ตอนที่ 1073-1074 อย่ายุ่งเรื่องนี้เลย
ดูเหมือนว่าคุณผู้หญิงอยากจะจับคู่นายน้อยกับคุณหนูเซิน
คงคิดว่าพวกเขาจะเข้ากันได้ดีล่ะมั้ง
หรือพวกเขาจะเข้าใจผิด?
....
ไป่ซู๋กลับเข้ามายังห้องนั่งเล่น
คุณผู้หญิงไป่และคุณผู้หญิงเซินต่างถามออกมาพร้อมกันว่า
“โย่วโย่วอยู่ไหนล่ะ? ทำไมเธอไม่กลับมาพร้อมกับเธอล่ะ”
ไป่ซู๋โกหกหน้าตาย “คุณเซินเขาบอกว่าสวนบ้านเราสวยน่ะครับ เธออยากจะเดินดูรอบ ๆ คนเดียวอีกสักพัก”
คุณผู้หญิงเซินและคุณผู้หญิงไป่มองหน้ากันอย่างไม่เชื่อที่เขาพูด
คุณผู้หญิงเซินขมวดคิ้ว กำลังจะลุกออกไปตาม เซินโย่วเดินเข้ามาพอดี
“แม่คะ ป้าไป่” เธอเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น เมื่อสายตาเหลือบไปมองเห็นไป่ซู๋ สีหน้าของเธอก็มืดลง
“โย่วโย่ว ทำไมลูกกับอาซู๋กลับกันเข้ามาเร็วจังล่ะ” คุณผู้หญิงเซินมองไปที่ลูกสาวของเธอ แล้วหันไปมองไป่ซู๋ด้วยแววตาสงสัย “จะไม่เดินเล่นด้วยกันอีกหน่อยเหรอ?”
“ไม่ล่ะค่ะ” เซินโย่วฝืนยิ้มแข็ง ๆ ออกมา “แม่คะ จู่ ๆ หนูก็รู้ไม่ค่อยสบาย กลับกันเถอะค่ะ”
“ไม่สบาย? ไม่สบายตรงไหนลูก?” คุณผู้หญิงเซินถามอย่างประหม่า
รอยยิ้มแข็ง ๆ ปรากฎบนใบหน้าของเซินโย่ว “ไม่ได้เป็นอะไรมากคะ แค่รู้สึกไม่ค่อยดีนิดหน่อย”
“โย่วโย่ว เป็นอะไรไปลูก” คุณผู้หญิงไป่ถาม “ไปหาหมอหน่อยไหม?”
“ป้าไป่คะ ขอบคุณที่เป็นห่วงคะ ไม่ต้องไปหาหมอก็ได้ค่ะ กลับไปพักที่บ้านก็น่าจะดีขึ้นค่ะ”
“ได้ ได้” คุณผู้หญิงไป่พยักหน้า “ถ้าอย่างนั้นก็กลับไปพักก่อนเถอะ ไว้มาเยี่ยมป้าใหม่นะ”
คุณผู้หญิงเซินเป็นห่วงลูกสาวตัวเองเช่นกัน เธอคิดว่าเซินโย่วไม่สบายจริง ๆ จึงไม่คิดที่อยู่บ้านไป่อีก
เธอลุกขึ้นยืนทันทีและพูดว่า “พี่ไป่ ฉันขอพาโย่วโย่วกับซินซินกลับก่อนนะคะ แล้วพบกันค่ะ”
...
