HO บทที่ 158 ร้านเจโนเวซีมิลเลอร์
เมื่อเดินเข้าไปในร้าน ซินหยารู้สึกทึ่งกับความงามของกระจกที่ประดิษฐ์ขึ้นอย่างดี มีทั้งอันใหญ่ อันเล็ก อันธรรมดา อันหรูหรา มีกระจกหลากหลายแบบให้เขาดู
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเขาในทันทีคือกระจกสีน้ำเงินคริสตัลขนาดกลาง เมื่อมองแวบแรก ดูเหมือนจะไม่มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับมันแต่ยิ่งเขามองดูมันมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งดูเหมือนกลายเป็นบางสิ่งที่น่าอัศจรรย์
ซินหยายังไม่ลืมเหตุผลที่มาร้านนี้ เขายังคงจับมือของเมลติ้งสโนว์ไปยังกระจกสีน้ำเงินที่ส่องประกายราวกับอยู่ในภวังค์
ขณะที่เขาเดินเข้าไปใกล้พื้นผิวของกระจกก็เริ่มเปลี่ยนไป แทนที่จะเป็นภาพสะท้อนของเขา มันกลับแสดงให้เห็นภูมิทัศน์ที่ส่องสว่างอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
ภารกิจได้ถูกสร้างขึ้น!!
ในขณะที่ซินหยากำลังจะเอื้อมไปแตะกระจกก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น เขาได้หยุดมือกลางคัน เสียงนั้นทำให้เขารู้ได้ในทันทีว่ากระจกที่อยู่เบื้องหน้านั้น มันต้องเป็นไอเทมเควสอย่างแน่นอน
“เจ้าหนุ่ม ถ้าเป็นฉัน ฉันจะไม่เอามือไปแตะมัน” จู่ ๆ ก็มีเสียงดังทุ้มดังขึ้นมาเตือนซินหยา
ซินหยาลดมือจากการคว้ากระจก หันไปหาสุภาพบุรุษสูงอายุที่เตี้ยแต่แข็งแรง เมลติ้งสโนว์กำลังมองมาที่ซินหยาอย่างกังวลใจ
“พี่ดริฟ พี่ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย? ผมเรียกพี่หลายรอบแล้วแต่ดูเหมือนว่าพี่กำลังตกอยู่ในภวังค์บางอย่าง” เมลติ้งสโนว์ถามอย่างกังวล
ซินหยายังคงนิ่งอยู่เล็กน้อย เขาพยักหน้าช้า ๆ "ฉันสบายดีแต่ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้นเมื่อกี้"
“ฉันบอกได้นะว่าเกิดอะไรขึ้น” ชายชราที่อยู่ใกล้พวกเขากล่าว
ซินหยาหันความสนใจไปที่ชายผู้นี้ ผู้ซึ่งหลังจากมองครั้งที่สองด้วยสายตาที่กระจ่างชัด ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์คนแคระ นี่เป็นครั้งแรกที่ซินหยาได้เห็นอย่างใกล้ชิดในชีวิตนี้และรวมถึงชีวิตที่แล้วของเขาด้วย
เมื่อพิจารณา NPC อย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว ก็ไม่มีคุณลักษณะพิเศษใดที่เผ่าพันธุ์ส่วนใหญ่มี เช่น เอลฟ์ ดราก้อนคินหรือดรายแอดเหมือนเขา NPC ดูเหมือนมนุษย์จริง ๆ แค่ตัวเล็กกว่าปกติเท่านั้น
