ตอนที่ 1059-1060 เธอเมาแล้ว
เธอไม่เชื่อว่าเขาจะคิดเรื่องแบบนี้ได้เอง
อาจมีคนกำลังสอนเขาโดยที่เธอไม่รู้ หรือเขาคงจะโกหกว่าไม่เคยมีคบกับใครมาก่อน
“ได้สิครับ คุณเจียง ถามมาเถอะ ผมจะตอบไปตามความจริง”
“คุณเหมา ผู้ช่วยซวีสอนให้คุณพูดแบบเมื่อกี้ด้วยหรือเปล่าคะ?” หากเป็นอย่างแรก ผู้ช่วยซวีคงจะเจ้าชู้ไม่เบาเลย
“เปล่าครับ” เหมาซวีเสียมองดูเธอและตอบอย่างจริงจังว่า
“เดทในคืนนี้ ผู้ช่วยซวีช่วยเตรียมก็จริง แต่ทุกคำพูดที่ผมพูดกับคุรเจียง มาจากผมเองครับ ไม่ได้เกี่ยวกับใครทั้งนั้น”
“จริงเหรอคะ?” เจียงหลัวลี่ไม่เชื่อเขา “แต่คุรเหมาบอกเอางนี่ ว่าไม่เคยมีแฟนหรือคบกับใครมาก่อน?”
“ใช่ครับ มีอะไรหรือเปล่าครับ” เหมาซวีเสียรู้สึกงง
เจียงหลัวลี่กล่าวว่า “...คุณเหมา ฉันไม่คิดว่าคุณไม่เคยคบกับผู้หญิงมาก่อนหรอกนะคะ”
ตอนนี้เหมาซวีเสียยิ่งสับสนมากขึ้น “ทำไมคุณเจียงถึงคิดแบบนั้นล่ะครับ?”
“ผมไม่ได้โกหก ก่อนหน้าที่เดทกับคุณ ผมไม่เคยเดทกับใครมาก่อนเลย ถ้าคุณไม่เชื่อ...”
“ได้ ได้ ฉันเชื่อคุณ” เจียงหลัวลี่รู้สึกว่าเขาไม่ได้โกหก ผู้ชายอย่างเหมาซวีเสียจะโกหกผู้หญิงได้อย่างไร?
นั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาจะทำ
เธอเพียงรู้สึกว่าเขาพูดจีบเก่งเกินไป
เขาดูไม่เหมือนผู้ชายที่ไม่มีประสบการณ์ด้านความรักเลย
“คุณเจียง ทำไมคุณถึงคิดว่าผมโกหกล่ะครับ”
เหมาซวีเสียยืนกรานที่จะค้นหาคำตอบ
“ผมทำอะไรผิดไปหรือเปล่าครับ คุณถึงคิดแบบนั้น”
“เปล่าค่ะ...”
“คุณเจียง บอกผมมาตามตรงเถอะครับ ว่าตรงไหนที่ผมยังทำได้ไม่ดี”
เหมาซวีเสียพูดอย่างจริงจัง “ผมรู้ว่าผมยังมีอีกมากที่ต้องเรียนรู้ แต่คุรเจียง คุณต้องบอกผมว่า ผมทำได้ไม่ดีตรงไหนบ้าง ผมจะได้แก้ไขไงครับ”
“คุณเหมา คุณไม่ได้ทำอะไรผิดจริง ๆ ค่ะ แค่ฉันไม่คิดว่าคุณไม่เคยเดทมาก่อน ก็เท่านั้นเองไ
“ทำไมล่ะครับ?” เหมาซวีเสียรู้สึกสับสน
“ทำไมคุณเจียงถึงคิดแบบนั้นล่ะครับ”
เจียงหลัวลี่หายใจเข้าลึก ๆ “คุณเหมา คุณไม่รู้หรอกว่าคำพูดของคุณมีเสน่ห์ขนาดไหน? คำพูดเหล่านั้น...ฟังดูไม่เหมือนมาจากผู้ชายที่ไม่เคยเดทมาก่อนเลยค่ะ”
“คำพูดของคุณทำให้คนอื่นคิดว่าคุณมีประสบการณ์มากมายเลยล่ะค่ะ”
เหมาซวีเสียขมวดคิ้ว “ทำไมล่ะครับ?”
