911-912
1/10
Ep.911
ในเวลาเดียวกัน ฉีมู่เฟิงสามารถสังหารระดับเทวะร่างผอมตายในกระบี่เดียว
ระดับเทวะเผ่าวิญญาณที่เหลือคนสุดท้าย ถูกหุ่นเชิดทองคำทุบเป็นซอสเนื้อ
หลังจากสี่ระดับเทวะแห่งเผ่าวิญญาณทั้งหมดถูกฆ่าตาย ชาวเผ่าวิญญาณที่เหลือในงานแต่งก็ไม่อาจหลบหนีได้ ทั้งหมดถูกเหล่าสัตว์เลี้ยงวิญญาณและพวกหลีกุยหยางปิดล้อม ร่วมมือกันสังหารสิ้น
ซูเฉินเหม่อมองไปบนจัตุรัสที่เต็มไปด้วยชิ้นส่วน มุมปากอดยกยิ้มข้ึนมาไม่ได้
ต่อมา เขารวบรวมชิ้นส่วน และให้ทุกคนช่วยกันค้นศพศัตรู
ชาวเผ่าวิญญาณที่มาร่วมงานมิใช่พวกยาจก ทุกคนพกพาสมบัติดีๆติดตัวมามากมาย
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ทุกคนกลับมารวมตัวกันพร้อมสมบัติเต็มมือ
“เหล่าโม่ คุณช่วยนำทางไปยังเทือกเขาลูกนั้นด้วย”
พอเข้ามาในรถ ซูเฉินสั่งการทันที แม้ว่าในงานแต่งจะรวบรวมหินต้นกำเนิดพลังงานขั้น 9 มาได้ส่วนหนึ่ง แต่ก็ยังไม่พอที่จะใช้อัพเกรด [รถศึกอัจฉริยะ] สู่ขั้น 9
ดังนั้นต้องแวะไปเยี่ยมเยือนเทือกเขาที่มีหินต้นกำเนิดพลังงานขั้น 9 อยู่
“ขอรับ” โม่หรงรับคำ เริ่มบอกทิศทางแก่ [รถศึกอัจฉริยะ]
ซูเฉินเตรียมหย่อนตัวลงบนเบาะที่นั่งคนขับเพื่อคัดแยกชิ้นส่วน ก็เห็นว่าฉีมู่เสวี่ยเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “ซูเฉิน เมื่อครู่ผลงานของข้าเป็นอย่างไรบ้าง?”
ตอนซูเฉินบอกลงมือ เธอเป็นคนแรกที่พุ่งเข้าสังหาร ในใจรู้สึกว่าตนเองทำได้ดีมาก ดังนั้นซูเฉินควรให้รางวัล ถูกไหม?
“ก็ไม่เลวนี่” ซูเฉินตอบอย่างไม่ใส่ใจ จากนั้นไม่เปิดโอกาสให้ฉีมู่เสวี่ยพูดอีก อ้าปากหาว แล้วทิ้งตัวหลับตาพักผ่อนทันที
‘เจ้าคนน่ารังเกียจ!’ ฉีมู่เสวี่ยกัดฟันดังกึดๆ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรซูเฉินได้ ยืนขยี้เท้าสองสามครั้งเพื่อระบายความหงุดหงิดในใจ
ซูเฉินกลับมายังเก้าอี้คนขับ เริ่มคัดแยกชิ้นส่วน ครั้งนี้เขาสังหารระดับเทวะไปสี่คน แล้วยังมีผู้ฝึกตนชั้นสูงอีกนับร้อย ชิ้นส่วนที่ดรอปลงมาจึงเป็นตัวเลขมหาศาลถึง 60,000 ชิ้น
หากนำทั้งหมดแปลงเป็นแต้มพลังงาน บวกกับที่สะสมไว้ก่อนหน้านี้ จึงทำให้มีคะแนนรวมเกือบ 300,000 จุด ทำลายสถิติใหม่อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ซูเฉินทราบดี ด้วยฐานฝึกตนที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง 300,000 แต้มพลังงานไม่ถือว่ามากมายอะไร การซื้อ [คุณสมบัติเลเวล 13 อย่างเต็มรูปแบบ] จะต้องใช้ 30,000 แต้มพลังงาน และในขั้นต่อไปเกรงว่าราคาคงเพิ่มเป็นสองเท่า