แม้ว่าชายคนนั้นจะมีรูปร่างเล็กเหมือน NPC ส่วนใหญ่ในเกมนี้ แต่เขาก็ยังดูดีมาก เมื่อมองขึ้นและลงซินหยาคิดว่า NPC คนนี้น่าจะเป็นที่นิยมมากด้วยใบหน้าของเขา
คางแหลม จมูกโด่ง และริมฝีปากเต็มที่จับคู่กับผมสั้นหยิกเป็นลอนสีน้ำตาลและเคราแพะของเขาเป็นจุดขายที่ยอดเยี่ยม อย่างไรก็ตาม ชายคนนั้นมีดวงตาที่ดูเคร่งขรึมมาก
"คุณคือใคร?" เมลติ้งสโนว์ถามพลางดึงเสื้อของซินหยา
ชายคนนั้นยิ้มกว้าง "ฉันคือโรนัลด์ เจโนเวซี เป็นเจ้าของร้านแห่งนี้"
ซินหยายื่นมือออกมากล่าวว่า "ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมชื่อดริฟติ้งคลาวด์และนี่คือเพื่อนของผม เมลติ้งสโนว์
“ยินดีที่ได้รู้จัก” โรนัลด์พูดพลางจับมือกัน “ฉันขอถามหน่อยได้ไหม ว่าทำไมคุณถึงมาที่ร้านของฉัน”
“ผมมีกระจกบานนี้ที่ฉันต้องการขายแต่กลับถูกรบกวนเมื่อเข้ามา” ซินหยาอธิบาย พลางมองข้ามไหล่ของเขาไปที่กระจกสีน้ำเงินใส
โรนัลด์ลูบเคราของเขาและมองไปที่กระจกและพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า "คุณไม่ใช่คนแรกที่จะถูกกระจกล่อลวงและคุณจะไม่ใช่คนสุดท้าย"
“บอกเราหน่อยได้ไหม ว่าเป็นเพราะอะไร” เมลติ้งสโนว์ถามด้วยความสงสัยว่ากระจกมันมีอันตรายหรือไม่
“มันถูกเรียกว่ากระจกเงาสะท้อน” โรนัลด์เริ่มพูด ชายหนุ่มเดินไปหามัน ก่อนจะหยิบมันให้พวกเด็ก ๆ ได้เห็น "มันถูกขายให้ฉันโดยนักเดินทางนิรนามพร้อมกับคำเตือนว่ามันถูกสาป เขาบอกฉันว่ามันจะดึงดูดผู้คนและเมื่อมันครอบงำพวกเขาสำเร็จ มันจะเอาวิญญาณของพวกเขาไป"
“นี่คือสิ่งที่นักเดินทางคนนั้นพูดจริง ๆ เหรอ?” เมลติ้งสโนว์ถามและถอยกลับจากกระจกเล็กน้อย
โรนัลด์ส่ายหัวให้กับเด็กหนุ่มว่า “ใช่ บางครั้งกระจกบานนี้จะล่อให้ใครซื้อมัน ฉันไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นเมื่อออกจากร้านฉัน แต่สักพักกระจกก็จะกลับมาพร้อมรอยบางอย่างบนตัวมัน”
เมื่อพลิกกระจกไปด้านหลังซินหยากับเมลติ้งสโนว์สามารถเห็นเส้นคล้ายงูหลายสิบเส้นปกคลุมพื้นผิวด้านหลัง ซินหยารู้ว่านี่เป็นภารกิจ จึงรู้ว่านี่เป็นการแสดงจำนวนคนที่เสียชีวิตขณะพยายามทำภารกิจให้สำเร็จ
“ในตอนแรกมีเพียงแค่ห้าเส้นเท่านั้น” โรนัลด์บอกพวกเขาพลางส่ายหัวอย่างเศร้าสร้อย
เมื่อซินหยาเห็นเส้นด้านหลังกระจกที่มีมากกว่า 500 เส้น ทำให้เขามั่นใจว่าภารกิจนี้จะเป็นอย่างไร มันคงเป็นเรื่องยากมาก อย่างไรก็ตาม เขารู้ด้วยว่าภารกิจที่ยากนั้นหมายถึงรางวัลใหญ่ เขาไตร่ตรองว่าควรจะลองหรือไม่ เขาคิดเกี่ยวกับเป้าหมายของเขาและตัดสินใจจะทำให้สิ่งที่ต้องการ
“กระจกนี่ ราคาเท่าไหร?” ซินหยาถาม NPC
คนแคระดูตกใจที่ชายหนุ่มตรงหน้ายังคงต้องการซื้อมันหลังจากได้ฟังเรื่องราวทุกอย่างจากเขา
เมลติ้งสโนว์หันมาและพูดว่า "พี่ดริฟ พี่เอาจริงเหรอหรือพี่ไม่ได้ยินสิ่งที่ชายคนนั้นพูด"
เมลติ้งสโนว์อาจเป็นะพวกชื่นชอบการเป็นนักผจญภัยแต่เขาจะไม่พาตัวเองไปเสี่ยงกัยอันตราย เขารู้ว่ามันเป็นภารกิจบางอย่าง แต่แน่นอนว่าต้องอยู่ไกลเกินความสามารถของพวกเขาที่จะทำสำเร็จ เขาอาจจะพูดมากแต่เขารู้ขีดจำกัดของตัวเอง
"คุณควรฟังเพื่อนตัวน้อยของคุณ ความตายเท่านั้นรอคุณอยู่ ถ้าคุณซื้อกระจกบานนี้" คนแคระพูดพยายามเตือนเขาไม่ให้ซื้อมัน
“เรื่องนั้นผมเข้าใจดี” ซินยากล่าว แม้ว่าตอนนี้เขาจะซื้อกระจกก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะลองเปิดดูในทันที เขารู้ขีดจำกัดของตัวเอง เขาจะรอจนกว่าเขาจะอยู่ในระดับที่สูงขึ้นและพร้อมอย่างสมบูรณ์ ก่อนที่จะคิดเกี่ยวกับมันจะอีกครั้ง “แต่ผมอยากจะค้นพบความลับของมันอยู่ดี”
เมื่อเห็นความจริงจังในคำพูดของชายหนุ่มผมเขียว โรนัลด์ก็พยักหน้าเห็นด้วย "ถ้าคุณแน่ใจแล้ว ฉันจะขายให้คุณในราคา 10 เหรียญทอง"
“พี่ดริฟ พี่แน่ใจหรือว่าต้องการซื้อมันจริง ๆ?” เมลติ้งสโนว์ถาม
“ฉันแน่ใจ” ซินหยาบอกกับเด็กหนุ่มขณะที่ขยี้ผมของเขา เขาค่อนข้างแปลกใจที่เมลติ้งสโนว์ไม่ได้ตื่นเต้นกับโอกาสที่พวกเขาจะได้ผจญภัยครั้งใหม่ “อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ฉันจะซื้อมัน ให้ฉันแสดงให้คุณเห็นว่าฉันมาที่นี่เพื่ออะไร”
ซินหยานำกระจกแห่งความโกลาหลออกมาให้โรนัลด์ ในขณะนั้น เมลติ้งสโนว์ที่ยืนอยู่ด้านข้างโดยตลอด เขาเริ่มตระหนักได้ว่า ภารกิจที่ดริฟติ้งคลาวด์กำลังจะเจอ มันต้องไม่ใช่ภารกิจเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างแน่นอน เขาจึงต้องการชักชวนให้ชายผู้นี้เข้าร่วมกิลด์ของลูกพี่ลูกน้องของเขามากขึ้น
เขาต้องรอจนกว่าพวกเขาจะไปถึงอาร์คาล่า ก่อนที่จะพูดเรื่องนี้ แต่ตอนนี้เขาคิดว่าเขาควรจะหวังว่าในระหว่างเดินทางนั้น จะไม่มีภารกิจทำลายล้างในการเดินทางของพวกเขา
เมลติ้งสโนว์ไม่รู้ว่าทำไมแต่หลังจากคุยกับลูกพี่ลูกน้องแล้ว เขาก็เริ่มที่จะระมัดระวังในทุกการกรัทำของเขาตัวเอง เขาได้แต่ถอนหายใจออกมา เขาไม่คิดว่าวิดีโอนั่นจะสร้างผลกระทบมากขนาดนี้
ตอนนี้เขาสงสัยว่าตอนนี้ทางวอนเดอร์ริ่งซาวด์กับโรมมิ่งวินด์จะเป็นอย่างไรบ้าง