288 - หญิงสาวที่อยู่ในต้นกำเนิด
288 - หญิงสาวที่อยู่ในต้นกำเนิด
หลิวเฉิงเอินเขย่าพัดด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย เขามองเห็นแตงโมแล้วหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะกล่าวว่า
"หินที่ดี!"
“หินที่ดี คนทั่วไปไม่สามารถหยิบมันออกมาได้จริงๆ”
“ใช่ คนธรรมดาอย่างเราไม่กล้าเลือกอยู่แล้ว”
“อีกสักครู่ถ้าสมบัติถูกเปิดเผยออกมาจริงๆ คราวนี้ข้าจะกลืนกินเปลือกหินอย่างแน่นอน”
"เจ้าพูดอะไร?!" เอ้อหรงจื่อจำชายคนนั้นได้ “ครั้งนี้เจ้าบอกว่าเจ้าจะกลืนเปลือกเห็นนี้ลงไปจริงๆใช่หรือไม่?”
“แน่นอนข้าเป็นคนพูดเองนี่” ชายหน้าม้าที่อยู่ข้างหลิวเฉิงเอินเยาะเย้ย
"หินแตงโมไม่มีทางมีต้นกำเนิดได้ เจ้ากำลังฝันไปเท่านั้นเด็กน้อย"
“ทุกคนที่อยู่ที่นี่โปรดเป็นพยานด้วย ชายคนนี้บอกว่าถ้ามีต้นกำเนิดอยู่ในนี้จริงๆเขาจะยอมกินเปลือกเห็นลงไป” หวังซู่ก้าวออกมาข้างหน้าพร้อมกับประกาศเสียงดัง
"ตัดหิน!"
หลังจากบูชาเทพเจ้าต้นกำเนิดแล้ว อาจารย์หยวนก็เดินไปข้างหน้าพร้อมกับอาวุธของเขา เขาโบกกระบี่ของเขาอยู่ชั่วขณะก่อนจะเริ่มตัดที่ก้อนหินของหลิวเฉิงเอิน
ผิวหินถูกตัดออกมาอย่างรวดเร็วในไม่ช้าก็มีแสงสว่างปรากฏขึ้น
"ช่างเป็นต้นกำเนิดที่บริสุทธิ์จริงๆ"
แค่ลอกผิวหินออกไม่กี่จินก็มีแสงจ้าออกมาแล้ว นี่จะต้องเป็นต้นกำเนิดที่ล้ำค่าอย่างมาก
ในไม่ช้าฝูงชนก็ร้องอุทานอีกครั้ง ต้นกำเนิดค่อยๆถูกขุดออกมา มันมีน้ำหนักมากถึงสี่จิน สำหรับนักพนันนี่เป็นต้นกำเนิดที่มีราคาค่อนข้างสูง
“คุณชายหลิวเจ้าทำได้ไม่เลวเลย!”
เจ้ารู้ไหมเหมืองบางแห่งสามารถขุดต้นกำเนิดได้เพียงหนึ่งหรือสองจิน ไม่คิดว่าเจ้าจะหาได้ในครั้งเดียวมากมายถึงขนาดนี้
“มาตัดหินแตงโมกันเถอะ ข้าจะนับว่ามีเม็ดแตงโมที่อยู่ข้างในเท่าไหร่ ถ้ามีสองสามเม็ดก็สร้างความแปลกใจให้กับข้าได้แล้ว” ผู้คนรอบๆหลิวเฉิงเอินต่างก็หัวเราะ
"คชา"
อาจารย์หยวนไม่รอช้าและรีบตัดหินแตงโมทันที ผิวเก่าก็พังทลายลงกับพื้นในไม่ช้า
“สุดยอดจริงๆ อ่า ไม่มีเมล็ดแตงโมแม้แต่ชิ้นเดียว ฮ่าๆๆ” ผู้ที่เคยกล่าวไว้ว่าจะกินผิวของต้นกำเนิดหัวเราะเสียงดัง
แม้แต่เย่ฟ่านก็ยังถอนหายใจ หินที่ส่งกลับมาจากขอบเหมืองโบราณในสมัยก่อนนั้นชั่วร้ายเกินกว่าจะเข้าใจได้จริงๆ
อาจารย์หยวนขว้างหินขนาดเท่านิ้วโป้งลงบนพื้นโดยไม่ผ่าจนหมด
“หินแตงโมก็คือหินแตงโม มันไม่สามารถมีต้นกำเนิดได้”
“เด็กน้อยคนนี้โง่จริงๆ!” ใครบางคนที่ลงเดิมพันข้างเย่ฟ่านกล่าวด้วยความโมโหจากนั้นเขาก็เตะเศษของหินแตงโมไปกระแทกผนังห้อง
"ปัง."
