บทที่ 29: ผมต้องการทำข้อตกลงกับคุณ!
คนจากกรมวิจัยพลังพิเศษแห่งชาติมาถึงในไม่ช้า พวกเขาเป็นกลุ่มสี่คนที่นำโดยผู้หญิงร่างสูงหุ่นผอมเพรียว
“หัวหน้าต้วน!”
ผู้หญิงคนนั้นขับรถเอสยูวี เธอเบรกบนพื้นกรวดอย่างกะทันหันจนรถเกือบดริฟท์ ถึงกระนั้นเธอก็รีบลงจากรถและตรงมาหาต้วนเทียนเหอ จับมือเขาก่อนที่จะหันไปหาเจียงเหอด้วยรอยยิ้ม
“แล้วนี่ใช่คุณเจียงที่คุณพูดถึงหรือเปล่าคะ?”
ต้วนเทียนเหอได้แนะนำตัวพอเป็นพิธี “เจียงเหอนี่คือมู่หว่านชิว เธอจะรับผิดชอบในการจัดซื้อวัสดุสัตว์อสูรทั่วจังหวัดซีเซี่ยทั้งหมดนับจากนี้ไป”
“สวัสดีค่ะ คุณเจียง”
"สวัสดีครับ"
เจียงเหอจับมือมู่หว่านชิว แม้ว่าเขาจะทำหน้าเฉย ๆ แต่หัวใจเขากลับเต้นผิดจังหวะ
'มีพลังความร้อนที่ลุกโชติช่วงในร่างกายของเธอซึ่งเกือบจะเหมือนกับเจินฉีเก้าเอี้ยงของตูเลยว่ะ... แต่ไม่เห็นจะมีเจินฉีไหลเวียนอยู่เลย หรือว่าหล่อนจะเป็นผู้ปลุกพลังพิเศษประเภทไฟ?'
ขณะที่ความคิดนี้ผุดขึ้นในหัว แต่ก็ได้มีเสียงดังขึ้นข้างหูของเจียงเหอว่า 'มู่หว่านชิวมีภูมิหลังที่แข็งแกร่ง ปู่ของเธอเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งกรมวิจัยพลังพิเศษแห่งชาติและเป็นปรมาจารย์ยุทธที่ทรงพลัง พ่อของเธอเป็นแม่ทัพใหญ่ และตัวเธอเองก็เป็นผู้ปลุกพลังคลาส C ประเภทไฟ'
เจียงเหอมองขึ้นไปที่ต้วนเทียนเหอทันที และเห็นเขากำลังยิ้มและพูดคุยถึงสถานการณ์ที่ภูต้าตง กับมู่หว่านชิว และไม่ได้พูดคุยกับเจียงเหอจริง ๆ
'เสียงลับ!'
เจียงเหอชะงักอย่างช่วยไม่ได้ 'โดยพื้นฐานแล้วมันต้องใช้พลังเจินฉีในการส่งเสียง แต่ต้องใช้ฝีมือในการควบคุมพลังที่สูงส่งมาก ๆ จึงมีแต่ปรมาจารย์เท่านั้นที่สามารถทำได้… นั่นหมายความว่าต้วนเทียนเหอเป็นระดับเจ็ดแล้วงั้นเหรอ?'
'อย่าพึ่งพูดอะไร ฉันพึ่งขึ้นเป็นระดับเจ็ดเมื่อไม่กี่วันก่อน และตอนนี้มีคนรู้แค่ไม่กี่คน” ต้วนเทียนเหอกล่าวโดยใช้เสียงลับอีกครั้ง
ความประทับใจของเจียงเหอต่อต้วนเทียนเหอ เปลี่ยนไปร้อยแปดสิบองศาทันที
“ผู้ชายคนนี้ดูจริงจังและเย็นชาเล็กน้อย แต่เขาไม่ได้เปิดเผยแม้แต่คำเดียวว่าตนเองไปถึงขั้นปรมาจารย์แล้ว ใครจะไปรู้ว่าในใจเขาคิดอะไรอยู่… แบบนี้มันไม่ต่างจากจิ้งจอกเจ้าเล่ห์เลย’
***
ในขณะเดียวกันบุคลากรคนอื่น ๆ ของกรมวิจัยพลังพิเศษแห่งชาติได้นำรายการสินค้าคงคลังมาให้พวกเขา มู่หว่านชิวกวาดสายตามองหนึ่งครั้งแล้วส่งต่อให้เจียงเหอ เขารับมาและอ่านอย่างละเอียด
ราคาสำหรับสัตว์อสูรเลเวล 1 ทั้งหมดอยู่ที่แปดหมื่นหยวน และกรมวิจัยพลังพิเศษแห่งชาติยังตีราคาสุนัขอสูรเลเวล 2 ที่หนึ่งแสนห้าหมื่นหยวน แถมมีการระบุ 'เสียหาย' กำกับไว้ด้วย
'ดูเหมือนว่าศพเลเวล 2 น่าจะมีมูลค่ามากกว่าแสนห้าหมื่นหยวน แต่เพราะมันอยู่ใกล้ศูนย์กลางการระเบิด มันเลยโดนเป่าจนแหลกไปหมดทำให้คุณภาพศพลดลง และราคาก็ตกลงด้วยสินะ' เจียงเหอคิด
“เอ๊ะ?” เมื่อพบเห็นบางสิ่งแปลก ๆ เจียงเหอ ชี้ไปที่สินค้าคงคลังและถามว่า “คุณมู่มีข้อผิดพลาดงั้นเหรอครับ? ศพของงู… ทำไมถึงมีมูลค่าสองแสนหยวนล่ะ?”
