บทที่ 21: คัมภีร์เก้าเอี้ยงเวอร์ชันปรับปรุง
“นิกายเทียนโหมว?”
หวางซืออวี่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า “ฉันเองก็พึ่งรู้เรื่องนิกายเทียนโหมวเหมือนกัน จากที่เห็นเรื่องที่พวกมันกล้าพากันก่อวินาศกรรมจนหายนะไปทั่วโลก แสดงว่าพวกมันต้องมีกำลังรบในระดับที่เกินเลเวล 9 เป็นแบ็คอัพแน่นอน ไม่งั้นพวกมันคงโดนถล่มจนไม่เหลือซากไปนานแล้ว”
เจียงเหอใบหน้าเคร่งเครียด เหนือกว่าเลเวล 9… กำลังรบอันแข็งแกร่งขนาดที่ไม่ต้องกลัวระเบิดนิวเคลียร์งั้นเหรอ?
‘แล้วตู... ไปยั่วยุไอ้คนพวกนี้เข้าจริง ๆ เหรอ?’
'แย่ละ... ต้องรีบ ๆ หาทางเอาตัวรอดให้ได้ ไม่งั้นคงใช้ชีวิตสงบสุขไม่ได้แน่ถ้าหากโดนไอ้พวกนิกายเทียนโหมวเวรนี่มันหมายหัว!'
สีหน้าของเจียงเหอเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ในขณะที่ความคิดต่าง ๆ แล่นเข้ามาในหัว จนในที่สุดเขาก็ตระหนักว่ามีทางเดียวเท่านั้น คือ ต้องทำลายนิกายเทียนโหมวทิ้งซะเพื่อเป็นการกำจัดปัญหาจากต้นตอ เสียแต่ว่าเขาไม่มีกำลังมากพอที่จะทำได้นี่สิ!
เมื่อเห็นว่าเจียงเหอไม่ได้พูดอะไรซักพักหนึ่งแล้ว หวางซืออวี่จึงถามว่า “นายกำลังคิดอะไรอยู่เหรอ?”
"ไม่มีอะไรหรอก" เจียงเหอถอนหายใจยาว “ในเมื่อฉันช่วยสำนักงานจัดการคดีพิเศษในครั้งนี้ เธอช่วยไปหาข้อมูลของนิกายเทียนโหมวมาให้ฉันเพิ่มทีได้ไหม?”
“ถ้าฉันกลับไปแล้วจะไปถามผู้บังคับบัญชาให้นะ อีกอย่างนายก็ได้ฆ่าพวกสัตว์อสูรเลเวล 1 ไปเจ็ดตัว ผู้บังคับบัญชาเลยมอบแต้มบุญเจ็ดสิบแต้มให้นายด้วย”
“แต้มบุญ?” เจียงเหอขมวดคิ้วด้วยความสับสน “ฉันฆ่าสัตว์อสูรไปแปดตัวไม่ใช่เหรอ? มันกลายเป็นเจ็ดได้ไงอะ?”
“ก็เพราะว่าคนของเราไปเจอศพสัตว์อสูรแค่เจ็ดศพเอง” หวางซืออวี่ก็สงสัยเช่นกัน “ฉันถามหลี่เฟยแล้ว และเขาบอกว่านายฆ่าไปแปดตัว… แล้วก็ดันเปลี่ยนใจและบอกว่าจำไม่ได้ นั่นแหล่ะเหตุผลที่สำนักงานให้รางวัลนายตามจำนวนศพที่พบ”
‘เจียงเหอพูดไม่ออก ถ้าหาเจอแปดศพก็บ้าแล้ว เพราะตูเอากลับมาบ้านด้วยศพหนึ่งนี่หว่า แต่ประเด็นสำคัญเลยคือ...’
‘ไอ้หมารองหลี่มันโง่แค่ไหนกันวะ? มันจำไม่ได้เหรอว่าสัตว์อสูรถูกฆ่าไปกี่ตัวกันน่ะหา?’
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เจียงเหอก็ถามออกมาว่า “แต้มบุญมีไว้เพื่ออะไรเหรอ?”
“เพื่อการค้าขายน่ะ!” หวางซืออวี่อธิบายต่อ “ประเทศกำลังจะจัดตั้งแผนกการจัดการวรยุทธ เมื่อแผนกนี้ก่อตั้งขึ้นจะมีเวทีที่ผู้ฝึกยุทธและผู้เหนือมนุษย์สามารถแลกเปลี่ยนได้โดยใช้แต้มบุญแทนสกุลเงินตรา ตอนนี้รัฐบาลได้กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนไว้ที่ประมาณ 1 แต้มเท่ากับ 10,000 หยวน”
“แน่นอนว่าแต้มบุญสามารถนำมาแลกเปลี่ยนกับสำนักงานของเราเพื่อแลกคัมภีร์วรยุทธ อาวุธ หรือแม้แต่เม็ดยาโอสถต่าง ๆ ได้ด้วย” เธอดูอิจฉาแต่ก็ยังพูดต่อ “ฉันเข้าสำนักงานมานานกว่าสามเดือนแล้ว และฉันได้รับแต้มบุญเพียง 9 แต้ม แต่นายได้ตั้ง 70 แต้มในภารกิจเดียว บอกตามตรงฉันอิจฉานายแทบตายเลยแหล่ะ”
เจียงเหอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย "โห? โอสถที่ช่วยในการฝึกฝนวรยุทธก็มีด้วยเหรอ?”