หินก้อนเล็กๆนั้นแตกออกในทันทีที่เกิดการกระแทก ทันใดนั้นแสงสว่างเจิดจ้าก็สาดกระจายไปทั่วห้อง
"นี่ ...... มีสมบัติ!" มีคนตะโกน
ร่างหลายร่างพุ่งไปข้างหน้า เย่ฟ่านคือคนที่เร็วที่สุดเขาคว้าแสงสว่างนั้นมาถือไว้ในมืออย่างรวดเร็ว
“นี่คือต้นกำเนิดแบบไหน?”
ในฝ่ามือของเย่ฟ่านมีต้นกำเนิดที่ใหญ่พอๆกับเมล็ดข้าวแต่เห็นได้ชัดว่ามันมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก
“ต้นกำเนิดหนอนโบราณ!”
“มันเป็นต้นกำเนิดของหนอนโบราณจริงๆ มันเป็นต้นกำเนิดที่ใช้ปิดผนึกหนอนโบราณอย่างแน่นอน”
“ถูกต้อง แต่น่าเสียดายที่มันเล็กเกินไป”
“เจ้าจะพูดอย่างนั้นก็ไม่ถูก แม้ว่ามันจะมีขนาดเท่าเมล็ดข้าวแต่ก็สามารถแลกต้นกำเนิดบริสุทธิ์ได้หลายสิบจิน”
ต้นกำเนิดสีแดงที่ลุกเป็นไฟขนาดเท่านิ้วมีค่าเท่ากับต้นกำเนิดบริสุทธิ์สิบจิน ในขณะที่ต้นกำเนิดหนอนโบราณขนาดเท่าเมล็ดข้าวมีค่าเท่ากับต้นกำเนิดบริสุทธิ์หลายสิบจิน ดังนั้นจะเห็นว่าของชิ้นนี้มีมูลค่ามากมายแค่ไหน
“ต้นกำเนิดหนอนโบราณสามารถใช้เป็นยาได้ น้องชายหากเจ้าเอามันไปขายที่เมืองศักดิ์สิทธิ์เจ้าจะได้รับต้นกำเนิดมากกว่าร้อยจินอย่างแน่นอน”
ในขณะนี้ใบหน้าของหลิวเฉิงเอินเป็นสีเขียวอย่างสมบูรณ์ ต้นกำเนิดหนอนโบราณหายากมาก พูดกันตามตรงต่อให้ใช้ต้นกำเนิดบริสุทธิ์ร้อยจินก็ไม่มีคนขายอย่างแน่นอน
"เขาทำเรื่องนี้ได้ยังไง" ผู้คนรอบๆหลิวเฉิงเอินต่างรู้สึกเหลือเชื่อ
เอ้อหรงจื่อเดินไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้ม เขาคว้าเอาถุงต้นกำเนิดที่อยู่ในมือของหลิวเฉิงเอินแม้กระทั่งชิ้นส่วนที่เขาเพิ่งผ่าออกมาได้ก็ไม่เว้น
“ตอนนี้เจ้าเป็นหนี้ต้นกำเนิดเราเก้าสิบจิน รีบไปหามา”
"นี่ ......"
