HO บทที่ 159 ทำงานเสร็จสิ้น
หลังจากที่เว่ยกับวอนเดอร์ริ่งซาวด์ได้แยกกับซินหยากับเมลติ้งสโนว์แล้ว พวกเขาก็เดินไปตามถนนที่ปูด้วยหินจนกระทั่งถึงทางด้านหลังที่พาพวกเขาไปยังเขตชานเมือง เมื่อพวกเขาเลี้ยวเข้าไปในถนนด้านหลังนั้น ทิวทัศน์รอบ ๆ พวกเขาก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ที่ซึ่งครั้งหนึ่งเคยมีชาวบ้านที่มีชีวิตชีวาพลุกพล่านไปทั่วเพื่อพยายามขายของของตน ตอนนี้ก็มีแต่ความเงียบงัน ชาวบ้านที่พวกเขาเห็นมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ราว ๆ สามหรือสี่คนที่ดูไม่เป็นเป็นมิตร
บรรยากาศไม่ค่อยจะสู้ดี สาเหตุอาจเป็นเพราะบริเวณรอบนอกของหมู่บ้านเป็นที่ที่ชาวบ้านพาสัตว์ไปฆ่า
พวกเขาเห็นร้านขายเนื้อต่าง ๆ ขายเปิดในบริเวณนี้จำนวนมาก วอนเดอร์ริ่งซาวด์รู้สึกสะอิดสะเอียนกับกลิ่นเหม็นที่ลอยอยู่ในอากาศ เขาเหลือบมองไปรอบ ๆ ถนนที่เปียกโชกไปด้วยเลือดและส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
เขาหันมองไปทางโรมมิ่งวินด์ เขาต้องประหลาดใจเมื่อดูราวกับว่าเธอไม่ได้สังเกตเห็นสภาพแวดล้อมที่น่าสยดสยองขณะที่พวกเขาเดินผ่านเลย จากรอยยิ้มของเธอ มันเหมือนกับว่าเธอกำลังเดินผ่านทุ่งดอกไม้
“คุณดูมีความสุขจังนะ” วอนเดอร์ริ่งซาวด์กล่าวขณะมองดูโรมมิ่งวินด์ที่ยิ้มแย้มแจ่มใส
“ใช่ ฉันมีความสุขมาก” เว่ยกล่าวอย่างจริงใจ ใครก็ตามที่เห็นเธอสามารถบอกได้ว่าเพราะตอนที่เธอเดินไปมีความสุข ความก้าวหน้าของซินหยา ทำให้เธอรู้สึกล่องลอยราวกับอยู่เหนือดวงจันทร์ "มันเป็นวันที่ดีน่ะ"
วอนเดอร์ริ่งซาวด์คิดว่าเธอกำลังหมายถึงว่าพวกเขาเอาชีวิตรอดจากการต่อสู้กับสัตว์ทะเลยักษ์ตัวนั้นและได้เดินมาที่หมู่บ้านแห่งนี้ เมื่อเขาคิดเช่นนั้นเขาก็เห็นด้วยกับเธอ มีหลายสิ่งหลายอย่างที่อาจผิดพลาดได้ และพวกเขาเกือบจะตายเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว
"ถูกต้องของคุณ มันเป็นวันที่ดีจริงๆ"
"อืม" เว่ยพยักหน้าเห็นด้วย เธอรู้ว่าวอนเดอร์ริ่งซาวด์คงจะสงสัยว่าทำไมเธอถึงมีความสุขและเดาสาเหตุนั้นผิดไปจากสิ่งที่เธอคิดแต่นั่นก็ดีสำหรับเธอและเธอจะไม่แก้ไขเขา เขาไม่จำเป็นต้องรู้เหตุผลที่แท้จริง
แม้ว่าเธอจะชอบเขา แต่นี่เป็นความลับของซินหยาดังนั้น เว้นแต่เพื่อนของเธอจะบอกให้วอนเดอร์ริ่งซาวด์ด้วยตัวเอง เขาจะไม่มีทางรู้มันจากเธอ เธอจะเป็นเพียงคนเดียวที่รู้เรื่องนี้
“ถ้างั้น” วอนเดอร์ริ่งซาวด์เปลี่ยนเรื่องโดยขยับเข้าไปใกล้เธอเล็กน้อย ทำให้เธอรู้สึกเขินอาย “เราจะไปที่ไหนหลังจากออกจากอาร์คาล่า”
เว่ยหน้าแดงเมื่อเธออยู่ใกล้ ๆ เขา "ฉันคิดว่าเราควรมุ่งหน้าไปที่..."
ขณะที่ทั้งคู่คุยกันถึงแผนการของพวกเขา พวกเขาก็ติดอยู่ในการสนทนาที่พวกเขาไม่ได้สังเกตด้วยซ้ำเมื่อไปถึงที่หมาย จนกระทั่งโรมมิ่งวินด์สังเกตเห็นว่าพวกเขาอยู่ตรงทาง เธอจึงตรวจสอบพิกัดบนแผนที่ของเธอโดยตระหนักว่าพวกเขาเดินผ่านร้านทำเครื่องหนังไปแล้ว
ทั้งคู่เดินกลับไปที่หน้าร้าน เว่ยเปิดประตูและทั้งสองก็เดินเข้าไป หลังจากพาเธอเข้าไปข้างในแล้ว วอนเดอร์ริ่งซาวด์ก็รอจนกระทั่งเว่ยได้เรียนรู้ทักษะที่เธอต้องการก่อนที่เขาค่อยเดินออกไป
ขณะที่เว่ยอยู่ในระหว่างการฝึก วอนเดอร์ริ่งซาวด์ก็ขัดจังหวะเธอโดยพูดว่า "เดี๋ยวฉันจะออกไปหาข้อมูลก่อนนะ ไว้เราค่อยเจอกันตรงจุดนัดพบ โอเคไหม?"
