ตอนที่ 38 ไม่เลวเลยนะ
จูบนี้เกิดขึ้นเพราะเขาอดใจไม่ไหว ยังเป็นเพราะเขาเฝ้าฝันถึงเรื่องนี้มาโดยตลอด
เขาไม่กล้าจูบเธออีกเลยนับตั้งแต่คืนแรกของเขาและเธอ แต่คืนนี้ เขาอยากลองทดสอบสถานการณ์ดูอีกสักครั้ง
จูบนี้ทำให้เขานึกถึงจูบแรกของพวกเขา ริมฝีปากของเธอช่างหวานจนเขาติดใจ เขาไม่เต็มใจเท่าไหร่นักที่จะผละออก
ลู่ชิงสีหลับตาพริ้มขณะที่จูบเธอ เขาใช้ประสาทสัมผัสเพียงเท่านั้นเพื่อสัมผัสถึงปฏิกิริยาของหญิงสาวที่อยู่ใต้ร่างของเขา เขาสัมผัสได้ถึงร่างกายของเจียงเหยาที่ตอนนี้แข็งทื่อ ขณะที่ถูกเขาจูบ
ทว่าเธอไม่ได้ผลักเขาออก เขาจึงเริ่มเพิ่มแรงในการจูบเธอ เขาค่อย ๆ กัดริมฝีปากของเธอ ตวัดลิ้นแทรกเข้าไประหว่างฟัน พร้อมกับลิ้มรสชาติหวานของลิ้นเธอ ลิ้นของคนทั้งคู่ดุนดันกันไปมาราวกับนักมวยปล้ำ
หากมีคนถามเจียงเหยาว่าเธอรู้สึกอย่างไรบ้างตอนที่จูบกับลู่ชิงสี?
ก่อนคืนนี้ เธออาจไม่สามารถให้คำตอบได้
เพราะเมื่อก่อน เธอยังจำได้
ในชีวิตที่แล้วของเธอ พวกเขาจูบกันเพียงครั้งเดียว – นั่นคือในคืนวันแต่งงานของพวกเขา หลังจากนั้นพวกเขาก็ไม่ได้สนิทสนมกับเลย
ความทรงจำและความรู้สึกทั้งหมดในคืนวันแต่งงานของพวกเขาได้จางหายไปตามกาลเวลา ผ่านไปถึงสิบเอ็ดปี ความรู้สึกทั้งหมดในขณะนั้นได้จางหายไปนานแล้ว
ทว่าค่ำคืนนี้ การจูบโดยไม่ได้ตั้งตัวของเขา ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง ราวกันพวกมันอยากจะกระโดดออกมานอกหน้าอกซะอย่างนั้น
แขนขาและกระดูดของเธอเหมือนกำลังละลายไปกับเตียงนอน ดูเหมือนว่าความรู้สึกทั้งหมดของเธอพุ่งไปจับอยู่ที่ริมฝีปากและจดจ่ออยู่กับการจูบอันเย้ายวนนี้เท่านั้น
เธอลืมตาขึ้นเล็กน้อย จ้องไปที่เปลือกตาที่ปิดสนิทของลู่ชิงสี ซึ่งอยู่ห่างจากเธอไม่ถึงหนึ่งนิ้ว เธอค่อย ๆ หลับตา ขนตาของเธอกระตุก จมูกของเขาถูไถเบา ๆ ที่แก้มของเธอ เขาจับคางของเธอด้วยมือข้างหนึ่ง ขณะที่มืออีกคางวางอยู่เหนือศีรษะของเธอ
ทันใดนั้น เขาก็พลิกตัวและตรึงเธอไว้ใต้ตัวเขา
เขาลืมตาขึ้น แต่ไม่ยอมผละออกจากริมฝีปากของเธอ กลับยิ่งจูบรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
เป็นเวลานานกว่าที่ลู่ชิงสีจะผละออกจากริมฝีปากของเธอ เขายิ้มและหายใจหอบ “หายใจสิ เด็กโง่ของผม”
เขาไม่สงสัยเลย หากจะบอกว่าเจียงเหยาคงได้กลายเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ที่สำลักตายขณะจูบ
หลังจากการเตือนของลู่ชิงสี เจียงเหยาอ้าปากหายใจ พร้อมกับพึมพำ “ก็ว่าทำไมถึงได้รู้สึกเวียนหัว ฉันลืมหายใจนี่เอง”
คำพูดของเจียงเหยาทำเอาลู่ชิงสีหัวเราะอยู่เงียบ ๆ เธอไม่มีอาการหวาดกลัวหรือโกรธเขา เธอเพียงแค่ประหม่าเท่านั้นเอง
ลู่ชิงสีอดไม่ได้ที่จะล้อเลียนหญิงสาวที่ขณะนี้ริมฝีปากของเธอบวมแดง หายใจหอบแรงราวกับลูกสุนัขที่น่ารัก
“ไม่เลวเลยนี่ เช้านี้ไปกินอะไรผิดสำแดงมากันแน่” ดังนั้นเธอถึงไม่แสดงอาการหวาดกลัวหรือไม่สบายใจใด ๆ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความปรารถนาของเขา ยิ่งไปกว่านั้น วันนี้เธอยังเป็นฝ่ายเริ่มกอดเขาก่อนถึงสองครั้ง
ขณะที่เจียงเหยาเค่อย ๆ หายใจเป็นปกติ เสียงเยาะเย้ยของเขาดังลอดเข้ามาที่หูเธอ เธอถลึงตาใส่เขา
ผู้ชายคนนี้ บางทีก็นิสัยเสียเหมือนกันนะเนี่ย!
เขากล้าดียังไงมาล้อเลียนเธอทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเธอเขิน?
เจียงเหยายกขาของเธอขึ้นและเตะผ่าหมากเขา พร้อมกับบ่น
“ออกไปเลยนะ ฉันจะนอนแล้ว”
ลู่ชิงสีไม่ได้เคลื่อนไหว การเตะของเธอนุ่มนวลเสียงจนไม่เพียงแต่ไม่ได้ช่วยข่มขู่เขาเท่านั้น แต่เธอยังจุดไฟปรารถนาของเขา ตอนที่เธอเคลื่อนตัวไปสัมผัสกับความเป็นชายของเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ
“ดูเหมือนว่าผมจะประเมินคุณต่ำไป ไม่ใช่ว่าแค่ทานอะไรผิดสำแดงมาอย่างเดียว แต่คงกินยาอะไรมาด้วยแน่ ๆ ถึงได้กล้าขนาดนี้” ลู่ชิงสีพูดเสียงต่ำ เขาลังเลขณะมองดูหญิงสาวที่อยู่ใต้ร่างของเขา โดยไม่เข้าใจถึงพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของเธอ
เจียงเหยาหยุดเตะเขาและหดขาของเธอ เธอมองขึ้นไปและสะดุดกับสายตาที่จ้องมองมาของลู่ชิงสี แววตาของเขาเปล่งประกายเย้ายวนและน่าปรารถนา เธอกลับด้วยความประหลาดใจ