าจะมีอายุค่อนข้างน้อยแต่ก็มีรัศมีศักดิ์สิทธิ์ที่ทำให้ผู้คนนับถือ
“ท่านนักพรตถ่อมตัวเกินไปแล้ว โปรดช่วยแก้ความสับสนของข้าได้ไหม ศากยมุนีมีที่มาจากอะไร ดำรงอยู่เป็นเช่นไร แล้วเจ้ารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?” บุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงมีสีหน้าจริงจังเป็นอย่างมาก
ศากยมุนีมาจากอีกฟากหนึ่งของดวงดาว เย่ฟ่านจะพูดเรื่องนี้ได้อย่างไร
“เขามีนามว่าสิทธัตถะแต่ข้าไม่รู้จักเรื่องราวที่เกี่ยวกับตัวเขา ข้าคิดว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์น่าจะรู้เรื่องนี้มากกว่า เจ้าต่างหากควรจะเป็นคนเล่าให้พวกเราฟัง”