ตอนที่แล้วตอนที่ 27 อึ้งกันไปทั้งงาน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 29 ขอให้คุณมีแต่ความสุข

ตอนที่ 28 คุณย่าขอลงไปนอนอีกครั้ง


คุณย่ารู้สึกประหลาดใจ “หรือว่าของขวัญชิ้นที่สี่จะมีค่ามากกว่าของขวัญชิ้นก่อนหน้า?”

ไม่ใช่แค่คุณย่าที่ประหลาดใจ แม้แต่คนอื่นๆที่เข้าร่วมงานเลี้ยงยังแอบเงี่ยหูฟัง

บอกว่าได้เลยว่าคืนนี้มันน่าตื่นเต้นจริงๆ เพียงแค่ครึ่งชั่วโมงก็มีเรื่องขึ้นๆลงๆบ่อยครั้ง ด้วยความคิดที่มีอย่างจำกัด พวกเขาจึงคิดว่าไม่น่ามีอะไรล้ำค่ามากกว่าลูกท้อทองคำแล้ว...

หรือจะเป็นภูเขาเพรช...

อันนั้นมันน่าจะเกินไปหน่อย...

ตอนนี้หน้าของเย่เทียนเต็มไปด้วยภูมิใจ “ถึงของขวัญชิ้นที่สี่จะมีค่าไม่มากเท่าลูกท้อทองคำ แต่มันก็มีประโยชน์ได้ที่ใช้เช่นเดียวกัน! หลังจากคิดอยู่นานผมเลยซื้อมัน แน่นอนว่าคุณย่าต้องชอบแน่!”

คุณย่าคุณย่าอดไม่ได้ที่จะพูด “เอาให้ย่าดูหน่อยซิเสี่ยวเทียน”

“ได้ครับ!”

เย่เทียนวิ่งเหยาะกลับไปตรงที่นั่งคุณย่าและเริ่มหาของที่อยู่ข้างนมผง ไม่นานนักเขาก็หยิบสมุดเล่มเล็กออกมาแล้วยื่นให้คุณย่า “นี่ไงครับ!”

เมื่อคุณย่าหยิบหนังสือเล่มเล็กขึ้นมาดูใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปครู่หนึ่ง และด้วยระยะอันใกล้นี้ทำหน้าของเซียวหรงเปลี่ยนไปอย่างมาก เธอร้องไห้และล้มตัวลงต่อหน้าคุณย่า เธอคุกเข่าขอโทษเป็นครั้งที่สองและพูดด้วยเสียงที่แหบกร้าน “คุณย่าคะ เย่เทียนมันไม่ค่อยรู้เรื่อง! โปรดยกโทษให้เขาด้วย!”

คนกลุ่มนั้นงงเล็กน้อย นั่นมันสมุดอะไร?

มีใครบางคนก้มหัวลงไปดู เมื่อพวกเขาเห็นสิ่งที่เขียนบนปกสมุดพวกเขาก็โกรธจัดและใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีเขียว พวกเขาหันหน้าขึ้นมาด่าเย่เทียน “เย่เทียน! ไอ้เดรัจฉาน! แกกล้าดียังไงถึงเอาของแบบนี้ให้คุณย่า แกอยากตายมากใช่ไหม!”

“เย่เทียน! แกจะรังแกตระกูลเซียวของฉันหรือไง?! แกคิดว่าพวกเราไม่กล้าทำอะไรแกงั้นเหรอ?!”

“ไอ้บัดซบ! สารเลว! มาให้ฉันกระทืบแกซะ!”

เย่เทียนที่ได้รับความเคารพนับถือในวินาทีที่แล้ว กลายเป็นหนูข้างถนนที่ทุกคนต่างด่าและอยากทุบตีทันที

อย่างไรก็ตาม เย่เทียนเองก็ไม่ได้สนใจเลยสักนิด เขามองไปที่ตาของคุณย่าที่กำลังปหระหลาดใจอยู่

คุณย่ายกมือขึ้นเพื่อส่งสัญญาณให้เงียบ เธออดไม่ได้ที่จะพูดด้วยน้ำเสียงแปลกๆ “นี่เป็นของขวัญชิ้นที่สี่ที่เธอต้องการให้ฉันเหรอ? เธอแน่ใจแล้วใช่ไหม?”

เย่เทียนพยักหน้า “ใช่แล้วครับ นั่นคือสุสานที่มีฮวงจุ้ยที่ดีที่สุดในไห่จิงหรือที่รู้จักกันในชื่อสุสานจักรพรรดิ์ ถ้ำฮวงจุ้ยนี้ผมใช้เงินมากกว่ายี่สิบล้านเพื่อได้มันมา”

ใช่แล้ว

ของขวัญชิ้นที่สี่ของเย่เทียนคือสุสาน!!

