ฟ้าส่งข้ามาเติมรัก บทที่11
ต้นยามเหมาชายหนุ่มจึงรู้สึกตัวตื่นขึ้น เขาไม่เคยนอนหลับสนิทแบบนี้มานานแล้ว หานตงนอนมองหน้าภรรยาอย่างสุขใจ ก่อนจะตัดใจลุกขึ้น เขาค่อยๆขยับแขนออก เนื่องจากต้องการให้ผู้เป็นภรรยานอนพักต่อไปอีกหน่อย
หากแต่แค่เขาขยับลงจากเตียง ร่างบางกลับขยับตัวลุกตาม
"ท่านพี่นี่ยามไหนแล้วเจ้าคะ"
"เพิ่งต้นยามเหมาเอง เจ้านอนต่ออีกหน่อยเถิด เดี๋ยวข้าจะออกไปอาบน้ำและตักน้ำมาให้เจ้าอาบในตอนเช้า"
"ข้าลุกขึ้นเลยดีกว่าเจ้าค่ะ วันนี้เราจะขึ้นเขากัน ข้าอยากทำอะไรติดไว้ไปกินกันระหว่างทางด้วยเจ้าค่ะ "
หานตงเห็นภรรยาเดินลงจากเตียง จึงเข้าไปช่วยจุดตะเกียง จากนั้นทั้งสองจึงช่วยกันเก็บพับที่นอนจนเรียบร้อย ก่อนที่ชายหนุ่มจะถือตะเกียงเดินจูงมือภรรยาออกจากห้อง
หลังจากจุดตะเกียงที่ห้องโถงกลางบ้านแล้ว ชายหนุ่มก็รีบใช้กะละมังไปตักน้ำมาให้ภรรยาล้างหน้าล้างตา
"เจ้าทำอาหารรอพี่ไปก่อน เดี๋ยวพี่อาบน้ำเสร็จจะรีบตักน้ำมาให้เจ้าอาบที่นี่ ทางเดินไปลำธารไม่ค่อยจะเรียบนัก พี่ไม่อยากให้เจ้าออกไปด้วย"
หญิงสาวพยักหน้าอย่างรู้ความ ก่อนจะบอกให้สามีช่วยจับปลาในลำธารมาให้สักสามสี่ตัว แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร นางเพียงแต่จะลองทำข้าวต้มปลาให้ครอบครัวของเซียนย้งลองกินดูเท่านั้น
หญิงสาวหันหลังเข้าครัว ก่อนจะหยิบหม้อขึ้นมาใส่ข้าวและน้ำลงไป วันนี้นางตั้งใจจะทำข้าวต้มทรงเครื่อง หากหาปลามาไม่ได้ ก็แค่ใส่เนื้อหมูลงไปแทนเท่านั้นเอง
ขณะที่รอให้ข้าวต้มสุก นางจึงหยิบเนื้อหมูขึ้นมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆก่อนจะสับให้ละเอียด จากนั้นจึงนำมาปรุงเครื่องพักไว้ในชามไม้
นางหันไปมองหาแป้งสาลี ก่อนจะพบว่ามันตั้งอยู่บนชั้นไม้ นางนำแป้งมาผสมกับน้ำในอ่าง ก่อนจะใช้มือนวดแป้งจนเข้ากันดีแล้ว จึงพักทิ้งไว้เพื่อรอเวลา
หานตงเดินมาเห็นภรรยากำลังง่วนกับการทำอาหารอยู่หน้าเตา จึงเดินมายกปลาในตะกร้าให้นางดู
ปลาสดจากในลำธารตัวอวบอ้วนถึงสี่ตัว หญิงสาวยกยิ้มอย่างพอใจ ในเมื่อมีปลาแล้ว ถ้าอย่างนั้นเนื้อหมูนี่นางจะนำมาทำไส้ซาลาเปาทั้งหมดเลยก็แล้วกัน
"มีอะไรให้พี่ช่วยอีกหรือไม่"