แล้วอีกอย่าง รอบกายเขายังมีคนอื่นอีกมากมาย หากไม่นับอู๋หยาจื่อกับหลีกุยหยางที่เป็นเสมือนเทวะแล้ว คนอื่นๆนอกจากสัตว์เลี้ยงวิญญาณทั้งหมดล้วนมีฐานฝึกตนต่ำกว่าขั้น 10 ทั้งสิ้น
ด้วยฐานฝึกตนที่ต่ำ ยามเข้าสู่มิติภายนอก คงไม่สามารถต่อสู้ได้ และนั่นคือสิ่งที่ซูเฉินไม่ต้องการจะเห็น จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ต้องรีบพัฒนากำลังรบของคนอื่นๆอย่างเร่งด่วน
ซูเฉินคิดไปคิดมา สุดท้ายตัดสินใจเก็บ 100,000 แต้มพลังงานไว้ให้ตัวเอง ส่วนที่เหลือทั้งหมดถูกนำออกมาใช้พัฒนาความแข็งแกร่งแก่คนอื่นๆ
…
[รถศึกอัจฉริยะ] เดินทางมาสองวัน ในวันที่สาม ก็เข้าสู่เขตเทือกเขากว้างใหญ่ไร้ที่สิ้นสุด
เทือกเขาแห่งนี้เรียกว่าเทือกเขาตี้ซาง หรือก็คือเทือกเขาที่มีหินต้นกำเนิดพลังงานขั้น 9 ฝังอยู่
“เหล่าโม่ คุณรู้ตำแหน่งเฉพาะเจาะจงของมันไหม?” ซูเฉินกวาดสายตาออกไปด้านนอก เอ่ยถามอย่างสบายๆ
“มันอยู่ข้างในภูเขาที่มียอดเขาสูง น่าจะเป็นลูกข้างหน้า” โม่หรงชี้ไปยังยอดเขาที่เด่นสะดุดตา เอ่ยปากกล่าว
ซูเฉินพยักหน้า สั่งการว่า “เสี่ยวจือ รีบบินไปจอดตรงนั้น”
“รับทราบ”
[รถศึกอัจฉริยะ] รับคำสั่ง เพิ่มความเร็วเต็มพิกัด ไม่ช้าก็บินเข้าใกล้ยอดเขา
“เจ้านาย ข้าสัมผัสได้ถึงอันตรายที่นี่” นกสำรวจรีบเตือน
อันตรายงั้นหรอ?
คิ้วของูเฉินขมวดเข้าหากัน มีอสรพิษทองคำขั้น 10 อยู่ที่นี่ แต่มันคืออสูรขั้น 10 ไม่น่าจะแกร่งพอให้นกสำรวจตระหนักถึงอันตราย
เช่นนั้นแล้วที่มาของอันตรายที่ว่าคืออะไรกัน?
เป็นไปได้ไหมว่ายังมีผู้แข็งแกร่งคนอื่นซ่อนตัวอยู่?
2/10
Ep.912
“เสี่ยวจือ ลงจอดได้”
ซูเฉินไม่คิดมากความเพราะบนแผ่นดินใหญ่ ไม่มีใครหน้าไหนที่เขาต้องหวาดกลัว
ต่อให้มีอันตรายแล้วไง? ศัตรูก็ไม่สามารถคุกคามเขาได้อยู่ดี
[รถศึกอัจฉริยะ] ร่อนลงจอดตีนเขา บรรยากาศรอบด้านเงียบสงัด อย่าว่าแต่อสรพิษทองคำเลย กระทั่งสิ่งมีชีวิตอื่นยังไม่เห็นแม้แต่เงา
ซูเฉินกวาดสายตามองออกไปด้านนอก เอ่ยกับ [รถศึกอัจฉริยะ] ว่า “เสี่ยวจือ สแกนตรวจยอดเขาลูกนี้”
“เจ้านาย มีบางอย่างอยู่บนยอดเขา มันสามารถปิดกั้นการตรวจสอบของฉันได้” [รถศึกอัจฉริยะ] ตอบทันที
“เอ๋?” ซูเฉินอุทานเบาๆ หันไปทางนกสำรวจ แล้วพูดว่า “เสี่ยวซุ่น ที่มาของอันตรายที่นายสัมผัสได้ คือยุดเขาลูกนี้ใช่ไหม?”
“ใช่ ข้าสัมผัสได้ถึงสิ่งมีชีวิตอันตรายที่อยู่ข้างใน”
นกสำรวจตอบกลับ จากนั้นกล่าวเสริมว่า “อย่างไรก็ตาม ข้ายังรู้สึกข้างในนั้นไม่ได้มีแค่หินต้นกำเนิดพลังงานขั้น 9 เช่นกัน แต่ยังมีหินต้นกำเนิดพลังงานขั้น 10 อยู่อีกจำนวนหนึ่งเช่นกัน”
หินต้นกำเนิดพลังงานขั้น 10?
