WS บทที่ 290 จอมเวทย์ในตำนาน นิโคล่า
เปลวไฟได้หายไป เหลือเพียงเมอร์ลินในห้องลึกลับ ภายในห้องเต็มไปด้วยอักษรรูนและดูเหมือนว่าจะครอบคลุมทั่วทั้งห้อง
อย่างไรก็ตาม เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วน จะพบว่าอักษรรูนเหล่านี้มีศูนย์กลางอยู่ตรงขวดโหลรูประฆังใส ลูกไฟขนาดเท่ากำปั้นของทารกเป็นจุดโฟกัสที่กระจายไปทั่วทุกทิศทุกทาง
นอกจากนี้ จากอักษรรูนเหล่านี้ เมอร์ลินสัมผัสได้ถึงแรงกดดันอย่างท่วมท้น สิ่งนี้บ่งชี้ว่าอักษรรูนถูกใช้เพื่อยับยั้งงับลูกไฟนี้
เมอร์ลินพึมพำกับตัวเองครู่หนึ่งขณะที่สายตาของเขากวาดสายตาไปรอบๆ นี่คือแม็กซิมแห่งไฟ ย้อนกลับไปในตอนนั้น เขาได้รับเบาะแสบางอย่างจากหนังสือแห่งนิรันดร์ซึ่งบอกว่า ถ้าใครสามารถรวบรวมหนังสือแห่งนิรันดร์ครลทั้งสามเล่มได้ คน ๆ นั้นก็จะได้รับแม็กซิมไป
จากจุดนั้นเป็นต้นมา เมอร์ลินรู้ดีว่าแม็กซิมเป็นสิ่งล้ำค่าที่แม้แต่จอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ก็ยังสนใจและตอนนี้แม็กซิมแห่งไฟได้มาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว
เมอร์ลินไม่รู้ว่า การรับแม็กซิมแห่งไฟนี้จะทำให้เขาเป็นอันตรายมั้ย แต่ไม่ว่ามันจะอันตรายแค่ไหน เขาก็ต้องพยายามนำมันมาเป็นของตัวเองให้ได้ ไม่อย่างนั้น ความพยายามในการผ่านด่านทดสอบของเขาคงจะสูญเปล่า
ด้วยการตัดสินใจครั้งนี้ เมอร์ลินจึงค่อย ๆ เข้าใกล้ขวดโหลรูประฆังใส ทุกย่างก้าวที่เขาเดินไปที่ขวดโหล เขารู้สึกได้ถึงพลังที่แผดเผาซึ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ
แม้มันจะเป็นเพียงลูกไฟเล็ก ๆ แต่ก็ทำให้สีหน้าของเมอร์ลินค่อย ๆ มืดลง
*ครืน…*
ในที่สุด เมอร์ลินก็ยืนอยู่หน้าขวดโหลและจ้องไปที่ลูกไฟที่เกือบจะโปร่งใสในโถนั้น มันเป็นลูกไฟเล็ก ๆ แต่กลับเปล่งพลังงานที่แผดเผาอย่างหาที่เปรียบมิได้ มันอยู่ภายใต้การปราบปรามของขวดโหลรูประฆังและอักษรรูนที่อัดแน่น
ขณะที่เมอร์ลินยืนอยู่หน้าขวดโหลเป็นเวลานานแล้ว เขาลังเลที่จะยกมันขึ้นมา จู่ ๆ เขาก็รู้ตัวว่าเปลวไฟไม่ได้บอกเขาถึงวิธีรับแม็กซิมแห่งไฟนี้
ตอนนี้เปลวไฟหายไปแล้ว เมอร์ลินไม่รู้ว่าเขาต้องทำอย่างไรเพื่อเอาแม็กซิมแห่งไฟออกมา
หลังจากที่เมอร์ลินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็กัดฟัน เอื้อมมือออกไปแล้วจับที่ฝาขวดโหล
*ครืน!*
ก่อนที่เมอร์ลินจะเปิดขวดโหล เขาก็รู้สึกสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ในเวลาเดียวกัน อักษรรูนหนาทึบที่ปกคลุมห้องเริ่มสั่นไหวอย่างรุนแรง จากนั้นพวกมันทั้งหมดก็พุ่งเข้าหาเมอร์ลิน