หญิงสาวพยักหน้ารับ ก่อนจะสอนให้สามีช่วยแร่ชิ้นเนื้อปลาออกจากก้าง ส่วนที่เป็นหัว กับพุงและก้างปลา นางเก็บไว้ต้มน้ำแกง ส่วนที่เป็นเนื้อปลา นางหั่นเป็นชิ้นบางๆใส่ลงไปในหม้อข้าวต้ม ก่อนจะปรุงรสเพิ่มเติมจนรสชาติกลมกล่อม
เว่ยเหนียนเหยาใช้เวลาที่อยู่ด้วยกันในครัว สอบถามถึงที่ไปที่มาของครอบครัวเซียนย้ง เมื่อรู้ว่าครอบครัวนั้นมีบุญคุณที่คอยช่วยเหลือสามีและช่วยดูแลบุตรชายมาหลายปี
นางยิ่งมุ่งมั่นจะตอบแทนคนทั้งคู่เป็นอย่างมาก อย่างน้อยคนพวกนี้ยังมีน้ำใจมากกว่าครอบของสามีนางเสียอีก หญิงสาวไม่เอ่ยปากถามว่าทำไมหานตงไม่นำบุตรไปฝากที่บ้านบิดา เพราะนางรู้ดีว่าครอบครัวพ่อแม่สามี มีความรู้สึกไม่ค่อยดีกับเว่ยเหนียนเหยาคนเก่าสักเท่าไหร่
เมื่อเห็นว่าเวลาล่วงเลยมาพอสมควร หญิงสาวรีบหันไปไล่ให้สามีไปปลุกบุตรชายทั้งสอง ให้ตื่นขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัว
ส่วนตัวนางหันมาสนใจทำซาลาเปาไส้หมูสับของนางต่อ หลังจากที่ใช้เวลาอยู่สักพัก ซาลาเปาก้อนกลมขาวก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าถึงยี่สิบลูก
หญิงสาวหยิบซาลาเปาวางนึ่งไว้ในเตา ก่อนจะถือโอกาสรีบไปอาบน้ำอาบท่าและแต่งตัวก่อนที่แขกจะมา หญิงสาวเร่งมือ ใช้เวลาเพียงไม่นานก็จัดแจงทุกอย่างเรียบร้อย เมื่อเดินออกมาก็พบว่าครอบครัวเซียนย้งมาถึงแล้ว นางยิ้มแย้มทักทายก่อนจะขอตัวเข้าไปดูกับข้าวในครัว
เพียงแค่อึดใจหญิงสาวที่นางเห็นอยู่ที่กลางห้องก็เดินเข้ามาแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อม
"พี่สะใภ้ ข้าชื่อซินเซียง เป็นเมียอาย้งเจ้าค่ะ ไม่ทราบว่ามีอะไรจะให้ข้าช่วยหรือไม่เจ้าคะ"
"เจ้าเป็นแขกจะให้เข้ามาช่วยงานข้าในครัวได้อย่างไร"
"พี่สะใภ้ได้โปรดเห็นข้าเป็นน้องสาวคนหนึ่งเถอะเจ้าค่ะ แค่ที่ท่านเมตตาครอบครัวของข้า ข้าก็ไม่รู้จะตอบแทนท่านอย่างไรดีแล้วเจ้าค่ะ"
เว่ยเหนียนเหยารู้สึกถูกชะตา กับผู้หญิงตรงหน้าไม่น้อย อีกทั้งเรื่องราวที่สามีถ่ายทอดให้ฟัง นางยิ่งเห็นว่าครอบครัวนี้เป็นคนดีจริงๆ
"ถ้างั้นเจ้าก็นำถ้วยชามออกไปตั้งโต๊ะเถอะ วันนี้ข้าทำข้าวต้มปลาให้พวกเจ้าลองชิม หากเจ้าพอใจข้าจะสอนสูตรข้าวต้มปลานี้ให้พวกเจ้าอีกที เมื่อเจ้าออกไปแล้ว ข้าวานให้เจ้าเรียกสามีข้าเข้ามายกหม้อนี้ออกไปสักหน่อย เรี่ยวแรงผู้หญิงอย่างเรา หากยกออกไปจะหกเสียเปล่าๆ"
