305 - น้องชายอัจฉริยะ
305 - น้องชายอัจฉริยะ
“นางจะทำอะไรในเหมืองโบราณคุนอวิ๋น?” เย่ฟ่านยากที่จะแน่ใจ
“ดูเหมือนว่าข้าจะต้องเดินทางไปหานางด้วยตัวเองเท่านั้น” เย่ฟ่านตัดสินใจเขาไม่ต้องการพลาดโอกาสครั้งสำคัญนี้
วิธีเดียวที่จะสามารถได้รับผลประโยชน์มากมายในครั้งเดียวก็คือการได้รับรางวัลจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยก
เย่ฟ่านออกเดินทางอย่างไม่รอช้าและสองสามวันต่อมาเขาก็มาถึงเมืองโบราณที่เรียกว่าคุนอวิ๋น ซึ่งอยู่ห่างออกไป 90,000 ลี้ ซึ่งสตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกได้มาถึงแล้ว
เมืองคุนอวิ๋นตั้งอยู่ในถิ่นทุรกันดารอันขมขื่น พื้นที่สีเขียวที่นี่ไม่ใหญ่โตแต่มีตำนานมากมาย คนในท้องถิ่นเชื่อว่ามีเทพเจ้าโบราณคอยปกป้องพวกเขา
สตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกได้อยู่ที่นี่มานานกว่าครึ่งเดือนแล้วและยังไม่ไปไหน ซึ่งทำให้ผู้คนสงสัยว่าเหตุไฉนนางจึงมาที่เหมืองคุนอวิ๋นแห่งนี้
ถึงตอนนี้มีผู้คนมากมายคอยติดตามอยู่ด้านหลังของนาง ในจำนวนนี้มากกว่า 80 ส่วนล้วนเป็นอัจฉริยะรุ่นเยาว์ของมหาอำนาจต่างๆ
ต้องบอกว่าเสน่ห์ของสตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกนั้นยิ่งใหญ่เกินไป ตระกูลเจียง ตระกูลจี้ และดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงล้วนมียอดฝีมือรุ่นเยาว์มากมายเข้าร่วมกลุ่ม
ในจำนวนนี้มีแม้แต่ทายาทของมหาอำนาจจากอาณาจักรภาคกลางด้วย
“บ้าเอ๊ย ข้าได้ยินมาว่าไม่มีดินแดนศักดิ์สิทธิ์ในภาคกลางแต่พวกเขามีราชวงศ์ที่สืบต่อกันมากว่าแสนปีและผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นองค์ชายล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ทั้งสิ้น?”
เย่ฟ่านส่ายหัวไม่เชื่อจริงๆเขาอยู่ในเมืองโบราณคุนอวิ๋นและผู้ฝึกตนที่พูดคำเหล่านี้ก็กวาดสายตามองมาที่เขาพร้อมกับกล่าวว่า
"สหายอ้วนเจ้าไม่รู้อะไรจริงๆ?"
“แล้วมันเป็นยังไง?”
“คนพวกนั้นเป็นทายาทของจักรพรรดิจากอาณาจักรภาคกลางอย่างแน่นอน พวกเขาเคลื่อนย้ายผ่านประตูมิติมาที่นี่โดยมุ่งหวังจะได้แต่งงานกับสตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกเพียงอย่างเดียว”
เย่ฟ่านลูบคางของเขาสตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกนี้มีเสน่ห์จริงๆเหรอ? นางงดงามถึงขนาดที่ทายาทของจักรพรรดิจากดินแดนภาคกลางต้องไล่ตามด้วยความบ้าคลั่ง
“ก็แค่ผู้หญิงไม่ใช่เหรอ?” เขาคำราม
“สหายอ้วนเจ้าไม่เข้าใจอะไรเลยจริงๆ ลองเจ้าได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของนางรับรองว่าวิญญาณของเจ้าจะต้องหลุดออกจากร่างอย่างแน่นอน”
“สหายอ้วนเจ้าเป็นคนที่ฝึกฝนในเพศพรหมจรรย์ย่อมไม่เข้าใจเรื่องนี้ สตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกนั้นเดิมทีอาจจะเป็นหญิงงามที่ลึกล้ำอยู่แล้ว