อักษรรูนลึกลับเหล่านี้ซึ่งมีมากกว่าหมื่นตัว แต่ละตัวบินเข้าไปในร่างของเมอร์ลิน เมอร์ลินรู้สึกได้ถึงพลังที่ลุกโชนทันทีราวกับว่าเขาจมอยู่ในทะเลเพลิง มีความรู้สึกแปลก ๆ ที่ไม่สามารถอธิบายได้ปรากฏขึ้นมา
“ในที่สุดเจ้าก็มา…”
ทันใดนั้น ได้ยินเสียงลึกล้ำและนุ่มล้ำดังขึ้นในใจของเมอร์ลิน
ภาพโดยรอบได้เปลี่ยนไป ราวกับว่าตอนนี้เขาอยู่ในความว่างเปล่าที่ไม่คุ้นเคยและกว้างขวาง ในพื้นที่นี้ เปลวเพลิงที่ลุกโชนกำลังลุกไหม้อยู่รอบตัว
“ในที่สุดเจ้าก็มา…ผู้โชคดีที่มีคุณสมบัติในการสืบทอดแม็กซิมของข้า…เจ้าจะได้รู้ทุกอย่างเกี่ยวข้องกับข้า!”
เสียงจากที่ไหนก็ไม่รู้พูดอีกครั้ง ในไม่ช้า เปลวเพลิงก็ค่อย ๆ บรรจบกันจนกลายเป็นร่างยักษ์ ยืนอยู่อย่างสูงในอากาศ ร่างนั้นเต็มไปด้วยเปลวเพลิง
“ช่างเป็นช่วงเวลาที่สวยงามจริง ๆ ในตอนนี้นักเวทย์ได้มาถึงจุดสูงสุดแล้ว และจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ก็ปรากฏตัวขึ้นทุกหนทุกแห่ง มีแม้กระทั่งเหล่าจอมเวทย์ในตำนานและมหาจอมเวทย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็ถือกำเนิดขึ้น
มันเป็นยุครุ่งโรจน์ที่สุดของเหล่านักเวทย์ ภายใต้การนำของมหาจอมเวทย์ เราได้ขับไล่เทพเจ้าจำนวนนับไม่ถ้วนออกไป นอกเหนือจากเทพผู้แข็งแกร่งที่สุด เทพแห่งแสง ก็ไม่มีเทพองค์ไหนอยู่ในโลกนี้ได้
ศาสตร์ปรุงยา, การเล่นแร่แปรธาตุ, อักษรรูน, พลังปีศาจแพนโดร่าหรือแม้แต่พลังที่เหมือนปีศาจนี้ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่ โลกไม่สามารถสนองนักเวทย์ที่ทรงพลังได้อีกต่อไป ดังนั้นภายใต้การแนะนำของมหาจอมเวทย์ เราจึงได้เปิดประตูมิติหลายชุดไปยังมิติที่แตกต่างกัน โดยเข้าไปทีละมิติ มีมิติที่คุ้นเคยซึ่งเพิ่งถูกสร้างขึ้นและบางมิติที่ถูกควบคุมโดยเทพเจ้า อย่างไรก็ตาม ไม่มีมิติใดต้านทานพลังของเราได้ ในยุคทองของเหล่านักเวทย์ ร่องรอยของนักเวทย์ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังในมิติที่ไม่คุ้นเคยนับไม่ถ้วน พวกเราเป็นล้วนเป็นู้ที่อยู่จุดสูงสุดของมิติทั้งหลายเหล่านี้
จอมเวทย์ในตำนานถือกำเนิดขึ้นทีละคน แม้แต่ข้าเองก็ได้รับความช่วยเหลือจากจอมเวทย์ในตำนานผู้ยิ่งใหญ่ ในที่สุดก็รวบรวมแม็กซิมแห่งไฟของตนเองสำเร็จ ข้ากลายเป็นจอมเวทย์ในตำนานเต็มตัว ข้านั้นต่อกรได้แม้กระทั่งเหล่าทวยเทพผู้ทรงพลัง!
