957-958

1/8

EP.957

“ซูเฉิน”

ซูเฉินเอ่ยอย่างเฉยเมย

ที่ยอมเฉลยง่ายๆ เพราะต่อให้ไม่ประกาศมันออกมา ไม่นานคงถูกอีกฝ่ายค้นพบอยู่ดี เช่นนั้นทำไมไม่บอกออกไปตั้งแต่แรกซะเลยเล่า?

ซูเฉิน?

ซูเฉินคนไหนกัน? คงไม่ใช่เทพสังหารซูเฉินแห่งเผ่ามนุษย์หรอกนะ?

เมื่อชื่อนี้ถูกเปล่งออกมา บริเวณโดยรอบเงียบสงัดไปครู่หนึ่ง

รอจนทุกคนได้สติกลับมา หลังจากล่วงรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของซูเฉิน ความตื่นตระหนกก็แผ่ซ่านไปทั่วหัวใจของพวกเขา

ณ ขณะนี้ ชาวต่างเผ่าทั้งหลายต่างชักฝีเท้าถอยอย่างช่วยไม่ได้ สายตาที่มองซูเฉิน เต็มไปด้วยความหวาดกลัวอย่างลึกล้ำ

มีข่าวลือว่าซูเฉินฆ่าคนอย่างเลือดเย็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นชาวต่างเผ่า เขาจะยิ่งไร้ปราณี ทุกการเคลื่อนไหวคือล้างเมือง ล้างเผ่าพันธุ์

ทุกคนจึงกังวลว่าตนจะตกเป็นเหยื่อของซูเฉินหรือไม่ หากเกิดกรณีที่ซูเฉินมีความคิดสังหาร พวกเขาคงไม่มีทางรอดชีวิตได้

เมื่อชายชราได้ยินชื่อ ‘ซูเฉิน’ เขาตกใจกลัวหัวใจแทบวายตาย

เจ้าตัวเพิ่งได้ข่าวมาหมาดๆ ว่าซูเฉินบุกสังหารสัตว์ร้ายมิติในเมืองเฮยหยา แล้วจากมาอย่างสง่าผ่าเผย  กระทั่งเว่ยหยางเจ้าเมืองเฮยหยา ยังต้องก้มหัวต่อหน้าซูเฉิน

นี่แสดงให้เห็นว่า ซูเฉินทรงพลังเพียงใด

ชายชราแม้เป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทวะขั้น 3 แต่ก็ยังรู้จักประมาณตน ว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของซูเฉินอย่างแน่นอน

“ที่แท้ก็เป็นน้องซูนี่เอง เราผู้เฒ่านามฮั่วฉิน ได้ยินชื่อเสียงของน้องซูมานานแล้ว เจอกันวันนี้ ช่างโชคดีเสียนี่กระไร” ชายชราฮั่วฉิน กล่าวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม เอ่ยประจบประแจง

ทันทีที่คำนี้หลุดออกมา ไม่เพียงแต่ซูเฉินเท่านั้นที่ตกใจ แม้แต่เหล่าชาวต่างเผ่าที่อยู่รอบๆก็ยังตกตะลึง

ฮั่วฉินเมื่อครู่ยังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ตั้งท่าว่าจะไม่ยอมหยุดจนกว่าจะได้ฆ่าซูเฉินอยู่เลย แต่ไหงจู่ๆก็กลายเป็นคนใหม่ในพริบตาเดียว? ทั้งยังลดท่าทีลงและเรียกซูเฉินว่าเป็นน้องชายเขา

–นี่มันจะน่าละอายเกินไปแล้ว! ศักดิ์ศรีของเผ่าอสูรอัคคีถูกโยนไปอยู่ที่ไหนกัน?

“สมแล้วที่เป็นซูเฉิน!” ฟางฉีซานที่อยู่ข้างๆลอบทอดถอนหายใจด้วยอารมณ์ เขาสามารถเดาได้ เหตุผลที่ฮั่วฉินเปลี่ยนทัศนคติ  ทั้งหมดเพราะหวาดหวั่นในชื่อเสียงของซูเฉิน

ตระกูลฮั่วมาจากสิบตระกูลซ่อนเร้น แต่ผู้แข็งแกร่งระดับเทวะขั้น 3 ของตระกูล เมื่ออยู่ต่อหน้าซูเฉินยังต้องยอมก้มหัวให้  นี่แสดงให้เห็นว่า ชื่อเสียงของซูเฉินในมิติภายนอกโด่งดังเพียงใด

ซูเฉินรวบรวมชิ้นส่วนที่ดรอปอย่างเงียบๆ จากนั้นมองไปยังฮั่วฉิน กล่าวอย่างเฉยเมย “ก่อนหน้านี้แกเพิ่งบอกไปว่าจะทำลายฉันให้เป็นเถ้ากระดูกไม่ใช่หรอ? ทำไมตอนนี้ไม่ทำแล้วเล่า?”