หลังจากที่ซินเซียงออกไปไม่นาน เซียนย้งก็รีบเข้ามายกหม้อข้าวต้มออกไป เห็นได้ชัดว่าเด็กทั้งสองเป็นพวกขยันขันแข็ง มีน้ำใจอยู่ไม่น้อย
เว่ยเหนียนเหยาคว้าถาดไม้ออกมาวางก่อนจะนำซาลาเปาจำนวนสิบลูกวางลงและยกออกตามไป
เมื่อออกไปถึงซินเซียงกำลังทำหน้าที่ตักข้าวต้มวางลงบนโต๊ะซึ่งเป็นส่วนของผู้ใหญ่ ส่วนเด็กๆหานตงนำเสื่อมาปูให้นั่งลงกินที่ตรงข้างๆพื้นห้อง
เว่ยเหนียนเหยา หยิบถ้วยที่ว่างอยู่ใส่ซาลาเปาวางให้เด็กๆอีกคนละลูก
"วันนี้พวกเจ้ากินให้เยอะหน่อยอีกประเดี๋ยวจะได้ช่วยท่านพ่อขุดหน่อไม้กลับมาเยอะๆ"
เด็กๆทั้งสามต่างรู้สึกว่าตัวเองมีภาระหน้าที่อันสำคัญ ไม่กล้าปล่อยให้ท้องหิว รีบตักข้าวต้มปลาแสนอร่อยเข้าปากอย่างว่าง่ายทันที
เมื่อกลับมาถึงโต๊ะกินข้าว ซินเซียงยกข้าวต้มหอมกรุ่นมาวางตรงหน้า
หานตงที่นั่งรอภรรยาอยู่ เมื่อเห็นว่านางกลับมานั่งที่แล้ว ก็ตักข้าวต้มเข้าปากทันที รสชาติของข้าวหอมกรุ่นผสมกับความหวานของเนื้อปลาสด อีกทั้งฝีมือการปรุงรสอันยอดเยี่ยมของเว่ยเหนียนเหยา ไม่ช้าข้าวต้มปลาหม้อใหญ่ก็หมดลง
"นี่เป็นรสชาติของเนื้อปลาหรือเจ้าคะ ไม่เห็นจะเหม็นคาวอย่างที่ชาวบ้านพูดเลยสักนิด อีกทั้งยังไม่เห็นมีก้างเยอะแยะอย่างที่ลือกันอีกด้วย"
"อาหารที่ทำจากเนื้อปลา หากทำถูกวิธีก็จะไม่มีกลิ่นคาว ทั้งรสชาติยังดีและมีประโยชน์อีกด้วย เดียววันนี้หลังจากลงจากเขาแล้ว ข้าจะช่วยสอนเจ้าทำอาหารจากปลาสักสองสามอย่าง"
หลังจากจบการสนทนากับซินเซียง นางหันมาดูซาลาเปาในถาดตอนนี้เหลืออยู่เพียงลูกเดียวเสียแล้ว ชายหนุ่มร่างใหญ่ทั้งสองต่างขยับมือ ขยับปาก กินซาลาเปากันอย่างเอร็ดอร่อย
นางเห็นแล้วก็อดอึดอัดท้องแทนไม่ได้ หญิงสาวหยิบซาลาเปาที่เหลือขึ้นมาส่งให้หญิงสาวอีกคน
"เจ้ากินเถอะ ตอนนี้ข้าอิ่มเหลือเกินแล้ว เดี๋ยวข้าจะเข้าไปเตรียมของกินไปกินกลางทางสักครู่"
เว่ยเหนียนเหยาหยิบซาลาเปาแบ่งลงบนผ้าสองผืนก่อนจะห่ออย่างเรียบร้อยใส่ลงในตะกร้า ก่อนจะลงมือทำความสะอาดอุปกรณ์และห้องครัว
เมื่อกลับออกมาอีกที ปรากฏว่าทุกอย่างถูกล้างทำความสะอาดหมดแล้ว และตอนนี้เหลือเพียงแต่รอนางเท่านั้น ทุกคนก็พร้อมจะออกเดินทางทันที
เอ็นดูพ่อ........
อยากไปนั่งกินข้าวกับพวกนาง