ตอนที่แล้วบทที่ 28: ทำอย่างไรผมถึงจะฆ่าปรมาจารย์ได้เหรอครับ?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 30: โปรโมทสินค้า

บทที่ 29: ผมต้องการทำข้อตกลงกับคุณ!


คนจากกรมวิจัยพลังพิเศษแห่งชาติมาถึงในไม่ช้า  พวกเขาเป็นกลุ่มสี่คนที่นำโดยผู้หญิงร่างสูงหุ่นผอมเพรียว

“หัวหน้าต้วน!”

ผู้หญิงคนนั้นขับรถเอสยูวี  เธอเบรกบนพื้นกรวดอย่างกะทันหันจนรถเกือบดริฟท์  ถึงกระนั้นเธอก็รีบลงจากรถและตรงมาหาต้วนเทียนเหอ  จับมือเขาก่อนที่จะหันไปหาเจียงเหอด้วยรอยยิ้ม

“แล้วนี่ใช่คุณเจียงที่คุณพูดถึงหรือเปล่าคะ?”

ต้วนเทียนเหอได้แนะนำตัวพอเป็นพิธี “เจียงเหอนี่คือมู่หว่านชิว  เธอจะรับผิดชอบในการจัดซื้อวัสดุสัตว์อสูรทั่วจังหวัดซีเซี่ยทั้งหมดนับจากนี้ไป”

“สวัสดีค่ะ  คุณเจียง”

"สวัสดีครับ"

เจียงเหอจับมือมู่หว่านชิว  แม้ว่าเขาจะทำหน้าเฉย ๆ แต่หัวใจเขากลับเต้นผิดจังหวะ

'มีพลังความร้อนที่ลุกโชติช่วงในร่างกายของเธอซึ่งเกือบจะเหมือนกับเจินฉีเก้าเอี้ยงของตูเลยว่ะ...  แต่ไม่เห็นจะมีเจินฉีไหลเวียนอยู่เลย  หรือว่าหล่อนจะเป็นผู้ปลุกพลังพิเศษประเภทไฟ?'

ขณะที่ความคิดนี้ผุดขึ้นในหัว  แต่ก็ได้มีเสียงดังขึ้นข้างหูของเจียงเหอว่า 'มู่หว่านชิวมีภูมิหลังที่แข็งแกร่ง  ปู่ของเธอเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งกรมวิจัยพลังพิเศษแห่งชาติและเป็นปรมาจารย์ยุทธที่ทรงพลัง  พ่อของเธอเป็นแม่ทัพใหญ่  และตัวเธอเองก็เป็นผู้ปลุกพลังคลาส C ประเภทไฟ'

เจียงเหอมองขึ้นไปที่ต้วนเทียนเหอทันที  และเห็นเขากำลังยิ้มและพูดคุยถึงสถานการณ์ที่ภูต้าตง กับมู่หว่านชิว  และไม่ได้พูดคุยกับเจียงเหอจริง ๆ

'เสียงลับ!'

เจียงเหอชะงักอย่างช่วยไม่ได้ 'โดยพื้นฐานแล้วมันต้องใช้พลังเจินฉีในการส่งเสียง  แต่ต้องใช้ฝีมือในการควบคุมพลังที่สูงส่งมาก ๆ จึงมีแต่ปรมาจารย์เท่านั้นที่สามารถทำได้… นั่นหมายความว่าต้วนเทียนเหอเป็นระดับเจ็ดแล้วงั้นเหรอ?'

'อย่าพึ่งพูดอะไร  ฉันพึ่งขึ้นเป็นระดับเจ็ดเมื่อไม่กี่วันก่อน  และตอนนี้มีคนรู้แค่ไม่กี่คน” ต้วนเทียนเหอกล่าวโดยใช้เสียงลับอีกครั้ง

ความประทับใจของเจียงเหอต่อต้วนเทียนเหอ  เปลี่ยนไปร้อยแปดสิบองศาทันที

“ผู้ชายคนนี้ดูจริงจังและเย็นชาเล็กน้อย  แต่เขาไม่ได้เปิดเผยแม้แต่คำเดียวว่าตนเองไปถึงขั้นปรมาจารย์แล้ว  ใครจะไปรู้ว่าในใจเขาคิดอะไรอยู่… แบบนี้มันไม่ต่างจากจิ้งจอกเจ้าเล่ห์เลย’

***

ในขณะเดียวกันบุคลากรคนอื่น ๆ ของกรมวิจัยพลังพิเศษแห่งชาติได้นำรายการสินค้าคงคลังมาให้พวกเขา  มู่หว่านชิวกวาดสายตามองหนึ่งครั้งแล้วส่งต่อให้เจียงเหอ  เขารับมาและอ่านอย่างละเอียด

ราคาสำหรับสัตว์อสูรเลเวล 1 ทั้งหมดอยู่ที่แปดหมื่นหยวน  และกรมวิจัยพลังพิเศษแห่งชาติยังตีราคาสุนัขอสูรเลเวล 2 ที่หนึ่งแสนห้าหมื่นหยวน  แถมมีการระบุ 'เสียหาย' กำกับไว้ด้วย

'ดูเหมือนว่าศพเลเวล 2 น่าจะมีมูลค่ามากกว่าแสนห้าหมื่นหยวน  แต่เพราะมันอยู่ใกล้ศูนย์กลางการระเบิด  มันเลยโดนเป่าจนแหลกไปหมดทำให้คุณภาพศพลดลง  และราคาก็ตกลงด้วยสินะ' เจียงเหอคิด

“เอ๊ะ?” เมื่อพบเห็นบางสิ่งแปลก ๆ เจียงเหอ ชี้ไปที่สินค้าคงคลังและถามว่า “คุณมู่มีข้อผิดพลาดงั้นเหรอครับ? ศพของงู… ทำไมถึงมีมูลค่าสองแสนหยวนล่ะ?”