อึก!

ฮั่วฉินกลืนน้ำลาย เอ่ยด้วยรอยยิ้มเจื่อนว่า “น้องซู ข้าแค่ล้อเล่นกับเจ้า ข้าจะสู้เจ้าได้อย่างไร?”

ล้อเล่น?

ซูเฉินส่งเสียงฮึเบาๆ เอ่ยด้วยคำที่แฝงไปด้วยความหมาย “แต่แกด่าฉัน และบังเอิญฉันเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นซะด้วยสิ”

ไม่ทุบตีคนที่ส่งยิ้มให้ ในเมื่อฮั่วฉินมีสมอง ซูเฉินก็ไม่ต้องการจะลงมือต่อ แต่ถ้าอยากจะให้เลิกราเพียงเท่านี้ เขาไม่ยอม เขาจะกัดไม่ปล่อย และถือโอกาสนี้รีดไถสมบัติ!

หากฮั่วฉินมอบสมบัติที่เหมาะสม ซูเฉินสามารถให้อภัยเขาได้ครั้งหนึ่ง

ฮั่วฉินมองทะลุปรุโปร่ง เขาหยิบถุงสมบัติออกมาและยื่นให้ซูเฉินทันที เผยรอยยิ้มแฉ่ง “เมื่อครู่ข้าล่วงเกินเจ้า นี่ถือเป็นการชดเชยเล็กน้อย หวังว่าน้องซูจะยอมรับมัน!”

ซูเฉินรับไว้ จากนั้นกวาดพลังจิตเข้าตรวจสอบ เมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ข้างใน มุมปากเขาอดยกยิ้มขึ้นมาไม่ได้ กล่าวกับอีกฝ่ายว่า “เหล่าฮั่ว ถือว่าคุณยังพอฉลาดอยู่บ้าง”

ในถุงเก็บสมบัติไม่เพียงแต่มีหินพลังงานมิติจำนวนมาก  แต่ยังมีศิลารวมวิญญาณอีกหลายก้อน

ศิลารวมวิญญาณสามารถช่วยเสริมแกร่งแก่มหาเพลิงเอกลักษณ์ได้ จุดประสงค์ของเขาในการมาเมืองมู่กวง คือรวบรวมศิลารวมวิญญาณ

ในเมื่อฮั่วฉินมีไหวพริบเช่นนี้ ซูเฉินก็ไม่ต้องการถือสาเขาอีกต่อไป

ได้ยินซูเฉินพูดว่าจะปล่อยเขาไป ฮั่วฉินถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก

2/8

Ep.958

“เหล่าฮั่ว ฉันได้ยินว่าเมืองมู่กวงของคุณเลือกปฏิบัติต่อเผ่ามนุษย์ ทำไมถึงสั่งทหารยามให้ไม่อนุญาตให้พวกเราเข้าไปกัน?”

ซูเฉินเก็บสมบัติ หันไปพูดกับฮั่วฉิน

ฮั่วฉินตื่นตระหนก รีบอธิบายว่า  “นั่นเป็นการตัดสินใจโดยไม่มองการณ์ไกล เผ่าอสูรอัคคีของเราไม่ได้มีเจตนาจะเลือกปฏิบัติต่อเผ่ามนุษย์แม้แต่น้อย”

ในความเป็นจริงแล้ว  ผู้ที่ออกคำสั่งคือเขาเอง เพราะหลังจากรู้ข่าวว่าซูเฉินอยู่ใกล้ๆ เขาก็เกิดความกังวลว่าซูเฉินจะมาที่เมืองมู่กวง

มีข่าวลือว่าทุกแห่งหนที่ซูเฉินไป แห่งหนนั้นจักเกิดพายุนองเลือด

ซึ่งตอนนี้ท่านเจ้าเมืองไม่ได้อยู่ในเมือง หากไม่มีอีกฝ่ายคอยคุม ฮั่วฉินไม่กล้าปล่อยให้ซูเฉินเข้ามา ดังนั้นส่งคำสั่งออกไปว่าห้ามเผ่ามนุษย์เข้าเมือง

เดิมที เขานึกว่าจะสามารถหยุดซูเฉินไม่ให้เข้ามาได้ แต่ใครจะทันคิด ว่าซูเฉินจะมุทะลุยิ่งกว่าข่าวลือ ถึงกับฆ่าคนและบุกเข้ามา

หากรู้ว่าซูเฉินแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ เขาคงปล่อยซูเฉินเข้าไปในเมืองแต่แรก และคงไม่เกิดเหตุการณ์เช่นในตอนนี้