หลิวเฉิงเอินแทบจะอยากโดดแม่น้ำตาย เขาเขินอายเกินกว่าจะมองหน้าใครได้
“คุณชายหลิวเป็นอัจฉริยะของนิกายชิงเซี่ยเขาจะต้องใช้หนี้ของตัวเองอย่างแน่นอนเจ้ากลัวอะไร” ชายที่อยู่ข้างๆหลิวเฉิงเอิน ตำหนิออกมาด้วยใบหน้าเขียวคล้ำ
“ใครจะสนใจว่าคุณชายเจ้าเป็นใคร ติดหนี้ก็ต้องจ่าย ไปเอามาเดี๋ยวนี้” หวังซู่ก้าวไปข้างหน้าและจ้องไปที่ชายคนนั้น
"แต่ก่อนอื่นเจ้าจะต้องกินเปลือกหินนี้ลงไปก่อน"
“ใช่แล้ว เรื่องนี้พวกเราเป็นพยานได้”
ผู้คนที่อยู่รอบตัวต่างก็ส่งเสียงโห่ร้องพร้อมกับหัวเราะอย่างสนุกสนาน
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าบ่อนทั้งหมดมีภูมิหลังที่ลึกซึ้งและไม่ยอมให้มีการต่อสู้คนจากนิกายชิงเซี่ยคงไม่สามารถอดกลั้นตัวเองได้
“น้องชายข้าเพียงพูดเล่นเท่านั้น!”
“อย่าคิดจะผิดคำพูด เรื่องนี้เจ้าพูดออกมาเองและมีพยานมากมายหรือเจ้าต้องการให้ข้าบังคับเจ้า”
ชายหน้าม้าเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง หลังจากนั้นเขาก็ก้มลงไปที่พื้นและเริ่มหยิบเปลือกของหินต้นกำเนิดขึ้นมากินทีละชิ้น มันสร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้คนมากมายที่อยู่รอบข้าง
หลิวเฉิงเอินก็โกรธเคืองจนแทบจะสิ้นสติ เขาออกปากยืมต้นกำเนิดจากผู้คนมากมายแต่ก็ต้องหมดตัวอีกครั้ง เขามองใบหน้าของเย่ฟ่านอยู่ครู่หนึ่งและสะบัดแขนเสื้อจากไป
เย่ฟ่านก็ไม่คิดจะกดดันผู้คนให้ถึงที่สุด เขาเดินไปรอบๆบ่อนหรงเซียงและพบว่าบ่อนพนันนี้ล้วนมีสิ่งของที่สร้างขึ้นเพื่อโกงลูกค้ามากเกินไปดังนั้นเขาจึงต้องการที่จะไปที่อื่น
………….
โรงพนันทะเลสาบหยกซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองผิงเอี๋ยนมีสภาพแวดล้อมที่สวยงามและมีต้นไม้โบราณมากมายที่ปลูกไว้รอบ ๆ ทำให้เกิดร่มเงาจำนวนมาก
ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายแล้วและประตูที่ปิดไว้นานก็เปิดขึ้นอีกครั้ง
เย่ฟ่านยืนอยู่ด้านนอกของโรงพนันและฟังสิ่งที่ผู้คนพูดกันเพื่อฆ่าเวลา
“ราคาหินต้นกำเนิดในเมืองศักดิ์สิทธิ์นั้นสูงเกินไป แต่มันก็มีของดีสมราคาของมันเช่นกัน เมื่อไม่นานมานี้ข้าได้ยินมาว่าใครบางคนได้ดวงตาวิเศษอยู่ในหินต้นกำเนิด”
“ข้าก็ได้ยินเรื่องนี้เหมือนกัน มันไม่ใช่ดวงตาธรรมดาด้วยแต่เป็นดวงตาของปีศาจในยุคโบราณที่มีพลังมากมายมหาศาล”
หวังซู่ได้ยินก็เยาะเย้ยเบาๆว่า
“คนเรายิ่งแก่ยิ่งไร้สาระ มันจะไปมีของแบบนั้นในหินต้นกำเนิดได้ยังไง คอยดูเถอะอีกสักครู่พวกเขาก็จะบอกว่ามีตำราวิชาฝีมือโบราณที่สามารถขุดพบได้ในต้นกำเนิด ฮ่าๆๆ”
“ลิงน้อยเจ้าไม่รู้จักอะไรเลย!”