ซูเฉินตกใจมาก ด้วยหินต้นกำเนิดพลังงานขั้น 10 [รถศึกอัจฉริยะ] และ [นักรบจักรกล] จะสามารถอัพเกรดเป็นขั้น 10 ได้ การเดินทางครั้งนี้นับว่าคุ้มค่าจริงๆ
สำหรับสิ่งมีชีวิตอันตรายข้างใน หากมันเข้ามาโจมตีเขาจะดีที่สุด จะได้ถือโอกาสนี้กุดหัวมันซะเลย
ไม่ว่าจะเป็นตัวอะไรก็ตาม หากกล้ามาหยุดเขาไม่ให้ขุดหินต้นกำเนิดพลังงาน มันต้องถูกฆ่า!
ต่อมา ซูเฉินเปิดประตูรถ ฉีมู่เฟิงก้าวลงตาม ส่วนคนอื่นๆที่เหลือ ถูกสั่งให้อยู่ข้างใน
ก่อนอันตรายจะคลี่คลาย ซูเฉินไม่ต้องการให้คนอื่นเสี่ยง
ก้าวลงจากรถ ซูเฉินกวาดสายตามอง และพบว่ามีถ้ำหินซ่อนอยู่ตรงตีนเขา ข้างในมืดสนิท ไม่ทราบว่านำพาไปสู่ที่ใด
ซูเฉินคาดเดา ว่าสิ่งมีชีวิตอันตรายนั่นจะต้องอยู่ในถ้ำนี้แน่ๆ เพื่อบังคับให้อีกฝ่ายเปิดเผยตัว เขากางฝ่ามือและยิงบอลสายฟ้าออกไป
บรึ้มมมมม!
ยอดเขาสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เศษหินเศษดินถล่มลงมาไม่น้อย
กระนั้น รอจนการถล่มสิ้นสุดลง ข้างในถ้ำก็ยังเงียบเชียบอยู่ดี
“มาดูกันว่าแกจะทนได้นานแค่ไหน”
ซูเฉินส่งเสียงฮึ่มเบาๆ เปิดใช้งานคาถาพายุสายฟ้าอีกครั้ง
เป้าหมายของเขาคือหินต้นกำเนิดพลังงาน ตราบใดที่อีกฝ่ายไม่ปรากฏตัว อย่างมากแค่ถล่มยอดเขาทั้งหมด
“ช้าก่อน! เราผู้เฒ่ายอมแล้ว!”
ขณะที่ซูเฉินกำลังจะขว้างบอลสายฟ้าออกไป เสียงชราดังลอดออกมาจากข้างในถ้ำหิน
แทบจะในทันทีหลังจากนั้น ตามด้วยเสียงกรอบแกรบ งูทองคำตัวใหญ่เลื้อยออกมา บนหัวงู มีชายชราใบหน้าแห้งเหี่ยวนั่งอยู่ตรงปลายจมูกมัน
“ซูเฉิน ข้าได้ยินชื่อเสียงของเจ้ามานาน ได้เจอกันวันนี้ เป็นอย่างที่ทุกคนกล่าวถึงจริงๆ”
ชายชรามองซูเฉิน กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“นี่แกรู้จักฉัน?” ซูเฉินอุทานเบาๆ
ชายชราเบื้องหน้า เขามั่นใจว่าเพิ่งเคยพบกันเป็นครั้งแรก แล้วทำไมอีกฝ่ายถึงได้ทำท่าทีสนิทสนมกับเขากัน?
แต่ในเวลานั้นเอง สีหน้าของฉีมู่เฟิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย โค้งคำนับและกล่าวกับชายชราว่า “หรือว่าท่านจะเป็น … ผู้ทรงเกียรติหวูโหยว?”
ชายชราเหลือบมองฉีมู่เฟิงแวบหนึ่ง เขายิ้มและกล่าวว่า “ที่แท้ก็เป็นคนของตระกูลฉี เรามิใช่ใครอื่น เป็นหวูโหยวจริงๆ”
ผู้ทรงเกียรตหวูโหยว?
ซูเฉินทวนคำ มองไปทางฉีมู่เฟิง
ฉีมู่เฟิงกระซิบว่า “ซูเฉิน ผู้ทรงเกียรติหวูโหยวคือยอดฝีมือระดับเทวะขั้น 3 มีชื่อเสียงมากในมิติภายนอก”
“ซูเฉิน เจ้ามาที่นี่เพื่อต้องการหินต้นกำเนิดพลังงานกระมัง?”
ผู้ทรงเกียรติหวูโหยวหุบยิ้ม จ้องเขม็งซูเฉิน กล่าวเสียงเรียบ
“ใช่” ซูเฉินตอบรับตรงๆ
ในเมื่อสถานที่แห่งนี้เป็นอาณาเขตของผู้ทรงเกียรตหวูโหยว แสดงว่าหินต้นกำเนิดพลังงานขั้น 9 และ 10 ก็ต้องเป็นของอีกฝ่ายเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม นับแต่ก้าวเข้ามาที่นี่ หากไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือกลับไปเลย ซูเฉินไม่มีทางยอม