บทที่ 27: เจียงเหอผู้นี้มีอะไรมากว่าที่ตาเห็น!
หลังจากพึมพำกับตัวเองเสร็จแล้ว เจียงเหอก็วางสายทันทีและส่งข้อความเสียงวีแชทไปหาหวางซืออวี่แทน
ในไม่ช้า เธอตอบกลับด้วยข้อความเสียงกลับมา: “ตอนนี้ฉันได้ยินแล้ว นายอยู่ที่ไหนเจียงเหอ?”
“ทุ่งข้าวโพดฝั่งตะวันออกของหมู่บ้าน”
“ฝั่งตะวันออก?” น้ำเสียงของหวางซืออวี่เปลี่ยนไป เธอพูดอย่างรวดเร็วว่า “ตอนนี้มีการระเบิดเกิดขึ้น! และฉันก็ได้รับข่าวว่ามีระดับสูงของนิกายเทียนโหมวกำลังมาหานาย เพราะงั้นนายรีบกลับบ้านเดี๋ยวนี้เลย! หัวหน้าฉันจะมาถึงที่นี่เร็ว ๆ นี้!”
“ระดับสูงนิกายเทียนโหมว?”
เจียงเหอตอบกลับด้วยข้อความเสียงอีกครั้งก่อนที่จะถ่ายภาพศพของคอร์โด แม้ว่าจะเป็นเวลากลางคืนและมืดมิด แต่ภาพก็ออกมาได้ชัดเจนจากการใช้แฟลช
หลังจากส่งรูปไปให้หวังซืออวี่แล้วเขาก็ถามว่า “เธอหมายถึงไอ้คนแคระนี่ใช่ป่ะ? ฉันจัดการทุบตีมันจนตายไปพร้อม ๆ กับไอ้ผู้ฝึกสัตว์อสูร แถมยังมีสัตว์อสูรตัวอื่น ๆ อีกเป็นโหลเลยนะ… เด๋วดิ๊! ไอ้งูยักษ์มันไปไหนละ? แย่ล่ะสิมีสัตว์อสูรตัวนึงหนี่ไปได้… ฉันจะไปล่ามันแป๊บ เด๋วค่อยคุยกันนะ”
เจียงเหอเก็บโทรศัพท์และมองหา แล้วก็พบร่องรอยของมัน เห็นเป็นร่องรอยต้นข้าวโพดที่ล้มเป็นแนวยาวซึ่งน่าจะเกิดจากไอ้งูยักษ์ที่โดนระเบิดจนบาดเจ็บสาหัสเลือดไหลโจ้ก ๆ มันเกิดปอดแหกตื่นตระหนกตกใจเลยรีบเลื้อยหนีอย่างไม่คิดชีวิต
เจียงเหอก้าวไปข้างหน้าเพื่อไล่ตาม “ไอ้เชรี่ยนิ! มันหนีไปจริง ๆ ด้วยว่ะ ไอ้งูนั่นมันเวล 1! ราคา 10 แต้มบุญ คิดเป็นเงินแสนหยวน… คิดว่าตูจะยอมปล่อยเอ็งไปจริง ๆ น่ะหรือ!?”
***
กลับมาที่บ้านของเจียงเหอ
เมื่อเสียงแจ้งเตือนวีแชทดังขึ้น หวางซืออวี่จิ้มที่แชทของเธอกับเจียงเหอ และเห็นภาพที่เขาส่งให้ เธอกระพริบตาปริบ ๆ แล้วเปิดดู ก็ได้มีข้อความเสียงที่เจียงเหอแนบมาด้วยดังเข้าหูเธออย่างชัดเจน
“อะไรนะ… เจียงเหอฆ่าระดับสี่ของนิกายเทียนโหมว? พร้อมกับสัตว์อสูรเป็นโหล และผู้ปลุกพลังอีกหนึ่งคนด้วย?”
ขณะที่หวางซืออวี่กำลังสับสนกับข้อมูลใหม่ที่ได้มาอยู่นั้นเอง หัวหน้าต้วนก็โทรมา
“หวางซืออวี่ฉันอยู่ที่ทางเข้าหมู่บ้านแล้ว เธออยู่ไหน?”
