297 - ทำลายนิกายชิงเซี่ย
297 - ทำลายนิกายชิงเซี่ย
เย่ฟ่านไม่รีบร้อนเขาเดินไปข้างหน้าและสนทนากับชายชราจากนิกายชิงเซี่ยอย่างสบายๆ
“โจรที่อาละวาดในรัศมี 500 ลี้มีความเกี่ยวข้องกับนิกายนิกายชิงเซี่ย ตัวเจ้าเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่?” เย่ฟ่านถาม
“เจ้ารู้เรื่องนี้ด้วยเหรอ” ชายชราอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา
“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีอะไรต้องพูดแล้ว ถึงเวลาที่เจ้าจะต้องไปลงนรกเสียที” เย่ฟ่านกดมือไปข้างหน้าเบาๆ
"ปัง"
ชายชราไม่ได้หวาดกลัวแม้แต่น้อย อาวุธศักดิ์สิทธิ์ทั้งเจ็ดชิ้นของเขาปะทะกับฝ่ามือของเย่ฟ่านตรงๆ
อย่างไรก็ตาม อาวุธทั้งเจ็ดของเขากลับกลายเป็นฝุ่นละอองในทันที!
เขาตกใจมาก ญาณวิเศษดังกล่าวเขาไม่เคยได้ยินมาก่อนด้วยซ้ำอย่าว่าแต่เคยพบเจอเลย
“ในเมื่อเจ้าก็มีความผิดด้วยดังนั้นก็เดินทางซะเถอะ” เย่ฟ่านกดฝ่ามือของเขาออกไปอีกครั้ง มันกระแทกใส่ร่างกายของชายชราและทำให้เขากลายเป็นหมอกเลือดในทันที
ผู้ที่เฝ้าประตูภูเขาใบหน้าซีดขาว แม้แต่ผู้อาวุโสของนิกายก็ยังถูกชายหนุ่มคนนี้สังหารด้วยการเคลื่อนไหวเพียงสองครั้ง
ความแข็งแกร่งนี้ไม่ใช่ของมนุษย์อย่างแน่นอน มีเพียงเทพเท่านั้นที่ทำได้
เย่ฟ่านเพิกเฉยต่อพวกเขาและเดินหน้าต่อไป คนเหล่านั้นตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวก่อนจะหลบไปด้านข้าง
“เมื่อไหร่ข้าจะเข้าและออกจากตระกูลจี้ได้แบบนี้ รอก่อนเถอะเมื่อวันนั้นมาถึงข้าจะบดขยี้ตระกูลจี้และดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงให้กลายเป็นทะเลเลือด?” เย่ฟ่านสาบานอยู่ในใจ
ทันใดนั้นระฆังใหญ่ก็ถูกตีจากภายในส่วนลึกของนิกายชิงเซี่ย ผู้ฝึกตนนับร้อยปรากฏออกมาจากภูเขา ยอดฝีมือผู้หนึ่งพุ่งเข้ามาเหมือนรุ้งศักดิ์สิทธิ์และปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหน้าของเย่ฟ่าน
“พี่เย่ ......” หวังซู่รู้สึกประหม่าเล็กน้อย
“ไสหัวไปให้พ้น!?” ในทางกลับกันเอ้อหรงจื่อกลับคำรามด้วยความโกรธ
“เจ้าสามคนมาจากไหน?” คนรอบข้างก็คำรามด้วยความโกรธเช่นกัน
“พวกเราก็แค่เหยื่อคนหนึ่งที่โจรเฉินต้าเคยล่า” เย่ฟ่านกล่าวอย่างใจเย็น
“หรือว่าเจ้าคือคนที่ฆ่าเฉินต้า?” ด้านหลังชายชราที่มีเคราสีขาวสวมชุดนักพรตเดินเข้ามาด้วยความเย็นชา
“ผู้ฝึกตนจากแดนลับตำหนักเต๋า?” เย่ฟ่านเผยสีหน้าประหลาดใจ
“เฉินต้าเป็นลูกศิษย์ของข้า เจ้ากล้าดียังไงถึงฆ่าเขา ในตอนนี้เจ้ากล้าบุกมายังหน้าบ้านของข้าด้วย!” ชายชราผู้นี้มีกลิ่นอายของการฆ่า จากนั้นเขาหันไปรอบๆแล้วคำรามว่า
“ฆ่ามันซะ!”
