939-940

1/8

Ep.939

ซูเฉินพยักหน้า

“แล้วป่าหยานเย่อยู่ห่างจากที่นี่แค่ไหน?”

ในเมื่อเฉพาะป่าหยานเย่เท่านั้นที่มีค่ายกลเคลื่อนย้าย อันดับแรกจึงต้องไปที่นั่นก่อน

“ถ้านั่งยานอวกาศไป น่าจะใช้เวลาประมาณห้าวัน” หลี่ชุนฉีตอบ

ห้าวัน … ระยะทางถือว่าไม่ใช่น้อยๆ

“พอจะมีแผนที่แถบนี้ไหม?” ซูเฉินถาม

เขาเพิ่งเข้าสู่มิติภายนอกเป็นครั้งแรก ยังไม่คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมรอบๆ หากไม่มีแผนที่ คงไม่สามารถไปถึงป่าหยานเย่ได้

“ย่อมมี” หลี่ชุนฉีรีบหยิบแผนที่ออกมา และส่งมันให้กับซูเฉิน

ซูเฉินหรี่ตากวาดมอง ไม่นานก็พบพิกัดที่ตั้งของป่าหยานเย่บนแผนที่ จากนั้นกล่าวร่ำลาหลี่ชุนฉี เก็บแผนที่และกลับไปยัง [รถศึกอัจฉริยะ]

ส่วนพวกหลีกุยหยางและเหล่าสัตว์เลี้ยงวิญญาณ เขารวบทั้งสองกลุ่มกลับเข้าไปยัง [มิติสันโดษ] และ [พื้นที่เลี้ยงสัตว์] แล้ว

เมื่อกลับเข้ามาในรถ ซูเฉินวางแผนที่ลงบนหน้าจอควบคุมส่วนกลาง  รอจนรถศึกสแกนเสร็จ ก็ออกคำสั่ง

“เสี่ยวจือ มุ่งหน้าไปยังป่าหยานเย่เดี๋ยวนี้”

“รับทราบ”

[รถศึกอัจฉริยะ] เร่งความเร็วเต็มพิกัด พริบตาเดียวหายลับไปจากเกาะลี่เจียว

ระหว่างทาง ซูเฉินเอนตัวพิงเบาะเก้าอี้คนขับ เริ่มคัดแยกชิ้นส่วน

ศึกนี้ฆ่าสัตว์ร้ายมิติไปไม่มากนัก แต่ชิ้นส่วนที่ดรอป มีมากถึง 20,000 ชิ้น

ซูเฉินใช้เวลาเกือบสองชั่วโมง  หลังจากคัดแยกชิ้นส่วน ก็แลกเปลี่ยน [โพชั่นกายภาพขั้น 11] จำนวน 4 ขวด แจกจ่ายพวกมันให้แก่หงส์เพลิงและเหล่าสัตว์เลี้ยงวิญญาณ

เนื่องจากด้วงเขมือบทองคำได้กลืนกินวานรขาวระดับเทวะเข้าไป มันจึงเลื่อนขั้นเป็นเสมือนเทวะเรียบร้อยแล้ว  ไม่จำเป็นต้องได้รับโพชั่นเหมือนตัวอื่นๆ

หลังจากนั้น ซูเฉินหยิบแผนที่ขึ้นมา แล้วค่อยๆสำรวจดู

แต่ในตอนนั้นเอง เสียงเรียกของต้นผลอายุวัฒนะจากใน [พื้นที่เพาะปลูก] ได้ดังขึ้น

“เสี่ยวโซ่ว เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” ซูเฉินเปิด [พื้นที่เพาะปลูก] สื่อสารกับมัน

ต้นผลอายุวัฒนะกล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “เจ้านาย ต้นไม้แห่งชีวิตฟื้นคืนชีพแล้ว!”

มันฟื้นแล้ว!?

