บทที่ 491 การมาถึง(ตอนฟรี)
บทที่ 491 การมาถึง
“จี้เฟิง คุณป้า เธอจะไม่ชอบ...”
ใกล้กับทางออกของสนามบินนานาชาติเจียงโจว จี้เฟิง เซียวหยูซวนและถงเล่ยกำลังรอการมาถึงของเซียวซูเหม่ย แม่ของจี้เฟิง จี้ช่าวเหลยที่นั่งอยู่ข้างๆ เหลือบมองไปที่จี้เฟิง และผู้หญิงทั้งสองคนเป็นครั้งคราว มุมปากของเขาเผยให้เห็นรอยยิ้มชั่วร้าย
จี้ช่าวเหลยยังคงชื่นชมความกล้าหาญของน้องชายตัวเองมาก อืม... ความกล้าหาญของเขานี่สุดยอดจริงๆ ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็พาแฟนสาวสองคนไปด้วยอย่างเปิดเผย แม้ขนาดตอนนี้มารับแม่ของตัวเองก็ยังคงทำแบบนั้น!
จี้ช่าวเหลยอดอิจฉาไม่ได้ น้องสามของเขาเหมือนกับนายท่านในสมัยโบราณจริงๆ ถ้าเปลี่ยนเป็นตัวเขาเองพาแฟนสาวสองคนไปพบพ่อกับแม่.. ผลอย่างดีที่สุดก็คงโดนแม่ใช้ไม้กวาดไล่หวด หรือไม่ก็เห็นพ่อมีใบหน้าดำคล้ำและอาจจะไล่เขาออกจากบ้าน!
แข่งเรือแข่งพายมันยังพอแข่งกันได้ แต่แข่งบุญแข่งวาสนามันแข่งกันไม่ได้จริงๆ จี้ช่าวเหลยอดถอนหายใจไม่ได้ น้องสามมีแฟนแล้วสองคน แต่ผู้หญิงคนเดียวที่จะมาเป็นแฟนเขาก็ยังทำไม่สำเร็จ ตอนนี้เหลือแค่เอาชนะเงื่อนไขของเซียงยี่โหรวให้ได้เท่านั้น ถึงจะได้แต่งงานกับเธอ นี่มัน..
ชีวิตช่างน่าเศร้าเกินไปแล้ว!
เวลานี้จี้เฟิงไม่รู้ว่าจี้ช่าวเหลยกำลังอิจฉาและเศร้าใจแค่ไหน เขายิ้มปลอบเซียวหยูซวนและถงเล่ย “พวกเธอไม่ต้องคิดมากหรอก แม่ของฉันจะต้องชอบพวกเธอแน่ๆ จริงสิ! เล่ยเล่ย เธอเคยเจอแม่ของฉันมาแล้วนี่ เธอน่าจะรู้ว่าท่านไม่ได้เป็นคนเข้มงวดอะไรใช่มั้ย?”
ถงเล่ยเองก็มองออกว่าเซียวหยูซวนนั้นเป็นกังวลมาก และเธอก็เข้าใจดีว่าความกังวลของเซียวหยูซวนนั้นไม่ได้หมายความว่าแม่ของจี้เฟิงจะไม่ชอบเธอ แต่เป็นเพราะแม่ของจี้เฟิงไม่ชอบสถานะของเธอต่างหาก!
