ฟ้าส่งข้ามาเติมรัก บทที่ 3
สองสามีภรรยาเดินขึ้นเขาอย่างเร่งรีบ เมื่อเดินไปถึงแค่ตีนเขา กลับพบกอไผ่ขึ้นอยู่อย่างมากมาย ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็พบกับความเขียวชอุ่ม นับว่าเป็นภูเขาที่มีความอุดมสมบูรณ์ไม่น้อย
เว่ยเหนียนเหยารีบเดินเข้าไปสำรวจตรงกอไผ่ทันที หลังจากที่แหวกดูดวงตาก็เปล่งประกาย
"ท่านพี่ ท่านมาช่วยข้าขุดหน่อไม้หน่อยเถิด เราจะได้นำกลับไปเป็นอาหารที่บ้าน"
"หน่อไม้พวกนี้มีรสฝาดไม่เหมาะจะนำไปเป็นอาหารหรอก"
ชายหนุ่มส่ายหน้ากับความไม่รู้ของผู้เป็นภรรยา หญิงสาวหาได้ถือสา ด้วยเข้าใจว่าผู้คนในอดีตย่อมไม่รู้ว่าควรนำหน่อไม้มาปรุงอาหารเช่นไร
นางเพียงขุดขึ้นมาเป็นตัวอย่างให้สามีดู พลางเน้นย้ำว่า ให้ขุดขึ้นมาให้เยอะหน่อยเท่านั้น เมื่อเห็นว่าสามีไม่ปฏิเสธ หญิงสาวจึงค่อยๆ เดินสำรวจไปทางอื่น
นางหยุดมองที่ต้นไม้กอใหญ่กอหนึ่ง หลังจากที่พิจารณาอยู่ชั่วครู่ ก็ตัดสินใจขุดลงไปในดินใต้ต้นไม้นั้น
สิ่งที่ปรากฏอยู่ในดินทำให้หญิงสาวยิ้มแก้วปริ อย่างน้อยๆ สิ่งนี้ก็ช่วยให้นางและครอบครัวรอดพ้นจากความหิวโหยไปได้พักใหญ่
สองมือเรียวค่อยๆ นำสิ่งที่อยู่ในดินขึ้นมา มันฝรั่งหัวใหญ่ถูกดึงขึ้นมาใส่ลงไปในตะกร้าจนเต็มก่อนที่หญิงสาวจะเดินกลับไปหาสามี
ทางด้านฝ่ายหานตง แม้จะไม่เห็นด้วยกับภรรยาแต่ก็ยังลงมือหาหน่อไม้ขึ้นมาใส่ในตะกร้าจนได้เกือบครึ่งตะกร้า เมื่อเห็นภรรยาเดินกลับมาอย่างหน้าชื่นบานก็อดสงสัยไม่ได้
"ท่านพี่ ข้าหาของกินมาได้แล้ว ท่านดูสิ"
"เจ้าว่าสิ่งนี้จะกินได้หรือ"
ชายหนุ่มมองสิ่งของในมือภรรยาอย่างหวาดระแวง หญิงสาวตรงหน้าไม่เคยขึ้นเขาเข้าป่าเลยสักครั้ง จะรู้ได้อย่างไรว่าสิ่งใดกินได้กินไม่ได้ เขาเกรงว่าหญิงสาวจะหิวมากไป จนมองข้ามทุกสิ้น กลับกลายเป็นทำร้ายตัวเองซะเปล่าๆ
"ท่านพี่ ท่านเชื่อข้าสักครั้งได้หรือไม่ สิ่งนี้กินได้จริงๆ เจ้าค่ะ เดียวกลับไปข้าจะนำไปปรุงอาหารและจะลองกินให้ท่านดูก่อน รับรองว่าไม่เป็นอะไรจริงๆ เจ้าค่ะ"
หานตงพยักหน้ารับ ก่อนจะเดินนำหน้าภรรยาลงจากเขา
