907-908
5/8
Ep.907
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า … ทางไปสวรรค์มีไม่ไป เลือกเดินมาเคาะประตูนรก วันนี้มาดูกันว่าเจ้าจะหนีรอดไปได้อย่างไร?”
หยานเซิ่งอี้ได้สติกลับมา หัวเราะอย่างไม่สะทกสะท้าน
“ผู้ชายคนนี้เป็นใคร?”
ข้างกายหยานเซิ่งอี้ ชายชราที่ดูดิบเถื่อนหยาบกร้านคนหนึ่งหรี่ตา กวาดมองสำรวจโม่หรง เอ่ยถามเสียงเรียบ
“ท่านพ่อตา ผู้ชายคนนี้เคยพยายามจะขโมยหินต้นกำเนิดพลังงานขั้น 9 จากข้า ทั้งยังวางแผนลอบสังหารข้า!” หยานเซิ่งอี้ตอบกลับอย่างสุภาพ
เห็นได้ชัดว่าเป็นอีกฝ่ายที่ฮุบหินต้นกำเนิดพลังงานไป ทว่าในเวลานี้กลับพลิกลิ้น แสดงความไร้ยางอายออกมาอย่างเต็มเปี่ยม
ในหัวใจของโม่หรงบังเกิดความเดือดดาล! ขณะกำลังจะโต้แย้ง ซูเฉินก็กระซิบบอกเขา “ไม่ต้องสนใจหรอก มันก็แค่ตัวตลก”
ได้ยินแบบนั้น โม่หรงสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วไม่พูดอะไรอีก
หลังจากชายชราดิบเถื่อนรู้ถึงตัวตนของโม่หรง ไอสังหารแผ่ออกมาจากร่างเขา แค่นเสียงเย็น “โม่หรง เจ้าในฐานะเผ่าวิญญาณ ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องทำร้ายเผ่าพันธุ์เดียวกัน แต่ยังร่วมมือกับมนุษย์ รู้ถึงความผิดของตัวเองหรือไม่?”
ในคราเดียว แรงกดดันอันน่าหวาดผวากวาดเข้าบดขยี้โม่หรง
ซูเฉินส่งเสียงฮึ่ม ง้างแขนชกออกไป
อากาศที่ว่างเปล่าบังเกิดแรงสั่นสะเทือน แรงกดดันอันน่าเกรงขามถูกทำลายลง
“เจ้าหนู เจ้าเป็นใคร?”
ชายชราดิบเถื่อนจ้องซูเฉินเขม็ง อุทานออกมาเบาๆ
คนที่สามารถทำลายแรงกดดันของเขาได้ในหมัดเดียว ในที่นี้แทบจะนับคนได้ อย่างน้อยต้องมีฐานฝึกตนขั้น 10 ขึ้นไป
แต่ซูเฉินดูอายุยังน้อย ฐานฝึกตนจะสูงได้สักแค่ไหนกัน? เหตุใดจึงทำแบบนี้ได้?
“ฉันเป็นใคร แกไม่มีคุณสมบัติพอที่จะรู้” ซูเฉินเบ้ปาก กล่าวดูแคลน
ซู๊ดดดดด
ทันทีที่คำนี้หลุดออกมา เสียงสูดอากาศเย็นดังสะท้อนไปทั่วบริเวณ
ชายชราดิบเถื่อนเป็นถึงผู้แข็งแกร่งระดับเทวะ! ใครพบเห็นต้องไว้หน้าเขาสามส่วน แต่ชายหนุ่มจากเผ่ามนุษย์ตรงหน้ากลับกล้าสร้างความอัปยศแก่เขา มันบ้าไปแล้ว!
สีหน้าของชายชราดิบเถื่อนแข็งค้าง พยายามระงับความโกรธในใจเขา เอ่ยเสียงเย็นว่า “ถ้าไม่อยากพูดก็ไม่เป็นไร แต่จงบอกจุดประสงค์มา ว่าเจ้ามาทำอะไรที่นี่?”
ท่าทีสงบเยือกเย็นของซูเฉิน ทำให้เขาเกิดความแคลงใจ ดังนั้นอยากจะทราบข้อมูลก่อนลงมือ
ซูเฉินถูจมูก กวาดสายตามองรอบๆ เอ่ยอย่างเฉยเมยว่า “ฉันมาที่นี่เพื่อจุดประสงค์เดียว นั่นคือฆ่าหยานเซิ่งอี้! แน่นอน ถ้าคิดจะหยุด ฉันก็ยินดีจะฆ่าพวกแกทั้งหมด!”
สิ้นเสียง ทั่วทั้งจัตุรัสตกอยู่ในความเงียบงัน พวกเขาคิดไม่ออกจริงๆ ว่ามนุษย์หนุ่มตรงหน้า ไปเอาความกล้ามาพูดวาจาใหญ่โตเช่นนี้จากไหน?
