ตอนที่ 113 ทุบประตูขนสมบัติ
ตอนที่ 113 ทุบประตูขนสมบัติ
“พวกเจ้ารนหาที่ตายเองนะ” ลิลี่กล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ เพราะโจรพวกนี้พอเธอและมีอาให้โอกาสในการมีชีวิต แต่ยังคิดไม่ดีทำร้ายพวกเธออีก
หญิงสาวมองโจรทั้งสองอย่างสมเพชไม่มีความเห็นใจแม้แต่น้อย โจรทั้งสองสมควรตายแล้ว
“พวกเจ้าเอากุญแจไปช่วยกันไขโว่ออกให้คนอื่น ๆ” มีอาหยิบกุญแจที่ตกอยู่ส่งใหญ่กับเชลยชายและพวก
“ขอบคุณพวกคุณหนูทั้งสอง ที่ช่วยเหลือพวกข้า แต่ตอนนี้พวกท่านควรจะรีบหนี ด้านในยังมีโจรอยู่อีกหลายคน” เชลยชายพูดอย่างร้อนรน มันอยากจะหนีออกไปเต็มกลืนแล้ว
“ข้างในมีหญิงสาวขังอยู่อีกไหม” มีอาไม่สนใจหนี เธอถามถึงหญิงสาวคนอื่น ๆ ที่ถูกขังอยู่
“มีอยู่ แต่ว่า...”
ยังไม่ทันที่เชลยชายคนนั้นจะพูดจบ มีอาก็ตัดบทในทันที
“อืม พวกเจ้ารีบหนีออกไปกันก่อนก็แล้วกัน ตอนนี้โจรส่วนใหญ่กำลังปะทะกับกองกำลังอื่นอยู่พวกมันไม่น่ามาตามจับพวกเจ้าได้” มีอากล่าวจบก็เดินไปตามทางเดินของถ้ำ โดยไม่สนใจพวกเชลยชาย
เหล่าเชลยชายทั้ง 6 คนต่างลังเล แม้จะอยากหนีออกไปใจจะขาด แต่พอมาคิดดูพวกมันเลือกจะตามหลังหญิงสาวทั้งสองไป เพราะอย่างน้อยการไปพร้อมกับเธอก็รับประกันได้ว่ายังมีคนแข็งแกร่งคอยต่อสู้กับโจรให้
ชายทั้ง 6 พากันคว้าจับอาวุธที่หาได้แถวนั้นวิ่งตามไป
เส้นทางที่มีอากำลังไปนั้นลดต่ำลงเรื่อย ๆ ความชื้นในอากาศก็ยิ่งสูงมาก จนเธอมาถึงแหล่งน้ำสะอาดมันเป็นเหมือนกับทางน้ำไหลเล็กที่ไหลมารวมกันจนเป็นเองน้ำขนาด 5 เมตร แต่นี่ยังไม่ใช่จุดหมายของเธอ มีอาเดินลงมาตามทา
มันเริ่มมืดเรื่อย ๆอุณหภูมิโดยรอบลดลงอย่างรวดเร็ว แถมยังอับชื้นแบบสุด ๆ
“เพราะสภาพที่อับชื้นมากจนยากจะเข้ามาอยู่นาน พวกโจรจึงสร้างคุกคุมขังไว้ที่ตรงนี้สินะ” ลิลี่กล่าวขณะที่กวาดสายตาไปรอบตัว
“อืม คงจะอย่างนั้น แต่คงมีอีกอย่างมันไม่มีทางออกอื่นละมั่งไม่งั้นอากาศคงไม่ขนาดนี้” มีอาตอบกลับด้วยเสียงเบา
“ด้านหน้าเป็นจุดเฝ้ายาม พวกมันมีกัน 5 คน และที่หน้ากรงขังยังมีอีก 5 คน” หนึ่งในเชลยชายที่ดูจะมีสติสุดบอกกล่าวกับมีอา
“ทำไมพวกมันถึงมีคนเฝ้าเยอะขนาดนี้”
“เออที่จริงแล้วคนเฝ้านะมีไม่กี่คน แต่บางส่วนมันมาทำเรื่องอย่างว่า” เชลยชายกล่าวอย่างระวัง
มีอาได้ยินก็นิ่งไป สุดท้ายเธอก็ไม่กล่าวอะไร รีบวิ่งตรงไปยังจุดเฝ้ายามแรกในทันที
หลังจากนั้นสองนาทีต่อมา มีอา ลิลี่และเชลยชายทั้ง 6 มาถึงกรงขังโดยทิ้งลอยเลือดไว้ด้านหลัง เมื่อมาถึงก้เห็นหญิงสาวหลายคนที่ถูกขังไว้ ยังมีผู้ชายอีกด้วย แต่ส่วนใหญ่บาดเจ็บไม่ก็สภาพอ่อนแรง
“ข้าจะรีบหากุญแจมาปล่อยพวกเขา” เชลยชายก้มลงไปควานหากุญแจในกองศพ แต่มีอาขี้เกียจรอ เธอใช้ดาบเดซี่ฟันไปที่แม่กุญแจโดยตรง
“ศิลปะการต่อสู้ ฟาดฟันขั้น 1”
ลิลี่ก็ลงมือกระชากแม่กุญแจและโซ่โดยตรง “ปลดล็อกขีดจำกัด พละกำลัง ขั้น 1”
กรงขังทั้งสองถูกเปิดออก คนที่อยู่ด้านในมองไปที่มีอาและลิอย่างระวังตัว
“พวกท่านเป็นใครกัน”
“พวกเรามาช่วยพวกเจ้า ตอนนี้รีบออกมา เราจะหนีไปจากที่นี่กัน”
“แต่พวกโจร”
“พวกที่อยู่ในถ้ำตายหมดแล้ว แต่ยังมีพวกที่ออกไปด้านนอก เราควรรีบหนีออกไปก่อนมันกลับมา” มีอาบอกกับพวกเธอ เพราะไม่อย่างนั้นพวกเธอก็จะพากันกลัวจนไม่กล้าหนี
หลังจากลังเลอยู่ครู่ ทุกคนก็เลือกจะลองหนีดู ลิลี่นับจำนวนคนได้ทั้งหมด 25 คนเป็นชาย 10 และหญิง 15 ซึ่งมากกว่าที่คาดการตอนแรกพอสมควร
“มีคนเยอะไปหรือเปล่า”
“อืม แต่ยังไงเราก็ต้องพาพวกเขาไปด้วยกันหมดนี่” มีอาตอบลิลี่
“ถ้าอย่างนั้นก็ออกไปตรงที่นัดไว้กันเถอะ เดวิน อาลีน่าและลูก้าน่าจะเข้าไปขนสมบัติกันแล้ว”
....
ทางด้านของกายหลังจากมาถึงห้องพักของกระทิงโลหิต ชายหนุ่มก็ให้หญิงสาวนำทางเป็นผู้เปิดไป ประตูถูกเปิดผลักเข้าไป ก็ไม่ได้มีการดักซุ่มโจมตีอะไรอยู่ ด้านในห้องมีหญิงสาวสวยสามคน ที่แต่งกายด้วยชุดเย้ายวนรีบเดินออกมาต้อนรับ เพราะคิดว่าคนที่กลับเข้ามานั้นเป็นหัวหน้าโจรกระทิงโลหิต
แต่พอพวกเธอเห็นว่าไม่ใช่ก็กระทิงโลหิต แต่เป็นหญิงสาวผู้มีหน้าที่ทำความสะอาด
“พี่สาวเออลี่ เจ้ามาทำไม?” หญิงสาวผู้แต่งกายด้วยชุดเย้ายวนสีแดงถาม แต่พอเห็นว่าอยู่ ๆ ด้านหลังของเออลี่มีชายหนุ่มปรากฏตัวออกมา หญิงสาวทั้งสามต่างพากันถอยหนีด้วยท่าทางระวัง
“เขาเป็นใคร พวกเราเป็นของกระทิงโลหิตแล้ว ไม่สามารถทำกับเขาได้ ไม่อย่างนั้นกระทิงโลหิตจะลงโทษพวกเรา” หญิงสาวชุดฟ้ารีบพูดออกมาอย่างระวัง
“พวกเจ้าไม่ต้องกลัว ตอนนี้กลุ่มโจรกระทิงโลหิตกำลังมีปัญหา ชายคนนี้เป็นนักล่าค่าหัว นางก็ด้วย” หญิงสาวน้ำทางที่ชื่อเออลี่บอกกับพวกเธอเพื่อให้เข้าใจในสถานการณ์
“หมายความว่าพวกเจ้ามาช่วยพวกเราอย่างนั้นหรือ”
“ใช่” เออลี่กล่าวยืนยัน
พอได้ยินน้ำตาของสามสาวก็เอ่อล้นและพากันร้องไห้ออกมาในทันที สำหรับพวกเธอแล้วต่างก็คิดว่าจะต้องถูกขังแล้วเป็นนางบำเรอให้กับกระทิงโลหิตไปตลอดชีวิต จริงแล้วนั้นยังดีกว่า เพราะถ้าเกิดเมื่อไหร่กระทิงโลหิตเบื่อพวกเธอขึ้นมา ก็จะถูกยกให้กับลูกน้องของมันในทันที
กายและอาลีน่าที่ยืนดูอย่างเงียบ ๆ สุดท้ายอาลีน่าทนไม่ไหวจึงกล่าวขัดพวกนาง
“เราไม่สามารถมาเสียเวลาที่นี่ได้ ดังนั้นพวกรีบพาเราไปที่คลังเก็บสมบัติของกระทิงโลหิตได้แล้ว หรือว่าพวกเจ้าจะพาข้าไปแล้วบริการชายคนนี้ระหว่างนั้น ก่อนที่พวกเราจะหนีก็ได้” อาลีน่าพูดด้วยน้ำเสียงกวน ๆ
“ไปที่กระทิงเก็บสมบัติเถอะ” กายละสายตาออกจากเหล่า NPC สาวพวกนี้
“คลังเก็บสมบัติ หมายถึงห้องเก็บสมบัติใช้ไหม มันอยู่ตรงนั้น แต่ประตูมันเป็นโลหะหนา ถ้าไม่มีกุญแจก็ยากจะเปิด” สาวชุดแดงกล่าว
กายเดินเข้าไปหยุดอยู่เบื้องหน้าประตูโลหะที่หญิงสาวพวกนั้นบอก เขาสังเกตดูก็เหมือนจะจริงอย่างที่พวกเธอพูด ถ้าไม่กุญแจก็ยากจะเปิดเข้าไป
“เจ้าเปิดมันได้ไหม” อาลีน่าผู้ยืนข้าง ๆ กายถามออกมา เธอไม่ถนัดใช้พละกำลัง ดังนั้นหน้าที่เปิดต้องให้กาย
“อืมพอได้ แต่คงต้องใช้เวลาหน่อย”
“นานไหม”
“ไม่รู้สิ สักสิบมั้ง”
“สิบนาทีแบบนั้นนานเกินไป” อาลีน่าพูดพร้อมกับขมวดคิ้วอย่างไม่รู้ตัว
กายเห็นท่าทีของเธอก็เริ่มนับ “สิบ เก้า แปด เจ็ด...”
พูดจบชายหนุ่มก็ยกค้อนสั่นสะเทือนในมือขึ้นมา ก่อนตั้งท่าเตรียมทุบไปที่ประตูโลหะ
“ศิลปะการต่อสู้ ปลดล็อกขีดจำกัดพละกำลัง ขั้น 1”
“ศิลปะการต่อสู้ รูปแบบศาสตราวุธ ทุบ ขั้น 2”
พลังในร่างของกายไหลเออไปทั้งตัว ขาและเอวของกายบิดตั้งท่าเหวี่ยงค้อนสั่นสะเทือนอย่างเต็มกำลัง ก่อนที่จะทุบค้อนลงไปที่ประตูโลหะด้วยศิลปะการต่อสู้
ตูม!!!
เสียงโจมตีของกายดังไปทั้งห้องจนทำเอาหลายคนหูอื้อในทันที
“สอง หนึ่ง” กายนับต่อจากที่ค้างไว้ หลังสิ้นเสียงของเขา ก็มีเสียงของประตูโลหะที่พังลงดัง เคล้ง!
“อะไรกัน! ประตูหนาขนาดต้องใช้นักรบระดับหนึ่งถึงทำลายได้ง่าย ๆ แบบนี้ เจ้าทำได้ยังไง?” อาลีน่าและสาว ๆ มองไปที่ภาพตรงหน้าอย่างเหลือเชื่อ เพราะไม่คิดว่าประตูหนาจะโดนกายทำลายได้อย่างง่ายดายขนาดนี้
“เจ้าตกใจทำไม ลืมไปแล้วอย่างนั้นเหรอว่าข้าเป็นช่างโลหะ” กายไม่สนใจท่าทีของอาลีน่าเขารีบเข้าไปในห้องสมบัติ
“ช่างโลหะมีพลังขนาดนี้เลยอย่างนั้นเหรอ”
อาลีน่าพึมพำก่อนจะตามกายเข้าไปในห้องสมบัติ
กายและอาลีน่าเข้ามาด้านในห้องที่ไม่ใหญ่มากนัก มันเต็มไปด้วยถุงและหีบที่ใส่อัดกันอย่าง ถ้านับจากสายตาคร่าวๆ สามารถบอกได้ว่ามีเหรียญทองไม่ต่ำกว่า 70,000 เหรียญ
เงินจำนวนขนานี้ถือว่าเยอะเป็นอย่างมาก กายจำได้ว่าก่อนที่จะเดินทางมาที่ทุ่งหญ้ากิรานั้นเขาเก็บเงินได้แค่ราว ๆ 30,000 เหรียญทองเท่านั้น
อาลีน่าที่อยู่ข้างกายไม่ได้ตกใจอะไรมากนักกับจำนวนเหรียญทองตรงหน้า เพราะอย่างไรเธอนั้นก็มาจากครอบครัวที่มีฐานะ แถมยังเป็นหลายสาวของอาจารย์ใหญ่แอดดิสันจึงมีเงินใช้ไม่ขาดมือ
แต่ก็ใช่ว่าเธอจะไม่ตื่นเต้นกับเงินขนาดนี้ เหรียญทองพวกนี้พอจะให้เธอใช่จ่ายอย่างสบายไปเป็นเดือน
“พวกเราสองคนจนไปไม่หมดแน่” อาลีน่าถามกาย
“อืม แต่ถ้าอย่างนั้นให้เธอช่วยขนก็แล้วกัน รีบขนพวกมันออกไปเถอะ”
อาลีน่าพยักหน้าตกลง
ทั้งสองช่วยกันขนเหรียญทองออกไปเท่าที่จะทำได้ ก่อนจะไปเรียกให้สาว ๆ ทั้งสี่คนช่วยขนออกมาอีกแรง
เมื่อออกมาจากห้องก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ลูก้าเข้าไปสำรวจของในคลังสมบัติรวมของโจร แต่ก็ต้องผิดหวังส่วนใหญ่แล้วเป็นอาวุธระดับต่ำเท่านั้น อยากมากก็มีแค่ดาบกางแขนระดับ 4 ที่เป็นของดีเล่มหนึ่งและเหรียญทองอยู่ราว ๆ สองสามร้อยเหรียญเท่านั้น
ซึ่งไม่แปลกเพราะเหรียญทองส่วนใหญ่ถูกเก็บอยู่ในคลังที่กายและอาลีน่าขนออกมา
“พวกเจ้าได้เหรียญทองมาเยอะมาก” ลูก้ามองไปที่เหรียญทองด้วยดวงตาแวววาว ในขณะที่หลังของลูก้าสะพายดาบ กางแขนระดับ 4 อยู่
ดูเหมือนลูก้าคิดจะเปลี่ยนไปใช้ดาบนี้เป็นอาวุธประจำตัว
กายและอาลีน่าไม่มีใครสนใจว่าลูก้าจะเอาดาบนั้นไปใช้เอง ดาบกางเขนไม่เหมาะกับพวกเขา และอีกอย่างมันก็แค่อาวุธระดับ 4 เท่านั้น
“เจ้าจัดการของที่เหลืออย่างไร” อาลีน่าหันมาถามลูก้า
“ข้าจัดการเผาพวกมันไปแล้ว อีกไม่นานควันก็น่าจะกระจายออกไปจนทั่ว พวกมันคงจะรู้ตัวในไม่ช้า แต่ก็ยังพอมีเวลาให้พวกเราหนีอยู่” ลูก้ากล่าว
อาลีน่าพยักหน้า ส่วนกายนั้นถ้าเป็นเขาก็ทำแบบนี้เช่นกัน จะเหลือของไว้ให้โจรที่ถอยกลับมาทำไม
“มีอากับลิลี่น่าจะมารอแล้ว รีบไปเถอะที่ทางแยกเถอะ”
...
Witterry : ตอนนี้ไรท์มีเพจเฟสบุ๊คแล้วนะ มากดติดตามเพื่อคอยรับข่าวสารหรือเข้ามาพูดคุยกันได้นะ จะมาติดตามทวงนิยายก็ได้ https://www.facebook.com/witterry.writer/ หรือพิมพ์ค้นหาในเฟสบุ๊ค witterry writer ได้เลยนะ