เย่เทียนพูดต่อ “ปีนี้คุณย่าอายุ 90 ปีแล้ว แม้ว่าคุณย่าจะแข็งแรงดีแต่คุณย่าก็คงอยู่ได้อีกสิบกว่าปีเท่านั้น การเตรียมสุสานไว้ล่วงหน้าไม่ใช่เรื่องรีบร้อนอะไรเลย ผมบอกตามตรงเลยนะผมเองก็เข้าไปดูที่ตรงนั้นมาแล้วถ้าไม่ติดว่าที่ตรงนั้นมีแค่ที่เดียวในไห่จิงผมคงซื้อไว้ให้ตัวเองด้วยแน่ แถมตรงนั้นยังวิวดีด้วย! และยังมีสวนที่เขียวขจีอีก! เรียกได้ว่าเป็นสวนแห่งชีวิตเลยทีเดียว!

“ไอ้เ*ยเอ้ย! หุบปากไปเลย!”

“เย่เทียน! แกบ้าไปแล้วหรือไง ฉันจะฉีกปากของแกทิ้งซะ!”

“แกมันบ้าไปแล้ว”

คนในตระกูลเซียวต่างเริ่มคลุ้มคลั่ง

ในโลกนี้มันจะมีไอ้บ้าที่ไหนส่งสุสานให้ในงานวันเกิดบ้าง?!

มันจะมีก็อยู่แต่ในละครไม่ใช่หรือไง?!

อย่างไรก็ตาม!

สิ่งที่ทุกคนไม่คาดฝันก็ได้เกิดขึ้น

คุณย่าไม่ได้โกรธเท่าที่เธอคิดไว้แต่มีรอยยิ้มที่บิดเบี้ยวแทน เธอมองไปที่ตาที่จริงใจของเย่เทียน “เสี่ยวเทียนหมายความแบบนั้นจริงๆ ของขวัญวันเกิดชิ้นที่สี่เป็นของที่มีประโยชน์มากที่สุดจริงๆ”

เย่เทียนพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า “เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นธรรมชาติของมนาย์ที่ไม่มีใครหนีได้ แน่นอนว่าผมหวังว่าคุณย่าจะมีอายุถึง 120 ปี แต่เตรียมล่วงหน้าไว้มันก็ไม่ได้เสียหายอะไรจริงไหม?”

“ใช่แล้ว...” คุณย่าพยักหน้าและยกยิ้มที่มุมปาก ทำให้เซียวหรงที่กำลังกลัวหน้าซีดกว่าเดิม “สาวน้อยเธอยังไม่เลิกแสดงอีก เจ้าเล่ห์จริงๆเลยนะเรา พวกเธอคู่สามีภรรยามีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า ทำไมคนหนึ่งร้องไห้จนหน้าซีดแล้วอีกคนทำหน้าบึ้งตึง?”

“หนู..หนู..” เซียวหรงพูดไม่ออกและก็ไม่ได้พูดอะไรเลย

คุณย่าคะ!

หนูเป็นคนไร้เดียงสา!

หนูไม่รู้อะไรเลย!

ความโกรธของทุกคนได้หายไปอย่างรวดเร็ว

ทำไมอยู่ๆถึงหายโกรธ? ขนาดคุณย่ายังไม่โกรธแล้วพวกเขาจะมีสิทธิ์โกรธได้ยังไง?

เย่เทียนจับแขนคุณย่าแล้วพูดด้วยความตื่นเต้น “คุณย่าครับ นอกจากสุสานแล้วผมยังซื้ออนุสรณ์ไห่ซานให้ด้วย ถึงมันจะไม่ดีเท่าของซือซ่งจี้แต่มันก็ทำจากไม้หนานมู่เนื้อทองพันปี ข้อผิดพลาดอย่างเดียวคือคุณย่าสูงไปหน่อย เมื่อถึงเวลาฝังแล้วคงต้องตัดขาทิ้งไม่งั้นคงไม่พอดี”

เฮือก!

เฮือก!

เฮือก!

เมื่อเผชิญหน้ากับคำพูดที่ทำให้หัวใจวายได้ของเย่เทียน ทุกคนต่างอ้าปากค้างและตัวสั่นด้วยความตกใจ

เซียวหรงเริ่มร้องไห้อีกครั้ง

ปากของคุณย่าเปิดเป็นรูปตัว O อีกครั้ง "เธอ...ทำไมเธอต่องตัดขาฉันออกด้วย?”

“เพราะคุณย่าสูงเกินไปน่ะสิ ถ้าให้คุณย่านอนขดตัวมันน่าจะอึดอัดเกินไป เอ่อ...”

หลังพูดจบ

กลุ่มชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งก็เดินเข้ามา พวกเขาแบกกล่องสี่เหลี่ยมที่คลุมด้วยผ้าสีแดงซึ่งหมายถึงการเฉลิมฉลองแต่ว่านั่นคือ...โลงศพ!

