925-926
5/8
Ep.925
“อาศัยเพียงเจ้าน่ะหรือ?”
จี้ชางจื่อแค่นเสียงเย็น ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม
อู๋หยาจื่อเป็นเพียงลูกไล่ที่เคยพ่ายแพ้แก่เขา ดังนั้นไม่เห็นอู๋หยาจื่ออยู่ในสายตา
สำหรับซูเฉินกับเยว่หลิงยังเด็กเกินไป ทั้งคู่จึงถูกมองข้าม
“มันก็จริงที่ข้าสังหารเจ้าไม่ได้ แต่เขา! เขาสามารถสังหารเจ้าได้ง่ายดายราวกับบี้มด”
อู๋หยาจื่อผายมือไปทางซูเฉิน กล่าวอย่างเฉยเมย
“เอ๋?”
จี้ชางจื่ออุทานเบาๆ ซูเฉินเป็นเพียงเผ่ามนุษย์ ทั้งยังดูเยาว์วัย ต่อให้มีพรสวรรค์แข็งแกร่งเพียงไหน แต่ระดับฐานฝึกตนก็ไม่น่าจะถึงขั้น 10 ถูกไหม?
หากไม่ถึงขั้น 10 แล้วเหตุใดอู๋หยาจื่อถึงกล่าววาจาใหญ่โตเช่นนี้?
อู๋หยาจื่อพูดต่อว่า “อย่าเห็นว่าเขาอายุยังน้อย เพราะชื่อเสียงของเขากึกก้องราวกับฟ้าร้อง เจ้าเองก็น่าจะเคยได้ยินมาเหมือนกัน”
ได้ยินอู๋หยาจื่อเอ่ยเช่นนี้ จู่ๆจี้ชางจื่อก็นึกขึ้นได้ว่ามีคนอยู่ผู้หนึ่งที่ตรงกับที่กล่าวมาพอดี เริ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “เขาคือซูเฉิน!”
มีข่าวลือว่าซูเฉินอายุเพียง 20 ปี หรืออาจจะน้อยกว่าก็ได้ แต่กำลังรบของเขากลับลึกล้ำจนมองไม่เห็นก้นบึ้ง มีผู้แข็งแกร่งนับไม่ถ้วนตกตายด้วยน้ำมือเขา กระทั่งตัวตนระดับเทวะหลายคนยังจบชีวิตลง
ผู้ฝึกตนขั้น 10 ทั้งสองข้างกายจี้ชางจื่อ พอได้ยินชื่อซูเฉิน ใบหน้าของพวกเขาซีดเผือด แววตาที่มองมาเต็มไปด้วยความสยดสยอง
พวกเขาย่อมเคยได้ยินชื่อของซูเฉินมาก่อน มีข่าวลือว่าซูเฉินนั้นโหดร้ายมาก ลงมือโดยปราศจากความปราณี ทุกคนที่ล่วงเกินเขาไม่มีใครพบจุดจบที่ดี
ซูเฉินปรากฏตัวที่นี่ เพราะเหตุใดกัน?
ใช่ว่าจะมาโจมตีพวกเขาหรือไม่?
ในใจของทั้งสองเริ่มเกิดความไม่สบายใจขึ้น
“เจ้าคือซูเฉินจริงๆน่ะหรือ?” จี้ชางจื่อจ้องซูเฉิมเขม็ง ลองเลียบเคียงถามดู
“ใช่” ซูเฉินพยักหน้าเล็กน้อย
จี้ชางจื่อสูดหายใจลึก ดวงตากลับกลอกไปมาคล้ายกำลังใช้ความคิด จากนั้นกล่าวว่า “ซูเฉิน พวกเราสองคนไม่มีความแค้นต่อกัน เจ้าต้องการอะไร?”
ตามข่าวลือ แม้ซูเฉินจะลงมืออย่างไร้ปราณี แต่ก็ยังปฏิบัติตามกฏ ตราบใดที่เป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่เคยทำให้เขาขุ่นเคือง ก็จะไม่ถูกสังหารตาย
ซึ่งจี้ชางจื่อกับซูเฉินไม่เคยพบกันมาก่อน เรื่องความแค้นไม่ต้องกล่าวถึง แล้วทำไมซูเฉินถึงมาอยู่ที่นี่?
“จุดประสงค์มีเพียงเรื่องเดียว” ซูเฉินเบ้ปาก เผยรอยยิ้มบาง “นั่นคือฆ่าแก!”
ฆ่าข้า?
สีหน้าของจี้ชางจื่อแปรเปลี่ยนไป ผู้ฝึกตนขั้น 10 ทั้งสองที่อยู่ข้างๆหัวใจเต้นแรงยิ่งกว่าเดิม
“บอกมาได้หรือไม่ทำไมเจ้าถึงอยากฆ่าข้า?” ใบหน้าของจี้ชางจื่อเปลี่ยนเป็นเย็นชา
ชื่อเสียงของผู้คนก็เหมือนร่มเงาของต้นไม้
ผลงานที่ผ่านมาของซูเฉิน ทำให้จี้ชางจื่อกระจ่างแจ้งแก่ใจ ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะซูเฉินบนแผ่นดินใหญ่
อย่างไรก็ตาม เขาไม่มีอะไรต้องกลัว แม้สู้ไม่ได้ แต่ก็ยังหลบหนีได้!