“ใช่ แต่มีไม่มากในสต็อก และไม่ค่อยมีความหลากหลาย” หวางซืออวี่กล่าวโดยไม่ได้ปิดบังอะไร “ประเทศได้ก่อตั้งกรมวิจัยพลังพิเศษแห่งชาติเมื่อแปดปีที่แล้ว พวกเขามีหน้าที่รับผิดชอบในการวิจัย รวมถึงการพัฒนาโลหะผสมและโอสถต่าง ๆ ผลลัพธ์ที่ได้จากการจับคู่กันระหว่างงานวิจัยของพวกเขากับวิทยายุทธดั้งเดิมนั้นถือว่าได้กำไรเลยเชียวล่ะ”
หัวใจของเจียงเหอเต้นไม่เป็นจังหวะ! โอสถ? ตูเอาโอสถที่ว่านั่นมาปลูกได้ป่าววะ?
เขายิ้มให้วางซืออวี่ “แล้วแต้มบุญที่ฉันมีอยู่ 70 แต้มเนี่ยสามารถเอาไปแลกโอสถอะไรได้บ้าง? มีโอสถอะไรที่จะช่วยให้ผู้ฝึกยุทธสามารถไปถึงระดับสี่ได้บ้างไหม”
สำหรับเจียงเหอ การกินแตงกวาเป็นวิธีที่รวดเร็วในการก้าวขึ้นเป็นผู้ฝึกยุทธระดับสี่ แต่ว่าตอนนี้ หนึ่งเลยคือเขากินแตงกวามากเกินไปจนแทบจะตดออกมาเป็นกลิ่นแตงกวาแล้ว สองในตอนนี้แตงกวาทำให้ร่างกายและพลังปราณแข็งแกร่งขึ้นก็จริงอยู่ แต่เมื่อเป็นผู้ฝึกยุทธระดับสี่จะทำให้สรรพคุณของมันมีประโยชน์ต่อเขาน้อยลง
แต่ตอนนี้เจียงเหอสามารถลองปลูกโอสถเพื่อช่วยแก้ปัญหานี้ได้
“น่าจะมีนะ” หวางซืออวี่กล่าว “แต่ราคาน่าจะแพง ฉันกลับไปแล้วจะไปถามมาให้ก็แล้วกัน”
หลังจากที่เห็นเธอออกไป เจียงเหอก็รีบกลับเข้าบ้าน
ฟาร์มของเขาเลเวล 2 แล้ว หมายความว่าเขาสามารถปลูกคัมภีร์วรยุทธได้อีก 2 วิชา หลังจากครุ่นคิดอย่างหนัก เจียงเหอจึงได้ตัดสินใจเลือกที่จะปลูกวิชาเก้าเอี้ยงและท่าเท้าท่องคลื่น
วิชาเก้าเอี้ยงใช้เพื่อพัฒนาลมปราณภายใน ในขณะที่ท่าเท้าท่องคลื่นอันเป็นวิชาตัวเบาใช้เพื่อพัฒนาการเคลื่อนไหว เนื่องจากเจียงเหอมีสิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกรและกายาวัชระคงกระพันแล้ว อย่างน้อยเขาก็จะสามารถต่อสู้จู่โจม ป้องกันตัวเอง และวิ่งหนีได้
เจียงเหอหยิบสำเนาคัมภีร์เก้าเอี้ยงที่เคยไปปริ้นต์ที่ร้านมินิมาร์ทออกมา แล้วนำไปปลูกลงดินโดยไม่ลืมใส่ปุ๋ยไนโตรเจนเม็ดหนึ่ง
แล้วก็...