แต่เมื่อนางได้รับการฝึกฝนจากคัมภีร์ลึกลับของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยก มันจะทำให้นางมีความงดงามมากขึ้นเรื่อยๆจนแตกต่างจากมนุษย์ในโลก”
“*จมูกโคตัวนี้ก็ใช่ว่าจะพูดไม่มีเหตุผล นางก็แค่หญิงธรรมดาคนหนึ่ง รอให้ข้าอารมณ์ดีเมื่อไหร่ข้าจะไปขโมยนางมาเป็นภรรยาอย่างแน่นอน” เด็กหนุ่มที่มีหนวดเคราครึ้มเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม
(*จมูกโคเป็นคำเรียกนักพรตที่มีความหยาบคาย โดยธรรมดาแล้วทรงผมของนักพรตที่ถูกมัดขึ้นไปด้านบนจะมีลักษณะคล้ายกับจมูกของวัว)
เย่ฟ่านรู้ได้ทันทีว่าชายมีหนวดมีเคราคนนี้เป็นโจรแน่นอน และจากคำพูดของเขาเห็นได้ชัดว่าเขาจะต้องเป็นทายาทของโจรผู้ยิ่งใหญ่คนใดคนหนึ่ง
เมื่อกลุ่มคนที่กำลังสนทนากับเย่ฟ่านมองเห็นชายคนนี้พวกเขาก็แตกฮือไปคนละทางด้วยความกลัว
“สหายตอนนี้ข้ารู้สึกหิวขึ้นมาแล้วเจ้าจะไปดื่มกับข้าหรือไม่” ชายที่มีหนวดเคราเชิญชวน
เมื่อถูกเชิญไปทานอาหาร เย่ฟ่านที่กำลังแสร้งทำเป็นต้วนเต๋อก็พยักหน้าอย่างรวดเร็ว
ชายสองคนขึ้นไปในร้านอาหารและสั่งเครื่องดื่มและอาหารมามากมาย หลังจากนั้นพวกเขาก็ดื่มกินพร้อมกับสนทนากันไปด้วย
"กินกันไปก่อน อีกสักหน่อยเพื่อนของข้าจะมาร่วมวงกับเราด้วย"
เด็กหนุ่มมีหนวดมีเครามีความกล้าหาญมาก เขาดื่มสุราชามอ่างใหญ่ไปมากกว่าสิบแปดชามแล้ว
"ยอดเยี่ยมจริงๆ!" เขาเช็ดคราบสุราที่มุมปากจากนั้นก็หัวเราะและกล่าวว่า
"เจ้าเป็นนักพรตไม่ใช่หรือ เหตุไฉนจึงกินเนื้อแกะย่าง เจ้าเป็นนักพรตแห่งสุราและเนื้อหรือเปล่า หรือจริงๆแล้วเจ้าเพียงแค่เอาชุดนักพรตมาใส่เท่านั้น”
"นักพรตผู้น่าสงสารมีนามว่าต้วนเต๋อ สหายเต๋าการที่ข้าดื่มกินเนื้อสัตว์นั้นก็เป็นการโปรดสัตว์ชนิดหนึ่งเช่นกัน" เย่ฟ่านตอบหน้าตาเฉย
“ข้ามีโชคชะตากับนักพรตจริงๆ ไม่เพียงแต่รูปร่างของเจ้าจะดูคุ้นตาเท่านั้นแม้แต่ชื่อของเจ้าก็ยังทำให้ข้ารู้สึกคุ้นเคย” เด็กหนุ่มมีเคราจ้องมองเย่ฟ่านด้วยรอยยิ้มที่ลึกซึ้งจากนั้นก็ประกาศชื่อของตัวเองว่า
"ข้าชื่ออู๋จงเทียน"
หัวใจของเย่ฟ่านสั่นไหวอย่างรุนแรง อาณาจักรทางเหนือมีโจรผู้ยิ่งใหญ่อันดับห้าที่ถูกเรียกว่าอู๋เต้า ชายหนุ่มคนนี้เป็นทายาทของโจรผู้ยิ่งใหญ่คนนั้นจริงๆ
ราชันมังกรเขียวคือโจรผู้ยิ่งใหญ่ลำดับที่สี่ ในขณะที่ตู้เทียนผู้ครอบครองอาวุธเต๋าของจักรพรรดิโบราณอยู่ในลำดับที่เจ็ด
อู๋เต้าอยู่ในอันดับที่ห้าซึ่งสูงกว่าตู้เทียนที่ครอบครองอาวุธระดับนั้น ทำให้เห็นว่าอู๋เต้าผู้นี้แข็งแกร่งมากแค่ไหน เมื่อเป็นเช่นนี้เย่ฟ่านจึงต้องการจะผูกมิตรกับฝ่ายตรงข้ามในทันที
ในทันใดนั้นตู้เฟยก็ขึ้นมาบนโรงเตี๊ยม ที่ด้านหลังของเขามีเด็กหนุ่มมากมายซึ่งเย่ฟ่านเคยพบเจอในเมืองผิงเอี๋ยน
ทั้งหมดเป็นลูกหลานของโจรผู้ยิ่งใหญ่ นี่เป็นกลุ่มโจรกลุ่มเล็กๆ ที่ไม่มีใครเป็นคนดี พวกเขาเลวร้ายไปกว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นมาก
“นักพรตคนนี้เป็นใคร ทำไมข้าไม่เคยเห็นเขามาก่อน” หนึ่งในนั้นถาม