หากหนีออกไปจากมิติภายนอก ซูเฉินไม่สามารถทำอะไรเขาได้อย่างแน่นอน
อีกทั้งเขายังมั่นใจว่าจะสังหารซูเฉินในมิติภายนอกได้
กระนั้น หากไม่ใช่ทางเลือกสุดท้ายจริงๆ เขาไม่อยากสู้กับซูเฉินเลย
ดังนั้น เขาถึงได้อยากรู้ว่าทำไมซูเฉินถึงต้องการฆ่าเขา?
“นี่แกโง่หรือเปล่า? ไม่เห็นว่าฉันยืนอยู่กับตาแก่หรอ? แกล่วงเกินเหล่าอู๋ ฉะนั้นแน่นอนว่าฉันต้องฆ่าแก!” ซูเฉินหัวเราะหยัน
จี้ชางจื่อคือการดำรงอยู่ระดับเทวะ แต่กลับมองเรื่องนี้ไม่ออก โง่สิ้นดี!
“ที่แท้ก็เพื่ออู๋หยาจื่อ”
จี้ชางจื่อกัดฟันแน่น เอ่ยเสียงเย็น “ซูเฉิน อู๋หยาจื่อมอบผลประโยชน์อะไรให้กับเจ้า? ข้าสามารถเพิ่มเป็นสองเท่า!”
ในความคิดเขา ซูเฉินกับอู๋หยาจื่อร่วมมือกันครั้งนี้ คงเพราะมีการตกลงผลประโยชน์อย่างแน่นอน
เขายึดครองทวีปคนแคระมาหลายปี กว้านสมบัติดีๆมามากมาย สามารถมอบสิ่งเหล่านั้นเพื่อสร้างประทับใจแก่ซูเฉินได้อย่างแน่นอน
ซูเฉินส่ายหัว ยิ้มเหยียดหยาม
“เหล่าอู๋เป็นเพื่อนฉัน และคนชั่วอย่างแกไม่มีทางเป็นเพื่อนกับฉันได้ ดังนั้นแกต้องตาย!”
“เมื่อเป็นเช่นนั้น ก็แสดงให้ข้าดูหน่อยเถอะ ว่าเจ้าแกร่งเหมือนดังข่าวลือหรือไม่!”
จี้ชางจื่อแผดเสียงเย็น รังสีฆ่าฟันลุกฮือจากร่างเขา
6/8
Ep.926
เนื่องจากซูเฉินไม่ต้องการปล่อยเขาไป จี้ชางจื่อจึงไม่คิดนั่งรอความตายเช่นกัน และจะดีมากๆหากสามารถใช้โอกาสนี้สังหารซูเฉิน ถ้าสู้ไม่ได้ ก็ค่อยหลบหนีไป
“จัดให้ตามที่ขอ!”
ซูเฉินหรี่ตา กำหมัดชกออกไป
ระหว่านั้นเอง เงาหมัดทองคำนับร้อยผุดพรายขึ้นกลางอากาศ โถมกดจากเบื้องบนลงเหนือหัวจี้ชางจื่อ
“ก็แค่ทักษะกระจ้อยร่อย!” จี้ชางจื่อยิ้มเยาะ ทันใดนั้นเกราะสีม่วงปรากฏขึ้นบนร่างเขา ห่อมหุ้มเจ้าตัวไว้อย่างสมบูรณ์
ปั๊ก ปั๊ก ปั๊ก ..!
เงาหมัดทองคำทั้งร้อยกระหน่ำซัด ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องน่าสังเวชของทั้งสองคน
เห็นแค่เพียงผู้ฝึกตนขั้น 10 ทั้งสองของเผ่าคนแคระถูกทุบกลายเป็นกองเนื้อบด จบชีวิตตายคาที่
ส่วนจี้ชางจื่อ ร่างเขาเพียงสั่นไหวเล็กน้อย แต่ไม่ได้รับความเสียหายใดๆ
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า!” จี้ชางจื่อหัวเราะอย่างไม่สะทกสะท้าน “ซูเฉิน! เจ้ายังเหลือทักษะอะไรอีก? จงงัดมันออกมาใช้ให้หมด!”
