ฟ้าส่งข้ามาเติมรัก บทที่8
หลังจากทั้งครอบครัวอิ่มหนำกันแล้ว เว่ยเหนียนเหยาให้หานตงพาไปร้านขายข้าวสารและของแห้ง เมื่อมาถึงร้านขายของหานตงเห็นว่านี่เป็นเวลายามเว่ยแล้ว เขากลับบุตรชายจะไปบอกคนขับเกวียนให้รอพวกเขาสักครู่ เนื่องจากเกรงว่าคนขับเกวียนจะกลับไปเสียก่อน
หากแต่หญิงสาวกลับส่งเงินให้สามี1ตำลึง พร้อมกับบอกให้สามีไปเลือกซื้อหมูเนื้อแดงครึ่งชั่ง เนื้อติดมันครึ่งชั่ง ไขมันหมูหนึ่งชั่ง และกระดูกหมูสองชั่ง จากนั้นให้หารถม้ารับจ้างมาสักคัน โดยเน้นว่าให้หาคันที่ใหญ่สักหน่อยไปรับของที่ฝากที่ร้านผ้าไว้ แล้วค่อยกลับมารับนาง
หญิงสาวเดินเข้ามาในร้านข้าวสาร ร้านร้านนี้จัดวางข้าวของอย่างเป็นระเบียบ ของทุกชิ้นไม่มีฝุ่นเกาะ แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในการทำงานเป็นอย่างมาก
"ฮูหยินท่านนี้ ไม่ทราบว่า ต้องการซื้ออะไรบ้างขอรับ"
ชายรูปร่างสันทัดเดินเข้ามาต้อนรับนางทันทีด้วยท่าทางอ่อนน้อม
"เถ้าแก่ ข้าขอ ข้าวสารคุณภาพกลางสองชั่ง แป้งสาลีครึ่งชั่ง น้ำตาลทรายแดงครึ่งชั่ง เกลือสองจิน สารส้มครึ่งจิน เหล้าขม ซีอิ๊ว อย่างละไห อ๋อ ข้าขอเครื่องเทศต่างต่างอย่างละชุด และถ่านถุงเล็กหนึ่งถุงด้วยเจ้าค่ะ"
เถ้าแก่ร้านอ้าปากค้าง เขาคิดไม่ถึงจริงจริงว่า หญิงสาวที่อยู่ในชุดเก่ามอซอจะเป็นดาวนำโชคให้กับร้านของเขาในวันนี้
"ได้ได้ รอสักประเดี๋ยวนะขอรับ"
เถ้าแก่รีบกระวีกระวาดออกมาช่วยเด็กในร้านจัดของอย่างขมีขมัน หญิงสาวยืนมองอยู่ครู่ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตนลืมซื้อ ไขมันแพะ นุ่น กับ พวกชามไม้เพิ่ม จึงเอ่ยสอบถามจากเถ้าแก่
ทางเถ้าแก่แจ้งว่าร้านตนมีไขมันแพะอยู่แล้ว นางจึงสั่งไขมันสัตว์เพิ่มอีกหนึ่งไห ส่วนของที่นางต้องการเพิ่ม ต้องเดินถัดไปอีกสามร้าน ตรงนั้นจะมีร้านขายที่นอน ซึ่งจะมีนุ่นขายอยู่แล้ว
อีกร้านจะเป็นร้านขายอุปกรณ์เครื่องครัวต่างๆ ส่วนร้านสุดท้ายจะเป็นร้านกระดาษและเครื่องเขียนต่างๆ
หญิงสาวเดินจากไปไม่นาน นางก็กลับมาพร้อมกับชายอีกสามคน สองคนที่มาแบกที่นอนและผ้าห่มที่นางตัดสินใจซื้อมาพร้อมนุ่นมาส่ง ส่วนอีกหนึ่งคนที่เหลือในมือกลับเต็มไปด้วยถุงใส่ชามไม้และหม้อเหล็กขนาดต่างๆ ส่วนตัวนางเองมีกระดาษและเครื่องเขียนอยู่ในมือเป็นที่เรียบร้อย
"เถ้าแก่ขอรับ เถ้าแก่กับเถ้าแก่เนี้ยฝากข้ามาขอบคุณที่ท่านแนะนำลูกค้าให้ที่ร้านพวกเขาขอรับ"
"ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ล้วนแต่เป็นเพื่อนฝูงกันทั้งนั้น"
