ตอนที่แล้วHO บทที่ 166 ป่าบริมรี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปHO บทที่ 168 ทุ่งโล่ง

HO บทที่ 167 แคมป์ปิ้ง


เป็นเวลาสามชั่วโมงแล้วที่ซินหยาและเพื่อน ๆ ของเขาเริ่มค้นหาเห็ดสีแดงจุดสีขาวซึ่งเป็นที่ต้องของวงแหวนแฟรี่ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่ากลุ่มจะกวาดตามองอย่างละเอียดถี่ถ้วนทุกตารางนิ้วของป่า พวกเขาก็ยังพวกมันไม่เจอ

ซินหยาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพวกเขาจะพบมันได้ในขณะที่พวกเขาอยู่ในพื้นที่นี้ซึ่งมีมอนสเตอร์ระดับล่างอยู่ แม้ว่าเขาจะใช้แผนที่ของเขา เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เจอพวกมันโดยบังเอิญ แต่หากพวกมันมันพวกเขาก็จัดพวกมันได้ง่ายกว่ามอนสเตอร์ที่มีเลเวลสูงกว่าขึ้น

แต่น่าเศร้าที่โชคไม่เข้าข้างเขา และเมื่อดวงอาทิตย์เริ่มตก ซินหยาก็รู้ว่าพวกเขาต้องหยุดการค้นหาลงตรงนี้

จริง ๆ เขาก็ไม่อยากรีบหยุดค้นหาในตอนนี้แต่เนื่องจากเขาดูแผนที่ของเขา เขาเห็นว่าพวกเขากำลังจะเข้าสู่อาณาเขตของมอนสเตอร์ที่มีเลเวล 30 ขึ้นไป

เนื่องจากรู้ว่าเขาและเพื่อน ๆ ของเขาคงไม่สามารถจัดการกับมอนสเตอร์ที่แปลงร่างได้ซึ่งแข็งแกร่งกว่าในตอนกลางวันแบบทวีคูณ เขาจึงตัดสินใจว่าจะเป็นการดีที่สุดที่จะเริ่มต้นการล่าอีกครั้งในตอนเช้า เนื่องจากพวกเขาได้สำรวจป่าไปประมาณหนึ่งในสี่ของป่าแล้ว เขารู้ว่าพวกเขาจะมีเวลาเหลือเฟือที่จะหามันเมื่อพระอาทิตย์ขึ้น

“ฉันคิดว่าคงจะดีที่สุด ถ้าเราหยุดค้นหาตอนนี้” ซินหยาประกาศ หยุดเพื่อนของเขาก่อนที่พวกเขาจะมุ่งหน้าลึกเข้าไปในป่า “เราต้องเริ่มตั้งแคมป์ก่อนที่มันจะมืดเกินไป”

“อ๊ะ แต่ผมยังอยากค้นหาต่อนะ” เมลติ้งสโนว์กล่าวโดยเว่ยพยักหน้าเห็นด้วยข้าง ๆ เขา

ขณะที่ วอนเดอริริ่งซาวด์แหงนมองท้องฟ้า เขากล่าวว่า "ที่ดริฟติ้งคลาวด์พูดมานั้นถูกต้อง เราควรเริ่มตั้งแคมป์กันตอนนี้ อย่างไรก็ตาม ทางเรามีความคืบหน้ามาก เราจะพบมันก่อนวันพระจันทร์เต็มดวงในวันพรุ่งนี้อย่างแน่นอน"

เมื่อได้ยินคำพูดของวอนเดอร์ริ่งซาวด์ เมลติ้งสโนว์ก็ยอมรับและพยักหน้าเห็นด้วย เขารู้ว่าพวกเขาคิดถูก การตั้งแคมป์เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่จะทำในตอนนี้แต่เขาตื่นเต้นมากจนทำให้การตัดสินใจของเขาผิดพลาด

“ไม่เป็นไรหรอก เจ้าหนูหิมะ เราจะมองหาวงแหวนเห็ดให้หนักขึ้นในตอนเช้า” เว่ยบอกกับเด็กหนุ่มเมื่อเธอเห็นเขามองเข้าไปในส่วนลึกของป่าด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้า เธอเองก็รู้สึกเช่นเดียวกัน เธออยากจะรีบไปหาทางเข้าสู่โลกแห่งแฟรี่เพื่อที่เธอจะได้เห็นโลกที่ซ่อนอยู่ข้างใน

“ตกลง” เมลติ้งสโนว์พูดก่อนจะรู้ตัวว่าเธอเรียกเขาว่าอะไร “แต่อย่ามาเรียกผมว่า เจ้าหนูหิมะนะ!”

เว่ยหัวเราะใบหน้าที่โกรธจัดของเด็กชายว่า “ทำไมล่ะ เธอควรจะดีใจที่ได้ตั้งชื่อเล่นให้เธอ”

“นี่…” เมลติ้งสโนว์เริ่มเอ็ด ก่อนจะหยิบกิ่งไม้ที่มีแมลงขึ้นมา และเริ่มไล่ตามเว่ยด้วยมันทำให้เธอกรีดร้อง “นี่พี่สาว ผมชอบคุณมาก ผมเอาของขวัญให้พี่”

"อยู่ให้ห่างจากฉันเลยนะ!" เว่ยกรีดร้องขณะวิ่งเป็นวงกลมโดยมีเมลติ้งสโนว์ไล่ตามเธอ

ในขณะที่ทั้งสองไล่ตามกันอย่างสนุกสนาน ซินหยากับวอนเดอร์ริ่งซาวด์ก็มองหน้ากันก่อนที่จะออกไปหาที่สำหรับตั้งแคมป์ หลังจากพบที่โล่งที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตใด ๆ พวกเขาก็ตั้งแคมป์ตรงนั้น

หลังจากที่อยู่ด้วยกันมาเป็นเวลานาน ปาร์ตี้นี้ก็เริ่มทำสิ่งที่ควรทำโดยอัตโนมัติเพื่อช่วยตั้งแคมป์ สมาชิกแต่ละคนในปาร์ตี้จดจ่อกับงานของพวกเขา จนทำให้บรรยากาศโดยรอบเงียบสงัด

ด้วยความเงียบนี้ ทำให้พวกเขาได้ยินเสียงรอบข้างได้ดีมากขึ้น พวกเขาได้ยินเสียงแตกกิ่งก้านไปจนถึงเสียงดมกลิ่นของหมูป่าที่อยู่ใกล้ ๆ ที่กำลังกินตะไคร่น้ำ จนไปถึงกระรอกที่ออกค้นหาอาหารภายใต้พุ่มไม้เตี้ย เสียงเหล่านี้อยู่รอบตัวพวกเขาอย่างสงบ

...

ยามค่ำคืนได้มาเยือนพร้อมกับพวกซินหยาที่ตั้งแคมป์เสร็จแล้ว ตอนนี้มีกองไฟที่เป็นแหล่งกำเนิดแสงในสภาพแวดล้อมที่มืดมิด และนอกจากเสียงของธรรมชาติแล้ว มีเพียงเสียงเดียวที่อยู่รอบ ๆ เท่านั้นคือเสียงพูดคุยอย่างเงียบ ๆ ของเพื่อนของซินหยา

เมื่อมองขึ้นไปบนดวงดาวที่ราวกับหิ่งห้อยระยิบระยับที่กระจัดกระจายไปทั่วท้องฟ้ายามค่ำคืน จิตใจของซินหยาก็เริ่มเดินทางกลับไปยังสิ่งที่อาจอยู่ภายในร้านนางฟ้า อาจมีสิ่งของนอกโลกมากมายที่อาจอยู่ภายในนั้นแต่จินตนาการอันน้อยนิดของเขาไม่ได้ช่วยให้เขานึกถึงสิ่งที่จะเป็นได้

เขาหันความสนใจไปที่เพื่อน ๆ ที่ต่างคนต่างทำสิ่งของตัวเอง เขาถามว่า “พวกคุณคิดว่าจะอยู่ในร้านค้าแฟรี่บ้าง?”

“อืม” เว่ยเริ่มขณะที่เธอปิดอินเทอร์เฟซ "ฉันหวังว่าข้างในจะมีผงแฟรี่"

“ผงแฟรี่?” เมลติ้งสโนว์ถามอย่างสับสน

เมื่อเห็นว่าทุกคนมองเธออย่างสับสน เธอก็ตระหนักว่าพวกเขาไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไร เธอส่ายหัวกับพวกเขา เธอเริ่มอธิบายว่า “ตอนที่ฉันยังเด็ก แม่ของฉันเล่าเรื่องหนึ่งชื่อปีเตอร์แพนให้ฉันฟัง…”

เว่ยเล่าเรื่องของปีเตอร์แพนและเพื่อนนางฟ้าของเขาที่ชื่อทิงเกอเบลล์ ตามที่แม่บอกกับเธอ เธออธิบายว่าผงแฟรี่มีความสำคัญต่อแฟรี่เพราะมันให้ความสามารถในการบินและประทานพรแห่งเวทมนตร์ให้ นอกจากนี้ การที่แฟรี่ไม่มีผงแฟรี่จะทำให้แฟรี่สูญเสียความสามารถในการบินและความสามารถทางเวทมนตร์ไปโดยปริยาย

“ว้าว ฟังดูเยี่ยมไปเลย ถ้าร้านมีอะไรแบบที่พี่ว่ามาล่ะก็ ผมจะดีใจมาก” เมลติ้งสโนว์อุทานในขณะที่เขาคิดถึงความเป็นไปได้ที่จะสามารถบินได้โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยใด ๆ

ซินหยาพยักหน้าเห็นด้วย “นั่นคงจะเป็นอะไรที่น่าอัศจรรย์และค่อนข้างเป็นไปได้ อย่างเผ่าดราก้อนคินยังสามารถบินไปรอบ ๆ ได้โดยใช้ปีกของพวกเขา หากพวกเขาสามารถบินได้โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ มันก็อาจมีวิธีที่ผู้เล่นคนอื่นทำได้เช่นกัน”

“นั่นเป็นเรื่องจริง แต่อย่าลืมว่านั่นเป็นทักษะจากเผ่า” วอนเดอร์ริ่งซาวด์กล่าว "พวกเขายังบินได้แต่ก็ไม่เร็วมาก"

"ก็อาจจะมีทักษะสำหรับพวกเขาแล้วก็มีทักษะสำหรับพวกเราด้วยเช่นกัน" เมลติ้งสโนว์หงุดหงิดเล็กน้อยที่วอนเดอร์ริ่งซาวด์พูดจาทำลายความฝันของพวกเขา

เว่ยเห็นด้วยกับเด็กหนุ่ม ในโลกแฟนตาซีของ Haven Online นี้ แทบจะมีทักษะสำหรับทุกอย่างที่ใครจะจินตนาการได้ ไม่แน่ว่าอาจจะมีทักษะที่ทำให้บินได้ "ที่เมลติ้งสโนว์พูดมานั้นถูกต้อง บางทีมันอาจจะเป็นทักษะที่ซ่อนอยู่หรืออะไรทำนองนั้น”

“ฉันคิดว่าพวกคุณพูดถูก” วอนเดอร์ริ่งซาวด์ยอมแพ้ เขาไม่ต้องการที่จะขัดแย้งกับโรมมิ่งวินด์ในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างนี้ดังนั้นเขาจะปล่อยให้พวกเขาเชื่อในสิ่งที่พวกเขาต้องการ อย่างไรก็ตาม เขาเชื่อมั่นว่าไม่มีทักษะดังกล่าวในเกมนี้

ตลอดทั้งคืน กลุ่มยังคงคาดเดาเกี่ยวกับสิ่งที่อยู่ภายในร้าน และเมื่อถึงเวลาพระอาทิตย์ขึ้น พวกเขาก็กระตือรือร้นที่จะเริ่มมองหาวงแหวนแฟรี่อีกครั้ง