เมื่อสามารถสกัดวิชาหมัดของซูเฉินได้ ความมั่นใจของจี้ชางจื่อเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก เกิดความรู้สึกว่าซูเฉินก็ไม่เท่าไหร่นี่นา
“เจ้าหมอนั่นชะตาขาดแล้ว” อู๋หยาจื่อยิ้มเยาะในใจ
เนื่องจากจี้ชางจื่อกล้ายั่วโมโหซูเฉิน ด้วยอุปนิสัยของฝ่ายหลังแล้ว จะต้องทำให้ฝ่ายแรกทุกทรมานอย่างแสนสาหัสก่อนตายแน่นอน
“แกพูดเองนะ” ซูเฉินกระชากเสียงเย็น จากนั้นเปิด [พื้นที่เลี้ยงสัตว์] และถุงเก็บของ เรียกเหล่าสัตว์เลี้ยงวิญญาณ และหุ่นเชิดทองคำออกมา
[หมัดดาวตก] เมื่อครู่ ทำไปเพื่อตรวจสอบพลังป้องกันของจี้ชางจื่อเท่านั้น
ส่วนเป้าหมายที่ปล่อยเหล่าสัตว์เลี้ยงวิญญาณออกมานั้นง่ายดายมาก นั่นเพราะคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งอย่างจี้ชางจื่อยากนักจะพบเจอ ดังนั้นเขาเลยอยากให้พวกมันประมือเพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ต่อสู้
รอจนเหล่าสัตว์เลี้ยงวิญญาณฝึกฝนจนหนำใจ ก็ยังไม่สายเกินไปที่จะสังหารจี้ชางจื่อ
เพราะอย่างไรเสีย ในเมืองเยว่กวง จี้ชางจื่อมิอาจติดปีกโผบิน หนีไปไหนได้
“สัตว์เลี้ยงวิญญาณระดับสูงหลายตน …” จี้ชางจื่ออ้าปากค้าง อึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนคำรามว่า “ซูเฉิน! ปล่อยสัตว์เลี้ยงวิญญาณให้รับมือกับข้ามันหมายความว่าอะไร? ถ้าเจ้ามีความสามารถพอ แน่จริงก็ลงมาสู้ด้วยตัวเอง!”
ซูเฉินไม่สนใจ โบกมือคราหนึ่ง ออกคำสั่ง
“ลงมือพร้อมกัน! อัดเขาให้หมอบ!”
ด้วงเขมือบทองคำและสัตว์เลี้ยงวิญญาณตนอื่นๆพุ่งไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่ง แต่ละตนล้วนอยากแสดงฝีมือ
“ซูเฉิน ข้าก็ต้องไปด้วยไหม?”
หุ่นเชิดทองคำเอ่ยถาม
ด้วงเขมือบทองคำ , ต้นหลิววัชระ และหงส์เพลิงล้วนเป็นยอดฝีมือในหมู่ผู้แข็งแกร่ง เต่าทรราช กับ [จอมเขมือบแห่งบรรพกาล ยุงวัชระ] ก็ไม่อ่อนแอเช่นกัน
การที่ทั้งหมดร่วมมือกันสู้กับคนๆเดียว นั่นมากพอแล้วที่จะบดขยี้อีกฝ่ายเป็นผุยผง
หุ่นเชิดทองคำรู้สึกว่า หากตนเข้าร่วม เกรงว่าคงไม่มีโอกาสแทรกแซง
“นายไม่จำเป็นต้องลงมือตอนนี้ แค่หาโอกาสเหมาะๆแล้วตีแรงๆซักสองสามทีก็พอแล้ว” ซูเฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“เข้าใจแล้ว”
หุ่นเชิดทองคำค่อยๆก้าวเข้าไป ซูเฉินต้องการจะสื่อว่าให้เขาลอบโจมตี เรื่องนี้เข้าใจได้ไม่ยาก
อีกด้านหนึ่ง เหล่าสัตว์เลี้ยงวิญญาณทั้งห้าได้ร่วมมือกันสู้จี้ชางจื่อ
แม้จี้ชางจื่อจะเป็นถึงระดับเทวะขั้น 2 แต่ความสามารถด้านการโจมตีมีจำกัด เอาจริงๆเทียบกับอู๋หยาจื่อยังไม่ได้ด้วยซ้ำ ที่ได้เปรียบเพราะมีเพียงเกราะเทวะเท่านั้น พลังป้องกันจึงสูงกว่าในระดับเดียวกันมาก
ภายใต้การรุมล้อมของสัตว์เลี้ยงวิญญาณทั้ง 5 ไม่นานจี้ชางจื่อก็ถูกอัดหมอบลงกับพื้น และโดนรุมกระหน่ำโจมตี ไม่มีโอกาสแม้จะได้ตอบโต้กลับ
“ซูเฉิน สัตว์เลี้ยงวิญญาณของเจ้าแข็งแกร่งขึ้นอีกแล้ว!” อู๋หยาจื่อถอนหายใจ
เฝ้ามองจี้ชางจื่อถูกทุบตี ไม่อาจอธิบายได้เลยว่าในหัวใจเขาโล่งโปร่งสบายแค่ไหน
“พวกมันทำได้ไม่เลวเลย” ซูเฉินหัวเราะ
สัตว์เลี้ยงวิญญาณทั้งห้า ทุกตนได้ดื่ม [โพชั่นกายภาพเลเวล 10 ] ลงไป ส่งผลให้ทั้งหมดก้าวขึ้นสู่ขั้น 10
เกรงว่าหากไม่ใช่ซูเฉิน คงไม่มีใครสามารถต้านทานการโจมตีของพวกมันได้