“คุณเย่เทียน นี่คือโลงศพที่คุณสั่งซื้อครับ”

หัวหน้าอนุสรณ์ไห่ซานยิ้ม

ทุกคนต่างถอยห่างโดยอัตโนมัติ

ทันทีที่คุณย่ามาถึงโรงศพและดึงผ้าคลุมสีแดงออก เธอก็ถึงกับสติล่องลอยไปครู่หนึ่ง...

โลงศพนี้...

สวยจัง...

“ว้าว! โลงศพไม้หนานมู่เนื้อทอง?” ผู้อาวุโสทั้งสามที่อยู่ในวางการวัตถุโบราณต่างถือแว่นขยายเข้ามาดูโลงศพด้วยความสงสัย พวกเขาอุทานขึ้นว่า “ไม้ทั้งกระดานนี้ทำมาจากไม้หนานมู่เนื้อทองทั้งอัน แบบนี้คงมีราคาไม่ต่ำกว่าสามสิบถึงห้าสิบล้านแน่”

ผู้อาวุโสถู “ใช่ โลงศพโลงนี้เป็นงานศิลปะชัดๆ ในโลกนี้คงมีไม่เกินสิบโลง!”

ผู้อาวุโสเมี่ยว “พวกคุณทุกคนรู้สึกแปลกๆกันบ้างไหม??”

ผู้อาวุโสหง “คงเป็นอย่างนั้น ฉันอยากตายขึ้นมาซะแล้วสิ ฉันขอตายก่อนพี่สาวได้ไหมเนี่ย...”

คุณย่ารู้สึกไม่สบายใจทันที เธอขัดจังหวะชายชราทั้งสาม “อย่าทำแบบนั้นสิ พวกนายคิดจะแย่งโลงศพไปจากหญิงชราคนนี้หรือไง? นี่เป็นของขวัญจากเสี่ยวเทียนนะ ฉันขอนอนดูหน่อยแล้วกัน”

“เฮ้ย!”

“อย่าทำแบบนั้นนะคุณย่า!”

“คุณย่าอย่าทำแบบนั้น ไม่อย่างนั้นจะโชคร้ายเอานะ!”

“ใครก็ได้ไปหยุดคุณย่าเร็ว!”

ตระกูลเซียวเริ่มคลั่งและรีบไปหยุดเธอ

“เงียบให้หมด!”

คุณย่าพูดด้วยเสียงตะคอก “จะเอะอะกันทำไม! อีกไม่นานฉันก็ได้ใช้มันอยู่แล้ว ถ้าเอามาลองก่อนแล้วมันจะเป็นอะไร? อายุฉันปาเข้าไปเท่าไหร่แล้ว คิดว่าฉันยังห่วงเรื่องบรรดาศักดิ์อีกหรือไง! หลบไป! ถ้าฉันไม่ได้ลงไปนอนวันนี้ฉันจะไล่พวกแกออกจากตระกูล”

นอกเหนือจากคุณย่า ชายชราที่มีอายุมากเป็นอันดับสองในกลุ่มผู้สูงอายุก็ยิ้มอย่างข่มขื่นและเดินถอยไป

เย่เทียนช่วยพยุงคุณย่านอนลงในโลงศพ...

ในโลงศพ

คุณย่าหลับตานอนอยู่เป็นเวลานาน

“คุณย่าหลับสบายดีไหมครับ?”

เย่เทียนที่พิงอยู่ข้างโรงศพถามด้วยรอยยิ้ม

คุณย่าลืมตาและยิ้มอย่างสดใส “สบายมาก ฉันอยากนอนเฉยๆอยู่แบบนี้แล้วตายไปเลย...”

ตอนนี้คนทั้งตระกูลเซียวต่างพูดว่า บ้ากันไปใหญ่แล้ว!

เย่เทียนหัวเราะ “ไม่ต้องรีบหรอกครับ คุณย่ายังอยู่ได้อีกสิบยี่สิบปี หลังจากนั้นคุณย่าค่อยมาเพลิดเพลินกับมันทีหลังก็ได้”

หลังจากนั้นไม่นาน คุณย่าก็ถูกเย่เทียนพยุงขึ้นมาจากโลงศพท่ามกลางสายตาที่กำลังหวาดกลัวของผู้คน หญิงชราตบที่โรงศพแล้วพูดขึ้น “ฉันขอนอนในนี้อีกรอบได้ไหม?”

“ไม่ได้!”

“ยกโทษให้พวกเราด้วยคุณย่า!”

“เย่เทียน นายรีบพาคุณย่าออกมาเร็ว!”

รอบด้านเริ่มวุ่นวายอีกครั้ง

ที่ประทูทางเข้าได้มีเสียงครึกครื้นดังเข้ามา

แต่ละคนก็เริ่มอุทานขึ้น

“มาอีกแล้ว...คราวนี้มีอะไรอีกล่ะ?”

ผู้คนต่างหันไปมองด้วยความแปลกใจ และเมื่อเห็นแขกที่มาก็ต้องตกใจอีกครั้ง...