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าแฟนตัวจริงของจี้เฟิงจะต้องเป็นถงเล่ยอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเซียวหยูซวนหรือเซียวซูเหม่ยเองก็คิดอย่างนั้น เพราะจนถึงตอนนี้ เซียวซูเหม่ยได้พบแต่กับถงเล่ยเท่านั้น และในตอนนั้นที่เขตหมางซือ พ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายก็เคยพบเจอกันมาก่อนแล้ว นับว่าเป็นการยอมรับเรื่องเด็กทั้งสองคนเป็นนัยๆ
เซียวหยูซวนเป็นคนที่มาทีหลัง แม้ว่าทางด้านความรู้สึกระหว่างเธอกับจี้เฟิงจะไม่ได้ช้ากว่าถงเล่ยมากมายนัก แต่ยังไงการคบหากันของเธอกับจี้เฟิงก็ไม่ถูกต้อง
ในสายตาคนนอก ถ้าพูดให้ดูดีก็อาจจะเรียกว่าคนรัก แต่ถ้าพูดกันแบบแรงๆ ก็อาจจะเรียกได้ว่า ‘เมียน้อย’ หรือ ‘เมียที่สอง’
แม้ว่าจี้เฟิงและเซียวหยูซวนจะเข้าใจกันดีแค่ไหน และการคบหากันของพวกเขาไม่มีเรื่องของผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่คนอื่นอาจไม่คิดอย่างนั้น และคนที่ทำให้เธอเป็นกังวลอยู่ตอนนี้ก็คือเซียวซูเหม่ย แม่ของจี้เฟิง
คนเป็นพ่อเป็นแม่ต่างก็คาดหวังให้ลูกของตัวเองได้เจอผู้หญิงที่ดีมีคุณธรรมมาเป็นภรรยา ไม่มีใครอยากให้ลูกชายของตัวเองคบกับผู้หญิงมั่วซั่ว เซียวซูเหม่ยแม่ของจี้เฟิงก็เช่นกัน
ดังนั้นความประทับใจของเซียวซูเหม่ยที่มีต่อเซียวหยูซวนจึงไม่ค่อยดีนัก
แต่อีกเรื่องก็สำคัญไม่แพ้กัน เซียวซูเหม่ยอาจจะคิดหรือสงสัยว่าที่เซียวหยูซวนยอมคบกับจี้เฟิงแม้ว่าเธอจะต้องตกอยู่ในสถานะคนรัก ก็เพราะฐานะของจี้เฟิง
ด้วยเหตุผลเหล่านี้เซียวหยูซวนจึงรู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก แม้ว่าจี้เฟิงจะพูดปลอบใจเธออยู่ตลอดเวลา แต่เซียวหยูซวนก็ยังคงถามคำถามเดิมซ้ำๆ
“พี่หยูซวน ป้าเซียวไม่ได้น่ากลัวอย่างที่พี่คิดหรอกค่ะ ไม่อีกหน่อยได้เจอกันพี่จะรู้เอง..” ถงเล่ยจับมือเซียวหยูซวนและปลอบใจเบาๆ “อีกอย่าง ถ้าถามความคิดของฉัน ฉันว่าป้าเซียวจะต้องดีใจมากที่ได้เจอพี่ ได้สาวสวยแบบพี่เป็นลูกสะใภ้ ไม่ว่าใครก็ต้องดีใจเป็นธรรมดา!”
“ยัยเด็กตัวแสบ นี่เธอปลอบใจพี่หรือกำลังหยอกล้อพี่อยู่กันแน่!” เซียวหยูซวนไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
ถงเล่ยหัวเราะคิกคัก “ไม่ได้ปลอบใจ แล้วก็ไม่ได้หยอกล้อด้วย! ฉันแค่พูดความจริง!”
