ตอนที่ 39 ยังเช้าอยู่เลย
แม้ว่าการมีอะไรกันระหว่างเธอและเขาจะไม่ใช่เรื่องแปลก แต่การจ้องมองของลู่ชิงสีก็ทำให้หัวใจเธอกระตุกเหมือนมีสัญญาณบางอย่างแล่นเข้ามาอย่างบอกไม่ถูก
คงจะเป็นเพราะการกระทำโง่ ๆ ที่กล้าเสี่ยงกระตุ้นในตอนนี้ของลู่ชิงสี
“ฉัน-ยอมก็ก็ได้... นอกกันเถอะ” เจียงเหยายกมือขึ้นปิดหูของเธอทำท่าทางยอมจำนน ดวงตากลมโต ไร้เดียงสาของเธอจ้องไปที่ลู่ชิงสี
แต่กระนั้น เธอน่ารักเกินกว่าที่ลู่ชิงสีจะปล่อยให้เหยื่อหลุดมือไปในตอนนี้
“เจียงเหยา...” ลู่ชิงสีเรียกชื่อเธอออกมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
ก่อนที่เจียงเหยาจะขานรับ ริมฝีปากของเธอก็อู้อี้อีกครั้ง
จูบนี้แตกต่างออกไป
ลู่ชิงสีไม่อาจยับยั้งความปรารถนาในใจของตนเองได้อีกแล้ว เขาจูบและค่อย ๆ เลื่อนจูบนั้นลงอย่างช้า ๆ
เขาขยับริมฝีปากจากริมฝีปากของเธอไปที่ใบหูของเธอ รู้สึกถึงร่างกายที่อยู่ใต้ร่างของเขาสั่นไหว ขณะที่เขาสัมผัสจุดที่อ่อนไหวของเธอ เขาค่อย ๆ เลื่อนจากหลังใบหน้าไปที่คอของเธอ
เขาปลดกระดุมชุดนอนของเธอออกทีละเม็ดจนถึงเม็ดสุดท้ายอย่างช้า ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ถอดชุดนอนของเธอออก
ร่างกายภายใต้ชุดนอนปรากฏในสายตาของเขาอย่างชัดเจน
ไร้ความสับสน ไร้ความต่อต้าน แม้แต่ความกังวลสุดท้ายที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ก็ถูกโยนทิ้งไปนอกหน้าต่างในที่สุด
เธอไม่เคยสัมผัสถึงความปั่นป่วนที่รุนแรงภายในร่างกายของเธออย่างนี้มาก่อน ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าร่างกายของมนุษย์จะสามารถสร้างความรู้สึกที่ลึกลับได้มากมายขนาดนี้
ขณะที่เขาแทรกบางส่วนของร่างกายเข้ามาในตัวเธอ ทำให้เธอรู้สึกราวกับตัวเองกำลังลอยล่องอยู่อยู่ในปุยเมฆ ความรู้สึกอัดแน่นจุกเสียดเสียวกระสันเมื่อเขาดันร่างเบียดชิดจนไม่เหลือช่องว่าง
เธอนอนหายใจแผ่ว ไร้เรี่ยวแรงอยู่ใต้ร่างหนาของเขา ปล่อยให้เขาพาเธอไปสู่ความสุขไม่รู้จบ
เสียงแหบของเขาก้องอยู่ในหูของเธอ เขาเรียกชื่อเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า “เจียงเหยา เจียงเหยา...”
เสียงนั้นล่องลอยวนอยู่ในอากาศอันเร่าร้อน ฟังแผ่วเบาเหมือนดังมาจากที่ไกลแสนไกล แต่กลับอยู่ใกล้ข้างหู
“เจียงเหยา... เจียงเหยา...”
“เหยาเหยา... เหยาเหยา...”
เสียงกระซิบเงียบ ๆ ดูเหมือนจะมีเวทมนตร์ทำให้หลงใหล เจียงเหยาอดไม่ได้ที่จะตอบรับกับเสนียงเรียกของเขา ร่างเล็กเด้งรับตามจังหวะ จนทำให้เกิดเสียงที่น่าอายออกมา ปนกับเสียงครางร้องเบา ๆ ของเธอ
.............
เธอค่อย ๆ ลืมตาตื่นอย่างช้า ๆ และหมดแรง ห้องทั้งห้องถูกแสงอาทิตย์ลอดผ่านทางช่องหน้าตา พลันให้ห้องสว่างขึ้น เธอค่อย ๆ เปิดเปลือกตาขึ้น ถึงได้รู้ว่ามีหน้าอกกว้างเปลือยเปล่าของเขาช่วยบังแสงให้
แขนของเขาวางพาดรอบเอวของเธอ
เธออยู่ในชุดนอนอีกตัวที่ไม่ใช่ชุดนอนติดกระดุมที่เธอใส่ก่อนที่จะนอน ในขณะที่กระโปรงของชุดนอนถูกยกขึ้นถึงระดับเอว ขาของเธอพาดอยู่ที่ต้นขาของลู่ชิงสี ราวกับตัวสลอตที่กำลังห้อยตัวเองอยู่บนต้นไม้
เมื่อเห็นสภาพของตัวเองแบบนี้ เลือดในร่างถูกสูบฉีดขึ้นมาบนใบหน้า เธอขยับร่างกายและหดขาออกจากต้นขาของเขา และดึงกระโปรงของตนเองลง
เมื่อคืน...
เธอไม่รู้ว่าลู่ชิงสีสุขสมกับร่างกายของเธอกี่ครั้ง กระทั่งเธอหมดแรง เธอจำได้ว่าเขาอุ้มเธอไปที่ห้องน้ำและอาบน้ำให้กับเธอ
ไม่รู้แม้กระทั่งเธออาบน้ำเสร็จเมื่อไหร่ กลับมาที่เตียงได้อย่างไร เขาใส่ชุดนอนให้กับเธอเมื่อไหร่
“ตื่นแล้วเหรอ?”
เสียงหนึ่งดังลอดมาจากเหนือศีรษะ เสียงนั้นฟังดูมีความสุขและเบิกบานอย่างเห็นได้ชัด
“ค่ะ” เจียงเหยาพยักหน้า “กี่โมงแล้วคะ”
“ยังเช้าอยู่เลย นาฬิกายังไม่ปลุก” ลู่ชิงสีลูบผมยุ่ง ๆ ของเธอเบา ๆ
“คุณอยากนอนต่อไหม? แม่เพิ่งจะลุกไปทำอาหารเช้า”
เจียงเหยาส่ายหน้า “ไม่ล่ะค่ะ ฉันว่าจะลุกไปช่วยแม่ในครัว”
“อืม เอาสิ”
ดูเหมือนว่าการเปลี่ยนแปลงในความสัมพันธ์ของพวกเขาปรากฏชัดมากขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน
เจียงเหยาหันไปมองผู้ชายที่กำลังยืนแปรงฟัน จากนั้นก็ก้มลงมองดูแขนของเขาที่โอบรอบเอวของเธอ เอ้ย ผู้ชายคนนี้อยากจะยึดติดเธอไว้ในขณะแปรงฟันด้วยเหรอ! เธอรู้สึกว่าหัวใจของเธอแทบจะละลาย
ผู้ชายคนนี้ช่างเจ้าเล่ห์ราวกับจิ้งจอก!
เจียงเหยาสัมผัสได้ถึงความลุ่มหลงที่แผ่ออกมาจากตัวลู่ชิงสีที่มีต่อเธอมากขึ้น