915-916
5/10
Ep.915
“ด้วยความยินดี!”
ซูเฉินกระชากเสียงเย็น ขยับเท้าวูบ ทั้งคนทั้งร่างดั่งเส้นแสงดวงดารา พุ่งเป็นเส้นตรงเข้าหาหวูโหยว
หินต้นกำเนิดพลังงานเหล่านั้นต้องตกอยู่ในมือเขา! หากหวูโหยวไม่มีสมอง ก็มีแต่ต้องลงมือเท่านั้น
เห็นความว่องไวของซูเฉิน หวูโหยวเบิกตากว้าง หยิบกระดิ่งทองคำเล็กๆออกมาอย่างไม่ลังเล จากนั้นโยนมันขึ้นไปในอากาศ
เห็นแค่เพียงแสงสีทองร่ายระบำเบื้องบน ก่อนขยายขนาดเป็นหลายจั้ง กางลงปกคลุมหวูโหยวเอาไว้ภายใน
ซูเฉินไม่คิดมากความ ยังคงพุ่งไปข้างหน้า ซัดกำปั้นทองคำกระทั้นเข้าใส่ระฆังทอง
ตูมมมม!
บังเกิดเสียงดังสนั่น ระฆังทองขนาดใหญ่ไม่ขยับเขยื้อน ไร้ซึ่งความเสียหายใดๆ
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า …” เสียงหัวเราะของหวูโหยวดังออกมาจากภายในระฆังทอง
“ซูเฉิน ระฆังจักรพรรดิทองคำของข้าคือสิ่งประดิษฐ์เทวะสายป้องกันชั้นเลิศ ต่อให้เจ้ามีกลวิธีเทียมฟ้า ก็อย่าหมายทะลวงการป้องกันของมันได้ ตอนนี้เจ้ายังอยากจะเอาชนะข้าอีกไหม?”
ได้ยินแบบนั้น ฉีมู่เฟิงตะลึงงัน
ยอดฝีมือขั้น 3 ระดับเทวะเมื่อต่อสู้ตัวต่อตัวกับซูเฉิน จู่ๆกลับเลือกที่จะเป็นเต่าหัวหด ไม่กล้าแม้จะยอมปะทะตรงๆ แล้วยังมีหน้ามาหัวเราะเยาะซูเฉินอีก
นี่ใช่เรียกว่าคนแก่หน้าไม่อายหรือไม่?
ซูเฉินไม่ได้โกรธ แต่ชำเลืองมอง สำรวจระฆังจักรพรรดิทองคำ เอ่ยอย่างเฉยเมยว่า “แกคิดว่าหดหัวอยู่ในกระดองเต่าแล้ว ฉันจะทำอะไรไม่ได้งั้นหรอ?”
เป็นความจริงที่การป้องกันของระฆังจักรพรรดิทองคำมีความแข็งแกร่งทนทานมาก แต่ลูกเล่นของเขายังไม่หมดลงแค่นี้ ยังเหลือไพ่ตายที่มีพลังทำลายล้างสูงอีกหลายใบ
“ซูเฉิน อย่าเพิ่งร้อนใจไป ตราบใดที่เจ้ามีความสามารถพอจะทำลายการป้องกันของข้าได้ ข้าจะยอมจำนน น้อมรับความพ่ายแพ้ทันที!” ผู้ทรงเกียรติหวูโหยวกล่าวเสียงอึกทึก
“จัดให้ตามที่ขอ!”
ดวงตาของซูเฉินค่อยๆหรี่ลง เอื้อมมือออกไป เรียก [ภูเขาหยวนเหออู่จี๋] ออกมา
รอจนมันขยายเป็นสิบจั้ง ก็เหยียบย่ำอากาศขึ้นไปอยู่เหนือระฆังทอง แล้วทุบลงมาอย่างแรง
บังเกิดเสียงกึ้งงงงงงงงงงงง ดังสนั่น
เทือกเขารอบด้านสั่นสะท้าน เห็นแค่เพียงระฆังจักรพรรดิถูกกระแทกอย่างแรง ถูกฝังจมลงไปใต้ดิน
กระนั้น ผิวนอกของมันยังคงทอแสงเจิดจ้า คล้ายไม่ได้รับความเสียหายใดๆ
เห็นภาพนี้ สีหน้าซูเฉินเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ต้องรู้นะว่า [ภูเขาหยวนเหออู่จี๋] มีน้ำหนักถึง 108,000 จิน ด้วยน้ำหนักมหาศาลเช่นนี้ มีใช่สิ่งที่สิ่งประดิษฐ์เทวะธรรมดาจะสามารถต้านทานได้
“ซูเฉิน ในเมื่อเจ้าไม่สามารถทะลวงการป้องกันของข้า เช่นนั้นพวกเราควรหยุดกันแค่นี้ดีหรือไม่?”