“ฉันจะรีบไปค่ะ”
หวังซืออวี่สูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วไปที่ทางเข้าหมู่บ้านและเห็นรถ Passat จอดอยู่ และมีชายวัยกลางคนสวมเสื้อกันฝนยืนอยู่ข้าง ๆ เขาสูงประมาณ 175 เซนติเมตร และดูเป็นคนสบาย ๆ แต่กลับให้ความรู้สึกเฉียบคมและทรงพลัง
ผู้ฝึกยุทธระดับหกขั้นสูงสุด ต้วนเทียนเหอ
ไม่ใช่สิ ตอนนี้เขาเป็นระดับเจ็ดแล้ว!
อันตรายแฝงตัวอยู่ทุกหนทุกแห่งระหว่างการเดินทางไปยังภูต้าตงครั้งล่าสุด แต่ถึงแม้จะน่าสะพรึงกลัวและมีอันตรายถึงชีวิต ระดับพลังของต้วนเทียนเหอก็ยังพัฒนาไปถึงระดับปรมาจารย์ได้ในที่สุด และเขาก็ไม่ได้โอ้อวดความสำเร็จนี้ให้มันเป็นเรื่องราวใหญ่โต
“สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง” ต้วนเทียนเหอดูเคร่งเครียดขณะที่ถามถึงสถานการณ์ในหมู่บ้านจินยินถาน
หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งแล้วก็ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าเธอควรจะเริ่มอธิบายอย่างไรดี หวางซืออวี่จึงยื่นโทรศัพท์มือถือให้ต้วนเทียนเหอ ภาพที่เจียงเหอส่งให้ก็ปรากฏบนหน้าจอ
สีหน้าของต้วนเทียนเหอเปลี่ยนไปหลังจากเหลือบมองรูปถ่าย “นี่อะไร” เขาขยายภาพและพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วอุทานด้วยความประหลาดใจ “คอร์โด?!”
“หัวหน้าต้วนรู้จักเจ้าหมอนี่เหรอคะ?” หวางซืออวี่ถาม
“คอร์โดเป็นผู้ฝึกยุทธระดับสี่จากซีเจียง” ต้วนเทียนเหอตอบ “มันเก่งเรื่องวิชาใบมีดและใช้มีดโค้งเป็นอาวุธ ก่อนการฟื้นคืนพลังวิญญาณ เจ้าหมอนี่ก็แค่อันธพาลข้างถนนทั่วไปที่ได้เรียนรู้วิชาการต่อสู้ที่สืบทอดในครอบครัว หลังจากการฟื้นคืนพลังวิญญาณ ความสามารถของมันก็พัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดดจนแข็งแกร่งขึ้นมาก มันเป็นฆาตกรที่ฆาตกรรมมาแล้วมากกว่าหนึ่งโหล และอยู่ในรายชื่อที่ต้องการของสำนักงานจัดการคดีพิเศษ เมื่อเดือนมิถุนาที่ผ่านมาหน่วยพิเศษที่ซีเจียงจับมันได้ แต่กลับถูกนิกายเทียนโหมวโจมตีขณะที่ขนส่งเคลื่อนย้ายมันไปเข้าคุก”
ต้วนเทียนเหอดูโศกเศร้าขณะที่พูด “เพื่อนที่ดีที่สุดของฉันเป็นผู้รับผิดชอบในภารกิจนั้น…” เขาหยุดชั่วครู่ก่อนจะพูดต่อ “คอร์โดต้องเข้าร่วมนิกายเทียนโหมวหลังจากที่พวกมันถูกช่วยไว้ได้ ว่าแต่เธอไปเอาภาพถ่ายนี้มาจากไหนเหรอ?”
“เจียงเหอส่งมาให้ค่ะ” หวางซืออวี่กล่าว “ดูเหมือนว่าคอร์โดจะเป็นระดับสูงที่นิกายเทียนโหมวส่งมาเพื่อจัดการกับเขา แต่เจียงเหอสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้แล้ว เขาบอกว่าเขาฆ่าคอร์โดพร้อมกับผู้ฝึกสัตว์นิกายเทียนโหมว และสัตว์อสูรอีกเป็นโหล”
"อะไรนะ?" ต้วนเทียนเหอประหลาดใจ “ไปขึ้นรถ ฉันอยากไปเจอกับเจียงเหอคนนี้”
แน่นอนที่เขาต้องแปลกใจ เพราะว่าของมูลของเจียงเหอนั้นเปลี่ยนแปลงเร็วเกินไป ต้วนเทียนเหอเองก็ได้อ่านข้อมูลของเจียงเหอก่อนหน้านี้ และได้รู้ว่าเขาอาจจะเป็นผู้ฝึกสัตว์อสูรคลาส C
แต่ไม่กี่วันต่อมา ข้อมูลของเจียงเหอได้มีการอัปเดตเป็นผู้ฝึกสัตว์อสูรคลาส B และยังเป็นผู้ฝึกยุทธระดับสองหรือสามอีก นอกจากนี้เขาเพิ่งได้รับข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเจียงเหอเมื่อวานนี้ที่ภูต้าตง
เขาสามารถฆ่าคอร์โดที่เป็นผู้ฝึกยุทธระดับ 4 ในเวลาสั้น ๆ ได้อย่างไร?
