285 - พนันหินต้นกำเนิด
285 - พนันหินต้นกำเนิด
หวังซู่กำลังถือหินต้นกำเนิดขนาดสี่หรือห้าจินในมือของเขาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“ข้าต้องการชิ้นนี้” เอ้อหรงจื่อชี้ไปที่หินต้นกำเนิดที่อยู่ด้านล่างของหินก้อนใหญ่เช่นกัน
ความโกรธของพนักงานบ่อนพนันหรงเซียงก็ลุกโชนขึ้นมาทันที และหนึ่งในนั้นก็พูดว่า
“รังแกกันมากเกินไปแล้ว!”
“ไม่ใช่ว่าเรารังแกพวกเจ้าแต่สายตาของพวกเจ้าไม่ดีเองต่างหาก” หวังซู่ส่ายหัวและกล่าวว่า “ถ้าพวกเจ้ายังมัวแต่พูดจาไร้สาระอยู่อีกข้าจะไปเรียกหัวหน้าเจ้ามา”
"เจ้า ...... " หลายคนชี้ไปที่หวังซู่
“เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้วไปหยิบหินก้อนนั้นมาให้ข้า” เอ้อหรงจื่อตะโกนออกไปด้วยความไม่พอใจ หลังจากที่เข้ามาในบ่อนพนันนี้เขาก็โกรธเกรี้ยวตั้งแต่แรก
เย่ฟ่านหัวเราะอยู่ข้างๆโดยไม่พูดอะไร เขาคิดว่าเด็กน้อยสองคนนี้สามารถเลี้ยงดูได้จริงๆ
เมื่อพนักงานของบ่อนพนันหรงเซี่ยงขยับก้อนหินก้อนใหญ่ได้สำเร็จและพวกเขากำลังนั่งพักราวกับสุนัขตาย หวังซู่และเอ้อหรงจื่อก็เลือกเป้าหมายอื่น
“ชิ้นนั้น ใช่ ชิ้นที่อยู่ล่างสุด”
“ชิ้นนี้ รีบเอาออกมาให้ข้า”
พนักงานของบ่อนพนันมองตากันจากนั้นก็หันไปพูดกับเอ้อหรงจื่อและหวังซู่ว่า
“นายท่านพวกเราผิดไปแล้วยกโทษให้พวกเราเถอะ”
เมื่อเห็นคนเหล่านั้นถูกทรมานโดยหวังซู่และเอ้อหรงจื่อจนจนเดินกะเผลกและยอมแพ้อย่างสมบูรณ์ในท้ายที่สุดเย่ฟ่านก็จัดการเรื่องต่างๆด้วยมือของเขาเอง
เขาตัดหินก้อนหนึ่งพันจินนั้นออกและขุดต้นกำเนิดที่มีน้ำหนักมากกว่าหนึ่งจินออกมาอย่างง่ายดาย
เมื่อเห็นเช่นนั้นพนักงานของบ่อนพนันที่นอนอยู่บนพื้นก็ลุกขึ้นนั่งด้วยความตกใจ ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้างราวกับไข่ห่าน
คราวนี้เย่ฟ่านจัดการทุบทำลายก้อนหินที่มีต้นกำเนิดอยู่ภายในออกมาทั้งหมด หลังจากจ่ายเงินเขาก็เดินเข้าสู่ลานด้านในโดยไม่สนใจสายตาของทุกคนที่จ้องมองมาด้วยความตกตะลึง
ภายในลานด้านในมีหญิงสาวจำนวนมากคอยรับใช้แขกผู้มีเกียรติมากมายที่อยู่ที่นี่
ไม่นานหลังจากนั้น พวกเย่ฟ่านก็มาถึงลานที่เจ็ดและได้พบกับผู้คนจากนิกายชิงเซี่ยอีกครั้ง
“คุณชายนั่นสามประมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์ไม่ใช่หรือ” เสียงที่น่ารังเกียจของผู้รับใช้นิกายชิงเซี่ยดังขึ้น
“คนพวกนี้เหตุไฉนถึงต้องตอแยเราตลอดเวลา?” หวังซู่กล่าวด้วยความไม่พอใจ
“เลิกพูดไร้สาระดีกว่าเจ้าพวกเด็กบ้านนอก เจ้าสนใจที่จะเดิมพันกับข้าหรือไม่?” ชายหน้ายาวจากนิกายชิงเซี่ยตะโกนถามพวกเย่ฟ่าน
“เจ้าชื่ออะไรและพวกเราจะเดิมพันกันแบบไหน” เอ้อหรงจื่อถามด้วยความสนใจ