มู่หว่านชิวยิ้ม “ราคานั้นต่ำเกินไปสำหรับคุณเหรอคะ  คุณเจียง?  หรืออาจจะสูงเกินไป?”

แม้ว่ารอยยิ้มของเธอจะอ่อนโยน  แต่ก็แทบจะไม่ได้ปกปิดความดุร้ายเลย  ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับพลังพิเศษประเภทไฟของเธอก็ได้  แน่นอนว่าเมื่อปู่ของเธอเป็นผู้ฝึกยุทธ  และพ่อของเธอก็เป็นทหาร  เด็กจากครอบครัวเช่นนี้มักจะมีความดุร้ายไปด้วย

'หรือว่าศพของไอ้พวกสัตว์อสูรหน้าตาคล้าย ๆ งูมันจะมีราคาแพงกว่าปกติวะ?'

จากปฏิกิริยาของมู่หว่านชิว  เจียงเหอก็รู้ว่าเขาอาจมีปัญหาได้  เขายิ้มอย่างรวดเร็ว “บอกตามตรงเลยนะคุณมู่  ผมพึ่งรู้เกี่ยวกับเรื่องสัตว์อสูร  และพึ่งเคยฆ่าพวกมันไปแค่ยี่สิบตัวเอง  เพราะงั้นผมเลยไม่รู้เรื่องราคาของพวกสัตว์อสูรเหล่านี้น่ะครับ... คือว่าพวกงูเนี่ยราคาแพงกว่าเหรอครับ?”

รอยยิ้มของมู่หว่านชิวแข็งทื่อ  เธอหันไปหาต้วนเทียนเหอ  และพบว่าริมฝีปากของเขาก็กระตุกด้วยใบหน้าที่แข็งที่อเหมือนกัน

ดี…

กำลังคุยกันอยู่ดี ๆ จู่ ๆ มาโอ้อวดใส่กันเลยงั้นเหรอ? นายหมายความว่าไงไอ้ที่ว่าฆ่าไป 'แค่' ยี่สิบตัวน่ะ?  เห็นสัตว์อสูรเป็นกะหล่ำปลีหรือไงหา?

เนื่องจากว่ามู่หว่านชิวเคยชินกับสถานการณ์ร้ายแรงต่าง ๆ แล้ว  ดังนั้นเธอจึงฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว "สุนัขและแมวอสูรเป็นพวกที่ธรรมดาเกินไป" เธออธิบาย "พวกมันจึงมีราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับสัตว์อสูรอื่น ๆ ในระดับเดียวกัน  ในทางกลับกันงูนั้นหายากกว่า  จึงมีราคาสูงกว่าสัตว์อสูรอื่น ๆ ในระดับเดียวกัน”

"เข้าใจละ"

ขณะที่เจียงเหอพยักหน้ามู่หว่านชิวก็ได้กล่าวเสริมว่า “คุณเจียง  หากฉันจำไม่ผิดคุณเป็นผู้ฝึกยุทธระดับสี่ใช่ไหมคะ  ไม่นานมานี้แผนกของเราได้คิดค้นยาเม็ดที่ช่วยปรับปรุงการบ่มเพาะพลังเจินฉี   มันเรียกว่าเม็ดยาปราณ  ไม่ทราบว่าคุณต้องการไหมคะ?”

"โอ้?" ดวงตาของเจียงเหอเป็นประกายและถามว่า "ผมได้ยินมาว่าสำนักงานจัดการคดีพิเศษมีเม็ดยาที่ช่วยปรับปรุงการบ่มเพาะพลังเจินฉีเช่นกัน  เมื่อเทียบกับเม็ดยาปราณแล้วเป็นยังไงครับ?”