มู่หว่านชิวยิ้ม “ราคานั้นต่ำเกินไปสำหรับคุณเหรอคะ คุณเจียง? หรืออาจจะสูงเกินไป?”
แม้ว่ารอยยิ้มของเธอจะอ่อนโยน แต่ก็แทบจะไม่ได้ปกปิดความดุร้ายเลย ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับพลังพิเศษประเภทไฟของเธอก็ได้ แน่นอนว่าเมื่อปู่ของเธอเป็นผู้ฝึกยุทธ และพ่อของเธอก็เป็นทหาร เด็กจากครอบครัวเช่นนี้มักจะมีความดุร้ายไปด้วย
'หรือว่าศพของไอ้พวกสัตว์อสูรหน้าตาคล้าย ๆ งูมันจะมีราคาแพงกว่าปกติวะ?'
จากปฏิกิริยาของมู่หว่านชิว เจียงเหอก็รู้ว่าเขาอาจมีปัญหาได้ เขายิ้มอย่างรวดเร็ว “บอกตามตรงเลยนะคุณมู่ ผมพึ่งรู้เกี่ยวกับเรื่องสัตว์อสูร และพึ่งเคยฆ่าพวกมันไปแค่ยี่สิบตัวเอง เพราะงั้นผมเลยไม่รู้เรื่องราคาของพวกสัตว์อสูรเหล่านี้น่ะครับ... คือว่าพวกงูเนี่ยราคาแพงกว่าเหรอครับ?”
รอยยิ้มของมู่หว่านชิวแข็งทื่อ เธอหันไปหาต้วนเทียนเหอ และพบว่าริมฝีปากของเขาก็กระตุกด้วยใบหน้าที่แข็งที่อเหมือนกัน
ดี…
กำลังคุยกันอยู่ดี ๆ จู่ ๆ มาโอ้อวดใส่กันเลยงั้นเหรอ? นายหมายความว่าไงไอ้ที่ว่าฆ่าไป 'แค่' ยี่สิบตัวน่ะ? เห็นสัตว์อสูรเป็นกะหล่ำปลีหรือไงหา?
เนื่องจากว่ามู่หว่านชิวเคยชินกับสถานการณ์ร้ายแรงต่าง ๆ แล้ว ดังนั้นเธอจึงฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว "สุนัขและแมวอสูรเป็นพวกที่ธรรมดาเกินไป" เธออธิบาย "พวกมันจึงมีราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับสัตว์อสูรอื่น ๆ ในระดับเดียวกัน ในทางกลับกันงูนั้นหายากกว่า จึงมีราคาสูงกว่าสัตว์อสูรอื่น ๆ ในระดับเดียวกัน”
"เข้าใจละ"
ขณะที่เจียงเหอพยักหน้ามู่หว่านชิวก็ได้กล่าวเสริมว่า “คุณเจียง หากฉันจำไม่ผิดคุณเป็นผู้ฝึกยุทธระดับสี่ใช่ไหมคะ ไม่นานมานี้แผนกของเราได้คิดค้นยาเม็ดที่ช่วยปรับปรุงการบ่มเพาะพลังเจินฉี มันเรียกว่าเม็ดยาปราณ ไม่ทราบว่าคุณต้องการไหมคะ?”
"โอ้?" ดวงตาของเจียงเหอเป็นประกายและถามว่า "ผมได้ยินมาว่าสำนักงานจัดการคดีพิเศษมีเม็ดยาที่ช่วยปรับปรุงการบ่มเพาะพลังเจินฉีเช่นกัน เมื่อเทียบกับเม็ดยาปราณแล้วเป็นยังไงครับ?”