รอบๆนั้นเงาของมนุษย์ล่องลอยเข้ามาอย่างรวดเร็ว นี่เป็นการลงมือจากยอดฝีมืออาณาจักรปรามิตาสิบคนพร้อมกัน
“พวกเจ้าสองลงจากเขาไป หากไม่ได้ยินเสียงเรียกหาของข้าห้ามขึ้นมาบนเขาอย่างเด็ดขาด!” เย่ฟ่านบอกหวังซู่และเล่ยป๋อให้ลงไปข้างล่างโดยที่เขาเตรียมจะเปิดฉากเข่นฆ่าครั้งใหญ่
เด็กหนุ่มทั้งสองไม่มีทางเลือกอื่น พวกเขามองหน้ากันอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะวิ่งลงเขาไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อทั้งสองจากไปแล้ว ในทันใดนั้นเย่ฟ่านก็เคลื่อนไหวราวกับมังกร ร่างกายของเขาเปล่งแสงรอบทิศทางในกระบวนท่าลับจากญาณวิเศษลึกลับดินแดนรกร้างตะวันออก
"ปัง"
แสงสีทองสาดส่องไปทั่วท้องฟ้า อาวุธศักดิ์สิทธิ์มากมายที่พุ่งเข้ามาถูกทำลายกลายเป็นฝุ่นผง
"อา ......"
เสียงกรีดร้องอันน่าสังเวชดังขึ้น ผู้คนนับสิบร่างกายแหลกสลายกลายเป็นเถ้าถ่านภายในเสี้ยวลมหายใจ
ฉากที่น่าตกใจนี้ทำให้ผู้ฝึกตนที่อยู่ห่างไกลอ้าปากค้าง ร่างกายของพวกเขาเย็นเยียบเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ
“เจ้า ...... ใช้ทักษะลับแบบไหน?”
ชายชราที่มีผมสีขาวไม่มีกลิ่นอายของเซียนอีกต่อไป ใบหน้าของเขาเผยให้เห็นถึงความหวาดกลัวและตอนนี้เขาถอยหลังกลับอย่างต่อเนื่อง
“ญาณวิเศษการฆ่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุด!” เย่ฟ่านยิ้มเบา ๆ ไม่จำเป็นต้องบอกเขาว่านี่คือเก้าญาณวิเศษลึกลับ
“ข้าเป็นผู้อาวุโสไท่ซ่างของนิกายนิกายชิงเซี่ย เจ้าต้องการเป็นศัตรูของนิกายชิงเซี่ยของข้าจริงๆหรือ?”
เขาส่งเสียงดังราวกับฟ้าร้องที่สั่นสะเทือน สิ่งที่เขาทำนั้นเป็นการส่งเสียงเรียกหาประมุขนิกายและผู้อาวุโสสูงสุดคนอื่น
เย่ฟ่านส่ายหัวและกล่าวว่า “มันไร้ประโยชน์ ไม่มีใครสามารถช่วยเจ้าได้ แม้ว่าพวกเขาจะมาพวกเขาก็แค่มาร่วมตายกับเจ้าเท่านั้น”
“ข้าเป็นผู้บ่มเพาะของตำหนักเต๋า เจ้าฆ่าข้าไม่ได้หากไม่จ่ายด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส!” เขากรีดร้องอย่างดุร้าย
“ไปพบกับศิษย์ที่ดีของเจ้าในนรกเถอะ”
เย่ฟ่านก้าวไปข้างหน้า เท้าของเขาให้กำเนิดจังหวะเต๋าและไล่ตามฝ่ายตรงข้ามอย่างสบายๆ
“เจ้า ...... รังแกกันเกินไปแล้ว!”
ผู้อาวุโสไท่ซ่างของนิกายนิกายชิงเซี่ยพ่นแก่นแท้โลหิตออกมา อาวุธศักดิ์สิทธิ์ทุกประเภทของเขาถูกยิงเข้าหาเย่ฟ่าน ในขณะเดียวกันเทพศักดิ์สิทธิ์ในชุดเกราะสีเขียวก็ปรากฏตัวขึ้น นี่คือเทพจากตำหนักเต๋าของเขา
เมื่อเห็นฉากนี้เหล่าศิษย์ของนิกายชิงเซี่ยก็โห่ร้องด้วยความยินดี
อย่างไรก็ตามพวกเขารีบหุบปากในเวลาอันรวดเร็ว
"ปัง"
มือของเย่ฟ่านดูเหมือนจะปลดปล่อยแสงสว่างที่คล้ายกับดวงอาทิตย์ออกมาเผาผลาญทุกอย่าง
ใช่แล้ว มันเป็นแสงสีทองที่มาจากดวงอาทิตย์อย่างชัดเจน แล้วตอนนี้มันทำลายอาวุธศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดของผู้ฝึกฝนอาณาจักรตำหนักเต๋าอย่างง่ายดาย!
เทพในชุดเกราะสีเขียวซึ่งเป็นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของผู้อาวุโสไท่ซ่างนิกายชิงเซี่ยกลายเป็นฝุ่นผงจากการโจมตีเพียงครั้งเดียว!
"อา ......"