ข้า จอมเวทย์ในตำนาน นิโคล่า ภายใต้การนำของมหาจอมเวทย์แห่งไฟ เราได้บุกเข้าไปในมิติแล้วอีกมิติเล่า ข้าคิดว่าพวกเราเป็นเจ้าแห่งมิตินับล้าน เราเป็นสิ่งมีชีวิตสูงสุดที่แท้จริงไม่มีใครเทียบได้ เราขับไล่เทพเจ้าและพิชิตมิติ ช่างเป็นยุครุ่งโรจน์ของเหล่านักเวทย์!
อย่างไรก็ตาม ภัยพิบัติได้เกิดขึ้น เราเข้าถึงมิติมหึมาอย่างคาดไม่ถึง เราคิดว่ามันเต็มไปด้วยทรัพยากรและความมั่งคั่งที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างไม่รู้จบ แต่เราไม่ได้คาดหวังว่าจะมีปีศาจจริง ๆ ปีศาจที่น่าสะพรึงกลัวกว่าเทพเจ้านับไม่ถ้วน!
ในมิติอันน่าสะพรึงกลัวนั้น เรือรบลำใหญ่กว่าท้องฟ้าถูกขับออกไป มีพลังที่น่าสะพรึงกลัวที่จะเอาชนะแม้กระทั่งอวกาศด้วยตัวมันเอง พ่อมดนับไม่ถ้วนเสียชีวิตและแม้แต่ผู้ที่มีฉายาว่ามหาจอมเวทย์ก็ต้องมีอันเป็นไป แม้แต่มหาจอมเวทย์แห่งไฟก็ไม่อาจหลีกหนีจากชะตากรรมนั้นได้!
ข้าเป็นคนขี้ขลาด ข้ากลัว ในขณะที่นักเวทย์นับไม่ถ้วนต่อสู้กับปีศาจในมิตินั้นและในมิติอื่น ๆ ข้าก็ถอยกลับและกลับไปยังดินแดนอันรุ่งโรจน์ จักรวรรดิมอลต้าอันยิ่งใหญ่ นับจากนั้นเป็นต้นมา ชื่อ นิโคล่า จอมเวทย์ในตำนานก็จะถูกพ่อมดเยาะเย้ยตลอดไป!
ใครจะรู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน…ข้าคิดว่าข้าจะอยู่ต่อไปอย่างสงบสุข แม้ว่าเหล่านักเวทย์จะต่อสู้กับปีศาจนับหมื่นในมิตินี้และมิติอื่น ๆ ข้าก็ยังคงมีความสุขในดินแดนอันรุ่งโรจน์ จักรวรรดิมอลต้าอันยิ่งใหญ่…จนกระทั่งวันหนึ่ง เสียงฟ้าร้องดังก้องไปทั่วแผ่นดินของเรา มันคือเสียงของจอมเวทย์อาร์เคนผู้สูงสุดที่ได้รับเกียรติจากนักเวทย์ทั้งหมด!
ด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง จอมเวทย์อาร์เคนได้เรียกร้องให้นักเวทย์ทั้งหมดสำแดงพลังออกมา ท่านต้องการให้พวกเราออกจากดินแดนอันรุ่งโรจน์และไปเผชิญหน้ากับการต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับปีศาจในทุกมิติ เพื่อปกป้องผืนดินสุดท้ายของเรา ดินแดนอันรุ่งโรจน์!
