947-948
1/10
Ep.947
ช่วงเวลาต่อมา ภายใต้การนำทางของฟางฉีซาน [รถศึกอัจฉริยะ] มุ่งหน้าสู่ซากปรักหักพังลั่วหยาน
ระหว่างทาง ซูเฉินเอ่ยถาม “ทำไมซากปรักหักพังลั่วหยานถึงมีสัตว์ร้ายมิติอยู่แค่ 5 ตัว?”
ตามหลักเหตุผลแล้ว สถานที่ๆมีสัตว์ร้ายมิติระดับเทวะมากถึง 5 ตัว สมควรมีผู้ใต้บังคับบัญชาจำนวนมากคอยรับใช้
แต่นี่กลับมีแค่ตัวหัวหน้า นี่มันไม่สมเหตุสมผลเลย
“มีข่าวลือว่าพวกเขาถูกขับไล่จากเผ่าสัตว์ร้ายมิติ เหล่าสัตว์ร้ายมิติไม่อนุญาตให้พวกเขาเรียกรวมพลสมาชิกเผ่า แต่เบื้องลึกเบื้องหลังจะมีแค่นี้หรือไม่นั้น … ข้าก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน”
ฟางฉีซานคิดอยู่พักหนึ่ง ก่อนอธิบาย
ซูเฉินไม่คิดอะไรมาก ไม่ว่าจะเป็นเพราะอะไร สุดท้ายพวกมันมีแค่ 5 ตัวเท่านั้น แค่กำจัดซะก็สิ้นเรื่อง
สามวันต่อมา [รถศึกอัจฉริยะ] มาถึงเบื้องหน้าซากปรักหักพังลั่วหยาน
สถานที่แห่งนี้ไม่ได้มีขนาดใหญ่โตอะไร ที่จริงแล้วเป็นแค่แผ่นดินขนาดเล็กที่พังทลาย ข้างในเต็มไปด้วยกองหินทับซ้อน ดูยุ่งเหยิงมาก
“ผู้อาวุโส ที่นี่คือซากปรักหักพังลั่วหยาน” ฟางฉีซานเอ่ยปากบอก
ซูเฉินหรี่ตาและกวาดมอง กล่าวอย่างเฉยเมย “มาเถอะ อันดับแรกไปหาสัตว์ร้ายมิติทั้ง 5 ตัวก่อน”
“นี่ข้าก็ต้องเข้าไปด้วยหรือ?” ใบหน้าของฟางฉีซานกลายเป็นน่าเกลียดยิ่ง
ก่อนหน้านี้ ซูเฉินแค่บอกว่าให้เขานำทางให้เท่านั้น แต่ไม่ได้บอกว่าเขาต้องเข้าไปด้วย!
ห้ามลืมนะว่าสถานที่แห่งนี้คืออาณาเขตของสัตว์ร้ายมิติระดับเทวะถึง 5 ตัว บุ่มบ่ามบุกเข้าไป ยังจะรอดชีวิตกลับมาได้อีกหรือ?
“เหล่าฟาง แค่นี้ก็ก้าวเท้าไม่ออกแล้วหรอ? หรือจะให้ฉันอุ้มคุณไป?” เสียงของซูเฉินเย็นลงเล็กน้อย
เขาได้ตัดสินใจแล้ว ว่าจะไม่เพียงพาฟางฉีซานเข้าไปในซากปรักหักพังลั่วหยานเท่านั้น แต่จะพาอีกฝ่ายไปยังเมืองเฮยหยาด้วย
ก่อนที่จะพิสูจน์จนแน่ใจว่าคำพูดของฟางฉีซานเป็นความจริง เขาจะปล่อยให้อีกฝ่ายหนีไปได้ยังไง?