เจียงหลัวลี่วางมือบนหน้าผากของเธอ “คงมีแค่ผู้ชายที่มีประสบการณ์มากมายเท่านั้นล่ะมั้งค่ะ ที่จะจีบเก่งแบบนี้”
“จีบเก่ง?” เหมาซวีเสียขมวดคิ้ว “คุณหมายความว่าอะไร?”
เจียงหลัวลี่หมดคำจะพูดแล้วจริง ๆ
เขาดูจริงจังกับเรื่องนี้เหรอ?
“คุณเหมา คุณไม่รู้เหรอคะว่า การจีบหมายถึงอะไร?”
เหมาซวีเสียส่ายหน้าและถามอย่างเบา ๆ “คุณเจียง ช่วยอธิบายให้ผมฟังได้ไหม ว่ามันหมายความว่าอะไร”
เจียงหลัวลี่พูดไม่ออก
เขากับเธออยู่ยุคเดียวกันหรือเปล่าเนี้ย
ในวัยอย่างเขา เขาไม่รู้จริง ๆ เหรอ ว่า ‘การจีบ’ หมายความว่าอะไร
เธอเงียบไปครู่หนึ่งเมื่อเขาทำตาละห้อย
“คุณเหมา การจีบที่ฉันพูดถึงหมายถึงการทำให้ผู้หญิงมีความสุขและพูดอะไรที่ทำให้พวกเธอใจเต้นน่ะค่ะ”
เหมาซวีเสียเข้าใจสิ่งที่เธออธิบายแล้ว เขามองไปที่เจียงหลัวลี่ และถามอย่างจริงจังว่า
“คุณเจียงคิดว่าผมเก่งเรื่องแบบนี้เหรอครับ หรือคุณหมายความว่าผมทำให้คุณมีความสุข? สิ่งที่ผมพูดทำให้คุณมีความสุขใช่ไหมครับ?”
เจียงหลัวลี่คิดอยู่พักหนึ่ง แล้วพยักหน้า “ค่ะ”
ถ้าเขาไม่ทำให้เธอมีความสุข หัวใจของเธอคงไม่เต้นแรงและเร็วขนาดนี้
เหมาซวีเสียยิ้ม “คราบใดที่คุณเจียงชอบฟัง ต่อไปผมก็จะพูดแบบนี้อีก”
มือของเจียงหลัวลี่สั่นอีกครั้ง
บ้าน่า!
อีกแล้ว อีกแล้ว...
ผู้ชายคนนี้ทำตัวเจ้าชู้กับเธออีกแล้ว
เขาไม่รู้จริง ๆ เหรอว่าคำพูดของเขามีเสน่ห์แค่ไหน
เธอเชื่อแล้วจริง ๆ ว่าเขากำลังจีบเธอโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัว
“คุณเจียง เป็นอะไรไปครับ?” เหมาซวีเสียเลิกคิ้วเมื่อเห็นว่าเธอยังจ้องมองเขาอย่างว่างเปล่า “ผมพูดอะไรผิดไปอีกแล้วเหรอ?”
เจียงหลัวลี่ตอบ “...เปล่าคะ?”