เถ้าแก่ร้านข้าวสารตอบ พลางคิดว่านังหนูคนนี้ช่างเป็นดาวนำโชคเสียจริงๆ ไม่เพียงแต่นำเงินก้อนใหญ่มาให้เขา ยังนำมิตรภาพที่ดีมาสู่ร้านค้าของเขาอีกด้วย
"ท่านแม่ ท่านแม่" "ท่านแม่ข้ามารับแล้วขอรับ"
เสียงบุตรชายทั้งสองทำให้เว่ยเหนียนเหยาหันกลับมามอง พบว่าบุตรชายทั้งสองกำลังอยู่ในรถม้าคันใหญ่ และโผล่หน้ามาจากหน้าต่างเพื่อโบกมือเรียกนาง
รถม้าวิ่งมาหยุดหน้าร้านขายข้าวสาร หานตงนำบุตรชายลงมาจากรถม้า ก่อนที่จะหันมามองกับกองสิ่งของต่างๆ ที่กองอยู่
"นี่เป็นของที่เจ้าซื้อทั้งหมดหรือ"
"ใช่แล้วเจ้าค่ะท่านพี่"
หานตงนึกในใจว่า ตนคิดถูกแล้วที่เชื่อฟังนางเลือกใช้รถม้าคันใหญ่ที่สุด ไม่เช่นนั้นสิ่งของพวกนี้ คงไม่สามารถนำกลับไปบ้านได้หมดแน่นอน
ชายหนุ่มพยักหน้า ก่อนที่คนขับรถม้าจะลงมาช่วยขนของและจัดของขึ้นรถม้าอย่างคล่องแคล่ว หญิงสาวหันมาสอบถามราคาค่าสินค้าที่สั่งไว้
เถ้าแก่เห็นว่าเว่ยเหนียนเหยาเป็นลูกค้าชั้นดี จึงคิดจะผูกใจนางไว้สำหรับการค้าครั้งต่อไป
"ฮูหยินค่าของทั้งหมด 1ตำลึงเงินกับสามร้อยหกสิบแปดอีแปะ แต่ข้าคิดท่านเพียง หนึ่งตำลึงเงินกับสามร้อยห้าสิบอีแปะขอรับ หวังว่าครั้งหน้าหากท่านขาดเหลือสิ่งใดจะคิดถึงร้านของข้าอีกนะขอรับ"
หญิงสาวกลับขอบคุณก่อนจะหยิบเงินส่งให้เถ้าแก่ตรวจนับ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยนางจึงเดินเข้าไปหาสามีที่ยืนอยู่ข้างรถหน้า
หานตงหันมาจับมือนางก่อนจะพยุงนางส่งขึ้นรถม้าอย่างนุ่มนวล หญิงสาวอมยิ้มเล็กน้อย รู้สึกดีกับท่าทีของสามีที่มีต่อนาง
ใครจะว่านางใจง่ายก็ช่างเถอะ ชั่วชีวิตเมื่อชาติก่อน นางไม่เคยมีคนรัก ไม่เคยมีครอบครัว แม้จะมีเงินทองมากมาย แต่เมื่อถึงเวลาตายกับเดียวดายยิ่งนัก
เงินทองที่หามาได้ก็ไม่ทันได้ใช้หาความสุขใส่ตัวเองสักนิด มาชาตินี้ครอบครัวที่นางต้องการมีอยู่ตรงหน้า นางจะใช้ทุกกลเม็ดที่เคยอ่านเคยดู จับหัวใจทุกคนให้อยู่หมัด
เพียงไม่นานหานตงก็ขึ้นรถตามมานั่งอยู่ข้างๆ รถม้าคันใหญ่เมื่อบรรทุกสิ่งของเข้ามาก็แคบไปถนัดตา เด็กสองคนลงไปนั่งเกลือกกลิ้งบนกองที่นอน จากนั้นไม่นานต่างก็หลับลงด้วยอ่อนเพลีย
หานตงนั่งมองทิวทัศน์ออกไปนอกหน้าต่าง สักพักก็รู้สึกหนักที่บริเวณหัวไหล่ จึงหันกลับมามอง พบว่าภรรยาตัวน้อยหลับตามบุตรชายไปเสียแล้ว
ชายหนุ่มก้มมองอย่างเอ็นดู ก่อนจะจรดจมูกลงไปบนศีรษะอีกฝ่ายอย่างนิ่มนวล อ้อมแขนกระชับร่างงามเข้ามาประคองไว้
"ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใคร แต่ตอนนี้เจ้าคือภรรยาของข้าหานตงคนนี้"
ใจละลายไปกับความหวานนนนน .....ของพ่อ
ใครชอบสามีคนนี้กด❤️ให้นางด้ววยยนะคะ