“โอเค ขอบคุณนะที่พาฉันมาที่นี่” เว่ยตอบโบกมือลาเขา มีดเล่มใหญ่ในมือของเธอที่เธอใช้เรียนรู้แล่หนัง เลือดหยดจากมีดไหลตามทาง
เมื่อเห็นภาพนั้นวอนเดอร์ริ่งซาวด์ก็สะดุ้งเล็กน้อย เขาออกจากร้านทำเครื่องหนังเพื่อมุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทางของเขา เขาเคยโกหกทุกคนก่อนหน้านี้ว่า ห้องสมุดของหมู่บ้านอยู่ใกล้กับร้านทำเครื่องหนัง แต่จริง ๆ แล้ว มันอยู่คนละฟากเลย
ถึงเขาจะรู้อยู่แต่ใจแต่เขาเพียงต้องการใช้เวลากับโรมมิ่งวินด์ให้มากขึ้น แม้ว่าเขาจะรู้ว่าในไม่ช้าพวกเขาจะใช้เวลาทุกชั่วโมงในแต่ละวันกับเธอ แต่เขาไม่สนใจหรอก เขาเป็นผู้ชายที่มีความรัก
วอนเดอร์ริ่งซาวด์แผนที่ของเขาทำให้เพื่อระบุพิกัดของห้องสมุด จุดหมายของที่นั่นมันอยู่ไกลจากตำแหน่งที่เขาอยู่ตอนนี้ เขาเริ่มเดินทางไกลไปยังอีกฟากหนึ่งของหมู่บ้าน
เขาใช้เวลาประมาณ 30 นาทีในการสัญจรไปรอบ ๆ หมู่บ้าน ก่อนที่เขาจะไปถึงจุดหมายปลายทางในที่สุด วอนเดอร์ริ่งซาวด์ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและเข้าไปในห้องสมุดขนาดเล็ก พร้อมที่จะรับข้อมูลที่ต้องการ
…
ตัดภาพมาที่ซินหยากับเมลติ้งสโนว์
ในขณะที่เมลติ้งสโนว์กำลังสงสัยว่าทางโรมมิ่งวินด์กับวอนเดอร์ริ่งซาวด์เป็นอย่างไรบ้าง
ซินหยากำลังเจรจาอย่างจริงจังกับโรนัลด์ เจ้าของร้านเจโนเวซีมิลเลอร์ เขากำลังขายกระจกแห่งความโกลาหลในราคาที่แนะนำที่เกมกำหนดไว้ แต่เขาเห็นดวงตาของ NPC ในตอนที่ดขาหยิบกระจกออกมา เขาก็เปลี่ยนใจทันที
สีหน้าของคนแคระเมื่อเขาหยิบกระจกแห่งความโกลาหลออกมา คนแคระเผยความปรารถนาอย่างแรงกล้า มันแสดงให้เห็นเพียงไม่กี่วินาที แต่ซินหยาสังเหตุเห็นมัยและรู้ว่าเขาสามารถใช้ประโยชน์จากมันได้
สิ่งที่ผู้เล่นหลายคนรู้ แต่ส่วนใหญ่ไม่ลองคือการต่อราคากับ NPC แม้ว่าการทำเช่นนี้อาจทำให้ผู้เล่นซื้อในราคาถูกหรือขายได้สูง แต่ก็อาจผิดพลาดได้มากเช่นกัน
หากเกิดข้อผิดพลาด อาจทำให้ NPC เกลียดพวกเขาได้ ซึ่งจะทำให้ NPC กระจายข่าวลือเกี่ยวกับผู้เล่นดังกล่าว ทำให้ชื่อเสียงของพวกเขาในเมืองนั้นต่ำลง
หากชื่อเสียงของผู้เล่นลดลงมาก ๆ ผู้เล่นจะไม่สามารถรับภารกิจใดๆ ได้ และราคาของในร้านค้าจะเพิ่มขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์สำหรับพวกเขาด้วย เพราะเหตุนี้จึงไม่มีผู้เล่นคนไหนอยากจะต่อรองราคา
อย่างไรก็ตาม ซินหยาได้เห็นแสงแวววาวในดวงตาของโรนัลด์ก็ตัดสินใจลองดู ดังนั้นหลังจากเจรจากับคนแคระเป็นเวลา 20 นาที ซินหยาก็ประสบความสำเร็จในการเจรจาต่อรอง โดยขายกระจกแห่งความโกลาหลมากกว่า 100 เหรียญทองจากราคาประเมินและรับกระจกสีฟ้าคริสตัลฟรี
หลังจากรวบรวมเหรียญและปล่อยให้โรนัลด์เก็บกระจกในกล่องที่ปลอดภัย ซินหยาออกจากร้านแล้วตามด้วยเมลติ้งสโนว์ที่รู้สึกยินดีกับความสำเร็จของเขา