พนักงานยกอาหารจานอื่นเข้ามาเสิร์ฟ
นี่เป็นร้านอาหารส่วนตัวระดับไฮเอนด์ แม้จะอยู่ระหว่างทางขึ้นเขา แต่ก็ไม่เคยขาดลูกค้า
คนที่มาทานร้านนี้ ล้วนแต่เป็นคนที่มีขื่อเสียงของเมืองหยุนเฉิง
ทำให้พ่อครัวของที่นี่ล้วนแต่เป็นพ่อครัวฝีมือดี
อาหารที่นี่อร่อยมาก
ลมพัดเข้ามาทางหน้าต่าง หอบเอากลิ่นหอมจาง ๆ ของดอกไม้เข้ามาด้วย
นอกจากบรรยากาศที่แปลกประหลาดในตอนแรก ทุกอย่างของที่นี่ทำให้เธอรู้สึกสบายใจมาก
ทั้งอาหารและไวน์แดงก็อร่อย
เพลงก็เพราะ
บรรยากาศในร้านก็ดีมากเช่นกัน
เจียงหลัวลี่ทานอาหารและดื่มไวน์ไปไม่น้อย
หลังอาหารเย็น ผลกระทบจากไวน์ที่เธอดื่มไปก็เริ่มออกฤทธิ์
เธอเริ่มรู้สึกเวียนหัวและใบหน้าร้อนผ่าว
เหมาซวีเสียเห็นว่าเธอดูไม่ค่อยดีนัก จึงถามอย่างกังวล “คุณเจียง เป็นไงบ้างครับ”
เขาไม่คิดว่าเจียงหลัวลี่จะดื่มไปมากขนาดนี้
เธอดื่มไวน์แดงไปถึงครึ่งขวด
ไวน์แดงนี่ค่อนข้างแรง ตัวเขาเองยังไม่กล้าดื่มมากจนเกินไป
เจียงหลัวลี่ถูไปที่ขมับของตนเอง แล้วมองขึ้นไปที่คนตรงข้าม “ฉันไม่เป็นไรคะ ขอฉันพักสักครู่นะคะ”
เธอเพียงแค่เวียนหัวเล็กน้อยเท่านั้น พักสักครู่คงจะดีขึ้น
เหมาซวีเสียไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากนั่งอยู่กับเธอสักครู่ ทุก ๆ สองสามนาที เขาจะถามเธอว่า “คุณเจียง โอเคไหม? เมาแล้วหรือเปล่า? ต้องการอะไรไหม?”
“ฉันไม่เมาค่ะ” เจียงหลัวลี่รู้สึกว่าหัวของเธอหมุน เธอจ้องไปที่เหมาซวีเสียและพูดอย่างไม่พอใจ “ฉันจะเมาได้ยังไง ดื่มอีกขวดยังได้”
แก้มของเธอแดงระเรื่อ และดวงตาของเธอเริ่มเบลออย่างเห็นได้ชัวด
เห็น ๆ กันอยู่ว่าเธอเมา
แต่คนเมา มักจะชอบบอกว่าตัวเองไม่เมา และมักจะโกรธคนที่บอกว่าพวกเขาเมา
เจียงหลัวลี่ในตอนนี้ อยู่ในสถานะนั้น
“เหมาซวีเสีย ฉันบอกแล้ว ว่าฉันไม่ได้เมาจริง ๆ!” เธอถูขมับตัวเองและตะโกนใส่หน้าเขาอย่างไม่พอใจ “ฉันดื่มไปนิดหน่อยเอง จะเมาได้ยังไง?”
“ฉันไม่เมา ไม่เมาจริง ๆ”
“ฉันยังดื่มได้อีกค่ะ ถ้าไม่เชื่อก็เอามาอีกขวด”
เหมาซวีเสียขมวดคิ้ว
นี่เหรอ ยังไม่เมา?
ถ้าในสถานการณ์ปกติเธอจะเรียกเขาว่า คุณเหมา
แต่ตอนนี้เธอเรียกเขาด้วยชื่อเต็มของเขานี่นะ
เห็น ๆ กันอยู่ว่าเธอเมาแล้ว
เหมาซวีเสียโทษตัวเอง หากเขารู้อย่างนี้ คงไม่ปล่อยให้เธอดื่มมากขนาดนี้หรอก