919-920
9/10
Ep.919
อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ซูเฉินไม่เคยคาดคิดมาก่อนก็คือ เวลานี้หานคุนและคนที่เหลือ อาศัยอยู่ในลานเล็กๆ สภาพแวดล้อมเงียบสงบ ไม่มีแม้แต่ยามเฝ้า ถือว่าใช้ชีวิตสะดวกสบายมาก ไม่เหมือนคนถูกจับเลย คล้ายกำลังพักผ่อนวันหยุดมากกว่า
สถานนี้มันอะไรกันแน่?
ซูเฉินรู้สึกงงงวย หลังจากครุ่นคิดครู่หนึ่ง เขาก็กล่าวว่า “เสี่ยวจือ ค้นหาตำแหน่งของผู้แข็งแกร่งที่สุดในที่นี้”
หน้าจอควบคุมส่วนกลางสลับสับเปลี่ยนภาพ ซูมมาถึงยอดเขาใหญ่
บนยอดเขา มีกระท่อมไม้เรียบง่ายตั้งตระหง่าน และมีชายชราสวมชุดหนังสัตว์นั่งอยู่ข้างใน กำลังดื่มชาอย่างสบายอารมณ์
หลังจากสัตว์อสูรยกระดับขึ้นถึงขั้น 10 พวกมันจะสามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้
ชายชราผู้นี้ ย่อมเป็นทุนเถียนอย่างไม่ต้องสงสัย
ซูเฉินเพ่งมองก่อนถอนสายตาออก และสั่ง [รถศึกอัจฉริยะ] ว่า “เสี่ยวจือ ไปหาหานคุนกับคนอื่นๆก่อน”
“รับทราบ” [รถศึกอัจฉริยะ] เปิดฟังก์ชั่นการบิน ไม่นานก็ลอยมาถึงลานเล็กๆที่พวกหานคุนอยู่
หานคุนและอีกสามคนเคยเห็น [รถศึกอัจฉริยะ] มาก่อนก็จริง แต่รถศึกในรูปแบบยานบิน นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นมัน
เมื่อไม่ทราบว่าผู้มาเยือนคือใคร ทั้งหมดคล้ายเกิดอาการตื่นตระหนกเล็กน้อย
ซูเฉินเปิดประตูรถ ใบหน้าเปื้อนยิ้ม ก้าวลงมาบนลานเล็ก
“ซูเฉิน …”
เมื่อเห็นว่าผู้มาเยือนคือซูเฉิน พวกหานคุนตกใจจนอธิบายไม่ถูก
“ซูเฉิน นายเจอที่นี่ได้ยังไง?”
หานคุนวิ่งเหยาะๆไปหาซูเฉิน การแสดงออกบนใบหน้าเขาค่อนข้างซับซ้อน
ซูเฉินจู่ๆก็ปรากฏตัวที่นี่ ย่อมไม่ใช่บังเอิญอย่างผ่านทางมาแน่นอน แต่คงมาเพื่อช่วยพวกเขาโดยเฉพาะ เรื่องนี้ทำให้ทั้งหมดรู้สึกประทับใจมาก
เพราะท้ายที่สุดแล้ว สถานที่แห่งนี้คือทวีปอสูร มีกระทั่งอสูรระดับเทวะอยู่ใกล้ๆ
การที่ซูเฉินบุกเข้ามา หากโดนจับได้คงมิแคล้วถูกกุดหัวอย่างแน่นอน
“ผมบังเอิญรู้สถานการณ์ของพวกคุณจากหลิวหยวน” ซูเฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ซูเฉิน นายควรรีบหนีไปจากที่นี่ ถ้ายังมัวชักช้าอาจเกิดอันตราย!” หานคุนกัดฟันกล่าว
ปีสองปีมานี้ ซูเฉินได้ก่อลมฝนไปทั่วทวีปมนุษย์และทวีปต่างเผ่า แต่พวกเขาไม่ทราบเรื่องนี้เลย นั่นเป็นเหตุผลที่ว่า กรอบความเข้าใจเรื่องความแข็งแกร่งของซูเฉิน ยังคงติดอยู่แค่การพบเจอกันครั้งก่อน
ในเวลานั้นซูเฉินมีฐานฝึกตนอยู่แค่ขั้น 4 แม้จะผ่านมาปีกว่า แต่อย่างมากสุดน่าจะเพิ่มขึ้นถึงแค่ขั้น 6 ถูกไหม?
แล้วขั้น 6 จะสามารถต่อกรกับสัตว์อสูรระดับเทวะได้อย่างไร? เกรงว่าแค่ถูกมองหน้าครั้งเดียวคงระเบิดเละเป็นเศษเนื้อ
หนีไปงั้นหรอ?