ชายชรากรีดร้องอย่างน่าสังเวช หลังจากสูญเสียเทพที่เกิดจากตำหนักเต๋ามันทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสแทบจะไม่สามารถยืนอยู่ได้
ในตอนนี้เย่ฟ่านกระแทกดวงอาทิตย์ที่อยู่ในฝ่ามือออกไปและอีกาสีทองเก้าตัวก็พุ่งเข้าหาผู้อาวุโสไท่ซ่างจากนิกายชิงเซี่ย
"ม่ายย!"
ไม่ไกลออกไปลูกศิษย์ของนิกายชิงเซี่ยหลายคนถูกกดขี่โดยอำนาจสูงสุดนี้และต้องคุกเข่าลงด้วยความหวาดกลัว
อีกาทองคำสามขาเก้าตัวกลายเป็นแสงสีทองเก้าเส้นที่เผาผลาญบริเวณสนามรบให้กลายเป็นเถ้าถ่าน ในตอนที่แสงสีทองหายสาบสูญไปซากศพมากมายที่อยู่บนพื้นก็อันตรธานหายไปด้วย
บริเวณด้านหน้าภูเขาศิษย์นิกายชิงเซี่ยทุกคนตัวสั่นด้วยความกลัว ชายหนุ่มคนนี้คือราชาปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ ความหวาดกลัวที่ถูกสร้างขึ้นสามารถบดขยี้ความต้องการที่จะต่อสู้ของทุกคนให้แหลกละเอียดไปในพริบตา
ในทันใดนั้นรุ้งยาวหลายเส้นก็พุ่งเข้ามาในทิศทางนี้อย่างรวดเร็ว ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายชิงเซี่ย และผู้นำนิกายต่างก็ตื่นตระหนก แต่พวกเขามาไม่ทันเวลาแล้ว!
เงาวาบวับปรากฏขึ้น และร่างสิบร่างก็ร่อนลงพื้นทีละคน พวกเขาล้อมรอบเย่ฟ่านอยู่ตรงกลาง
“สิบผู้แข็งแกร่งตำหนักเต๋า ดูเหมือนวันนี้ข้าจะสะดุดตอเข้าให้แล้ว” เย่ฟ่านกล่าวอย่างสบายๆโดยไม่มีร่องรอยของความหวาดกลัวแม้แต่น้อย
“เจ้าหรือที่คิดจะขับไล่พวกเราแล้วตั้งนิกายที่นี่?”
หัวหน้านิกายของนิกายชิงเซี่ยมีผมสีดำ เครายาว ดวงตาของเขาสดใสราวกับดวงดาวที่อยู่บนฟ้า เขายังหนุ่มแน่นมีอายุเพียงสี่สิบปีและพลังโลหิตของเขามีรัศมีที่ทรงพลัง
“ข้ามีเจตนาอย่างนั้น ที่นี้มีภูเขาที่งดงามและน้ำใสถูกใจข้าอย่างยิ่ง หลังจากนี้ต้องรบกวนให้พวกเจ้าย้ายออกด้วย” เย่ฟ่านยืนอย่างสงบอยู่ที่ด้านหน้าของนิกาย
“อายุน้อยแค่นี้แต่กลับลงมือโหดเหี้ยมราวกับว่าไม่ใช่มนุษย์ นี่เป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะควรทำอย่างนั้นหรือ?” ผู้อาวุโสไท่ซ่างคนหนึ่งตำหนิอย่างเย็นชา
เย่ฟ่านหัวเราะเสียงดังและพูดว่า
“พวกเจ้ากล้าพูดเหตุผลเรื่องนี้กับข้า พวกเจ้าเป็นหัวหน้าของโจรเร่ร่อนที่อยู่แถบนี้ทั้งหมด ในเมื่อพวกเจ้าไม่ต้องการให้คนอื่นทำแบบนี้กับพวกเจ้า พวกเจ้าก็ไม่ควรเป็นโจรตั้งแต่แรก!”
“อย่ามาพูดไร้สาระใส่ร้ายพวกเรา!” ผู้อาวุโสไท่ซ่างอีกคนตำหนิ
เย่ฟ่านหัวเราะและเย็นชาและกล่าวว่า
“ข้ามาที่นี่แล้วไม่ว่าพวกเจ้าจะยอมรับหรือไม่พวกเจ้าทุกคนก็ต้องตาย”
“การพัฒนานิกายต้องใช้กลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง ไม่เช่นนั้นนิกายจะเติบโตได้ยาก เรื่องนี้เด็กน้อยเช่นเจ้าย่อมไม่เข้าใจ” ประมุขของนิกายชิงเซี่ยกล่าวด้วยเสียงที่ลึกล้ำ
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ......” เย่ฟ่านหัวเราะเสียงดัง “ช่างเป็นเหตุผลที่ยอดเยี่ยมและชอบธรรมจริงๆ”