เซียวหยูซวนกลอกตาใส่เธอทันที แต่หลังจากที่ได้หยุดคิดฟุ้งซ่านไปครู่หนึ่ง ความตึงเครียดในหัวใจของเธอก็ผ่อนคลายลงไปมาก แม้ว่าเธอจะยังรู้สึกเป็นกังวลอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มากเท่ากับตอนแรกแล้ว
เมื่อเห็นสองสาวพูดคุยหัวเราะเบาๆ จี้เฟิงก็ลอบถอนหายใจ อันที่จริงเขาก็ค่อนข้างเป็นกังวลอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลานี้
แต่ความกังวลของเขาไม่ใช่เพราะเขาพาแฟนสาวสองคนมาพบแม่ของเขา จี้เฟิงคิดว่าเรื่องที่เขามีแฟนสองคน แม่น่าจะพอรู้อยู่บ้างแล้ว เพราะทุกการกระทำของเขาในเจียงโจวน่าจะมีคนคอยจับตาดูอยู่ ทางหยานจิงไม่น่าจะปล่อยให้เขาคลาดสายตาไปได้ แม่เองก็รู้เรื่องนี้ดี
ดังนั้นจี้เฟิงจึงไม่ได้กังวลเรื่องนี้
ส่วนเหตุผลที่เขากังวลก็คือเรื่องที่เขาถือวิสาสะตามหาแฟนคนแรกของพ่อโดยพลการ นอกจากนั้นยังพาพวกเธอสองแม่ลูกไปปักหลักที่จินหลิง และตอนนี้พ่อของเขาก็รู้เรื่องนี้แล้ว พ่อคงไม่ปิดบังแม่ของเขาแน่นอน
ดังนั้นจี้เฟิงจึงเป็นกังวลว่าแม่จะมีปฏิกิริยาอย่างไรหลังจากที่รู้เรื่องนี้?
“ที่แม่มาเจียงโจวในครั้ง คงไม่ได้มาเพื่อคิดบัญชีกับฉันหรอกนะ..” จี้เฟิงอดพึมพำไม่ได้ “แต่ปกติแม่ก็ไม่ได้เป็นคนคิดเล็กคิดน้อยนี่นา..”
แม้ว่าเขาจะแอบคิดเข้าข้างตัวเองไปบ้างว่าแม่คงจะไม่ว่าอะไรเขา แต่จี้เฟิงก็ไม่ค่อยเข้าใจความคิดของผู้หญิงสักเท่าไหร่ คงมีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าแม่จะมาจัดการเขาเพราะเรื่องนี้อย่างโหดเหี้ยมหรือไม่!
หวังว่าความจริงที่เขากำลังจะได้เจอคงจะไม่เป็นเหมือนอย่างที่เขากังวล! จี้เฟิงคิดในใจ
< “ท่านผู้โดยสารโปรดทราบ ขณะนี้เที่ยวบิน XXX ได้มาถึงแล้ว...” > เสียงประกาศในห้องโถงของสนามบินดังขึ้น จี้เฟิงและเซียวหยูซวนต่างมีสีหน้าจริงจังในเวลาเดียวกัน!
จี้ช่าวเหลยที่ได้ยินเสียงประกาศก็รีบลุกขึ้นทันที เขาม้วนนิตยสารที่อยู่ในมือแล้วเดินเข้ามา “น้องสาม นี่ใช่เที่ยวบินที่คุณป้าใหญ่นั่งมาหรือเปล่า?”
จี้เฟิงพยักหน้าเล็กน้อยและกล่าวว่า “ใช่แล้ว น่าจะเป็นเที่ยวบินนี้แหละ!”
ไม่กี่นาทีต่อมา ก็มีผู้โดยสารเริ่มทยอยเดินออกมาถึงทางออก จี้เฟิงและคนอื่นๆ รีบรวบรวมสมาธิและมองไปรอบๆ
“มาแล้ว!” จี้เฟิงพูดขึ้น
จี้ช่าวเหลยพยักหน้าเล็กน้อย “น่าจะอยู่ข้างหลัง!”
ถงเล่ยรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย และอดถามไม่ได้ “อยู่ตรงไหนเหรอ? ทำไมฉันถึงไม่เห็นคุณป้าเลยล่ะ?”
จี้เฟิงยิ้มและกล่าวว่า “อีกไม่นานเธอก็จะได้เห็น”
ในความเป็นจริงจนถึงขณะนี้ จี้เฟิงก็ยังไม่เห็นแม่ของเขา แต่เขาได้พบกับชายหนุ่มสามคนในชุดสูทสีดำใกล้ทางออก ทั้งสามคนมีใบหน้าเย็นชา และอารมณ์ที่ดูกดดันจากบนร่างกายของพวกเขา จี้เฟิงจึงเดาว่าสามคนนี้น่าจะเป็นบอดี้การ์ด
ในเวลานี้บอดี้การ์ดทั้งสามคนกำลังยืนอยู่ตามตำแหน่ง แม้จะดูเหมือนว่าพวกเขาแค่ยืนเฉยๆ แต่แท้จริงแล้วตำแหน่งที่พวกเขายืนนั้นเป็นจุดสำคัญ ทั้งสามารถโจมตีได้และสามารถป้องกันได้อย่างทันท่วงที!