ซูเฉินหัวเราะอย่างว่างเปล่า เขารู้ว่าหานคุนกำลังคิดอะไรอยู่ กล่าวเสียงเรียบว่า “ทุนเถียนของเผ่าอสูรจับพวกคุณมาที่นี่ ถ้ามันไม่มีคำอธิบายใดๆให้ผมฟัง ผมก็ไม่รังเกียจที่จะกวาดล้างเผ่าอสูรให้สิ้นซาก!”
กวาดล้างเผ่าอสูร?
หานคุนอ้าปากค้าง สีหน้าท่าทีของเขากลายเป็นแข็งทื่อ
หานเฟิงและคนอื่นๆก้าวออกมา เมื่อได้ยินประโยคนี้ ทั้งหมดตกตะลึงเป็นไก่ตาย
ซูเฉินคิดกวาดล้างเผ่าอสูร นี่คือสิ่งที่พวกเขาไม่นึกฝันมาก่อน และเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยจินตนาการถึงเช่นกัน
“ซูเฉิน ที่นายไม่ได้ล้อฉันเล่นใช่ไหม?” หานคุนได้สติกลับมา เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
หากคิดกำจัดเผ่าอสูร ก่อนอื่นต้องฝ่าด่านอสูรระดับเทวะ แล้วซูเฉินจะทำได้หรอ?
ขนาดใช้นิ้วเท้าคิดยังเป็นไปไม่ได้เลย เพราะท้ายที่สุดแล้วซูเฉินยังเด็กเกินไป แม้พรสวรรค์โดดเด่น แต่ย่อมไม่มีทางกระโดดไปถึงระดับเทวะ แล้วเขาจะรับมืออสูรระดับเทวะได้อย่างไร?
“กวาดล้างเผ่าอสูร จริงๆแล้วไม่ใช่เรื่องยากสำหรับผม” ซูเฉินกล่าวอย่างจริงจัง
นี่ไม่ใช่การโอ้อวดขี้โม้แม้แต่น้อย ด้วยกำลังรบในปัจจุบันของเขา และผู้ช่วยอีกมากมาย หากคิดกวาดล้างเผ่าอสูรจริงๆ ไม่มีใครสามารถหยุดได้
“…”
หานคุนจ้องมองซูเฉินอย่างเหม่อลอย ผ่านไปนานมิอาจเกิดคำใด
ในความทรงจำของเขา ซูเฉินไม่ใช่คนชอบคุยโม้โอ้อวด!
–แล้วทำไม จู่ๆถึงกล่าววาจาเลอะเทอะเช่นนี้ไปได้?
10/10
Ep.920
แต่ในเวลานั้นเอง ปรากฏร่างหนึ่งพุ่งเป็นเส้นสายมาจากระยะไกล
แม้ตัวยังไม่ถึง แต่แรงกดดันมหาศาลโหมกระหน่ำมาก่อนแล้ว
“ระดับเทวะเผ่าอสูรมาแล้ว!”
พวกหานคุนสีหน้าแปรเปลี่ยนไป มีเพียงซูเฉินที่ยังคงสงบ
เขาตระหนักดี ว่าผู้มาเยือนคือทุนเถียนอย่างไม่ต้องสงสัย เดิมเขาตั้งใจจะสร้างปัญหาบังคับให้ทุนเถียนปรากฏตัว แต่เมื่ออีกฝ่ายมาที่นี่ด้วยตัวเอง นั่นช่วยประหยัดเวลาได้มาก
ไม่นาน ชายชราสวมชุดหนังสัตว์ก็มาถึง เมื่อเห็นใบหน้าของซูเฉิน เปลือกตาเขากระตุกขึ้นทันใด เรียกคืนแรงกดดัน ถามหยั่งเชิงว่า “mjkoผู้มาเยือนคือซูเฉินใช่หรือไม่?”
“ถูกต้อง” ซูเฉินกล่าวอย่างเฉยเมย มองจากท่าทางของเขาแล้ว คล้ายไม่เห็นอีกฝ่ายอยู่ในสายตา
ชายชราชุดหนังสัตว์เผยอปาก ก่อนปรากฏรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้าเขา “ข้าได้ยินมานานแล้วว่าน้องซูหล่อเหลาสง่างาม วันนี้ได้เห็นตัวจริง ช่างสมคำร่ำลือ!” ชายชราทุนเถียนกล่าว “ยินดีที่ได้รู้จักน้องซู”
การแสดงออกของทุนเถียนดูนอบน้อมมาก ในคำพูดยังแฝงความหมายประจบสอพลอเล็กน้อย
หานคุนและคนอื่นๆตะลึงลาน ใครจะนึกฝันว่าระดับเทวะกลับเป็นฝ่ายยอมก้มหัวให้ซูเฉิน ทั้งยังดูเหมือนว่าจะมีท่าทางหวาดกลัวซูเฉินเป็นอย่างมาก
ซูเฉินอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนยิ้มเยาะและกล่าวว่า “ฉันกับแกไปรู้จักกันตั้งแต่เมื่อไหร่ อย่ามาทำตีสนิท!”