คราวนี้ข้าไม่ได้ขี้ขลาด! ข้าคือจอมเวทย์ในตำนาน นิโคล่า ข้ากำลังจะต่อสู้เพื่อดินแดนอันรุ่งโรจน์ ข้ากำลังจะไปจากที่นี่ ออกจากดินแดนอันรุ่งโรจน์ ครั้งนี้ข้าอาจจะไม่มีวันกลับมาอีกแล้วและข้าไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจริง ๆ บางทีความรุ่งโรจน์ของเหล่านักเวทย์อาจดำเนินต่อไปหรือบางทีล่มสลายหลังจากนั้น ดังนั้นข้าจึงทิ้งแม็กซิมไว้ข้างหลังเพื่อเป็นหลักฐานเพียงข้อเดียวของตำนานของจอมเวทย์นิโคล่าในดินแดนอันรุ่งโรจน์ อันเป็นบ้านเกิดของข้า!”
ทันทีที่คำพูดสุดท้ายถูกพูด เปลวไฟขนาดมหึมาก็ทรุดตัวลงพร้อมกับเสียงดังกึกก้องและกลายเป็นทุ่งแห่งเปลวเพลิงอีกครั้ง
เมอร์ลินประหลาดใจอย่างหาที่เปรียบมิได้ นี่เป็นข้อมูลจากกว่าสามพันหกร้อยปีก่อน เจ้าของโบราณสถารแห่งนี้คือจอมเวทย์ในตำนานที่ทรงพลัง นิโคล่า!
จากข้อความที่นิโคล่าทิ้งไว้เบื้องหลัง เมอร์ลินรู้เป็นครั้งแรกว่าเหนือจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่คือจอมเวทย์ในตำนานและเหนือกว่าจอมเวทย์ในตำนานคือมหาจอมเวทย์
เมอร์ลินได้เรียนรู้ด้วยว่าในโลกนี้มีเทพเจ้า มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่ถูกเนรเทศ ในช่วงอายุที่รุ่งโรจน์ที่สุดของเหล่านักเวทย์ เทพเจ้าไม่มีอะไรต้องกลัวและเหล่านักเวทย์ยังเป็นผู้ปกครองที่แท้จริงของมิตินับหมื่นในคราวเดียว
จอมเวทย์ในตำนานทุกคนล้วนมีพลังราวกับเทพเจ้า ในยุคของอาณาจักรมอลต้า ยุคทองของเหล่านักเวทย์ พวกเขาทำให้เหล่าเทพถูกเนรเทศและพิชิตมิติ เมอร์ลินคิดไม่ออกเลยว่าฉากที่อลังการและตระการตามากเพียงไร
นั่นคือยุคสมัยที่รุ่งโรจน์ที่สุดของเหล่านักเวทย์ เมื่อสามพันหกร้อยปีก่อน จักรวรรดิมอลต้าได้รวมโลกเข้าด้วยกันและนักเวทย์ก้าวเข้าสู่ยุคทองของพวกเขา เมื่อพวกเขาเริ่มพิชิตมิติต่าง ๆ จักรวรรดิมอลต้าก็กลายเป็นบ้านเกิดของนักเวทย์จำนวนนับไม่ถ้วน ดินแดนอันรุ่งโรจน์แห่งเวทมนตร์คาถา
นิโคล่าได้กลายเป็นจอมเวทย์ในตำนานภายใต้ความยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิมอลต้า!