ผู้ทรงเกียรติหวูโหยวกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ ครั้งนี้ไม่คิดกระตุ้นซูเฉิน
เพราะแม้การโจมตีครั้งนี้ของซูเฉินจะทำอะไรเขาไม่ได้ แต่เจ้าตัวก็ยังเกิดความกังวล ว่าหากซูเฉินทุ่มหินแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ไม่ว่าระฆังจักรพรรดิจะแข็งแกร่งเพียงใด ก็คงไม่สามารถทนทานต่อการโจมตีเช่นนี้นับร้อยนับพันครั้งได้
ฉีมู่เฟิงลอบสงสารหวูโหยว ซูเฉินยังมีกระบวนท่าสังหารที่ทรงพลังอีกสองท่ายังไม่ได้ใช้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิชาเทพเซียนอย่างการผสานเวทย์น้ำแข็งกับไฟ กระทั่งหานเจี้ยนฉีก็ยังถูกฆ่าตายในกระบวนท่าเดียว แล้วระฆังจักรพรรดิจะสามารถทานทนได้อย่างไร?
หากซูเฉินโกรธจนใช้งานกระบวนท่านั้น เกรงว่าไม่เพียงแต่ระฆังทอง แต่ผู้ทรงเกียรติหวูโหยวคงจะกลายเป็นเถ้าธุลี!
“ไอ้พวกที่บอกให้ฉันยอมเลิกรา จนถึงตอนนี้ตายไปแล้วยังไม่ได้กลับมาเกิดใหม่กันซักคน!”
ซูเฉินแค่นเสียงเย็น ย่ำขึ้นไปในอากาศทีละก้าว ก่อนเริ่มแยกตัวจากหนึ่งเป็นสอง จากสองเป็นสี่ …
พริบตาเดียวภูติเงาทั้งสิบปรากฏตัวขึ้น ตามด้วยซูเฉินคนที่สองที่เหมือนร่างจริงทุกประการ ห้อมลอมระฆังจักรพรรดิ เตรียมทุ่มโจมตีในคราเดียว
ซูเฉินเปิดใช้งาน [ทักษะต่อสู้หมื่นแสงสิบเงาสะท้อน] พร้อมเรียกจิตจำลองออกมา
พริบตานั้นเอง ซูเฉินทั้ง 12 คนโจมตีพร้อมกัน คาถาแต่ละสาย อาวุธเทวะแต่ละเล่ม ถล่มลงมาท่วมฟ้าพลิกแผ่นดิน
“นี่มันวิชาเทพเซียนอะไรกัน!?”
เผชิญหน้ากับการโจมตีราวกับพายุฟ้าคะนองของซูเฉิน หวูโหยวตะลึงลาน เป็นครั้งแรกที่เขาเกิดความแคลงใจในพลังป้องกันของระฆังทอง กังวลว่ามันจะทานรับไหวหรือไม่?
6/10
Ep.916
บรึ้มมมม!
ตามด้วยเสียงสะเทิ้นฟ้าสะเทือนดิน ระฆังจักรพรรดิทองคำถูกกดลงกับพื้น จมลึกลงไป เกิดรอยปริร้าวมากมายตามผิวนอกของมัน แสงสีทองอร่ามเริ่มหมองลง เกิดความเสียหายร้ายแรง
ด้วยสถานการณ์นี้ บ่งบอกชัดว่ามันไม่สามารถต้านทานกระบวนท่าสังหารของซูเฉินได้อีกต่อไป
“เหล่าหวู ยังจะสู้กันอีกไหม?” ซูเฉินเอ่ยถามเสียงเรียบ
แม้ผู้ทรงเกียรติหวูโหยวจะอวดดีไปบ้าง แต่โดยรวมแล้วเป็นคนไม่เลวเลย เป้าหมายหลักของซูเฉินคือหินต้นกำเนิดพลังงาน ไม่ได้อยากจะฆ่าเขา
“ไม่สู้แล้ว ข้าขอยอมแพ้” หวูโหยวปีนออกจากหลุมลึก สีหน้าซีดเผือด สภาพน่าอนาถมาก
ระฆังจักรพรรดิธรรมคำตกอยู่ในสภาวะเกือบพังทลาย แล้วแบบนี้เขาจะสู้กับซูเฉินไปอีกทำไม?
หากยังดื้อรั้น เกรงว่าคงไม่อาจรักษาชีวิตน้อยๆไว้ได้อีก
“เหล่าหวู ตามที่ตกลงกัน ท่านควรมอบหินต้นกำเนิดพลังงานให้ผม ถูกไหม?”