ต้องร้นะว่า ในลานกว้างนี้มียอดฝีมือระดับสูงเกือบทั้งหมดของทวีปเผ่าวิญญาณมารวมตัวกัน อีกทั้งยังมีระดับเทวะอยู่ถึงสี่คน แต่ซูเฉินเอ่ยปากจะสังหารพวกเขาทั้งหมด สมองของเขาคงมีแต่น้ำแน่ๆ!
คนเราต่อให้คิดอยากตาย ก็ไม่ควรมาตายในสภาพแบบนี้ ถูกไหม?
“มนุษย์ ข้าอยู่นี่แล้วไง หากเจ้ามีความสามารถพอ ก็เข้ามาฆ่าซะสิ!”
ใช้เวลาซักพักเลย กว่าหยานเซิ่งอี้จะได้สติกลับมา เอ่ยปากท้าทาย
ในความคิดเขา ท่ามกลางฝูงชนในปัจจุบันที่มีผู้แข็งแกร่งมากมาย ต่อให้ซูเฉินเป็นระดับเทวะ ก็ไม่สามารถบุกเข้ามาทำร้ายเขาได้แม้แต่ปลายขน
“จัดให้ตามที่ขอ!”
ทันใดนั้นแสงสีม่วงทอประกายสองเท้าซูเฉิน ทันทีที่ร่างเขาขยับไหว ก็หายวับไปจากที่เดิมราวกับภูติผี
เมื่อปรากฏกายขึ้นอีกครั้ง ก็บุกมาถึงเบื้องหน้าของหยานเซิ่งอี้แล้ว
“เป็นไปได้ยังไงกัน!?”
หยานเซิ่งอี้ตกใจตับแทบแตกตาย ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
เขาไม่เคยเห็นใครว่องไวเช่นนี้มาก่อนเลย หลังจากตระหนักได้ถึงอันตราย ก็ถอยหลังสุดชีวิต
กระนั้น สิ่งที่ทำให้เขาตกใจยิ่งกว่าเดิมก็คือ เจ้าตัวพบว่าทั้งร่างถูกพันธนาการไว้ด้วยพลังที่มองไม่เห็ฯ ไม่อาจขยับเขยื้อนได้เลย
6/8
Ep.908
“อย่าแม้แต่จะคิด!”
ชายชราดิบเถื่อนร้องคำราม ซัดกำปั้นใส่ซูเฉินสุดแรง
การโจมตีของระดับเทวะไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เมื่อหมัดนี้ถูกชกออกมา อากาศที่ว่างเปล่าประหนึ่งพังทลายลง บังเกิดเสียงแคว๊ก แคว๊กดังขึ้น
“ไสหัวไป!”
ซูเฉินกระชากเสียงเย็น กวาดมือคราหนึ่ง ปัดกำปั้นชายชรา
บังเกิดเสียงอี้อู้หนักทึบ
ชายชราดิบเถื่อนคล้ายถูกภูเขาใหญ่กระแทก ไม่เพียงแต่กำปั้นเขาเท่านั้นที่แหลกเป็นเสี่ยง กระทั่งทั้งตัวเขายังถูกผลักถอยออกไปหลายสิบก้าว
“ช่างไม่รู้จักเจียมตัว!”
ซูเฉินไม่ไล่โจมตีต่อ แต่คว้าคอของหยานเซิ่งอี้ด้วยมือเดียว ออกแรงบีบจนเกิดเสียงกึด กึด และเหวี่ยงหยานเซิ่งอี้ลงกับพื้น
ได้เป็นสักขีพยานของฉากนี้ รอบด้านตกอยู่ในความเงียบสงัดอันน่าขนลุก
ซูเฉินฝ่าด่านระดับเทวะแล้วคว้าตัวหยานเซิ่งอี้ได้ ทั้งยังทำลายมือของชายชราดิบเถื่อน ความแข็งแกร่งชัดเจนอย่างไม่ต้องสงสัย
ถึงจุดนี้ ทุกสายตาที่มองซูเฉิน ไม่ใช่การดูถูกอีกต่อไป แต่มันถูกแทนที่ด้วยความหวดากลัวและยำเกรง
แม้เห็นว่าที่ซูเฉินทำจะเป็นแค่การโจมตีแบบสบายๆ แต่มันก็มากพอที่ให้ทุกคนตกตะลึงอย่างสมบูรณ์
“ผู้อาวุโส ข้าผิดไปแล้ว โปรดให้โอกาสข้า!”
หยานเซิ่งอี้คุกเข่าลงแทบเท้าซูเฉิน อ้อนวอนขอความเมตตาเสียงดัง
กระทั่งผู้แข็งแกร่งระดับเทวะยังไม่สามารถหยุดซูเฉินได้ หากต้องการมีชีวิตรอด วิธีเดียวคือขอให้ซูเฉินให้อภัย!