ซูเฉินตื่นตัวขึ้นทันที กวาดพลังจิตขยายเข้าไปอย่างรวดเร็ว  ไม่นาน เขาก็พบว่าข้างๆต้นผลอายุวัฒนะ  มีต้นกล้าขนาดเท่าหัวแม่มือกำลังงอกเงย มันดูไม่สะดุดตาเลยสักนิด อาจเรียกได้ว่าเล็กเหมือนต้นหญ้าด้วยซ้ำ แต่พลังชีวิตที่แผ่ออกมา กลับหนาแน่นมาก

“เสี่ยวโซ่ว ต้นไม้แห่งชีวิตใช้เวลาในการเติบโตนานแค่ไหน?” ซูเฉินถาม

ปัจจุบันต้นไม้แห่งชีวิตยังอ่อนแอเกินไป ต้องรอให้มันเติบโตถึงระดับหนึ่งเท่านั้น จึงจะออกผลไม้ที่บรรจุน้ำแห่งชีวิตได้

ด้วยสรรพคุณของน้ำแห่งชีวิต ซูเฉินก็จะสามารถชุบชีวิตต้นผลสายฟ้าห้าสายและพืชวิญญาณอื่นๆได้

นอกจากนี้ การซ่อมแซม [ตราประทับจิตราสวรรค์เบญจธาตุ] ของต้นหลิววัชระ จำเป็นต้องใช้กิ่งของต้นไม้แห่งชีวิตเช่นกัน  กิ่งก่อนหน้านี้ที่ได้รับมา มันเหี่ยวเฉาไปแล้ว จึงไม่สามารถใช้งานได้

“หากอิงตามความเร็วนี้ ใช้เวลาไม่ถึงปีก็น่าจะเจริญเติบโตเต็มที่” ต้นผลอายุวัฒนะคิดพักหนึ่งก่อนตอบ

ระยะเวลาหนึ่งปี สำหรับพืชวิญญาณที่มีวัฏจักรการเติบโตยาวนานเช่นพืชปีศาจ ถือว่าเร็วมากแล้ว

ซูเฉินพยักหน้าด้วยความพอใจ จากนั้นพูดคุยกันอีกสองสามประโยค แล้วปิด [พื้นที่เพาะปลูก]

เจ้าตัวเก็บแผนที่เตรียมพักผ่อน แต่แล้วเสียง [รถศึกอัจฉริยะ] ก็ดังขึ้นเสียก่อน “เจ้านาย ฉันสแกนพบสามระดับเทวะจากหมื่นเผ่าพันธุ์อยู่ไม่ไกลจากที่นี่”

“เป็นคนของเผ่าพันธุ์ไหนบ้าง? แล้วระดับฐานฝึกตนของพวกเขาอยู่ที่เท่าไหร่?” ซูเฉินกล่าวอย่างสบายๆ

“สองเผ่าปีศาจราตรี และหนึ่งเผ่าราชวงศ์อสูร ทั้งหมดมีฐานฝึกตนในระดับเทวะขั้น 1” [รถศึกอัจฉริยะ] ตอบอย่างรวดเร็ว

เผ่าราชวงศ์อสูร?

ซูเฉินเลิกคิ้ว เท่าที่เขารู้ เผ่าราชวงศ์อสูรมีระดับเทวะแค่คนเดียว นั่นคือบรรพชนของเผ่าราชวงศ์อสูร

ก่อนหน้านี้พวกเขาเคยพบกันสองครั้ง ได้พูดคุยกันหลายประโยค

“ทั้งสามเดินทางมาด้วยกันรึเปล่า?” ซูเฉินถามต่อ

บรรพชนเผ่าราชวงศ์อสูรเขาจะปล่อยไป แต่สองเผ่าปีศาจราตรี อย่าหวังเลยว่าวันนี้จะรอดชีวิตไปได้

2/8

Ep.940

“ไม่ได้เดินทางด้วยกัน เหมือนว่าระดับเทวะของเผ่าราชวงศ์อสูรกำลังถูกสองเผ่าปีศาจราตรีไล่ล่า” [รถศึกอัจฉริยะ] ตอบ

ถูกไล่ล่างั้นหรอ?