ชายชราเหล่านั้นมีประสาทสัมผัสที่ดีมาก เขาหันมาตำหนิหวังซู่ด้วยรอยยิ้มและไม่ได้จริงจังอะไร จากนั้นพวกเขาก็อธิบายให้พวกเย่ฟ่านที่แต่งตัวเหมือนกับคนบ้านนอกฟังอย่างเอื้อเฟื้อว่า
"ต้นกำเนิดเป็นวัตถุวิญญาณที่หายากที่สุดในโลก มันเป็นสิ่งที่คนโบราณใช้ปิดผนึกของสำคัญทุกประเภท แม้แต่สิ่งมีชีวิต"
ชายชราอีกคนก็พูดด้วยท่าทางจริงจังว่า "ตำราโบราณที่เจ้าพูดถึงนั้นมีคนขุดพบมาหลายพันปีแล้ว"
“ท่านผู้เฒ่าท่านก็แก่ชรามากแล้วท่านยังพูดจาเลอะเลือนอยู่อีก” เอ้อหรงจื่อไม่มีทางเชื่อเรื่องนี้อย่างแน่นอน
“ไอ้เด็กเวร! จะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่เจ้า”
หวังซู่หัวเราะอย่างสนุกสนาน จากนั้นเขาดึงแขนเสื้อของเอ้อหรงจื่อไปด้านหน้าของชายชราทั้งเหล่านั้นพร้อมกับประสานมือขอโทษ
“ผู้อาวุโสพวกเรายังเด็กและไร้ประสบการณ์เลยเผลอล่วงเกินพวกท่านไป ผู้อาวุโสโปรดอย่าได้ถือสา”
“ข้าจะบอกอะไรให้ เมื่อหลายพันปีก่อนมีคนเคยเจอหญิงสาวผู้งดงามในหินต้นกำเนิดด้วย” ชายชราคนนั้นกล่าวด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ
"น่าเสียดายที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์หลายแห่งลงมือร่วมกันก็ยังไม่สามารถจับนางไว้ได้"
"จริงหรือ?!" เอ้อหรงจื่อทำหน้าสงสัย “นางเป็นเซียนหรือเปล่าหรือว่านางเป็นปีศาจ?”
เมื่อได้ยินเรื่องนี้เย่ฟ่านที่อยู่ไม่ไกลก็สยิวกายด้วยความหนาวเหน็บ
“ไสหัวออกไปข้างๆข้าไม่พูดกับเจ้า” ชายชราอีกคนรู้สึกรำคาญคำพูดของเอ้อหรงจื่อมาก เขาหันไปมองหวังซู่และกล่าวด้วยรอยยิ้มอีกครั้ง
“กะอีแค่ตำราสวรรค์ เจ้ารู้หรือไม่ว่ามหาอำนาจจากภาคกลางมากว้านซื้อหินต้นกำเนิดที่เมืองศักดิ์สิทธิ์โดยไม่สนใจมูลค่าด้วยซ้ำ พวกเขาทุบทำลายหินต้นกำเนิดไปมากมายเพื่อค้นหาตำราสวรรค์”
หัวใจของเย่ฟ่านสั่นสะท้าน เขาไม่คิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น
“ท่านปู่แล้วท่านเคยเห็นตำราสวรรค์พวกนั้นหรือเปล่า” เอ้อหรงจื่อเกาหัวและถามออกไปอย่างซื่อตรง
“ข้าบอกแล้วไงว่าจะไม่พูดกับเจ้า จะไปไหนก็ไป!”
คนธรรมดาจะมีโอกาสได้เห็นตำราวิเศษพวกนั้นได้อย่างไร
คำพูดของเอ้อหรงจื่อเหมือนเข็มทิ่มแทงหัวใจของชายชราเหล่านั้นใบหน้าของพวกเขาบิดเบี้ยวอย่างรุนแรงก่อนจะเดินจากไปด้วยความโมโห