"ท่านพี่เจ้าคะ ข้าอยากแวะไปริมลำธารสักครู่ ข้าจะนำเจ้าสิ่งนี้ไปล้างที่ลำธาร พอกลับบ้านจะได้นำไปทำอาหารได้เลยเจ้าค่ะ"
ชายหนุ่มจึงเดินนำร่างของภรรยามาอีกทาง เพียงชั่วครู่ก็ถึงริมลำธารใหญ่ หญิงสาวเร่งมือ นำมันฝรั่งออกมาวางกองไว้ก่อนจะนำตะกร้าลงไปล้างในลำธาร
ในขณะที่กวัดแกว่งตะกร้าไปมา อยู่ๆ ปลาตัวหนึ่งกลับหลุดเข้ามาในตะกร้าซะอย่างนั้น เว่ยเหนียนเหยารีบยกตะกร้าขึ้นอย่างดีใจ มองดูปลาที่ดิ้นไปมาในตะกร้าด้วยความตื่นเต้น
"เจ้าโยนทิ้งไปเถอะ ปลาพวกนี้เวลานำไปทำของกลิ่น มักจะมีกลิ่นคาวอย่างร้ายกาจ พาลให้พืชผักที่ใส่ลงไปกินแทบไม่ได้ด้วยซ้ำ แถมยังมีก้างแหลมเยอะแยะ ชาวบ้านแถวนี้ไม่มีใครนำไปกินกันหรอก"
เว่ยเหนียนเหยาตาเป็นประกาย ไม่มีคนกิน ดียิ่ง แบบนี้เธอก็ไม่ต้องกลัวว่าลูกๆ จะอดแล้ว หญิงสาวหยิบก้อนหินขนาดพอสมควรขึ้นมา พลางทุ่มลงไปบนหัวปลาทันที เธอก็รีบเทปลาออกจากนั้นก็นำตะกร้าลงไปกวัดแกว่งในน้ำอีกครั้ง ปรากฏว่าเพียงไม่นานก็ได้ปลาขึ้นมาอีกตัว
นางหันไปขอยืมมีดที่เขานำติดตัวมา เอามาจัดการชำแหละปลาอย่างคล่องแคล่ว จากนั้นก็สั่งให้สามีขุดหลุมตรงบริเวณต้นไม้ใหญ่ฝังเศษเครื่องในปลาที่ไม่ต้องการลงไปเพื่อกันไม่ให้เกิดกลิ่นเหม็นบริเวณนี้
เว่ยเหนียนเหยาจัดการล้างปลาและมันฝรั่งอย่างรวดเร็ว ก่อนจะบอกให้สามีรีบพากลับบ้านไปหาบุตรชาย เมื่อกลับมาถึงบ้านสองสามีภรรยาพบว่า บุตรชายทั้งสองช่วยกันกวาดถูพื้นอย่างขยันขันแข็ง
หญิงสาวมองร่างน้อยอายุเพียงสี่หนาว ที่เดินไปรินน้ำมาให้นางกับสามีอย่างรู้ความ
"ท่านพ่อ ท่านแม่ น้ำขอรับ" "ท่านแม่เหนื่อยมากไหมขอรับ"
"แม่ไม่เหนื่อยหรอกจ้ะ พวกเจ้ารอแม่สักประเดี๋ยว แม่จะรีบไปทำอะไรออกมาให้กิน"
ภายในครัวแทบจะว่างเปล่า ไม่มีอะไรเหลืออยู่เลยแม้แต่น้อย เว่ยเหนียนเหยายกกระปุกที่วางอยู่ใกล้ๆ เข้ามาเปิดดู นี่น่าจะเป็นเกลือ เกลือภายในกระปุกเหลืออยู่เพียงเล็กน้อย แต่ก็น่าจะเพียงพอสำหรับ2-3 วัน ตอนนี้นางต้องเร่งมือ ทำอาหารออกไปให้คนทั้งสามและตัวเองก่อน เรื่องอื่นเดี๋ยวค่อยคิดกันอีกที