ชายหน้ายาวจากนิกายชิงเซี่ยกล่าวว่า "ข้าชื่อหลิวเซิ่งพวกเราจะเลือกหินต้นกำเนิดมาคนละก้อน หากข้างในหินของผู้ใดมีต้นกำเนิดที่น้ำหนักมากกว่าคนนั้นจะได้รับเดิมพัน หากไม่มีต้นกำเนิดทั้งสองก้อนถือว่าเสมอกัน"
หวังซู่และเอ้อหรงจื่อต่างมองหน้ากันและกันแต่ไม่กล้าตอบสนอง
หลิวเซิ่งชายหน้ายาวกล่าวเย้ยหยันในทันทีว่า
"ลิงโคลนในเหมือง ในเมื่อพวกเจ้าไม่กล้าเดิมพันพวกเจ้าเข้ามาที่นี่ทำไม”
หวังซู่และเอ้อหรงจื่อไม่พอใจ พวกเขาเป็นนักขุดต้นกำเนิดจริงๆดังนั้นคำพูดของชายหน้ายาวจึงจี้ใจดำพวกเขา
“เดิมพันกับเขา ไม่ต้องกลัวจะเสีย” เย่ฟ่านพูดจากด้านข้าง
“เจ้ากล้าเดิมพันจริงๆ เหรอ?” ใบหน้าของหลิวเซิ่งแสดงท่าทีเยาะเย้ยและกล่าวว่า
"ตอนที่เจ้าเสียอย่าร้องไห้หาแม่ล่ะ"
เย่ฟ่านขว้างต้นกำเนิดไปให้หวังซู่สองจินโดยตรง จากนั้นมองไปที่หลิวเซิ่งและกล่าวว่า “นำต้นกำเนิดของเจ้าออกมา”
คำพูดของเขาดึงดูดผู้คนมากมายทันที และแทบจะในเวลาพร้อมกันคุณชายหลิวแห่งนิกายชิงเซี่ยก็ล้วงเอาต้นกำเนิดที่อยู่ในหน้าอกเสื้อของเขาโยนไปให้หลิวเซิ่ง มันมีน้ำหนักสองจินพอดี
“พวกเราเดิมพันกันแล้ว เด็กน้อยสามคนนี่ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ พี่น้องทุกท่านโปรดเป็นพยาน พวกมันรนหาที่เองไม่ใช่ว่าพวกเราต้องการรังแกคนอ่อนแอกว่า”
แม้ว่าหลิวเซิ่งจะพูดเช่นนั้นแต่ใจของเขาสั่นสะท้านเป็นอย่างมาก ต้นกำเนิดสองจินนั้นไม่ใช่จำนวนเล็กน้อย ต่อให้เขาทำงานทั้งปีก็ไม่มีทางเก็บเงินมาซื้อมันได้
“ดี เราจะเป็นพยานให้!” หลายคนที่กำลังรอชมเรื่องสนุกต่างก็ส่งเสียงให้การสนับสนุน
ผู้คนจากบ่อนพนันหรงเซี่ยงมีความสุขที่สุด แต่พวกเขาไม่ได้พูดอะไรเพียงอมยิ้มอยู่ด้านข้างเท่านั้น ทั้งสองฝ่ายต่างก็ซื้อหินต้นกำเนิดของพวกเขา ไม่ว่าใครจะชนะหรือแพ้พวกเขาคือผู้ที่ได้กำไรคนสุดท้าย
คุณชายหลิวนั้นตบหินต้นกำเนิดที่เขาเลือกไว้นานแล้ว เขาบอกกับหลิวเซิ่งชายหน้าม้าว่า
"เลือกอันนี้"
หลิวเซิ่งรับมันมาถือไว้ด้วยความเคารพ จากนั้นมองไปที่เย่ฟ่านแล้วกล่าวว่า
"เจ้าลิงโคลนทั้งสามตัวจากเหมือง รีบเลือกของพวกเจ้า"
เย่ฟ่านเดินไปรอบๆแล้วเลือกหินต้นกำเนิดขนาดเท่าแตงโม เขาขว้างมันลงพื้นแล้วกล่าวว่า
"ข้าเลือกอันนี้"
หินต้นกำเนิดที่ทั้งคู่เลือกมานั้นมีขนาดไม่ใหญ่นัก แต่พวกมันมีราคาค่อนข้างสูง หากภายในหินพวกนี้มีต้นกำเนิดพวกมันจะเป็นต้นกำเนิดที่มีคุณภาพค่อนข้างดี
“อาจารย์หยวนช่วยตัดหินให้หน่อย” หลิวเซิ่งชายหน้าม้ากล่าว
“ดี ชายชราคนนี้จะน้อมสนองด้วยกระบี่ของข้าเอง” ชายชราคนหนึ่งเดินมาข้างหน้าและใช้กระบี่ของเขาเริ่มตัดก้อนหิน
"คชา!"
เปลือกหินถูกลอกออกอย่างช้าๆและหินที่เลือกโดยนิกายชิงเซี่ย ก็ถูกตัดจนมีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ แต่ในท้ายที่สุดก็ไม่ปรากฏต้นกำเนิดแม้เพียงเล็กน้อย
"นับว่าเจ้าโชคดี ชิ้นต่อไปจะต้องทำให้เจ้าร้องไห้หามารดาอย่างแน่นอน" หลิวเซิ่งลังเลเล็กน้อย ในขณะเดียวกันคุณชายจากนิกายชิงเซี่ยก็ขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ
“ท่านอาจารย์ช่วยตัดของข้าด้วย” ก้อนหินต้นกำเนิดของเย่ฟ่านถูกส่งไป
“ก้อนหินนี้ถูกเจ้าโยนจนแตกแล้วยังต้องการที่จะตัดเปิดมันอีกหรือ?” หลิวเซิ่งมีใบหน้าดูถูกเหยียดหยาม
ใครบางคนที่อยู่ข้างๆเขาก็ส่ายหัวและพูดว่า
“หินก้อนนี้เป็นสีขาวน้ำตาลแดง เห็นได้ชัดว่าเป็นสีถนนใหญ่มันเป็นเศษหินอย่างแน่นอน ต่อให้เป็นเด็กน้อยก็รู้ว่าหินก้อนนี้ไม่มีต้นกำเนิดอย่างแน่นอน”
“มันชัดเจนเกินไป ข้าว่าเจ้าเลือกก้อนอื่นดีกว่า” เกือบทุกคนขมวดคิ้ว
แม้แต่อาจารย์หยวนก็ส่ายหัวและพูดว่า “ข้าว่าน้องชายควรจะเลือกหินก้อนใหม่ดีกว่า”
หวังซู่และเอ้อหรงจื่อรู้สึกประหม่าเล็กน้อย พวกเขามองไปที่เย่ฟ่านพร้อมกับกล่าวว่า
"พี่ใหญ่พวกเราเลือกก้อนใหม่ดีกว่า"
“ไม่ต้องเอาชิ้นนี้แหละ” เย่ฟ่านหยิบมีดที่อยู่บนแท่นผ่าลงไปบนต้นกำเนิดโดยตรง
"คชา"
ทันทีที่หินต้นกำเนิดแตกออกแสงที่นุ่มนวลก็ปรากฏขึ้น ต้นกำเนิดขนาดเท่ากำปั้นฝังอยู่ในชั้นหิน
ผู้คนที่อยู่ในห้องนี้ต่างก็อ้าปากค้างด้วยความตกใจ มันมีต้นกำเนิดอยู่ในนั้นจริงๆ
“มันจะมีต้นกำเนิดอยู่ในหินสีขาวแดงได้ยังไง นี่มันบ้าไปแล้ว?”
“ข้าเกรงว่าชิ้นนี้จะหนักถึงสองจิน เด็กน้อยทั้งสามมากับโชคจริงๆ”
หวังซู่หัวเราะด้วยความพอใจจากนั้นก็เดินไปหาหลิวเซิ่งก่อนจะแย่งชิงถุงต้นกำเนิดที่อยู่ในมือฝ่ายตรงข้ามอย่างรวดเร็ว
"มันเป็นของพวกเราแล้ว"
ใบหน้าของหลิวเซิ่งบึ้งตึงหน้าผากก็ปรากฏเหงื่อ ต้นกำเนิดที่สองจินเป็นจำนวนที่มากมายมหาศาล ต่อให้คุณชายของเขาก็ต้องยืมมาจากนิกายชิงเซี่ย
แน่นอนว่าการที่พวกเขาเสียต้นกำเนิดไปแบบนี้พวกเขาจะต้องหาไปคืนนิกายเมื่อตอนขากลับ
ชายหน้าม้าดูเหมือนจะหมดแรงและก้นของเขากระแทกนั่งลงบนพื้น
“พี่หน้าลาอย่าเพิ่งท้อแท้ เหมืองต้นกำเนิดของเรายังขาดพนักงานขุดหากเจ้าถูกไล่ออกจากนิกายชิงเซี่ยเจ้าสามารถมาเป็นคนงานของพวกเราได้” เอ้อหรงจื่อหัวเราะคิกคักด้วยความพอใจ
ชายหน้าม้าหน้าขาวราวกับหิมะไม่สามารถพูดอะไรได้
“น่าสนใจจริงๆ เจ้าสามคนกล้าเดิมพันกับข้าสักสองสามรอบหรือไม่?” คุณชายหลิวจากนิกายชิงเซี่ยก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับโบกพัดในมือด้วยท่าทางสงบผ่อนคลาย
เย่ฟ่านยิ้มและพูดว่า “ไม่ทราบว่าเจ้ามีต้นกำเนิดมากแค่ไหน?”