“ผู้อาวุโส ข้ายอมไปแล้ว”
ฟางฉีซานกัดฟัน เดินตามหลังซูเฉินไป เขาเกิดความกลัวขึ้นมา ว่าหากไม่ยอมลงไป อาจถูกซูเฉินฆ่าตายที่นี่ก็เป็นได้
เมื่อทั้งสองเข้ามาข้างใน ไปได้ไม่ไกล เสียงนกสำรวจก็ดังขึ้นจากใน [พื้นที่สัตว์เลี้ยง]
“เจ้านาย เข้าสัมผัสได้ว่ามีอันตรายกำลังใกล้เข้ามา”
ซูเฉินตระหนักดี ว่าพวกสัตว์ร้ายมิติคงค้นพบถึงการเคลื่อนไหวของพวกเขาแล้วแน่นอน
อย่างไรก็ตาม เดิมทีเขามาเพื่อหาอีกฝ่ายอยู่แล้ว ดังนั้นไม่กังวลใจเลย
ไม่นานเกินรอ ร่างสูงใหญ่ห้าร่าง ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าซูเฉินและฟางฉีซาน ก่อนแยกย้ายกันปิดล้อมทั้งสองเอาไว้
“ผู้อาวุโส พวกเราถูกล้อมแล้ว ควรทำอย่างไรต่อดี?”
ใบหน้าของฟางฉีซานซีดเผือด ด้วยความแข็งแกร่งของเขา มากสุดรับมือกับสัตว์ร้ายมิติระดับเทวะขั้น 1 ได้เพียงตัวเดียวเท่านั้น หากพวกมันรุมเขาสองตัว ขอแค่ไม่กี่กระบวนท่าเขาก็ถูกกุดหัวแล้ว
ในเมื่อแบบนี้ เท่ากับว่าซูเฉินต้องรับมือทีเดียวสี่ตัว แล้วเขาจะทำได้หรือ?
“ควรทำยังไงต่อ? คำตอบก็ง่ายๆ ฆ่าพวกมันทั้งหมดน่ะสิ” ซูเฉินกล่าวชัดถ้อยชัดคำ
ฆ่าพวกมันทั้งหมด?
ฟางฉีซานเกือบกัดลิ้นตัวเอง คำพูดและน้ำเสียงของซูเฉินช่างบ้าบิ่นนัก มุทะลุจนไปถึงจุดที่อาจเรียกได้ว่าวิกลจริตแล้ว!
นั่นสัตว์ร้ายมิติระดับเทวะถึง 5 ตัวเชียวนะ! มิใช่มดปลวก ที่เพียงเอ่ยปากว่าจะฆ่าก็ฆ่าได้ตามใจชอบ
“ฮ่า ฮ่า …” สัตว์ร้ายมิติระดับเทวะขั้น 2 เมื่อเห็นฟางฉีซาน ก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ฟางฉีซาน ปกติเจ้ามักเป็นเต่าหัวหดอยู่ในป่าหยานเย่ พวกเราจึงทำอะไรเจ้าไม่ได้ แต่วันนี้เจ้ากลับอาสามาหาพวกเราถึงที่ นี่ทำให้ข้าประหลาดใจจริงๆ”
“พวกเรามาที่นี่เพื่อขอยืมค่ายกลเคลื่อนย้ายเท่านั้น ไม่มีเจตนาอื่น” ฟางฉีซานยิ้มบิดเบี้ยว
ขอยืมค่ายกลเคลื่อนย้าย?
สัตว์ร้ายมิติทั้ง 5 มองหน้ากัน ก่อนระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น
ผู้ฝึกตนจากหมื่นเผ่าพันธุ์และสัตว์ร้ายมิติคือศัตรูที่มิอาจอยู่ร่วมโลก แต่ฟางฉีซานกลับบุกมาถึงอาณาเขตของพวกตนเพื่อขอยืมใช้ค่ายกลเคลื่อนย้าย!
ช่างไร้สาระสิ้นดี!