มู่หว่านชิวซ่อนรอยยิ้มไว้ใต้นิ้วของเธอ “กรมวิจัยพลังพิเศษแห่งชาติเป็นผู้จัดหาเม็ดยาทั้งหมดให้กับสำนักงานค่ะ”
"งี้นี่เอง!" เจียงเหออุทาน “เม็ดยาปราณหนึ่งเม็ดราคาเท่าไหร่? ผมพึ่งยกระดับวันนี้เอง และต้องการเม็ดยาปราณมาใช้ฝึกฝนจริง ๆ นั่นแหล่ะ”
มู่หว่านชิวชูห้านิ้ว “ห้าแสนต่อขวด หนึ่งขวดมีสามเม็ด”
เชร็ด…
คำพูดที่ไม่สุภาพค่อนข้างจะเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากของเจียงเหอ ในตอนนั้นแต่เขากลืนพวกมันกลับไปและยิ้มอย่างขมขื่น “คุณเนี่ยรู้วิธีทำธุรกิจจริง ๆ นะครับ คุณมู่”
หัวใจของเขาเจ็บปวดราวกับถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ
'ตูก็ดันคิดว่าการเป็นผู้ฝึกยุทธเป็นงานที่มีรายได้สูงจริง ๆ เร็วยิ่งกว่าไปโจรกรรมเสียอีก... แต่ไม่คิดเลยว่าคิดว่าการฝึกฝนนั้นยังต้องจ่ายแพงกว่านั้นอีก!' เขาคิด
โดยรวมแล้วเจียงเหอได้ฆ่าสัตว์อสูรเลเวลหนึ่งไปสิบสามตัว และสัตว์อสูรเลเวลสองหนึ่งตัว เป็นแมวและสุนัขอสูรเลเวลหนึ่งจำนวนสิบเอ็ดตัว ซึ่งมีมูลค่าตัวละแปดหมื่นหยวน หมาป่าอสูรเลเวลหนึ่งและงูยักษ์เลเวลหนึ่ง ซึ่งมีมูลค่าหนึ่งแสนหยวนและสองแสนหยวนตามลำดับ และสุดท้าย สุนัขอสูรเลเวลสองมีราคาอยู่ที่หนึ่งแสนห้าหมื่นหยวน
“โดยรวมแล้ว วัสดุสัตว์อสูรมีมูลค่าหนึ่งล้านสามแสนสามหมื่นหยวน ฉันจะปัดเศษให้คุณเป็นหนึ่งล้านสามแสนห้าหมื่นหยวน” มู่หว่านชิวกล่าวขณะที่เธอหยิบขวดพอร์ซเลนสองขวดและส่งให้เจียงเหอ
“นี่เป็นเม็ดยาปราณสองขวด ฉันจะโอนส่วนที่เหลืออีกสามแสนห้าหมื่นหยวนที่เหลือให้กับคุณนะคะ คุณเจียง”
“ขอบคุณครับ” เจียงเหอตอบพร้อมรับเม็ดปราณ
มู่หว่านชิวสั่งให้ลูกน้องของเธอเริ่มเคลื่อนย้ายศพสัตว์อสูรด้วยรถเอสยูวีของเธอ พร้อมด้วยรถกระบะหนึ่งคันและรถบรรทุกขนาดใหญ่สองคันที่ขับโดยผู้ใต้บังคับบัญชาของเธอ พวกเขามีวิธีการมากพอที่จะขนส่งศพทั้งหมด
หลังจากบรรจุศพแล้วมู่หว่านชิวหยิบนามบัตรออกมาแล้วยิ้ม “ทำได้ดีมากค่ะคุณเจียง อย่าลืมติดต่อฉันหากคุณมีศพสัตว์อสูรที่ต้องดำเนินการเพิ่มเติม การกำหนดราคาของฉันยุติธรรมอย่างแน่นอนในธุรกิจนี้”
“แล้วก็ นอกเหนือจากวัสดุสัตว์อสูรแล้ว กรมวิจัยพลังพิเศษแห่งชาติยังรับโอสถปราณ อาวุธโลหะผสม แร่ชนิดใหม่และรายการอื่น ๆ ที่กลายพันธุ์จากการฟื้นคืนของพลังวิญญาณอีกด้วย” เธอกล่าวเสริม
"โอ้?"
เจียงเหออดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น ดวงตาของเขากวาดไปทั่วตัวมู่หว่านชิว ขณะที่เขามองขึ้น ลง ซ้าย และขวา… ก่อนที่จะหยุดอยู่ตรงหน้าอกเธอในที่สุด ผู้หญิงคนนี้โดดเด่นทั้งรูปลักษณ์และมารยาท เธอสวมชุดหนังที่โชว์ส่วนหลังและมีขาเรียวยาวที่สมบูรณ์แบบ แต่สิ่งเดียวที่ขาดคือ...
เธอแบนเกินไป!
มู่หว่านชิวทำหน้าบึ้ง ด้วยอารมณ์ที่ร้อนรุนแรงเช่นเดียวกับพลังไฟที่เธอมี เธอกำลังจะระเบิดลง แต่เจียงเหอกลับหัวเราะและพูดว่า “คุณมู่ บังเอิญว่าผมมีข้องตกลงที่อยากจะร่วมมือกับคุณน่ะครับ”
เขาหัวเราะข้างในใจอย่างเย็นชา
'ผู้หญิงคนนี้ใจดำเกินไป สูบตังค์ตูไปเป็นล้านแต่ได้ยาเม็ดมาแค่สองขวด เหอะ! เด๋วเถอะตูจะบีบให้หล่อนคายทั้งหมดออกมาพร้อมเอาดดอกเบี้ยมาประเคนให้ด้วย!’