หลังจากส่งคุณผู้หญิงเซินและลูกสาวทั้งสองของเธอกลับไปแล้ว
ดูเหมือนว่าคุณผู้หญิงไป่พอใจกับเซินโย่ว ไหน ๆ คุณผู้หญิงก็อยากจะเป็นทองแผ่นเดียวกันแล้ว เธอก็ยินดีที่จะจะเป็นทองแผ่นเดียวกันกับตระกูลเซินเช่นกัน
แต่หากพูดถึงเรื่องการแต่งาน เธอเองไม่ใช่คนที่จะตัดสินใจ
คนสำคัญที่จะตัดสินใจเรื่องนี้ก็คือไป่ซู๋
หลังจากส่งพวกเธอแล้ว แม่และลูกชายเดินกลับเข้ามาในบ้าน
คุณผู้หญิงไป่รั้งไป่ซู๋ที่กำลังจะเดินขึ้นไปชั้นบน “ลูกห้า รอเดี๋ยวสิ แม่ของถามอะไรนิดหนึ่ง”
ไป่ซู๋หยุดเดินและหันกลับมา เขาเดาได้อยู่แล้วว่าคุณผู้หญิงไป่ต้องการจะถามอะไร
เขายิ้มและพูดว่า “แม่ พูดมาเถอะครับ”
คุณผู้หญิงไป่เป็นคนตรงไปตรงมา เหมือนอย่างที่ไป่ซู๋ได้รับการถ่ายทอดนิสัยนี้มาจากแม่ของเขา “ลูกคิดว่าลูกสาวคนโต๊ของน้าเซินเป็นยังไงบ้าง? แม่อยากจะแนะนำให้ลูกรู้จักกับเซินโย่ว ไม่ลองคิดดูหน่อยเหรอ ดูแล้วลูกสองคนก็เข้ากันได้นี่”
“แม่ชอบเซินโย่วนะ แล้วลูกล่ะ?”
ไป่ซู๋เงียบไปครู่หนึ่ง “แม่ครับ แม่อยากฟังความจริงไหม?”
คุณผู้หญิงไป่ยิ้ม “แน่นอน อย่าโกหกแม่นะ”
“ผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอครับ” ไป่ซู๋กล่าวอย่างเย็นชา “เธอไม่ใช่สเปคผม เพราะงั้นอย่าพูดเรื่องนี้อีกเลยครับ ผมรู้ว่าแม่กังวลเรื่องว่าที่ลูกสะใภ้ ผมสัญญาว่าจะหาลูกสะใภ้ให้แม่ ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ไปครับ”
“ถ้าผมเจอคนที่ใช่ ผมจะพาเธอมาหาแม่แน่นอนครับ”
“นี่ลูกไม่ชอบเธอเหรอ” คุณผู้หญิงไป่ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“แล้วลูกชอบแบบไหนเล่า? แม่คิดว่าเด็กคนนั้นก็ดีนะ เธอดูดี มีเสน่ห์ กิริยามารยาทก็สบายใจ สบายตา”
หลังจากที่ไป่ซู๋ได้ยินที่แม่ของเขาพูด เขาอดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ย “นิสัยดี? แม่แน่ใจแล้วเหรอ?”
แม่ไป่ฟังดูก็รู้ความหมายอื่นที่แฝงในคำพูดของเขา เธอตกตะลึงครู่หนึ่งและถามว่า “ลูกห้า ลูกหมายความว่ายังไง? ลูกไม่คิดอย่างนั้นเหรอ ช่วงเวลาระยะสั้น ๆ ที่ลูกออกไปเดินเล่นกับเธอ มันเกิดอะไรขึ้น?”
เธอเลี้ยงลูกของเธอมาตั้งแต่เล็ก เธอจึงรู้ว่าไป่ซู๋ดูเหมือนจะไม่ชอบเซินโย่ว ทั้งยังมีความรังเกียจบางอย่างอยู่ในความไม่ชอบนั่นด้วย
ก่อนหน้านี้ยังดี ๆ อยู่เลย
ทว่าตอนนี้...