ตอนนี้เขายังไม่เข้าใจว่าในน้ำเต้าของทุนเถียนมีอะไรผสมอยู่ข้างในกันแน่ เพราะตามหลักเหตุผลแล้ว เขาสังหารเผ่าอสูรไปนับไม่ถ้วน แต่ทุนเถียนกลับไม่ลงมือ แถมยังใช้ทัศนคติแบบนี้ มันไม่ถูกต้องกระมัง?
ถูกซูเฉินตำหนิ ทุนเถียนไม่เพียงไม่โกรธ แต่กลับยิ้มเจื่อนแทน “น้องซูสั่งสอนได้ถูกต้องแล้ว เป็นข้าเองที่วู่วามเกินไป”
“อ๊าาาา!”
หานคุนและคนอื่นๆตกตะลึงอย่างสิ้นเชิง ทุนเถียนถูกตำหนิ แต่กลับเป็นฝ่ายเอ่ยปากขอโทษซูเฉินก่อน ระดับเทวะเผ่าอสูรนอบน้อมถึงเพียงนี้เชียวหรือ?
“เหล่าทุน แกน่าจะรู้จุดประสงค์ที่ฉันมาที่นี่ใช่ไหม?” ซูเฉินกล่าวอย่างไม่แยแส
ซูเฉินจะไม่ทุบตีคนที่หยิบยื่นรอยยิ้มให้ ทุนเถียนนับว่ามีไหวพริบมาก แต่อย่างไรก็ยังไม่วางใจอยู่ดี
“ข้ารู้” ทุนเถียนพยักหน้า ชี้ไปทางพวกหานคุน “เจ้าคงมาเพราะพวกเขา”
“ทั้งสี่คนเป็นสหายของฉัน แต่แกจับตัวพวกเขามา ไหนลองว่ามาสิ ว่าฉันควรจัดการเรื่องนี้ยังไง?”
ซูเฉินหรี่ตาลง ในแววตาทอประกายเย็นวูบ เอ่ยเสียงเย็นลงกว่าเดิม
ทุนเถียนกลืนน้ำลาย รีบตอบกลับ “ด้วยมโนธรรมแห่งฟ้าดิน เราผู้เฒ่าพาพวกเขามาที่นี่ ทั้งหมดก็เพื่อความปลอดภัยของพวกเขาเอง!
“เอ๋?”
ซูเฉินเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย คำตอบนี้ของทุนเถียน มันเหนือความคาดหมายของเขา
ทุนเถียนอธิบายต่อว่า “ในวันนั้น ขุมกำลังต่างๆได้บุกเข้าไปในเกาะเฉียนหยู สังหารหมู่เผ่าพันธุ์มนุษย์อย่างไร้ปราณี หากข้าไม่ฉวยโอกาสนี้ซื้อตัวพวกเขา พวกเขาคงตายบนเกาะเฉียนหยูไปแล้ว”
“หมายความว่าฉันต้องขอบคุณแกงั้นสิ?” ซูเฉินหัวเราะเบาๆ
“มิกล้า!” ทุนเถียนตอบกลับด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“รีบบอกจุดประสงค์ของแกมา” ซูเฉินกล่าวเสียงเย็น เขากับเผ่าอสูรไม่ได้เป็นมิตรกัน ทั้งยังมีบุญคุณความแค้นส่วนตัว แล้วเหตุใดทุนเถียนถึงช่วยเขา? นี่ต้องมีจุดประสงค์แอบแฝงแน่นอน
ทุนเถียนกล่าวตามความจริง “เผ่าอสูรของเราเคยล่วงเกินเจ้ามาก่อน จุดประสงค์หลักขอข้าคืออยากชดใช้ความผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้น อ้อนวอนให้เจ้าให้อภัย”
ชื่อเสียงของซูเฉินได้แพร่กระจายไปทั่วทุกเผ่าพันธุ์แล้ว ว่ามักกระทำการโดยปราศจากความปราณี ทุกการเคลื่อนไหวคือการฆ่าและทำลายล้างพวกต่างเผ่า
และบนแผ่นดินใหญ่ แทบไม่มีใครสามารถกำราบซูเฉินได้
หากกลัวว่าซูเฉินจะมาแก้แค้น มีเพียงทางเดียวคือต้องทำให้ซูเฉินพึงพอใจเท่านั้น
เมื่อพวกหานคุนได้ยินคำพูดนี้ หัวใจของทั้งสี่สั่นสะท้าน ณ ขณะนี้ พวกเขาตระหนักแล้ว ว่าซูเฉินน่าจะแข็งแกร่งมาก แกร่งซะจนแม้แต่ระดับเทวะเผ่าอสูรยังต้องยอมก้มหัวให้
“หรือว่าซูเฉินจะขึ้นเป็นระดับเทวะแล้ว?”
คิดได้แบบนี้ หานคุนสูดหายใจลึก