เห็นได้ชัดว่าบอดี้การ์ดสามคนนี้ออกมาสำรวจความปลอดภัยก่อน ดังนั้นแม่และบอดี้การ์ดส่วนตัวของเธอน่าจะอยู่ไม่ไกลนัก บางทีพวกเธออาจจะกำลังเดินออกมาแล้ว
ตามระดับของพ่อแล้ว การเดินทางของแม่แน่นอนว่าจะต้องมีบอดี้การ์ดคอยติดตามและคุ้มครอง อีกทั้งระดับของบอดี้การ์ดก็ไม่ได้ต่ำเลย ดังนั้นคุณภาพของบอดี้การ์ดเหล่านี้จึงค่อนข้างดี เรื่องนี้ดูได้จากการกระทำของบอดี้การ์ดสามคนข้างหน้า
ท่ามกลางฝูงชนที่แออัด บอดี้การ์ดทั้งสามคนกลับไม่ตื่นตระหนกและการยืนรักษาตำแหน่งของพวกเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย แม้แต่คนรอบข้างที่เดินผ่านไปมาพวกเขาก็ไม่มีท่าทีผ่อนคลายลงเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งหรือสีหน้าของพวกเขาล้วนระวังตัวเป็นอย่างมาก
จี้เฟิงแอบพยักหน้าและคิดว่าทั้งสามคนนี้น่าจะมีหน้าที่คอยเฝ้าระวังก่อน และในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่สืบสวนไปด้วย ดังนั้นแม่ของเขาน่าจะอยู่ไม่ไกลจากบอดี้การ์ดสามคนนี้
จี้ช่าวเหลยก็ชินกับฉากแบบนี้เหมือนกัน แค่มองแวบเดียวเขาก็มองออกแล้ว เขาพูดขึ้นมาเบาๆว่า “คุณป้ามาถึงแล้ว!”
จี้เฟิงพยักหน้าเล็กน้อยและกล่าวว่า “บอดี้การ์ดสามคนนี้ไม่เลวเลย!”
ผ่านไปประมาณ 30 วินาที บอดี้การ์ดคนหนึ่งก็ทำท่าอะไรบางอย่าง และบอดี้การ์ดอีกสองคนก็เคลื่อนไหว
แต่สิ่งที่เหนือความคาดหมายของจี้เฟิงและจี้ช่าวเหลยก็คือ มีชายหนุ่มอีกสามคนในชุดสูทสีดำเดินออกมา พวกเขาทั้งสามคนดูน่าเกรงขามกว่าสามคนที่ปรากฏตัวก่อนหน้านี้ และที่สำคัญกว่านั้น ตรงเอวของทั้งสามคนเหมือนจะพองตัวขึ้นเล็กน้อย ราวกับว่าพวกเขาพกปืนมาด้วย!
จี้ช่าวเหลยอึ้งไปทันที “เกิดอะไรขึ้น? ดูเหมือนว่านี่จะไม่ใช่คนกลุ่มเดียวกัน! บอดี้การ์ดสามคนที่อยู่ด้านหลังน่าจะมีระดับสูงกว่า... ทำไมป้าใหญ่ถึงใช้บอดี้การ์ดสองชุด? มีอันตรายอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า?!”
จี้เฟิงขมวดคิ้วทันที “พี่รอง พี่ว่าไงนะ? นี่เป็นบอดี้การ์ดสองชุดเหรอ?”