รถ Passat ตัดผ่านหมู่บ้านและในไม่ช้าก็มาถึงทางฝั่งตะวันออก เมื่อพวกเขาไปถึงทุ่งข้าวโพด ต้วนเทียนเหอและหวางซืออวี่ก็พบว่ามันเละเทะไปหมด
ศพของสัตว์อสูรเลเวล 1 จำนวน 12 ศพถูกจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยเป็นแถวเดียว โดยมีศพของสัตว์อสูรเลเวล 2 วางอยู่ข้าง ๆ ศพของคอร์โดก็วางอยู่ติดกับศพของสัตว์อสูรเลเวล 2 ที่มีสภาพเละเลือดตัวนั้นเช่นกัน
ต้วนเทียนเหอมองสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัว “ดูจากสภาพที่เกิดเหตุแล้ว อสูรพวกนี้โดนระเบิดตายทั้งหมด อีกทั้งแรงระเบิดก็ไม่ใช่เบา ๆ… เจียงเหอไปได้มันมาจากไหนกัน?”
อาวุธปืนและวัตถุระเบิดถูกห้ามซื้อขายในหัวเซี่ย ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงไม่สามารถมีได้
แต่ต้วนเทียนเหอก็ไม่ได้คอยตรวจสอบเรื่องนี้และหันไปมองที่หน้าอกของคอร์โดและกล่าวว่า “คอร์โดถูกฆ่าด้วยฝ่ามือเดียวที่ทะลวงอวัยวะภายในทั้งหมด และทำลายพลังชีวิต… ไม่มีบาดแผลอื่น ๆ บนร่างกาย นี่คือการสังหารในพริบตาจากฝ่ามือเดียว”
“สังหารในพริบตา?” หวางซืออวี่อุทานด้วยความประหลาดใจ “เจียงเหอพึ่งไปถึงระดับสี่ คนที่พึ่งเป็นระดับสี่สามารถสังหารระดับสี่ขั้นสุดยอดในพริบตาได้ด้วยเหรอคะ?”
“ถ้าหากซุ่มโจมตีก็มีโอกาสสำเร็จอยู่เล็กน้อย แต่ว่าจากบาดแผลที่เห็นนี่บอกได้เลยว่าพวกเขาสู้กันซึ่ง ๆ หน้า…” ต้วนเทียนเหอถอนหายใจยาว “เจียงเหอคนนี้มีอะไรมากกว่าที่ตาเห็น เธอแน่ใจนะว่าเขาพึ่งเป็นระดับสี่วันนี้น่ะ? แม้แต่ระดับห้าขั้นสุดยอดทั่ว ๆ ไปก็ยังฆ่าคอร์โดด้วยฝ่ามือเดียวไม่ได้… เธอบอกว่าเจียงเหอฆ่าผู้ฝึกสัตว์อสูรของนิกายเทียนโหมวด้วยไม่ใช่เหรอ?”
“แล้วเจียงเหอล่ะ? ทำไมไม่เห็นเขา?”
จากนั้นก็มีเสียงสวบสาบ ๆ ดังขึ้น เสียงนี้เกิดจากเจียงเหอที่กำลังลากงูยักษ์ที่หนาครึ่งเมตรและยาวกว่าสิบเมตรออกจากทุ่งข้าวโพด แต่กลับมีเสียงบ่นของเขาดังมาถึงหูก่อนที่ตัวคนจะมาถึงเสียอีก
“ไงล่ะไอ้งูผี! หนีเก่งนักนะเอ็ง เก่งขนาดทำลายทุ่งข้าวโพดไปตั้งหลาร้อยหมู่…”
เจียงเหอทิ้งศพของงูรวมกับกองซากศพอื่น ๆ เขาหันมองต้วนเทียนเหอและยิ้มกว้าง “ไอ้ผู้ฝึกสัตว์อสูรคนนั้นมันตายอย่างน่าสยดสยองเกินไปหน่อย ผมรู้สึกขยะแขยงก็เลยไม่อยากไปแตะต้องศพของมันน่ะครับ”