ซูเฉินชะงักไปเล็กน้อย ในความทรงจำของเขา บรรพชนเผ่าราชวงศ์อสูรเป็นคนมีสมอง รู้จักตัดสินสถานการณ์ ตามปกติแล้วมักฝืนกลืนความโกรธเอาไว้ ไม่ทำให้ใครขุ่นเคืองเอาง่ายๆ แล้วทำไมเขาถูกถึงตามไล่ล่าได้?

“เสี่ยวจือ ล็อคพวกเขาไว้ แล้วขับตามไป” ซูเฉินสั่ง

เขาเคยลั่นวาจาไว้ ว่าจะให้ความคุ้มครองบรรพชนของเผ่าราชวงศ์อสูร ในเมื่อมีวาสนาได้เจอกัน เจ้าตัวก็ยินดีที่จะช่วยเหลืออีกฝ่าย

นอกจากนี้ จะได้ถือโอกาสนี้ฆ่าระดับเทวะของเผ่าปีศาจราตรีซะเลย

“รับทราบ” [รถศึกอัจฉริยะ] เพิ่มความเร็วสูงสุด

เมื่อไล่ตามจนห่างกันไม่ถึงพันเมตร  จู่ๆนกสำรวจก็ร้องขึ้น “เจ้านาย ข้าสัมผัสได้ถึงการดำรงอยู่ของมหาเพลิงเอกลักษณ์ธาตุสายฟ้า”

หลังจากนกสำรวจได้ดื่ม [โพชั่นกายภาพ] ลงไป ระดับฐานฝึกตนของมันได้ตัดผ่านขึ้นสู่ขั้น 10 แล้ว ความสามารถในการรับรู้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก

หากเปลี่ยนเป็นเมื่อก่อน ด้วยระยะห่างขนาดนี้ มันไม่มีทางรับรู้ได้

มหาเพลิงเอกลักษณ์ธาตุสายฟ้า?

ซูเฉินรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที เขาตระหนักดีถึงพลังของมหาเพลิงเอกลักษณ์ อีกทั้งยังมีพวกมันในครอบครองถึงสองตัว และด้วยการมีอยู่ของพวกมัน ทำให้เขาคิดค้นกระบวนท่าที่ผสานเวทมนต์โจมตีได้

หากได้มหาเพลิงธาตุสายฟ้ามาอีกตัว แล้วใช้กระบวนท่าที่ผสานเวทย์สายฟ้า , ไฟ และน้ำแข็งเข้าด้วยกัน บวกกับการสนับสนุนจากมหาเพลิงเอกลักษณ์ทั้งสาม อำนาจทำลายล้างของมัน … คงสามารถพลิกตลบได้ทั้งสวรรค์และปฐพี!

“เสี่ยวซุ่น มหาเพลิงเอกลักษณ์ตัวนั้นชื่ออะไร? แล้วอยู่กับใคร?” ซูเฉินถาม

มหาเพลิงเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะตัวไหนก็ล้วนยากจะพบเจอ แต่วันนี้เมื่อมีชะตาต้องกัน เขาต้องได้มันมาในครอบครองให้จงได้

“มันเรียกว่าเพลิงอสนีเก้าวิญญาณ อยู่กับระดับเทวะเผ่าราชวงศ์อสูร” นกสำรวจตอบ

ซูเฉินพยักหน้ารับทราบ  ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมบรรพชนเผ่าราชวงศ์อสูรถึงถูกตามล่า คงเพราะเป็นมหาเพลิงเอกลักษณ์ เพลิงอสนีเก้าวิญญาณแน่ๆ

ตัวตนของมหาเพลิงเอกลักษณ์มีน้อยแทบจะนับนิ้วได้ ใครก็ตามที่เจอย่อมปรารถนาจะครอบครองมัน

ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งนาที [รถศึกอัจฉริยะ] ได้บินมาขวางหน้าบรรพชนเผ่าราชวงศ์อสูรและอีกสองคน

ทั้งสามเดิมกำลังต่อสู้กันอยู่ แต่เมื่อตระหนักถึงผู้มาเยือนก็หยุดมือทันที มองไปยัง [รถศึกอัจฉริยะ] อย่างระแวดระวัง

ทั้งสามล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทวะ แต่ [รถศึกอัจฉริยะ] กล้าเข้ามาแทรกแซง แสดงว่าต้องไม่ได้มาดี

บรรพชนเผ่าราชวงศ์อสูรเพ่งมอง [รถศึกอัจฉริยะ] บังเกิดคลื่นน้อยๆในหัวใจเขา

เขาเคยเห็น [รถศึกอัจฉริยะ] มาก่อน แต่ตอนนี้รถศึกอยู่ในรูปแบบของยานอวกาศ  รูปลักษณ์ภายนอกจึงแตกต่างจากตอนรูปแบบทางบก

นั่นเป็นเหตุผลที่ว่า เขายังไม่มั่นใจ 100% ว่าจะใช่คนที่คิดจริงๆรึเปล่า

“เหล่ายวี้(御 ย่อจากราชวงศ์อสูร) ทำไมถึงถูกไล่ตามแบบนี้ล่ะ? ไม่ใช่ผมบอกไปแล้วหรอว่าจะคุ้มครองคุณ? ทำไมถึงไม่ประกาศชื่อผมออกไป?”

ซูเฉินก้าวลงจากรถ มองไปยังบรรพชนเผ่าราชวงศ์อสูร เผยรอยยิ้มบาง

“ซูเฉิน!? เป็นเจ้าจริงๆ!”

บรรพชนเผ่าราชวงศ์อสูรตื่นเต้นยินดีเป็นอย่างมาก หากเปลี่ยนเป็นเมื่อก่อน เขาคงไม่อยากเห็นหน้าซูเฉิน เพราะท้ายที่สุดแล้ว ทุกครั้งที่เจอมักถูกรูดทรัพย์จนกระเป๋าแห้ง

แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนกัน ปัจจุบันเขาถูกไล่ล่าโดยสองระดับเทวะเผ่าปีศาจราตรี หนีจนหมดหนทางจะหนีแล้ว

การปรากฏตัวของซูเฉิน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคือพระผู้ช่วยของเขา!

สองระดับเทวะเผ่าปีศาจราตรี พอได้ยินชื่อซูเฉิน  สีหน้าของทั้งสองมืดมนลง

แม้พวกเขาจะไม่ค่อยได้กลับไปยังแผ่นดินใหญ่  แต่ก็ยังเคยได้ยินชื่อเสียงอันโด่งดังของซูเฉิน ทั้งยังมีข่าวลือหนาหู ว่าเมื่อหลายวันก่อน หากไม่ใช่เพราะผู้ปกครองโลกาออกหน้าแทรกแซงด้วยตนเอง  เกรงว่าซูเฉินคงกวาดล้างสุดยอดห้าเผ่าพันธุ์ไปแล้ว

ต้องให้ผู้ปกครองโลกาออกหน้าด้วยตัวเอง จึงสามารถหยุดการสังหารหมู่ของซูเฉินได้ นี่แสดงให้เห็นว่า  การดำรงอยู่ของซูเฉินน่าหวาดหวั่นเพียงใด

แล้วอีกอย่าง พวกเขายังรู้ด้วย ว่าระหว่างเผ่าปีศาจราตรีกับซูเฉินมีบุณคุณความแค้นส่วนตัว เป็นไปได้สูงที่ซูเฉินจะใช้โอกาสนี้โจมตีพวกเขา

ทั้งสองเริ่มกระสับกระส่าย ในหัวใจเกิดความกระอักกระอ่วนขึ้นมา