307 - ทายาทของพระพุทธเจ้า
ครึ่งชั่วยามต่อมาพวกเขาก็ดื่มกินเป็นการใหญ่จากนั้นพวกเขาก็กอดคอกันเดินออกจากร้านอาหารพร้อมด้วยเสียงหัวเราะ
ร่างกายของเย่ฟ่านส่งเสียงดังอย่างรุนแรงในท้ายที่สุดเขาก็เปลี่ยนเป็นนักพรตที่สวมชุดขนนกล้ำค่า ท่าทางของเขาสูงส่งราวกับว่าไม่ใช่คนจากโลกใบนี้
เหมืองโบราณคุนอวิ๋นมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ถนนที่ทอดยาวเข้าสู่เมืองนั้นทรุดโทรมเป็นอย่างมาก เป็นการยากที่จะบอกว่ามันเก่าแค่ไหน
ชาวเมืองนี้เชื่อในเทพเจ้าและเทพธิดาโบราณ พวกเขากล่าวว่ามีเทพเจ้าและเทพธิดาคอยปกป้องสถานที่แห่งนี้ สตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกหยุดอยู่ที่นี่เป็นเวลาครึ่งเดือนและไม่ได้ออกไปไหนอีกเลย
ในกลุ่มของพวกเขาหลายคนเดินออกไปข้างนอกอยู่บ่อยครั้ง โจรเล็กๆเหล่านี้ไม่ใช่ตะเกียงขาดน้ำมัน ไม่ว่าสถานที่ใดที่พวกเขาไปย่อมไม่มีความสุขสงบอย่างแน่นอน
เย่ฟ่านรู้ว่าคนเหล่านี้กำลังวางแผนอะไรบางอย่างและอาจจะทำให้เขาเดือดร้อนด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามเขาไม่กังวลเท่าไหร่ ในตอนนี้เขาเปลี่ยนรูปลักษณ์เป็นคนอื่นต่อให้ทำเรื่องชั่วช้าแค่ไหนก็ไม่มีวันถูกจับตัวได้
“ว่ากันว่าวันนี้สตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกกำลังจะออกจากเมือง” อู๋จงเทียนกล่าว
“ข้าต้องการกำจัดบุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงให้เร็วที่สุด!” หลี่เหอสุ่ยมีดวงตาดุร้าย
“ชายคนนั้นแข็งแกร่งเกินไป เมื่อทักษะแสงศักดิ์สิทธิ์ของเขาถูกแสดงออกมาเขาแทบจะกลายเป็นคนที่อยู่ยงคงกระพันในรุ่นเดียวกันต่อให้เป็นคนที่มีร่างศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่สามารถกดขี่เขาได้”
เนื่องจากวันนี้จะเป็นวันที่สตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกจะออกเดินทางดังนั้นผู้คนจึงหลั่งไหลเข้ามาบริเวณนี้อย่างไม่รู้จบ
“ผู้คนจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงกำลังเดินทางไปกับสตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกดูเหมือนว่าพวกเขาจะไปเหมืองโบราณต้นกำเนิด” ดวงตาของตู้เฟยเปล่งประกายเจิดจ้า
“น้องเย่ขอร้องล่ะ ขายเสื้อผ้าตัวนั้นให้ข้าเถอะ ข้าอยากจะเอามันไปโบกต่อหน้าเหยาซีจริงๆ” หลี่เหอสุ่ยกัดฟันด้วยความเคียดแค้น
เหยาซีมีเส้นผมพลิ้วไสวสีดำเป็นมันเงา ใบหน้าของนางดูน่าทึ่ง สว่างไสวราวกับดวงจันทร์ศักดิ์สิทธิ์ กระโปรงของนางเคลื่อนไหวตามสายลมราวกับก้อนเมฆ ร่างร่างที่สง่างามของนางเต็มไปด้วยความวิจิตรงดงาม
บุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงยืนอยู่ข้างหน้า ใบหน้าของเขาหล่อเหลาสง่างาม ทุกการเคลื่อนไหวของเขาสามารถดึงดูดสายตาของหญิงสาวมากมายที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง
หลี่เหอสุ่ยและตู้เฟยได้รับความเดือดร้อนมากมายภายใต้การไล่ล่าของสองคนนี้ มันเป็นโชคดีอย่างถึงที่สุดสำหรับพวกเขาที่สามารถเอาชีวิตรอดมาได้
“บุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงคนนั้นช่างน่ากลัวจริงๆ หากว่าพลังศักดิ์สิทธิ์ของเขาถูกปลดปล่อยออกมาร่างกายของเขาจะอยู่ยงคงกระพันไม่มีบุคคลรุ่นเดียวกันสามารถทำอันตรายได้”
ตู้เฟยถอนหายใจและกล่าวต่อไปว่า
“แม้แต่ทักษะการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดก็ยังทำอันตรายเขาได้เพียงเล็กน้อย”
“เราไม่ได้เชิญพี่จงเถียนมาที่นี้อย่างเปล่าประโยชน์ ในครั้งนี้พวกเราจะชำระล้างความอัปยศอดสูอย่างแน่นอน” หลี่เหอสุ่ยพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ใจเย็นไว้น้องข้า ข้าเกรงว่าข้าจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาด้วย ข้าไม่ได้มาที่นี่วันนี้เพื่อฆ่าเขา แค่มาสร้างความวุ่นวายเท่านั้น อย่าใจร้อน” อู๋จงเทียนเตือนด้วยเสียงต่ำ
“อย่ากังวลไปเลย เราจะไม่รนหาที่ตายแน่ๆ”
“น้องเย่ไปไหน ทำไมเขาถึงหายไป” เจียงฮั่วเหรินถาม
“เจ้าสัตว์ร้ายตัวน้อยคนนี้ชั่วร้ายเกินไปแล้ว เจ้าเห็นทิศทางที่เขาไปหรือไม่ ตอนนี้เขากำลังเดินเข้าหาองค์หญิงจากราชวงศ์เซี่ย ดูเหมือนว่าเด็กน้อยนี่ผมต้องการทำให้ปณิธานของตัวเองสำเร็จจริงๆ” หลิวคุนตะโกน
“หวังว่าเขาคงไม่สร้างปัญหาให้กับตัวเอง ราชวงศ์เซี่ยสืบทอดสายเลือดกันมากว่าแสนปีมีหรือที่ทายาทของพวกเขาจะตอแยได้ง่ายๆ” หลี่เหอสุ่ยพึมพำ
ข้างหน้ามีชายหนุ่มรูปงามแฝงไปด้วยรัศมีสีทองโอบล้อมร่างกายอยู่ตลอดเวลา นี่เป็นบุตรของจักรพรรดิแห่งราชวงศ์เซี่ยผู้ยิ่งใหญ่ ระดับการบ่มเพาะของเขาไม่อาจคาดคำนวณได้
แต่เย่ฟ่านไม่ได้สนใจเขา สิ่งที่สนใจคือหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างเขาต่างหาก นางมีความงดงามอย่างถึงที่สุดมิหนำซ้ำยังมีกลิ่นอายที่แปลกประหลาดเป็นพิเศษ
ความจริงเย่ฟ่านไม่ได้สนใจความงามหรือกลิ่นอายที่พิเศษอะไรของนาง สิ่งที่เขาสนใจจริงๆคือหญิงสาวคนนี้เป็นแม่ชีน้อยคนหนึ่ง
แน่นอนว่าเขาไม่ได้มีรสนิยมที่จะหลงรักแม่ชี แต่นี่คือทายาทของพระพุทธเจ้าที่ปรากฏขึ้นในโลกนี้?! เขากำลังสงสัยว่าศากยมุนีอาจจะยังมีชีวิตอยู่จริงๆก็ได้?