มู่หว่านชิวซ่อนรอยยิ้มไว้ใต้นิ้วของเธอ “กรมวิจัยพลังพิเศษแห่งชาติเป็นผู้จัดหาเม็ดยาทั้งหมดให้กับสำนักงานค่ะ”

"งี้นี่เอง!" เจียงเหออุทาน “เม็ดยาปราณหนึ่งเม็ดราคาเท่าไหร่? ผมพึ่งยกระดับวันนี้เอง  และต้องการเม็ดยาปราณมาใช้ฝึกฝนจริง ๆ นั่นแหล่ะ”

มู่หว่านชิวชูห้านิ้ว “ห้าแสนต่อขวด  หนึ่งขวดมีสามเม็ด”

เชร็ด…

คำพูดที่ไม่สุภาพค่อนข้างจะเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากของเจียงเหอ  ในตอนนั้นแต่เขากลืนพวกมันกลับไปและยิ้มอย่างขมขื่น “คุณเนี่ยรู้วิธีทำธุรกิจจริง ๆ นะครับ  คุณมู่”

หัวใจของเขาเจ็บปวดราวกับถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ

'ตูก็ดันคิดว่าการเป็นผู้ฝึกยุทธเป็นงานที่มีรายได้สูงจริง ๆ เร็วยิ่งกว่าไปโจรกรรมเสียอีก...  แต่ไม่คิดเลยว่าคิดว่าการฝึกฝนนั้นยังต้องจ่ายแพงกว่านั้นอีก!' เขาคิด

โดยรวมแล้วเจียงเหอได้ฆ่าสัตว์อสูรเลเวลหนึ่งไปสิบสามตัว  และสัตว์อสูรเลเวลสองหนึ่งตัว  เป็นแมวและสุนัขอสูรเลเวลหนึ่งจำนวนสิบเอ็ดตัว  ซึ่งมีมูลค่าตัวละแปดหมื่นหยวน หมาป่าอสูรเลเวลหนึ่งและงูยักษ์เลเวลหนึ่ง  ซึ่งมีมูลค่าหนึ่งแสนหยวนและสองแสนหยวนตามลำดับ  และสุดท้าย  สุนัขอสูรเลเวลสองมีราคาอยู่ที่หนึ่งแสนห้าหมื่นหยวน

“โดยรวมแล้ว  วัสดุสัตว์อสูรมีมูลค่าหนึ่งล้านสามแสนสามหมื่นหยวน  ฉันจะปัดเศษให้คุณเป็นหนึ่งล้านสามแสนห้าหมื่นหยวน” มู่หว่านชิวกล่าวขณะที่เธอหยิบขวดพอร์ซเลนสองขวดและส่งให้เจียงเหอ

“นี่เป็นเม็ดยาปราณสองขวด  ฉันจะโอนส่วนที่เหลืออีกสามแสนห้าหมื่นหยวนที่เหลือให้กับคุณนะคะ  คุณเจียง”

“ขอบคุณครับ” เจียงเหอตอบพร้อมรับเม็ดปราณ

มู่หว่านชิวสั่งให้ลูกน้องของเธอเริ่มเคลื่อนย้ายศพสัตว์อสูรด้วยรถเอสยูวีของเธอ  พร้อมด้วยรถกระบะหนึ่งคันและรถบรรทุกขนาดใหญ่สองคันที่ขับโดยผู้ใต้บังคับบัญชาของเธอ  พวกเขามีวิธีการมากพอที่จะขนส่งศพทั้งหมด

หลังจากบรรจุศพแล้วมู่หว่านชิวหยิบนามบัตรออกมาแล้วยิ้ม “ทำได้ดีมากค่ะคุณเจียง  อย่าลืมติดต่อฉันหากคุณมีศพสัตว์อสูรที่ต้องดำเนินการเพิ่มเติม  การกำหนดราคาของฉันยุติธรรมอย่างแน่นอนในธุรกิจนี้”

“แล้วก็  นอกเหนือจากวัสดุสัตว์อสูรแล้ว  กรมวิจัยพลังพิเศษแห่งชาติยังรับโอสถปราณ  อาวุธโลหะผสม  แร่ชนิดใหม่และรายการอื่น ๆ ที่กลายพันธุ์จากการฟื้นคืนของพลังวิญญาณอีกด้วย” เธอกล่าวเสริม

"โอ้?"

เจียงเหออดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น  ดวงตาของเขากวาดไปทั่วตัวมู่หว่านชิว  ขณะที่เขามองขึ้น  ลง   ซ้าย  และขวา…  ก่อนที่จะหยุดอยู่ตรงหน้าอกเธอในที่สุด  ผู้หญิงคนนี้โดดเด่นทั้งรูปลักษณ์และมารยาท  เธอสวมชุดหนังที่โชว์ส่วนหลังและมีขาเรียวยาวที่สมบูรณ์แบบ  แต่สิ่งเดียวที่ขาดคือ...

เธอแบนเกินไป!

มู่หว่านชิวทำหน้าบึ้ง  ด้วยอารมณ์ที่ร้อนรุนแรงเช่นเดียวกับพลังไฟที่เธอมี  เธอกำลังจะระเบิดลง  แต่เจียงเหอกลับหัวเราะและพูดว่า “คุณมู่  บังเอิญว่าผมมีข้องตกลงที่อยากจะร่วมมือกับคุณน่ะครับ”

เขาหัวเราะข้างในใจอย่างเย็นชา

'ผู้หญิงคนนี้ใจดำเกินไป  สูบตังค์ตูไปเป็นล้านแต่ได้ยาเม็ดมาแค่สองขวด  เหอะ!  เด๋วเถอะตูจะบีบให้หล่อนคายทั้งหมดออกมาพร้อมเอาดดอกเบี้ยมาประเคนให้ด้วย!’

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด