ตอนที่ 1069-1070 ไม่เชื่อหรอกว่าเซินโย่วจะไม่รู้
ในตอนกลางคืน แม้จะเป็นฤดูร้อน ทว่าท่ามกลางภูเขาเช่นนี้ อากาศจึงเย็นเล็กน้อย
เซินโย่วจามออกมาขณะที่เธอก้าวเดิน
“คุณเซิน หนาวรึเปล่า?” ไป่ซู๋หยุดเดิน พร้อมกับเหลือบตาลงมองกระโปรงสั้น เสื้อแขนกุดสีดำที่เธอสวมใส่อยู่ เขาขึ้น “ให้ผมหาคนออกไปหาเสื้อคลุมมาให้ดีไหม? หรือให้ผมพาคุณเซินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดี”
“ไม่เป็นไรคะ ฉัน...” เซินโย่วปฏิเสธเสียงเบา ๆ
ก่อนที่เธอจะพูดจบ ไป่ซู๋เรียกแม่บ้าน แล้วสั่งให้เธอไปหาเสื้อคลุมมาให้
หลังจากสั่งแม่บ้านเสร็จแล้ว เขามองลงมาพร้อมกับยิ้มให้เซินโย่ว
“ตอนกลางคืนอากาศที่นี่ค่อนข้างเย็น ระวังเป็นหวัดนะครับ ถ้าคุณเป็นหวัดขึ้นมาเพราะออกมากลับผม แม่ผมคงต่อว่า ว่าผมดูแลคุณได้ไม่ดีแน่”
เซินโย่วยิ้มและพูดกับเขา “ถ้าพี่ไป่มีแฟน คงจะใจดีและดูแลเธอเป็นอย่างดีสินะคะ”
ไป่ซู๋ยิ้ม “คุณเซิน ถ้าคุณมีแฟน คุณเองก็คงใส่ใจและอ่อนโยนกับแฟนมากกว่าผมอย่างแน่นอน”
เมื่อพูดหัวข้อนี้ขึ้น ไป่ซู๋นึกถึงเรื่องที่พ่อบ้านพูดกับเขา เขาเงียบไปครู่หนึ่งแล้วหันกลับมามองเธอ “คุณเซิน ผมมีอะไรจะพูดกับคุณ อยากจะถามอะไรคุณสักหน่อยจะได้ไหมครับ”
“ได้สิคะ” เซินโย่วพูดอย่างใจกว้าง “พี่ไป่อยากจะถามอะไรคะ? ถ้าฉันรู้ ฉันจะตอบทั้งหมดเลยค่ะ”
ไป่ซู๋ไม่อ้อมค้อม เขามองตรงไปที่เธอและพูดออกไป
“ผมสงสัยว่าคุณเซินจะบอกให้ผมรู้ว่าทำไมแม่ของผมและแม่ของคุณถึงอยากจะจับคู่พวกเรา ผมอยากรู้ในมุมของคุณเซิน”
เซินโย่วแสร้งทำเป็นตกใจ “พี่ไป่ นี่พี่กำลังจะบอกว่าแม่ของฉันกับป้าไป่ อยากจะจับคู่ให้เราสองคนเหรอคะ”
ไป่ซู๋เยาะเย้ยเมื่อเห็นท่าทีตกใจของเธอ
เขาไม่เชื่อว่าเซินโย่วจะไม่รู้เรื่องนี้จริง ๆ หรอก
“คุณเซิน คุณจะไม่บอกผมเหรอ?” เขาไม่เคยชอบผู้ชอบเจ้าเล่ห์ รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจางลง น้ำเสียงของเขาก็จริงจังขึ้นเช่นกัน
เซินโย่วเป็นผู้หญิงที่ฉลาด
เธอสัมผัสได้ถึงความเย็นชาของไป่ซู๋ขึ้นมาทันที
แน่นอน เธอรู้ดีว่าทำไมเขาถึงได้เย็นชากันเธอ
“ไม่ใช่ฉันบอกไม่ได้หรอกนะคะ ฉันแค่ไม่กล้าเดาไปในทางนั้นก็เท่านั้นเอง” เมื่อตระหนักว่าเขาสามารถมองเธอออกได้อย่างง่าย ๆ เซินโย่วจึงหยุดเสแสร้ง
เธอยิ้ม “พี่ไป่ ไม่เห็นต้องกังวลอะไรเลยนี่ค่ะ สิ่งที่คุณแม่และคนอื่น ๆ คิดจะสำคัญอะไร นี่ไม่ใช่ยุคโบราณนะคะที่จะคุมถุงชนได้ ถ้าเราไม่เต็มใจ พวกเขาจะคิดยังไงก็ไม่สำคัญหรอกค่ะ”
“ยิ้งไปกว่านั้น...” เซินโย่วหยุดพูดไปชั่วขณะ ราวกับว่าเธอกำลังคิดอย่างรอบครอบ
ไป่ซู๋มองเธอด้วยดวงตาสีเข้ม “คุณเซิน เชิญพูดได้เลยครับ”
“ถ้าคำพูดของฉันทำให้พี่ไป่ไม่สบายใจ ฉันก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ ในเมื่อพี่ไป่อยากให้ฉันพูดตามตรง ฉันก็จะ...พูดออกไปตามตรงค่ะ”
เซินโย่วลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกไป “ฉันรู้ว่าพี่ไป่มีคนที่ตัวเองชอบอยู่แล้วใช่ไหมคะ?”
ไป่ซู๋ตกตะลึงขึ้นมาทันที “ฉันเหรอ มีผู้หญิงที่ชอบอยู่แล้ว?”
ทำไมตัวเขาเองยังไม่รู้
เซินโย่วดูเหมือนเธอต้องการจะพูดอะไร แต่ก็ลังเล ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอพูดออกมาเบา ๆ
“ฉันได้ยินว่าพี่ไป่ชอบนักแสดงในกองของพี่ เพื่อให้คนอื่นคอยดูแลนักแสดงหญิงคนนั้น พี่ไป่ถึงกับอ้างว่าเธอเป็นลูกพี่ลูกน้องของพี่เหรอคะ?”
การแสดงออกของไป่เปลี่ยนไป
สีหน้าของเขามืดลง และเสียงของก็ไม่สุภาพเหมือนเมื่อสักครู่อีกต่อไป
“คุณเซิน คุณได้ยินเรื่องไร้สาระมาจากไหนกัน? ใครเป็นคนบอกเรื่องนี้กับคุณ”
“พี่ไป่..พี่โกรธเหรอคะ”
เซินโย่วมองเขาด้วยใบหน้าไร้เดียงสาและประหม่า
“ฉันคิดว่าตัวเองพูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกไป ฉันขอโทษคะ พี่ไป่ พี่โกรธใช่ไหม ฉัน—ันได้ยินมาจากคนอื่นอีกทีค่ะ ฉันไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงไหม”
“ฉันแค่จะบอกพี่ว่า นักแสดงคนนั้นเป็นคนที่ฉันรู้จัก”
“ได้ยินมาจากคนอื่นเหรอ”
“คะ-ค่ะ”
“คุณพูดถึงใคร? ใครเป็นคนบอกคุณ?”
“เอ่อ...”เซินโย่วดูเป็นกังวล “ฉันได้ยินมาจากกลุ่มเพื่อน ๆ ค่ะ ไม่ได้สนใจด้วยสิว่าใครเป็นคนพูด พี่ไป่ ถ้าเรื่องนี้ทำให้พี่ไม่มีความสุข งั้น...เราไม่พูดเรื่องนี้กันดีกว่าค่ะ”
“ทำซะว่าฉันไม่เคยพูดถึงก็แล้วกัน โอเคไหมคะ”
ไป่ซู๋หรี่ตาและพูดว่า “คุณเซิน ผมว่าเราควรพูดกันอย่างตรงไปตรงมา ผมไม่ชอบอะไรที่มีลับลมคมในหรือพูดอ้อม ๆ หรอกนะ คุณเซิน ผมคิดว่าคุณคงไม่ได้พูดขึ้นโดยไม่ตั้งใจหรอกใช่ไหม”
เขาลดเสียงลงและถามด้วยเสียงเด็ดขาด “คุณเซิน อยากจะพูดอะไรกันแน่?”
การแสดงออกของเซินโย่วเปลี่ยนไป “พี่ไป่ ฉัน...”
“ผมพูดไปแล้วนะ ผมไม่ชอบให้ใครมาเล่นแง่อะไรต่อหน้าผม เซินโย่ว คุณอยากจะพูดอะไรกันแน่” ไป่ซู๋ตัดบทเธออย่างไม่อดทน เขาไม่สุภาพและไม่แสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าเธออีกต่อไป พร้อม ๆ กับเรียกชื่อเต็มของเธอ
การแสดงออกของเซินโย่วเปลี่ยนไปอีกครั้ง รอยยิ้มที่ผิดธรรมชาติของเธอกลายเป็นเสแสร้งมากขึ้น
เธอจ้องไปที่ไป่ซู๋สักครู่ และหัวเราะออกมา
“เอาล่ะ ไป่ซู๋ ฉันเองก็ไม่ชอบเสแสร้งเหมือนกัน ในเมื่อคุณพูดออกมาแล้ว ฉันก็จะพูดออกไปตามตรง ข่าวลือนั่นคงไม่ใช่แค่ข่าวลืมหรอกใช่ไหม?”
ไป่ซู๋หรี่ตามองและถามอย่างไร้อารมณ์ “คุณหมายความว่าอะไร”
เซินโย่วยิ้มและนั่งลงบนม้านั่ง เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาแล้วพูดออกไป
“จริง ๆ แล้ว คุณชอบเฉียวเมียนเมียนใช่ไหม? ถ้าคุณไม่ได้ชอบ คุณคงไม่ทำอะไรตั้งมากมายเพื่อเธอ”
“คุณกำลังช่วยโปรโมตเธอในฐานะนักแสดงนำหญิงและบอกกับทุกคนว่าเธอคือลูกพี่ลูกน้องของคุณ อย่าบอกนะว่าคุณทำเรื่องนี้เพราะอาซื่อ”
“ไป่ซู๋ ฉันรู้ว่าคุณเป็นคนแบบไหน ยิ่งไปกว่านั้น ความสัมพันธ์ของคุณกับอาซื่อ ไม่ได้สนิทกันถึงขั้นต้องช่วยเหลือเขา ฮ่า เฉียวเมียนเมียนนี่น่าทึ่งเสียจริง ๆ ผู้ชายที่โดดเด่นที่สุดในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองหยุนเฉิงต่างก็แย่งชิงเธอ”
“คุณชอบอะไรในตัวเธอ ใบหน้านั่นเหรอ?”
ดวงตาของเซินโย่วเต็มไปด้วยความริษยาและหึงหวง
เธอไม่เข้าใจจริง ๆ
ทำไมผู้ชายทุกคนบนโลกถึงได้ชอบเฉียวเมียนเมียนกันนัก?
ผู้ชายดี ๆ รอบตัวเธอต่างก็ชอบหล่อน