ซูเฉินกวาดสายตาเย็นชา ปลดปล่อยพลังจิตออกมา บดขยี้แขนขาของหยานเซิ่งอี้
บังเกิดเสียงระเบิดรุนแรงสี่ครั้งติด สองแขนสองขาของหยานเซิ่งอี้ระเบิดเป็นเนื้อเหลว ทรุดตัวลงกลางแอ่งเลือด มีสภาพไม่ต่างจากท่อนไม้!
“อ๊าาาาาาาา”
หยานเซิ่งอี้เจ็บปวดจนแทบไม่อยากชีวิตอยู่ กรีดร้องเหมือนหมูเหมือนหมา
ช่างโหดร้ายทารุณ!
ได้เห็นฉากนองเลือดนี้ ชาวเผ่าวิญญาณที่อยู่รอบๆต่างหน้าเปลี่ยนสี ในส่วนลึกของหัวใจบังเกิดคลื่นของความหวาดกลัวเพิ่มขึ้น
แม้แต่สีหน้าของระดับเทวะหลายคนก็เปลี่ยนไป ทั้งหมดดูเคร่งเครียดเป็นพิเศษ
“เหล่าโม่ เจ้าหมอนี่ขอยกให้คุณ”
เด็ดปีกหยานเซิ่งอี้ ซูเฉินหันไปขยิบตาให้โม่หรง
“ขอบพระคุณเจ้านาย!”
โม่หรงทราบ ว่าซูเฉินต้องการให้เขาแก้แค้นด้วยตัวเอง กล่าวด้วยความซาบซึ้งใจ และเริ่มทรมานหยานเซิ่งอี้อย่างไร้ความปราณี
เขาติดตามซูเฉินมาได้ระยะหนึ่งแล้ว ย่อมได้ยินได้เห็น และได้เรียนรู้กลวิธีมาไม่น้อย
กร๊อบ กร๊อบ กร๊อบ …
เสียงกระดูกหักอันน่าขนลุกดังสะท้อนต่อเนื่อง ทุกเสียงที่แตกหัก มันทำให้หัวใจของผู้คนสั่นคลอน
เฝ้ามองหยานเซิ่งอี้ถูกทรมานจนตาย ไม่มีใครกล้าออกมาห้ามแม้แต่คนเดียว
เหตุผลมีด้วยกันสองประการ หนึ่งซูเฉินจับตามองอยู่ทุกฝีเท้า หากมีใครกล้าออกหน้า เกรงว่าวินาทีต่อมาคงกลายเป็นศพเย็น
ห้านาทีต่อมา หยานเซิ่งอี้ถูกทรมานอย่างน่าสยดสยอง สุดท้ายตกตายด้วยความเกลียดชัง
“มนุษย์ เจ้าเป็นใครกันแน่?”
ณ จุดนี้ ชายชราตาเดียวอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม ตัวเขาเองก็เป็นระดับเทวะ ถือเป็นสถานะสูงสุดของเผ่าวิญญาณ มิอาจเพิกเฉยต่อสถานการณ์ ปล่อยให้ซูเฉินทำตามอำเภอใจ แบบนี้มันไร้เหตุผลเกินไป
“ฉันคือซูเฉิน”
ซูเฉินยิ้มบาง
ซูเฉิน …
เขาคือซูเฉิน!!!
ชื่อเสียงของคนก็เหมือนร่มเงาของต้นไม้!
ในทวีปเผ่าวิญญาณ แม้แต่คนธรรมดาก็ยังรู้จักชื่อเสียงอันโด่งดังของซูเฉิน พวกเขาในฐานะระดับเทวะยิ่งรู้จักดี
เมื่อทราบถึงตัวตนของซูเฉิน จัตุรัสใหญ่ราวกับถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควัน เริ่มกดดันและอึมครึม ทุกคนในที่นี้ เกิดอาการกระสับกระส่าย
มีข่าวลือ ว่าซูเฉินโหดร้ายอย่างสุดโต่ง ชื่นชมในการฆ่าชาวต่างเผ่าเป็นที่สุด ปัจจุบันเขาปรากฏกายขึ้นที่นี่แล้ว เป็นไปได้ไหมว่าต้องการจะสังหารเผ่าวิญญาณ?
ชายชราตาเดียวตกใจ เหม่อมองซูเฉินอย่างโง่งม ผ่านไปพักหนึ่งก็ยังไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี
สีหน้าของชายชราดิบเถื่อนยิ่งซีดเผือด ก่อนหน้านี้เขาเป็นฝ่ายเริ่มโจมตีซูเฉิน แล้วแบบนี้–
–ซูเฉินมีหรือจะยอมปล่อยเขาไป?