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอคิดว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างที่พวกเขาออกไปที่สวนด้วยกัน
“ไม่มีอะไรครับ” ไป่ซู๋รู้ว่าเซินโย่วเป็นคนแบบไหน แต่เขาไม่อยากจะบอกคุณผู้หญิงไป่ เขาหันกลับและเดินเข้ามาข้าง ๆ คุณผู้หญิงไป่ ตบไหล่เธอเบา ๆ “แม่ครับ เรื่องนี้อย่ายุ่งเลยดีกว่าครับ”
คุณผู้หญิงไป่เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าและพูดว่า “ได้ ได้ แม่จะไม่ยุ่งเรื่องนี้ก็ได้ แต่ลูกห้า ลูกไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะ ปีหน้าก็จะสามสิบแล้ว คนวัยเดียวกับลูกต่างก็มีครอบครัวกันไปหมดแล้ว”
“แต่ดูลูกสิ ยังไม่มีแฟนเลย บอกแม่มาที ว่าลูกชอบผู้หญิงแบบไหน แม่จะช่วยหา เห็นลูกโตขึ้นทุกวัน จะไม่ให้แม่เป็นห่วงได้ยังไง”
ไป่ซู๋พูดอย่างปวดหัว “แม่ครับ ผมบอกแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าถ้าผมเจอคนที่ใช่ ผมจะพามาหาแม่เอง”
คุณผู้หญิงไป่ถอนหายใจ พูดอย่างไม่พอใจ “ลูกพูดแบบนี้มากี่ครั้งแล้ว? เมื่อไหร่จะเกิดขึ้นจริงสักทีล่ะหะ? กี่ปีผ่านมาแล้ว ลูกเคยพาผู้หญิงคนไหนมาที่บ้านบ้าง ถ้าลูกพามา แม่คงไม่ต้องเป็นห่วงอยู่แบบนี้หรอก”
“ก็ผมยังไม่เจอนี่ครับ”
“ก็นั่นไง แม่ถึงได้ถามว่าลูกชอบผู้หญิงแบบไหน แม่แนะนำผู้หญิงให้ลูกตั้งหลายคน แต่ก็ไม่ถูกใจลูกสักคน นี่ลูกอยากจะนางงามจักรวาลเลยหรือไง ถึงจะพอใจ? หา?” เมื่อพูดเรื่องนี้ คุณผู้หญิงไป่ก็นึกอะไรบางอย่างออก
เธอคิดถึงความเป็นไปได้บางอย่างและสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป ก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง
“ลูกกับนักแสดงในกอง นั่นเรื่องจริงเหรอ...”
“ไม่เป็นความจริง” ก่อนที่เธอจะพูดจบ ไป่ซู๋ก็พูดตัดบทพร้อมกับขมวดคิ้ว
“แม่ อยากไปฟังข่าวลือข้างนอกนั่นเลย แม่ก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอว่าวงการบันเทิงน่ะ ชอบเสนอแต่ข่าวไม่มีมูลน่ะ”
“จริง ๆ นะ?” คุณผู้หญิงไป่แสดงออกว่าไม่เชื่อ “ข่าวออกจะดัง แม่เห็นรูปผู้หญิงคนนั้นแล้วนะ สวยทีเดียว หน้าตาดีกว่าลูกสาวตระกูลเซินอีก”
“ถ้าลูกชอบเธอจริง ๆ ก็ไม่เห็นต้องปิดบังเลยนี่ ลูกก็รู้ว่าครอบครัวเราไม่สนใจเรื่องสถานะทางครอบครัวอะไรหรอก ขอแค่เป็นคนดี แม้จะมาจากพื้นเพที่ต่ำกว่าเราก็ไม่เห็นเป็นไรเลย”
“สำคัญที่สุดคือ ขอแค่ลูกชอบเธอ ถึงแม้พวกเราจะไม่ชอบอาชีพของเธอเอามาก ๆ เลยก็เถอะ แต่พ่อกับแม่ก็ไม่ใช่คนที่เข้าด้วยยากสักหน่อย เราต้องปฏิบัติต่อคนที่ชอบเป็นอย่างดีแน่นอน”
คุณผู้หญิงไป่เพียงรู้สึกว่า ขอแค่ให้ลูกชายของเธอมีแฟนก็พอ
ส่วนว่าเธอจะมาจากครอบครัวที่ดีไหม มีอาชีพการงานยังไง หน้าตาเป็นยัง เป็นเรื่องรอง
ไม่ว่ายังไง สถานะของตระกูลไป่ก็มั่นคงพอตัวอยู่แล้ว หากจะหาลูกสะใภ้ที่มีสถานะทางสังคมเท่าเทียมกัน ก็ถือเป็นหน้าเป็นตา