ซูเฉินไม่เหยียบย่ำซ้ำเติม แต่เรียกร้องหินต้นกำเนิดพลังงานโดยตรง
สีหน้าของหวูโหยวกลายเป็นแดงก่ำ กัดฟันกล่าวว่า “หินต้นกำเนิดพลังงานขั้น 9 ข้ามอบให้เจ้าทั้งร้อยก้อนเลยก็ได้ แต่หินขั้น 10 ข้ามีแค่สี่สิบก้อน ทว่าเจ้าวางใจได้ ข้าสามารถทดแทนด้วยสิ่งอื่นได้”
ยินดีที่จะจ่ายเดิมพันและยอมรับความพ่ายแพ้ ผู้ทรงเกียรติหวูโหยวมีนิสัยที่ไม่เลวเลย
ซูเฉินพยักหน้าเล็กน้อย
“งั้นไม่เป็นไร ผมเอาแค่นี้ก็พอ”
อัพเกรด [รถศึกอัจฉริยะ] ต้องใช้หินพลังงานขั้น 9 สามสิบก้อน และขั้น 10 ก็ต้องใช้อีกสามสิบก้อนเช่นกัน ส่วนที่เหลืออีกสิบก้อน ซูเฉินจะติดตั้งมันลงใน [นักรบจักรกล]
นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม ด้วยของเดิมพันที่หวูโหยวมอบให้ มันมากพอแล้วที่จะทำให้ซูเฉินพอใจ
“แบบนั้นมันจะดีหรือ?” ผู้ทรงเกียรติหวูโหยวกระดากอายเล็กน้อย
“คำไหนคำนั้น ขอแค่ผู้อาวุโสมอบมันให้ผมก็พอ” ซูเฉินให้คำมั่น
หวูโหยวไม่ลังเลอีกต่อไป หยิบถุงเก็บของขึ้นมาแล้วโยนให้ซูเฉิน
ซูเฉินนับจำนวนดู หลังจากยืนยันว่าถูกต้อง เขาก็ยิ้มและกล่าวว่า “ผู้อาวุโส ถ้างั้นผมไม่รบกวนท่านแล้ว”
สิ้นเสียง เขาก็เดินกลับ [รถศึกอัจฉริยะ] พร้อมกับฉีมู่เฟิง
วัตถุประสงค์ของการเดินทางครั้งนี้บรรลุผลแล้ว เขาต้องรีบไปช่วยหานคุนและคนอื่นๆต่อในทวีปเผ่าอสูร
ผู้ทรงเกียรติหวูโหยวลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยปากว่า “ซูเฉิน ช้าก่อน”
“ยังมีอะไรอีก?”
ซูเฉินชะงักฝีเท้า หันกลับมามองหวูโหยว
“ซูเฉิน เจ้าได้ล่วงเกินนักพรตเทียนซ่านใช่หรือไม่?” หวูโหยวเลียบเคียงถาม
นักพรตเทียนซ่าน?
ซูเฉินค่อยๆหรี่ตาลง ในดวงตาทอประกายเย็นวาบ
ในเขตแดนลับเทือกเขาหยุนหลัว นักพรตเทียนซ่านเคยส่งยอดฝีมือระดับเทวะ 5 คนมาดักซุ่มโจมตีเขา
สามารถพูดได้เลยว่า นักพรตเทียนซ่านได้ถูกใส่ลงในรายชื่อสังหารของซูเฉินแล้ว
“ผมเคยปล้นของของเขาครั้งหนึ่ง และเขาก็เคยส่งคนมาฆ่าผม”
ซูเฉินไม่ได้ปิดบัง กล่าวอย่างเฉยเมย
ปล้นของของนักพรตเทียนซ่าน?
ผู้ทรงเกียรติหวูโหยวถึงกับอ้าปากค้าง ลอบคิดในใจว่าซูเฉินช่างกล้าหาญจริงๆ แม้แต่สมบัติของเทียนซ่านยังกล้าแย่ง!
“ซูเฉิน หากเจ้าเข้าสู่มิติภายนอก จงระวังตัวด้วย นักพรตเทียนซ่านกำลังรวบรวมคนมาจัดการกับเจ้า”
ผู้ทรงเกียรติหวูโหยวถอนหายใจ พลางเตือนสติเขา
เหตุผลที่ต้องบอกเรื่องนี้ ประการแรกเพื่อขอบคุณสำหรับความเมตตาของซูเฉิน ประการที่สองเพราะเขาพิจารณาแล้ว ว่าตราบใดที่ซูเฉินยังไม่ตาย ไม่ช้าก็เร็วจะกลายเป็นผู้แข็งแกร่งชั้นสูง ไม่แน่ว่าอาจเลื่อนขั้นสู่ขอบเขตเทพเจ้าในตำนานก็เป็นได้ เจ้าตัวจึงคิดฉวยโอกาสนี้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีด้วย
“ขอบคุณผู้อาวุโสที่ช่วยเตือน” ซูเฉินกล่าวขอบคุณ
นักพรตเทียนซ่านต้องการจัดการเขาในมิติภายนอก เรื่องนี้คือสิ่งที่เขาคาดเดาไว้นานแล้ว
อย่างไรก็ตาม ผู้ทรงเกียรติหวูโหยวถึงกับยอมเอ่ยเตือนตน แม้นี่อาจเสี่ยงต่อการล่วงเกินนักพรตเทียนซ่าน ถือว่าซื้อใจเขาได้จริงๆ