ตู้เฟยเทสุราหนึ่งคำและถาม "พี่จงเที่ยน นักพรตคนนี้เป็นใครแนะนำให้รู้จักหน่อย"
เห็นได้ชัดว่าอู๋จงเที่ยนคือผู้นำของคนเหล่านี้ เขาเทสุราลงไปในถ้วยของตัวเองและแนะนำว่า
"ข้าเพิ่งได้พบกับนักพรตคนนี้ ชื่อของเขาคือต้วนเต๋อ ข้ารู้สึกว่าชื่อของเขาดูคุ้นเคยอย่างยิ่ง”
“ใช่ ชื่อนี้ฟังดูคุ้นๆสำหรับข้าเหมือนกัน” ตู้เฟยก็พยักหน้าเห็นด้วย
เย่ฟ่านแอบสาปแช่งอยู่ในใจ เห็นได้ชัดว่าเจ้าอ้วนต้วนเต๋อเคยสร้างความปั่นป่วนในภาคเหนือจึงทำให้คนเหล่านี้จำชื่อของเขาได้
หากเป็นกรณีนี้ มันผิดปกติเกินไปจริงๆ ระยะทางไกลขนาดนั้นมันเป็นเรื่องยากมากที่จะข้ามมาได้ ในดินแดนภาคใต้ก็มีเพียงประตูจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นที่สามารถใช้ข้ามมา
“พี่จงเทียน ยิ่งข้านึกถึงชื่อต้วนเต๋อข้ายิ่งรู้สึกคุ้นเคย ข้าจำได้ว่าเจ้าดูเหมือนจะมีความขัดแย้งกับใครบางคนเมื่อแปดหรือเก้าปีก่อน” ในทันใดนั้นเด็กหนุ่มคนหนึ่งก็พึมพำออกมาเบาๆ
และดูเหมือนว่าอู๋จงเทียนจะถูกกระตุ้นความทรงจำอันเจ็บปวดขึ้นมาทันที ดวงตาที่กลมโตของเขาจ้องมองไปที่เย่ฟ่านและพูดอย่างโกรธเคืองว่า
“ที่แท้ก็เจ้าเอง!”
"เรารู้จักกันหรือเปล่า?"
เย่ฟ่านรู้สึกปวดหัวเป็นอย่างมาก ในตอนแรกเขาคิดจะปลอมตัวเป็นเจ้าอ้วนที่ไร้ยางอายคนนั้นเพื่อทำเรื่องชั่วช้าบางอย่าง ไม่คิดว่าสุดท้ายเขากลับต้องแบกหม้อดำแทนเจ้าอ้วนที่น่าตาย
“แม้ว่าข้าจะไม่เคยเห็นเจ้าต่อหน้า แต่ข้าจำรูปเหมือนของเจ้าได้ ต่อให้เจ้าถูกเผาเป็นเถ้าถ่านข้าก็ไม่มีทางลืม!”
อู๋จงเทียนโกรธด้วยความโกรธ นิ้วของเขาชี้ไปที่ใบหน้าของเย่ฟ่าน
"ให้ตายสิ เจ้านักพรตสารเลว เจ้ากล้ามาก เจ้ากล้าที่จะขุดแม้กระทั่งหลุมฝังศพบรรพบุรุษของข้า ปู่ของข้าพูดว่าหากจับเจ้าได้จะฝังเจ้าไว้ในเหมืองโบราณต้นกำเนิดให้ตายอย่างช้าๆ!”
มุมปากของเย่ฟ่านกระตุก นักพรตที่ไร้ยางอายคนนี้เลวร้ายเกินไปแล้ว เขากล้าที่จะขุดหลุมฝังศพบรรพบุรุษของโจรผู้ยิ่งใหญ่คนที่ห้าจริงๆ!
“พี่น้องทุกท่านเรื่องนี้เป็นความเข้าใจผิดทั้งสิ้น” เย่ฟ่านกรีดร้อง นี่คือหม้อสีดำขนาดใหญ่ หากเขาแบกไว้แทนต้วนเต๋อเขาจะต้องตายอย่างแน่นอน
สำหรับอู๋จงเทียน ในตอนแรกเขาคิดว่ามันเป็นเพียงเหตุการณ์บังเอิญ สุดท้ายสวรรค์กลับประทานโอกาสให้เขาในล้างแค้นในวันนี้
“สหายเจ้าทำเรื่องเลวร้ายมากเกินไป บรรพบุรุษของตระกูลอู๋ไม่ใช่ว่าจะตอแยได้ง่ายๆ การที่เจ้าทำแบบนี้จะให้ตระกูลอู๋เอาหน้าไปไว้ที่ไหน?” ตู้เฟยหรี่ตาและเทน้ำมันลงบนกองไฟ
ในตอนนี้เย่ฟ่านพูดไม่ออกจริงๆ เจ้าอ้วนที่ไร้ศีลธรรมได้สร้างบาปขึ้นมานับไม่ถ้วนจริงๆ เมื่อเห็นกลุ่มโจรเล็กๆต้องการจะถลกหนังเขาทั้งเป็น เขาก็รีบอธิบายว่า
“ข้าไม่ใช่ต้วนเต๋อ ข้ามีหนี้เก่าที่ยังไม่สะสางกับเขาเช่นกัน!”
เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเปิดเผยร่างที่แท้จริงของเขา ถ้าเขาช้าไปกว่านี้ มีความเป็นไปได้สูงที่โจรตัวเล็กๆพวกนี้จะฉีกเขาออกเป็นชิ้นๆ
“น้องชายอัจฉริยะ?