ณ เวลานี้ ทั้งห้าถึงกับคิดว่าสมองของฟางฉีซานใช่ฝ่อไปแล้วหรือไม่
“พวกเราไม่ได้แค่ขอยืมค่ายกลเคลื่อนย้ายเท่านั้น แต่ยังถือโอกาสนี้กำจัดพวกแกด้วย!” มุมปากซูเฉินผุดรอยยิ้มหยอกเย้า เอ่ยเสริมอีกประโยคหนึ่ง
2/10
Ep.948
กำจัดพวกข้า?
สัตว์ร้ายมิติทั้งห้าตะลึงงันไปชั่วขณะ ค่อยๆเบนสายตามองตามเสียง เมื่อเห็นชัดว่าคนที่พูดคือรุ่นเยาว์เผ่ามนุษย์คนหนึ่ง ทั้งหมดก็เริ่มโกรธจัด
ผู้ฝึกตนเผ่ามนุษย์ สิ่งมีชีวิตอันต่ำต้อยในหมื่นเผ่าพันธุ์กล้าที่จะขู่พวกเขา สมองของมัน เกรงว่าจะมีปัญหายิ่งกว่าฟางฉีซานเสียอีก
ณ เวลานี้ พวกเขาตัดสินใจแล้ว ว่ารุ่นเยาว์จอมโอหังผู้นี้ จักต้องถูกจับไปทรมานด้วยวิธีนับพัน ทนทุกข์จนกว่าจะตัวตาย! มีเพียงกรณีนี้เท่านั้นจึงจะระบายโทสะของพวกเขาได้!
“เจ้าหนู ข้าจะมอบบทเรียนให้เจ้ารู้สึกเสียใจที่ได้เกิดมาบนโลกใบนี้!”
สัตว์ร้ายมิติขั้น 1 แผดเสียงคำราม กำหมัดแน่น เหวี่ยงไปทางซูเฉิน
หมัดยังไม่ทันถึงตัว แต่ลมกรรโชกกวาดกระพือมาก่อนแล้ว แรงซะจนเสื้อผ้าของซูเฉินเกิดเสียงพรึบพรั่บ
เริ่มแล้ว ..!
หัวใจของฟางฉีซานเต้นแรง อีกฝ่ายลงมือแล้ว เขาควรทำอย่างไรดี?
แต่ในเวลานั้นเอง จู่ๆเสียงกรีดร้องน่าสังเวชดังขึ้น เห็นแค่เพียงซูเฉินคว้าหมัดของสัตว์ร้ายมิติ แล้วบีบมันอย่างแรง บี้หมัดนั้นเป็นเศษเนื้อเหลวโดยตรง
ช่างเป็นพละกำลังที่น่าสะพรึง!
ฟางฉีซานตกตะลึงมาก ต้องรู้นะว่า ร่างกายของสัตว์ร้ายมิติน่ะแข็งแกร่งยิ่งกว่าเผ่าปีศาจราตรีซะอีก แต่ซูเฉินสามารถบดขยี้มันได้อย่างง่ายดาย
บ่งบอกชัดถึงพละกำลังอันไม่ธรรมดาของเขา!
ขณะที่ซูเฉินหยุดหมัดของสัตว์ร้ายมิติ มืออีกข้างหนึ่งก็ซัดกำปั้นสวนกลับไป ชกเข้ากลางหัวสัตว์ร้ายมิติตัวนั้นอย่างแรง
ได้ยินเพียงเสียงดังโผล๊ะ!
หัวของสัตว์ร้ายมิติระเบิดออก ตายคาที่ทันที
“สังหารสัตว์ร้ายมิติขั้น 1 ได้ง่ายดายถึงเพียงนี้เชียว?” ดวงตาของฟางฉีซานเบิกกว้าง ความตื่นกลัวในหัวใจพุ่งทะยานไปอีกขั้น
เขาก็รู้อยู่หรอกว่าซูเฉินน่ะเป็นระดับเทวะขั้น 2 แต่ระดับเทวะขั้น 2 หากคิดสังหารสัตว์ร้ายมิติระดับเทวะขั้น 1 มันง่ายดายขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
เมื่อครู่ดูยังไงก็ไม่ต่างไปจากการบี้มดให้ตาย
กำลังรบของซูเฉินใช่ทรงพลังเกินไป หรือเป็นสัตว์ร้ายมิติที่อ่อนแอกันแน่?