รอมาตั้งนานแล้วก็ยังไม่มีอะไรงอกออกมา
“เกิดอะไรขึ้นอีกวะไอ้ระบบ? หรือว่าเวลฟาร์มอัพแล้วแต่เอ็งลืมอัปเดตข้อมูลว่าจะต้องปลูกคัมภีร์วรยุทธเพิ่มได้ด้วยน่ะ?” เจียงเหอถาม
เสียงกลไกของระบบดังขึ้น
“เฉพาะคัมภีร์ที่โฮสต์ลงมือคัดลอกเองเท่านั้นที่สามารถปลูกได้”
ไอ้สะ…
ใบหน้าของเจียงเหอมืดหม่น
‘เรื่องสำคัญขนาดนี้ทำไมเอ็งไม่รีบบอกว้า’
เมื่อนึกได้ว่าเขาใช้เงินไปหลายตังค์เพื่อปริ๊นต์ไอ้พวกนี้ออกมา หัวใจของเจียงเหอก็เจ็บปวดไปหมด ที่เขาทำได้ตอนนี้คือกลับเข้าบ้านไปหยิบปากกาและกระดาษเพื่อเอามาก็อปคัมภีร์เก้าเอี้ยง
'เขาแกร่งปล่อยเขาแกร่ง ลมโชยพัดขุนเขา จันทร์กระจ่างกลางน้ำ เขาร้ายปล่อยเขาร้าย เขาร้ายย้อนทำร้ายตัวเขา ข้าเพียงแค่ประคองลมปราณ…’
ทีละตัวทีละตัว ตัวหนังสือค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนกระดาษ เจียงเหอใช้เวลาครึ่งชั่วโมงกว่าจะก็อปคัมภีร์ทั้งฉบับเสร็จ
เมื่อเขาขยำกระดาษและโยนลงหลุม จู่ ๆ ก็มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา
“ดินลึกลับทำให้พืชผลแข็งแรงขึ้น ถ้างั้น… มันจะเสริมความแข็งแกร่งของคัมภีร์เก้าเอี้ยงด้วยมะ?”
คราวนี้เจียงเหอเทดินลึกลับครึ่งหนึ่งที่เขามีออกมาและฝังลงไปพร้อมกันด้วย จากนั้นเขาก็หยิบเก้าอี้มานั่งแล้วควักแตงกวาออกมาหักครึ่ง แล้วโยนครึ่งหนึ่งให้เอ้อเหลิงจื่อและกินเองอีกครึ่ง
ห้านาทีต่อมาเมื่อต้นกล้าแทงยอดทะลุพื้นดินและแตกหน่อ แต่คราวนี้ เจียงเหอต้องรู้สึกประหลาดใจ ที่ในที่สุดระบบก็แสดงความคิดสร้างสรรค์ออกมาบ้างแล้ว เพราะคัมภีร์เก้าเอี้ยงไม่ได้เติบโตไปเป็นต้นไม้ แต่กลายเป็นวัตถุแวววาว 9 ชิ้นหน้าตาคล้าย ๆ หลอดไฟกลม ๆ!
ต่อมาวัตถุที่ส่องแสงทั้งเก้าชิ้นก็ขยายใหญ่ขึ้นและส่องแสงสว่างขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งแต่ละชิ้นมีขนาดเท่ากับหินโม่แป้งขนาดเล็ก แสงสว่างของพวกมันมีลักษณะเผาไหม้ราวกับมีดวงอาทิตย์เก้าดวงห้อยอยู่ในลาน
ดวงตาของเจียงเหอเป็นประกายวิบวับ "สุดยอด!"
เขาเปิดใช้งานกายาวัชระคงกระพันเพื่อขับไล่ความร้อนที่แผดเผา แล้วเขาก็ค่อย ๆ เดินเข้าไปและสังเกตเห็นว่า 'ดวงอาทิตย์' ขนาดเท่าหินโม่แป้งแต่ละดวงมีหน้าของคัมภีร์อยู่
[ติ๊ง!]
[+100 ฟาร์มพอยท์]
เมื่อเจียงเหอเด็ดมันลงมา เสียงแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้น
เขาผงะไป
“คัมภีร์ 1 หน้าให้ฟาร์มพอยท์ 100 แต้มและ 10 EXP? ตูรวยแล้วเว้ย! แปลว่าคัมภีร์เก้าเอี้ยงแค่เล่มเดียวให้ตั้ง 900 ฟาร์มพอยท์กับ 90 EXP งั้นสินะ? หักลบราคาปุ๋ยไนโตรเจนไป 100 ตูก็มีกำไร 800 แต้ม”
เขารีบร้อนเด็ดพวกมันทั้งหมดลงมาจนเกิดเสียงดังปึงปัง และแล้ว 'ดวงอาทิตย์' ทั้งเก้าดวงก็ดับสูญไปในความว่างเปล่า เมื่อเจียงเหอจัดเรียงหน้าคัมภีร์ทั้งเก้าหน้า หน้าต่างข้อมูลก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตา
[คัมภีร์เก้าเอี้ยง (เวอร์ชันปรับปรุง)]
[วิชาฝึกฝนชั้นยอด หากฝึกฝนจนสำเร็จจะสามารถเรียกดวงตะวัน 9 ดวงออกมาเผาผลาญ ภูเขาทั้งหลายต้องลุกเป็นไฟและทะเลทั้งหลายเป็นต้องเดือดพล่าน พิษนับร้อยไม่รุกราน เชี่ยวชาญในการทำลายพลังหยิน กัดกินพลังความเย็น ไม่ละเว้นพลังชั่วร้ายทั้งหมดในโลกนี้]