ตอนที่ 1065-1066 กลับไปแล้ว...ผมจะให้คุณจูบ
เขามาจากตระกูลเหมาอันสูงศักดิ์และโดดเด่นอยู่เหนือคนอื่นมาตั้งแต่เด็ก ทั้งรูปลักษณ์และความสามารถนับได้ว่าเป็นหนึ่งในล้านของผู้คน เขาแทบจะเป็นคนที่สมบูรณ์แบบในทุก ๆ ด้าน
ผู้ชายคนนี้ถือเป็นผู้ชายในฝันของสาว ๆ หลาย ๆ คน
มีผู้หญิงตั้งมากมายที่ฝันจะได้แต่งงานและเป็นภรรยาของเขา
แต่ทว่าไม่มีใครเห็นเขาอยู่ใกล้กับผู้หญิงคนไหน นอกจากเรื่องงานเลย
และแทบจะไม่ได้ข่าวเรื่องความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนไหนด้วยเช่นกัน
เขาอายุเกือบ 30 ปีแล้ว
ถือเป็นช่วงที่ต้องเริ่มสร้างครอบครัว
ทำให้คนทั่วไปทั่วทั้งประเทศต่างจับตาดูชีวิตส่วนตัวของเหมาซวีเสีย
หากมีการเปิดเผยว่าเขามีแฟน คงจะถือเป็นข่าวใหญ่
แต่ในขณะเดียวกัน แม้ว่าทุกคนจะรู้ว่าข่าวนี้น่าตกใจ ทว่าไม่มีใครกล้าเปิดเผยเรื่องนี้
เว้นเสียแต่เหมาซวีเสียจะเปิดเผยเองต่อสาธารณะชน
“คุณเจียง คุณ...” เหมาซวีเสียกำลังปวดหัว ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
เขาไม่เคยคาดหวังว่าเจียงหลัวลี่จะเป็นแบบนี้เมื่อเธอเมา
มันแตกต่างไปจากเธอตอนปกติเหมือนเป็นคนละคน
อีกอย่างเขาไม่รู้ว่าควรทำยังไงกับเธอดี
“เรียกฉันว่าที่รักสิคะ!” เจียงหลัวลี่จ้องมองไปที่เขาและพูดแก้ “ฉันเป็นแฟนของคุณ ต่อไปฉันไม่อนุญาตให้คุณเรียกฉันว่าคุณเจียงอีกแล้วนะ ตั้งแต่นี้ต่อไปเรียกฉันว่าที่รัก!”
“ที่...” เหมาซวีเสียอ้าปาก แต่ไม่สามารถเปล่งเสียงออกมาจนจนคำได้
ไม่เหมาะที่จะเรียกเธอว่าคุณเจียงอีกต่อไป แต่ก็ไม่เหมาะที่จะเรียกเธอว่าที่รักได้จริง ๆ
เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งและในที่สุดก็พูดออกมา “หลัวลี่”
เจียงหลัวลี่ขมวดคิ้วและพูดอย่างไม่พอใจ
“ก็ฉันอยากได้ยินคุณเรียกฉันว่าที่รักนี่! เหมาซวีเสีย คุณไม่ให้ฉันจูบก็ไม่เป็นไร แต่คุณจะไม่เรียกฉันว่าที่รักด้วยเหรอเนี้ย ถ้างั้นฉันไม่ชอบคุณแล้วดีกว่า! ฉันไม่อยากเป็นแฟนคุณแล้ว!”
เหมาซวีเสียรู้สึกปวดหัวกับเธอ “หลัวลี่คนดี กลับกันก่อนเถอะ...”
“แล้วถ้ากลับถึงบ้านแล้ว คุณจะจูบฉัน แล้วเรียกฉันว่าที่รักไหม”
เหมาซวีเสียพูดไม่ออก
“ถ้าคุณไม่จูบหรือไม่เรียกฉันว่าที่รัก ฉันก็ไม่กลับ!”
เหมาซวีเสียพูดไม่ออก
เจียงหลัวลี่รู้สึกว่าร่างกายของเธออุ่นขึ้น และมีอาการปั่นป่วนที่ท้อง เธอพิงร่างกายไปที่หน้าอกของเหมาซวีเสียและพูดอย่างน่าสงสารว่า “เหมาซวีเสีย ฉันรู้สึกแย่มากเลย เวียนหัว...”
“นั่นก็เพราะคุณเมาไง แบบนี้แหละผมถึงจะไปส่งคุณกลับบ้านในตอนนี้ยังไงล่ะ”
“ฉันไม่อยากกลับ คุณไม่แม้แต่จะจูบฉันด้วยซ้ำ”
“...”
เหมาซวีเสียตระหนักว่าเขาไม่ยอมจูบเธอ เรื่องนี้ก็คงไม่จบ เขาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจอย่างช่วยไมได้
เขาเลิกต่อต้าน
ไม่ว่ายังไง ก็ต้องเกลี้ยกล่อมเธอก่อน
เขากลัวว่าหากเขาไม่พาเธอออกไป เธอคงจะทำสิ่งที่แย่กว่านี้ในที่สาธารณะต่อ
เหมาซวีเสียไม่กล้าแม้แต่จะคิดว่าเธอจะทำอะไรอีก
“เอาล่ะ ๆ ถ้ากลับไปแล้ว...ผมจะให้คุณจูบ” เขาพูดสองสามคำสุดท้ายออกมาอย่างยากลำบาก หลังจากพูดจบใบหน้าก็ร้อนผ่าว
เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าตัวเองจะพูดอะไรแบบนี้กับผู้หญิงสักคนหนึ่ง
“จริงนะ?” เจียงหลัวลี่มีความสุขมาก อาการเวียนหัวของเธอก็ดูเหมือนจะลดลงแล้ว เธอมองดูใบหน้าหล่อเหลาของชายคนนี้แล้วเลื่อนสายตาลงมาที่ริมฝีปากเซ็กซี่ของเขา
ขณะที่สายตานั้นจับจ้องมาที่เหมาซวีเสีย เจ้าตัวก็รู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นแรงขึ้น
เหมาซวีเสียหายใจเข้าลึก ๆ และมองตรงออกไป “อืม”
“ก็ได้ งั้นเรากลับกันเถอะ” ในที่สุดเจียงหลัวลี่ก็ยอมจำนน ความคิดที่อยากจะจูบผู้ชายรูปงามอยู่ในใจเธอมาโดยตลอด ทำให้เธอว่าง่ายกับเขาในตอนนี้ “เหมาซวีเสีย งั้นเรารีบกลับกันเถอะค่ะ”
“ปะ ไปกันเลย”
“คุณพูดเองนะ ว่ากลับไปแล้วจะให้ฉันจูบ อย่าโกหกฉันล่ะ!”
เหมาซวีเสียพูดไม่ออก
เขาตัดสินใจว่าจะไปปล่อยให้เจียงหลัวลี่แตะแอลกอฮอล์อีกแม้แต่หยดเดียว
เขาหมายความอย่างที่พูดจริง ๆ
....
ณ ครอบครัวไป่
ห้องโถงถูกเปิดไฟอย่างสว่างไสว
ไป่ซู่ลงจากรถและเห็นรถที่ไม่คุ้นเคยจอดอยู่ข้าง ๆ เขาถามพ่อบ้าน
“ลุงเฉิน มีแขกมาที่บ้านเหรอ?”
พ่อบ้านพยักหน้า
ไป่ซู๋เดินออกจากรถโรงรถ โดยมีพ่อบ้านเดินตามอยู่ข้างหลัง
เมื่อเขาเดินออกไป เขาถามว่า “ใครมาที่นี่เหรอ?”
พ่อบ้านตอบทันทีว่า “คุณผู้หญิงเซิน กับลูกสาวทั้งสองคนของเขาครับ”
ไป่ซู่หยุดเดินชั่วคราว “ครอบครัวเซินมาที่นี่งั้นเหรอ?”
“ครับ”
“พวกเขามาที่นี่ทำไม”
ครอบครัวใหญ่ ๆ ในเมืองหยุนเฉิงต่างก็เป็นเพื่อนกันทั้งสิ้น
แต่ครอบครัวไป่กับครอบครัวเซินไม่ได้สนิทอะไรกัน อย่างดีก็แค่รู้จักกันเท่านั้นเอง
ไม่เหมือนกับครอบครัวเหมากับครอบครัวเซินที่เป็นเพื่อนกันมานานหลายปี
ครอบครัวเซินไม่ค่อยไปมาหาสู่กับครอบครัวไป่ ทำให้ไป่ซู๋อดสงสัยไม่ได้เมื่อได้ยินว่าครอบครัวเซินมาที่นี่
พ่อบ้านตอบอย่างสุภาพว่า “ผมก็ไม่แน่ใจเกี่ยวกับเรื่องนี้เหมือนกันครับ แต่ผมได้ยินคุณผู้หญิงเซินพูดถึงนายน้อยครับ ดูเหมือนครอบครัวเซินจะมาที่นี่เพราะนายน้อย”
ไป่ซู๋คิดว่ามันแปลก เขาขมวดคิ้ว “มาหาผม? เกี่ยวอะไรกับผม”
“เอ่อ...” พ่อบ้านมองเขาอย่างลังเล
ไป่ซู๋ดูหงุดหงิดอยู่บ้าง “พูดมา ลุงก็รู้นี่ว่าผมไม่ชอบคนที่พูดอะไรครึ่ง ๆ กลาง ๆ”
“ครับ ครับ ครับ” พ่อบ้านเห็นการเปลี่ยนแปลงในท่าทางของเขาและรีบพูดขึ้นทันที
“คุณผู้หญิงเซินดูเหมือนจะอยากแนะนำลูกสาวของเธอให้รู้จักกับนายน้อยครับ ผมได้ยินเธอถามคุณผู้หญิงว่านายน้อยยังโสดหรือเปล่า มีแฟนหรือยัง”
“แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่าเป็นคุณหนูเซินคนไหนที่เธออยากจะแนะนำให้รู้จักกับนายน้อย”
“ผมว่าน่าจะเป็นคุณหนูเซินคนโต แต่เธอยังเด็กอยู่เลย คุณผู้หญิงเซินไม่น่าจะรีบหาคู่ให้กับเธอ”
ไป่ซู๋ดูเหมือนไม่เชื่อ “แนะนำคุณหนูเซินให้ผมเหรอ? เซินโย่วชอบเหมาเยซื่อไม่ใช่เหรอ? เธอจะเต็มใจมาด้วยเรื่องแบบนี้เหรอ?”
“ผะ-ผมไม่รู้ครับ นายน้อยไปถามคุณผู้หญิงน่าจะดีกว่าครับ”
ไป่ซู๋รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่น่าเชื่อ
จู่ ๆ ครอบครัวเซินก็ไปมาหาสู่กับกับครอบครัวไป่ เพราะอยากจะแนะนำลูกสาวให้เขารู้จัก?
นอกจากนั้น ยังเป็นคุณหนูเซินโย่วเสียด้วย
ทุกคนในกลุ่มไฮโซต่างก็รู้ว่าเซินโย่วหลงรักเหมาเยซื่อขนาดไหน
เหมาเยซื่ออาจจะไม่แต่งงานกับใครเลยตลอดชีวิตก็ได้
ไป่ซู๋รู้สึกว่ามันแปลกไปหน่อย เขาไม่เชื่อคำพูดของพ่อบ้านสักเท่าไหร่ เขาตัดสินใจว่าจะไปถามคุณผู้หญิงไป่ด้วยตัวเอง
“พวกเขามาที่นี่นานแค่ไหนแล้ว”
“เกือบชั่วโมงแล้วครับ”
“มาที่นี่ ได้ชั่วโมงหนึ่งแล้วเหรอ” ไป่ซู๋มองขึ้นไปที่ในบ้านที่เปิดแสงไฟสว่างจ้า พร้อมกับขมวดคิ้ว
...
ในห้องรับแขก
คุณผู้หญิงเซินและคุณผู้หญิงไป่นั่งคุยกันอย่างมีความสุข
เซินโย่วและเซินซินนั่งข้าง ๆ คุณผู้หญิงเซิน ฟังผู้ใหญ่คุยกันอย่างเงียบ ๆ
“พี่ไป่ ไหนบอกว่า อาซู๋จะกลับมาคืนนี้ไม่ใช่เหรอ? ทำไมเขายังไม่กลับมาอีกล่ะ เกิดอะไรขึ้นกับเขาหรือเปล่าคะ?”