เมอร์ลินได้ประทับรายละเอียดเหล่านี้ไว้ลึกลงไปในจิตใจของเขาแล้ว เขาเพียงแค่แยกแยะข้อมูลส่วนเล็ก ๆ และยังมีข้อมูลที่เปิดเผยมากซึ่งเขาจะต้องวิเคราะห์อย่างช้า ๆ ในภายหลัง
*บูม!*
ความว่างเปล่าที่เมอร์ลินอยู่ก่อนหน้านี้ได้หายไปในทันใด และเขาก็ตื่นขึ้นอีกครั้ง เขาพบว่าเขายังอยู่ในห้องแคบ มีเพียงอักษรรูนของห้องเท่านั้นที่หายไป พวกมันทั้งหมดฝังเข้าไปในร่างกายของเขา
แม้แต่ลูกไฟในขวดโหลรูประฆังก็หายไป เหลือเพียงขวดโหลที่ว่างเปล่าเท่านั้น
เมอร์ลินตระหนักได้ว่าในขณะที่เขาได้รับข้อความจาก นิโคล่าก่อนหน้านี้ เมอร์ลินต้องได้รับการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง เพียงแต่ว่าเมอร์ลินไม่รู้ว่าการเปลี่ยนแปลงนี้คืออะไร
ขณะที่เขารู้สึกสับสนและไม่แน่ใจ ความรู้สึกแสบร้อนที่ไม่สามารถทนได้ก็เล็ดลอดออกมาจากร่างกายของเขา เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงตรงจิตใต้สำนึกของเขา
เมอร์ลินรีบตรวจสอบจิตใต้สำนึกของอย่างรวดเร็ว หลังจากดูเท่านั้น เขาก็เห็นว่าแม็กซิมแห่งไฟได้เข้าสู่ จิตใต้สำนึกของเขาโดยที่เขาไม่รู้ตัว
นอกจากนี้ มันยังหยุดอยู่เหนือโครงสร้างคาถาของเพลิงพิโรธกับลูกไฟด้วยซึ่งปล่อยพลังงานที่แผดเผาออกมา อันที่จริงมันเป็นการปราบปรามโครงสร้างคาถาทั้งสองนี้อย่างเงียบ ๆ
เมอร์ลินค่อย ๆ ฟื้นคืนสติได้ จากนั้นเขาก็ค่อยๆ ดึงพลังจิตออกมาเพื่อสัมผัสแม็กซิมแห่งไฟแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมอร์ลินพยายามอีกครั้ง คราวนี้ใช้พลังเวทย์ในโครงสร้างคาถาเพลิงพิโรธเพื่อเปิดใช้งานแม็กซิมแห่งไฟแต่ก็ยังไม่เป็นผล
ลูกไฟของแม็กซิมแห่งไฟลอยอยู่เหนือโครงสร้างคาถาอย่างเงียบ ๆ และปราบปรามพวกมันอย่างเงียบ ๆ นอกจากนั้น มันไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรเลย
เมอร์ลินสูดหายใจเข้าลึก ๆ จากคำพูดของนิโคล่า เมอร์ลินได้เรียนรู้ว่าการรวมแม็กซิมเป็นเรื่องยากมาก หากใครสามารถสร้าง แม็กซิมของแท้ได้ นั่นคือสัญญาณว่าคน ๆ หนึ่งกลายเป็นจอมเวทย์ในตำนาน!
แม็กซิมมีความสำคัญต่อจอมเวทย์ในตำนานเช่นกัน การละทิ้งแม็กซิมเพียงส่วนเล็ก ๆ จะส่งผลอย่างมากต่อจอมเวทย์ในตำนาน ย้อนกลับไปในตอนนั้น นิโคล่าทิ้งแม็กซิมนี้ไว้เบื้องหลังในขณะที่เขามองโลกในแง่ร้ายเกี่ยวกับอนาคต นั่นคือเหตุผลที่เขาทิ้งบางสิ่งไว้เบื้องหลังในดินแดนอันรุ่งโรจน์
ด้วยความสามารถในปัจจุบันของเมอร์ลิน อาจเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะปรับแต่งแม็กซิมนี้ อย่างไรก็ตาม ถ้าเขาเข้าใจหน้าที่ของแม็กซิมและเพิ่มพลังของเขาในลักษณะนั้น มันจะเป็นประโยชน์อย่างเหลือเชื่อ
ขณะที่เขาคิดเรื่องนี้ เมอร์ลินระดมพลังจิตทั้งหมดของเขาและส่งต่อไปยังแม็กซิมแห่งไฟอย่างรวดเร็ว!