ตระกูลฮั่วไม่เพียงสูญเสียระดับเทวะขั้น 2 ไปเท่านั้น แต่กระทั่งตัวเขาเองยังถูกรีดไถ เขาอยากจะร้องไห้จริงๆแต่ดันไม่มีน้ำตา

“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้” ซูเฉินพยักหน้าว่าเข้าใจ เขารู้ดีว่าฮั่วฉินเพียงหาถ้อยคำรื่นหู ไม่ได้ชี้ให้เห็นถึงเหตุผลจริงๆ แต่ก็ไม่คิดเปิดโปง กล่าวเสียงเรียบว่า “ฉันได้ยินมาว่าชาวเผ่าอสูรอัคคีของคุณ เป็นพวกอารมณ์ร้อน ใครพูดไม่เข้าหูเอะอะก็จะฆ่า ตอนนี้ฉันฆ่าคนของคุณ และกำลังจะเข้าเมือง คุณคงไม่คิดปิดล้อมแล้วเอาคืนฉันใช่ไหม?”

ใครพูดไม่เข้าหูเอะอะก็จะฆ่า? นี่เจ้าไม่ได้กำลังพูดถึงตัวเองหรอกหรือ?

ฮั่วฉินโกรธจนเกือบด่าแม่ อย่างไรก็ตาม ทำได้เพียงบ่นในใจเท่านั้น เขาไม่กล้าพูดต่อหน้าซูเฉิน

“พวกเราแทบอดใจรอไม่ไหวแล้วที่จะต้อนรับเจ้า น้องซูล้อเล่นแล้ว” ฮั่วฉินยิ้มกระอักกระอ่วน

เทพสังหารเช่นซูเฉิน อย่าว่าแต่ดักซุ่มดูเลย คงไม่มีใครสมองป่วยคิดปิดล้อมสังหารเขาแน่นอน

“งั้นฉันก็วางใจได้แล้ว”

ซูเฉินหัวเราะ ก้าวเข้าไปในเมือง

รอจนซูเฉินละสายตา ฮั่วฉินก็บินเข้าไปในเมืองอย่างรวดเร็ว อันดับแรกเขาต้องประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ว่าอย่าให้ใครไปยั่วโมโหซูเฉิน  มิฉะนั้นอาจเกิดเภทภัยได้

ชาวต่างเผ่าที่หน้าทางเข้า เดิมทั้งหมดตั้งใจจะเข้าเมืองมู่กวง แต่พอเห็นซูเฉินเดินเข้าไป ทุกคนเปลี่ยนความคิด แตกฮือออกจากสถานที่นี้ทันที

ฟางฉีซานยืนลังเลอยู่ที่เดิมพักหนึ่ง สุดท้ายก้าวตามเข้าไป

ใจเขาไม่อยากเข้าเมืองแม้สักก้าว แต่หากคิดกลับสู่ป่าหยานเย่ จำเป็นต้องผ่านค่ายกลเคลื่อนย้ายของที่นี่ จึงได้แต่จำใจ

ซูเฉินเข้าเมืองมู่กวง เตร่ไปรอบๆ หลายแห่งที่เขาแวะเวียน ส่วนใหญ่เป็นร้านค้าขนาดใหญ่ จุดประสงค์ก็เพื่อค้นหาแร่จำพวกศิลารวมวิญญาณ แต่ช่างน่าเศร้า หลังจากเดินหาอยู่นาน ก็ไม่พบแม้แต่ชิ้นเดียว

อย่างไรก็ตาม เขาได้ข้อมูลมา ว่าเมืองมู่กวงกำลังจะจัดงานประมูลขึ้นในเดือนหน้า และมันมีชื่อเสียงพอสมควร จะจัดขึ้นเพียงปีละครั้งเท่านั้น

งานประมูลที่จะมาถึงนี้ น่าจะมีสมบัติดีๆมากมาย

ซูเฉินสนใจเรื่องนี้มาก  ตั้งใจว่าเมื่อถึงเวลา เขาต้องไปร่วมงาน

นอกจากนี้ เขายังได้ยินข่าวสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง นั่นคือมิติท้ารบกำลังจะเปิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

ซึ่งหากเข้าสู่มิติท้ารบแล้ว มีโอกาสสูงที่จะสามารถปลุกพลังพิเศษได้

ตอนอยู่บนทวีปเสวียนเทียน ซูเฉินต้องการจะเข้าไป ด้วยเหตุนี้จึงเข้าร่วมกับทางวังสุริยันจันทรา ตอนนี้เขาอยู่ในมิติภายนอกแล้ว  เป็นธรรมดาที่จะไม่พลาดโอกาสนี้

หลังจากสอบถามถึงตำแหน่งที่แน่นอนของมิติท้ารบ ซูเฉินก็เดินทางออกจากเมืองมู่กวง มุ่งหน้าสู่มิติท้ารบ