“เจ้าสัตว์ร้ายแม้แต่แม่ชีก็ไม่คิดจะละเว้น!” หลี่เหอสุ่ยส่งเสียงคำรามด้วยความไม่ยินยอมพร้อมใจ
“นั่นมันแม่ชีตัวน้อยที่มีอายุแค่ 15 หรือ 16 ปี นี่มันชั่วร้ายเกินไปแล้ว!” ตู้เฟยก็เบิกตากว้าง
“เรื่องนี้เจ้าตำหนิเขาไม่ได้ เย่ฟ่านก็อายุน้อยพอๆกัน แต่ด้วยสถานะแม่ชีของนางมันทำให้ข้ารู้สึกอับอายอยู่บ้าง” หลิวคุนมองด้วยดวงตาที่ไม่กะพริบ
ในทางกลับกันอู๋จงเทียนกังวลเล็กน้อยและเดินไปข้างหน้า เขากลัวว่าเย่ฟ่านจะสร้างปัญหาใหญ่
ราชวงศ์เซี่ยเป็นผู้ปกครองสูงสุดของภาคกลาง และอำนาจของพวกเขายิ่งใหญ่มากกว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไม่รู้กี่เท่า
“นั่นคือองค์หญิงแห่งราชวงศ์เซี่ยผู้ยิ่งใหญ่ นางถือกำเนิดจากดอกบัว แม้ว่านางจะบวชเป็นแม่ชีแล้วแต่ก็ยังเป็นธิดาอันเป็นที่รักที่สุดของจักรพรรดิต้าเซี่ย เราไม่อาจให้เจ้าสัตว์ร้ายตัวนั้นสร้างปัญหาให้พวกเราได้”
ห้าคนเดินไปข้างหน้า จ้องมองไปยังเย่ฟ่านอย่างใกล้ชิด
เย่ฟ่านจะไม่แปลกใจได้อย่างไร เขาเพิ่งได้ยินมาว่ามีศาสนาพุทธอยู่ในทะเลทรายตะวันตก และแม้แต่ในรัฐทางตอนกลางก็มีพระสงฆ์อยู่ด้วย
พระพุทธเจ้าจากอีกฟากหนึ่งของดวงดาวเป็นคนเดียวกับเมื่อ 2,500 ปีก่อนหรือไม่ ถ้าพระพุทธเจ้าคนนี้เป็นคนคนนั้นเขาก็มีหนทางให้กลับบ้านก่อนเวลาแล้ว!
เขาต้องการรู้ทั้งหมดจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ หากนั่นเป็นพระพุทธเจ้าองค์เดียวกับที่อยู่บนโลกของเขา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาก็ต้องเดินทางไปหาพระองค์
ในอดีตเย่ฟ่านเพียงแค่รู้สึกว่านี่เป็นชายโบราณที่มีสติปัญญาอันยิ่งใหญ่และไม่เคยปฏิบัติต่อเขาในฐานะเทพเจ้ามาก่อน
เขาเชื่อว่าสิ่งที่เรียกว่าพระพุทธเจ้าเป็นเพียงสภาวะของจิตใจ ไม่ใช่การแสดงพลังอำนาจ และเขาไม่เชื่อว่าจะมีใครสามารถแสดงพลังศักดิ์สิทธิ์ได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อมังกรทั้งเก้าดึงโลงศพออกจากภูเขาไท่ซานและพาเขามายังโลกนี้ ความเข้าใจทั้งหมดของเขาก็เปลี่ยนไปในทันที
เขาต้องเห็นคนโบราณผู้มีปัญญาอันยิ่งใหญ่และเป็นเทพเจ้า นี่เป็นผู้ฝึกตนที่มีพลังไร้ขอบเขตซึ่งอาจจะสามารถเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของเขาได้เช่นกัน
เขาไม่มีวันลืมซากปรักหักพังที่อยู่บนดาวอังคารได้ เขาอยากรู้ว่าพระพุทธเจ้าไปอยู่ที่ไหน โลกนี้มีพระพุทธศาสนามันมีแนวโน้มสูงว่าพระพุทธเจ้าจะมาที่นี่ด้วย
สองพันห้าร้อยปีนั้นไม่นานนักสำหรับโลกนี้ มีความเป็นไปได้สูงที่พระองค์จะยังมีชีวิตอยู่ ผู้คนรู้เพียงว่าพระองค์ตรัสรู้แต่ไม่รู้ว่าระดับการฝึกฝนของพระองค์อยู่ในขั้นที่เท่าไหร่
เย่ฟ่านมีความรู้สึกเหมือนฝัน ถ้าเป็นอีกด้านหนึ่งของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวเมื่อสองพันห้าร้อยปีก่อนคนผู้นั้นจะต้องกลายเป็นผงธุลีไปนานแล้ว
“เจ้าเป็นใคร หยุด!”