สมองของฟางฉีซานส่งเสียงหึ่งๆ
“เขาเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทวะขั้น 2! พวกเราต้องลงมือพร้อมกัน!”
สัตว์ร้ายมิติระดับเทวะขั้น 2 ตกใจมาก ร้องคำรามออกมา นำระดับเทวะขั้น 1 อีกสามตัวปิดล้อมสังหารซูเฉิน
ความแข็งแกร่งของซูเฉินเหนือความคาดหมายมาก ทำให้มันกระจ่างแก่ใจ ว่าหากต้องการสังหารซูเฉิน มีเพียงวิธีเดียวนั่นคือร่วมมือกันเท่านั้น จึงจะมีโอกาส
ฟางฉีซานพอเห็นภาพนี้ บังเกิดความคิดปั่นป่วนในสมอง สุดท้ายตัดสินใจเลือกต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับซูเฉิน
นั่นเพราะหากซูเฉินพ่ายแพ้และจบชีวิตลง โชคชะตาเดียวที่รอเขาอยู่คือความตาย!
เพียงแต่ว่า ยังไม่ทันได้ลงมือ เห็นแค่เพียงดาบสงครามสีดำหมึกปรากฏขึ้นในมือของซูเฉิน
ภาพต่อมาคือซูเฉินกวาดดาบสงครามออกไป ในชั่วพริบตาเดียว กระแสสีฟ้าที่ปลดปล่อยกลิ่นอายของอสนีบาตอันบ้าคลั่งกวาดกระเพื่อมไปทั่ว
สัตจว์ร้ายมิติระดับเทวะ 4 ตัวที่เหลือ เพียงสัมผัสกระแสสายฟ้านี้เพียงเล็กน้อย ก็กลายเป็นศพไหม้เกรียมทันที จบชีวิตตายคาที่
“สังหารสี่สัตว์ร้ายมิติระดับเทวะในดาบเดียว …”
ฟางฉีซานตกตะลึงอ้าปากค้าง
ซูเฉินสร้างผลกระทบต่อจิตใจเขาอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ก่อนจะมา ฟางฉีซานได้เตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดเอาไว้แล้ว คิดกระทั่งว่าอาจไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้แบบมีชีวิตรอด
ใครจะไปนึกกัน ว่าสัตว์ร้ายมิติทั้ง 5 ตัวไม่สามารถต้านทานการโจมตีจากซูเฉินได้แม้แต่ครั้งเดียว!
ขณะเดียวกัน มองไปยังท่าทีสบายๆของซูเฉิน คล้ายไม่ได้ออกแรงพยายามใดๆเลย
นี่แสดงว่าการลงมือเมื่อครู่ เขายังไม่ออกแรงเต็มที่ด้วยซ้ำ!
–เช่นนั้นหากเขาปลดปล่อยกระบวนท่าสังหารออกมา มันจะร้ายกาจถึงขนาดไหนกัน?
ฟางฉีซานตกตะลึงจนไม่อาจอธิบาย ไม่สามารถฟื้นคืนสติได้เป็นเวลานาน
ซูเฉิน ขุดหินพลังงานมิติออกจากสัตว์ร้ายมิติทั้ง 5 ตัว หลังจากรวบรวมชิ้นส่วนก็หันมา เมื่อเห็นว่าฟางฉีซานยังอึ้งอยู่ ก็เรียกสติอีกฝ่าย
“เหล่าฟาง ยืนบื้ออยู่ทำไม ตามฉันมาได้แล้ว”
“อ๋า?”
ฟางฉีซานค่อยรู้สึกตัว ก้าวตามซูเฉินไป
หลังจากได้เห็นพลังอันไร้ที่ติของซูเฉิน เขาก็แสดงท่าทีเคารพและดูว่าง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก