HO บทที่ 166 ป่าบริมรี
กลุ่มคนสี่คนเดินผ่านภูมิประเทศที่เป็นเนินเขาผ่านสิ่งของที่น่าสนใจทุกประเภท เช่นหินสีม่วงขนาดมหึมาที่อยู่ใกล้พวกมันที่เรืองแสง แต่น่าเศร้าที่พวกเขารีบร้อนมาก พวกเขาเลยไม่มีเวลาที่จะเข้าไปสำรวจรอบ ๆ บริเวณนี้ ถ้าพวกเขาทำ พวกเขาจะได้เห็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าอัศจรรย์ทั้งหมดรอบตัวพวกเขา
เช่นป่าที่อยู่ห่างจากที่เดินไม่กี่ฟุต หากพวกเขามองดู พวกเขาจะเห็นว่าภายใต้ดวงอาทิตย์ ป่านั้นดูใหญ่โต สว่างไสวและเฟื่องฟู
พุ่มไม้ถูกบดบังด้วยใบหอยนางรมที่สวยงามของต้นวิสทีเรีย อย่างไรก็ตาม แสงยังคงส่องผ่านกระหม่อมเพื่อให้พุ่มไม้ทุกชนิดใช้ประโยชน์และเติบโตบนพื้นดินเบื้องล่าง
กิ่งก้านที่มัดรวมกันจับต้นไม้ส่วนใหญ่และดอกแอปริคอทซึ่งพบได้ทั่วไปในบริเวณนี้เท่านั้น ติดอยู่กับพื้นที่ป่าที่มืดมิด นอกจากนี้ยังมีเสียงมอนสเตอร์และสัตว์ผสมกันซึ่งส่วนใหญ่เป็นสัตว์ที่หลบหนีพวกเขาที่กำลังตรงไปข้างหน้าโยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง
แม้ว่าซินหยาและพรรคพวกของเขาจะพยายามอย่างเร่งรีบเพื่อไปยังจุดหมายปลายทางแต่การเดินทางก็เป็นไปอย่างราบรื่น ถ้ามีคนฟังพวกเขาจะได้ยินการสนทนาที่มีชีวิตชีวาและร่าเริงระหว่างเพื่อนสนิท
เสียงหัวเราะร่าเริงตลอดการเดินทาง ทำให้การเดินทางไกลรู้สึกสั้นกว่าที่เป็นจริง เมื่อเวลาผ่านไปและกลุ่มก็เข้าใกล้จุดหมายปลายทางที่ต้องการมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งมาถึงป่าบริมรีซึ่งอยู่ตรงหน้าพวกเขา
"ในที่สุดเราก็ทำได้!" เมลติ้งสโนว์อุทาน เขามองดูป่าดงดิบที่ดูน่าอัศจรรย์ใจ
ซินหยาไม่อยากเชื่อเลยว่าพวกเขามาที่นี่ได้เร็วแค่ไหน เขาเช็คเวลาและพบว่าเพิ่งบ่ายสามโมงเอง พวกเขาไม่เพียงแค่ไปถึงที่หมายเท่านั้นแต่พวกเขายังมาถึงในเวลาน้อยกว่าที่เขาได้คำนวณไว้
“เราทำได้” ซินหยาพูดอย่างมีความสุขขณะมองไปรอบ ๆ พื้นที่ "ตอนนี้เหลือเวลาอีก 3 ชั่วโมงจนกว่าจะถึงเวลาพลบค่ำ"
วอนเดอร์ริ่งซาวด์มองอย่างครุ่นคิดถามว่า "คุณคิดว่าเราควรมองไปรอบ ๆ ก่อนตั้งแคมป์คืนนี้ไหม"
“ฉันคิดว่าเราควรจะทำเพราะเราไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการหาวงแหวนแฟรี่” ซินหยาตอบ
“เราควรแยกกันดีไหม?” เว่ยถาม "เราจะได้สำรวจกันอย่างทั่วถึง"
ซินหยาเห็นด้วยกับเว่ย หากแยกกันพวกเขาจะสามารถหาวงแหวนแฟรี่ได้เร็วขึ้น แต่เมื่อเห็นว่าป่ามีมอนสเตอร์เลเวล 26-35 อยู่ข้างใน เขาก็ไม่คิดว่าจะเป็นความคิดที่ดี ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากพวกเขาได้พบกับมอนสเตอร์ระดับสูงตัวหนึ่งเพียงลำพัง
ซินหยาส่ายหัว “ฉันไม่คิดว่านั่นเป็นความคิดที่ดี เราควรอยู่ด้วยกัน ไม่อย่างนั้นเราอาจจะตายได้ ถ้าเราเจอมอนสเตอร์ตัวใดตัวหนึ่งในนั้น”
“พี่ดริฟพูดมาก็มีเหตุผล” เมลติ้งสโนว์กล่าวอย่างเห็นด้วย "ถ้าพวกเราคนใดคนหนึ่งตาย ไม่มีใครสามารถไปร้านค้าแฟรี่ได้"
หลังจากฟังซินหยากับเมลติ้งสโนว์แล้วแล้วเว่ยก็ตระหนักว่าเหตุผลของพวกเขาฟังขึ้น ดูเหมือนว่าการรวมกลุ่มเป็นวิธีที่ดีที่สุด “นายพูดถูก งั้นเรามาเริ่มดูกันเลย”
"เดี๋ยวก่อน!" วอนเดอร์ริ่งซาวด์ได้ตะโกนขึ้นมา หยุดคนอื่น ๆ ที่กำลังเข้าไปในป่า “มีใครในพวกคุณบ้างที่รู้ว่าวงแหวนแฟรี่หน้าตาเป็นอย่างไร?”
ซินหยาถูหลังศีรษะอย่างเขินอาย เขาลืมเรื่องนั้นไปซะสนิทเลย เขาอายเล็กน้อยที่ไม่ได้ถามก่อนหน้านี้ เขาจึงหันไปทางวอนเดอร์ริ่งซาวด์และมองอย่างสงสัย
เมื่อมองดูแววตาที่สับสนของคนในปาร์ตี้ วอนเดอร์ริ่งซาวด์ก็ถอนหายใจก่อนจะเริ่มอธิบายว่า “วงแหวนแฟรี่ คือ วงแหวนหรือส่วนโค้งของเห็ดที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ไม่ใช่เห็ดธรรมดา ๆ แต่เป็นเห็ดอะมานิตา มัสคาเรีย (Amanita muscaria) เป็นเห็ดสีแดงขนาดกลางมีจุดสีขาว โดยพื้นฐานแล้ว พวกมันดูเหมือนดึงมาจากหนังสืออลิซในแดนมหัศจรรย์โดยตรง”
“ผมไม่เคยอ่านหนังสือเล่มนั้น” เมลติ้งสโนว์บอกเขาด้วยรอยยิ้ม “แต่ผมแค่ต้องมองหาเห็ดสีแดงจุดสีขาวที่ดูแปลก ๆ ใช่มั้ย?”
“ใช่ ถ้าจะพูดให้ฟังง่าย ๆ ก็หาพวกเห็ดแบบนั้นแหละ” วอนเดอร์ริ่งซาวด์พึมพำและมองดูดริฟติ้งคลาวด์กับเมลติ้งสโนว์มุ่งหน้าเข้าไปในป่า
เว่ยหัวเราะให้กับชายหน้ามุ่ย จับมือดึงเขาเข้าไปในป่าตามคนอื่น ๆ ไป
...
ขณะที่ปาร์ตี้ของซินหยาหายเข้าไปในป่าบริมรี บลูมมิ่งฟลาวเวอร์ซึ่งอยู่ห่างจากพวกเขาราว ๆ 3 เมตร ก็พุ่งออกมาจากด้านหลังต้นไม้ เธอใช้ลายพรางของเธออีกครั้ง เธอมุ่งหน้าตามพวกเขา
เมื่อกลุ่มกลับมาอยู่ในสายตาของเธอแล้ว เธอก็เดินตามพวกเขาต่อไปจากระยะไกล เธอต้องการเข้าใกล้มากขึ้นเพื่อที่เธอจะได้ได้ยินสิ่งที่พวกเขากำลังพูดถึงแต่เนื่องจากทักษะการพรางตัวของเธอใช้เวลาเพียง 30 นาที เธอจึงไม่สามารถเสี่ยงได้
บลูมมิ่งฟลาวเวอร์อยากรู้ว่าทำไมไอดอลของเธอถึงมาที่นี่ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เห็นเลเวลของมอนสเตอร์ในป่านี้ เธอแค่คิดว่าพวกมันมาที่นี่เพื่อฟาร์มมอนเตอร์เอาค่าประสบการณ์
เธอเดาได้จากวิดีโอว่าเมลติ้งสโนว์เป็นผู้เล่นใหม่และนี่จะเป็นสถานที่ที่ดีสำหรับเขาที่จะได้รับค่าประสบการณ์ คิดว่าเธออาจมีโอกาสได้เห็นไอดอลของเธอต่อสู้แบบเรียลไทม์ทำให้เธอยิ้มกว้าง
ทันใดนั้นเธอก็มีความคิด เธอสามารถทบทวนแผนของเธอเพื่อที่พวกเขาจะได้พบกันเร็วขึ้น เธอคิดว่าเธอสามารถใช้แผนแบบเก่าในการรุกรานมอนสเตอร์และแสร้งทำเป็นว่าต้องการความช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม เธอตัดความคิดนั้นทิ้งไปหลังจากที่ได้รู้ว่ามันไร้สาระขนาดไหน
คงไม่มีใครเชื่อว่านักเวทย์เลเวล 55 ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 60 ของโลกอย่างเธอจะต้องมีคนมาช่วยเธอ เธอตัดสินใจที่จะยึดติดกับแผนแรกของเธอ
หลังจากติดตามกลุ่มต่อไปอีกครึ่งชั่วโมง บลูมมิ่งฟลาวเวอร์ก็ตระหนักว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ในป่าแห่งนี้เพื่อเพิ่มเลเวล สำหรับเธอ ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังมองหาอะไรบางอย่าง
เธออยากรู้จริง ๆ ว่าพวกเขากำลังมองหาอะไร เพราะเท่าที่เธอรู้ว่าไม่มีของหายากในที่นี้ บลูมมิ่งฟลาวเวอร์คิดอยู่ครู่หนึ่งและมองไปที่ดรายแอดที่มักจะอยู่กับเมลติ้งสโนว์ด้วยกันเสมอและก็นึกบางอย่างได้
เมื่อเธอเดินตามทั้งสองคนในหมู่บ้านมิสสโตน เธอได้ยินพวกเขาคุยกันเรื่องอาหารและเมลติ้งสโนว์กำลังขอให้ชายคนนั้นทำบางอย่างให้เขา นั่นต้องหมายความว่าเขามีทักษะในการทำอาหาร เมื่อรู้แบบนั้นบลูมมิ่งฟลาวเวอร์ก็ได้ข้อสรุปว่าพวกเขากำลังมองหาสิ่งที่กินได้
หลังจากได้ข้อสรุปดังกล่าว เธอยิ้มให้ตัวเองขณะคิดถึงทักษะการทำอาหาร ดูเหมือนว่าไอดอลของเธอเป็นนักชิมและทุกคนรู้ดีว่าวิธีที่ดีที่สุดในการเอาชนะใจผู้ชายคือการผ่านท้องของเขา
เมื่อนึกภาพที่เมลติ้งสโนว์กำลังกินอาหารของเธอ หน้าเธอก็แดงขึ้นมา เธอเริ่มวางแผนขณะที่เธอเดินตามพวกเขาต่อไปในป่า