“ใช่! สามคนที่อยู่ด้านหลังน่าจะเป็นคนของหน่วยรักษาความปลอดภัย ส่วนสามคนข้างหน้าดูแล้วเหมือนจะเป็นทหาร...” จี้ช่าวเหลยพูดอย่างลังเล “หรือว่าอาเล็กจะส่งคนมาปกป้องคุณป้าด้วยเหมือนกัน? ถ้าเขาจะทำอะไรแบบนี้มันยากมากเลยหรือไงถ้าจะบอกเราให้รู้บ้าง...”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ จี้เฟิงก็พูดทิ้งท้ายว่า “รอผมอยู่ที่นี่ก่อน ระวังความปลอดภัยด้วย!”
ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็ก้าวไปข้างหน้าสองก้าวและเบียดเข้าไปในทางออกอย่างรวดเร็ว จุดที่จี้เฟิงอยู่ตอนนี้ใกล้กับหนึ่งในบอดี้การ์ดสามคนแรกที่ปรากฏตัว ในมือของจี้เฟิงถือกุญแจรถอยู่ แน่นอนว่าเมื่อกุญแจอยู่ในมือของเขา มันน่ากลัวยิ่งกว่ากระสุนปืนเสียอีก
จี้เฟิงตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ พูดกันตามหลักแล้ว ระดับบอดี้การ์ดที่แม่ของเขาใช้ควรจะต่ำกว่าพ่อของเขาเล็กน้อย ดังนั้นเธอไม่มีทางใช้คนมาอารักขาถึงสองชุดพร้อมกันเด็ดขาด เว้นเสียแต่ว่าจะมีวิกฤติครั้งใหญ่เกิดขึ้นจริงๆ!
จี้เฟิงจ้องเขม็งไปที่ทางเดิน เขากลัวว่าแม่ของเขาจะตกอยู่ในอันตราย เวลาแต่วินาทีทำให้หัวใจของเขาเป็นกังวลและเย็นชา ถ้าแม่ของเขาตกอยู่ในอันตรายจริงๆ เขาจะไม่ปล่อยคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ไว้แม้แต่คนเดียว!
แต่หลังจากนั้นไม่นาน จี้เฟิงก็เห็นแม่ของเขากำลังเดินตรงมาตามทาง ข้างๆเธอมีเสี่ยวอิงที่เป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวและไม่ไกลจากด้านหลังของพวกเธอมีชายหนุ่มสองสามคนเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว หนึ่งในนั้นมีบุคลิกที่ไม่ธรรมดา ใบหน้ามีรอยยิ้มประดับอยู่จางๆ เขาพยักหน้าเล็กน้อยและทักทายแม่อย่างสุภาพ
“เป็นเขา?!” จี้เฟิงขมวดคิ้วทันที ชายหนุ่มคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น เขาคือคุณชายใหญ่ของตระกูลเหอที่เขาเคยเจอในว่านหลี่คลับที่หยานจิง เหอหงเหว่ย!
จี้เฟิงเข้าใจทันที ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงได้มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยถึงสองกลุ่ม กลุ่มแรกน่าจะเป็นของเหอหงเหว่ย เพราะพวกเขาน่าจะเป็นคนผู้เชี่ยวชาญระดับมืออาชีพ ดังนั้นบอดี้การ์ดของเขาจึงไม่จำเป็นต้องพกปืน แน่นอนว่าบอดี้การ์ดส่วนตัวของเขาจะต้องพกปืนแน่นอน
จากนั้นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสามคนที่ตามมาก็น่าจะเป็นบอดี้การ์ดของแม่
เมื่อเข้าใจเรื่องนี้ จี้เฟิงก็หลบและเดินกลับออกมาจากทางออกอย่างรวดเร็ว เขากระซิบว่า “พี่รอง เหอหงเหว่ยมา!”
“เขามาทำอะไร?!” จี้ช่าวเหลยตื่นตัวขึ้นมาทันที
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้จี้เฟิงนึกถึงสิ่งที่คุณปู่พูดกับเขาก่อนที่เขาจะออกจากหยานจิง!
...จบบทที่ 491~❤️