ด้านหน้าองค์ชายและองค์หญิงแห่งราชวงศ์เซี่ยถูกห้อมล้อมไปด้วยองครักษ์มากมาย แต่ละคนแต่งกายด้วยชุดเกราะเหล็กที่อัดแน่นไปด้วยรัศมีของพลังศักดิ์สิทธิ์
คนเหล่านี้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดแลเมื่อพวกเขาเห็นเย่ฟ่านวิ่งเข้ามา พวกเขาก็ผลักดันผู้บุกรุกออกไปโดยธรรมชาติ
“ข้าอยากสนทนากับแม่ชีน้อยคนนั้น” เย่ฟ่านรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย ดังนั้นคำพูดของเขาจึงไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่
“กล้าดียังไงมาทำร้ายองค์หญิง” ทหารที่สวมเกราะในชุดเหล็กยืนขวางเส้นทางด้วยสีหน้าถมึงทึง
“เข้าใจผิดแล้วข้าเพียงต้องการสนทนากับองค์หญิงของเจ้าเท่านั้น” เย่ฟ่านยังคงดึงดันที่จะเข้าไปข้างหน้า
องค์ชายจากราชวงศ์เซี่ยแห่งภาคกลางมีผมสีดำดุจน้ำตก นัยน์ตาดุจดวงดาว ลักษณะภายนอกของเขามีความโดดเด่นมาก ราวกับบุตรของจักรพรรดิสวรรค์สวรรค์
เขามองมาทางเย่ฟ่านและพูดด้วยน้ำเสียงเฉยเมยว่า
"เจ้าต้องการอะไร"
เย่ฟ่านเปิดปากของเขาและกล่าวว่า “นักพรตผู้น่าสงสารเพียงต้องการสัมผัสรัศมีมังกรของฝ่าบาทเท่านั้น”
องค์ชายของราชวงศ์เซี่ยเผยรอยยิ้มบางๆและกล่าวว่า
“มีลิ้นที่คมคาย ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็เข้ามาเถอะ”
“เด็กคนนี้เก่งเรื่องประจบสอพลอเหมือนกัน เห็นได้ชัดว่าความต้องการของเขาอยู่ที่องค์หญิงคนนั้นแต่เขาก็ยังพ่นคำไร้สาระแบบนี้ออกมาได้!” หลี่เหอสุ่ยพึมพำด้วยเสียงแหลมเล็ก
“จักรพรรดิราชวงศ์เซี่ยมีลูกชายหลายคน การที่ยกอ้างเขาเป็นมังกรย่อมเป็นคำพูดที่รื่นหูที่สุดแล้ว” หลิวคุนกระซิบ
“เด็กคนนี้ ...... มีความทะเยอทะยานในน้องสาวแม่ชี แม้กระทั่งคำพูดที่น่าอาเจียนขนาดนี้เขาก็ยังพูดออกมาโดยหน้าไม่แดงแม้แต่น้อย” ตู้เฟยแค่นเสียงด้วยความอิจฉา