HO บทที่ 156 หมู่บ้านมิสสโตน
ซินหยาเพิ่งปรุงยาบุปผาพิฆาตเสร็จและเริ่มกระบวนการบรรจุขวดเมื่อเขาได้ยินเสียงเคาะประตูห้องปรุงยาดังขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้เขาสะดุ้งตกใจ ส่งผลให้มือของเขาลื่นซึ่งทำให้ขวดยาที่เขาถืออยู่ตกลงพื้น
*เพล๊ง!!*
เขาสาปแช่งเงียบ ๆ ในใจ เขารีบไปเช็ดของเหลวสีเขียวที่หกลงบนพื้นด้วยเศษผ้าที่อยู่ใกล้ ๆ "นั่นใครน่ะ?!"
“ผมเอง เมลติ้งสโนว์ พี่วอนเดอร์ริ่งซาวด์บอกให้ผมมาบอกพี่ว่าเราอยู่ห่างจากท่าเรือเพียงห้านาที” เด็กหนุ่มตะโกนผ่านประตู
"จริงหรือ?!" ซินหยาไม่อยากเชื่อเลยว่าหนึ่งชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว เขารู้สึกเหมือนเพิ่งเข้ามาในห้องเมื่อไม่นานมานี้เอง “เดี๋ยวฉันออกไป ฉันของนำยาลงขวดให้เสร็จก่อน”
“โอเค ผมจะออกไปรอตรงดาดฟ้าเรือนะ” เมลติ้งสโนว์บอกเขาก่อนจะออกไปดูว่าเขาจะสามารถมองเห็นวิวของหมู่บ้านจากตรงนั้นได้หรือไม่?
เมื่อได้ยินเมลติ้งสโนว์วิ่งออกไป ซินหยากลับสานต่อสิ่งที่เขาทำไว้ก่อนที่จะถูกขัดจังหวะ
เขาใช้เวลาไม่นาน ยาทั้งหมดก็ถูกบรรจุขวดและเก็บไว้ในช่องเก็บของของเขา เขาสามารถได้ยินเพื่อนของเขาตะโกนข้างนอกว่าพวกเขามาถึงได้ที่หมายแล้ว
ซินหยายิ้มให้ตัวเองและออกจากห้องปรุงยา แล้วรีบไปที่ดาดฟ้าเพื่อไปกับเพื่อนของเขา เมื่อเขามาถึงก็ประหลาดใจกับภาพตรงหน้า เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่เขาคาดหวังเลย
เขารู้ว่าพวกเขากำลังมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เขาคาดหวังว่าจะมีพื้นที่เล็ก ๆ ที่มีบ้านไม้หลังเล็ก ๆ ที่มีหลังคาฟาง เขาคาดหวังว่าจะได้เห็นฟาร์มขนาดใหญ่ที่มีชาวบ้านแต่งกายเรียบง่ายดูแลปศุสัตว์ประเภทต่าง ๆ
แต่สิ่งที่เขาเห็นแตกต่างไปจากความคาดหวังของเขาอย่างสิ้นเชิง ตัว หมู่บ้านเองก็ดูโอ่อ่า ด้วยหลังคาไม้เหล็ก ผนังไม้สีแดง และต้นไม้ที่เรียงเป็นแถวเรียงกันเป็นแถวเป็นแนว บรรยากาศดูครึกครื้นผิดกับที่เขาคิดไว้มาก
เมื่อเปิดอินเทอร์เฟซไปยังฟังก์ชันแผนที่ ซินหยาเริ่มอ่านเกี่ยวกับเมือง เขาพบว่ามีเศรษฐกิจที่เฟื่องฟูซึ่งส่วนใหญ่ได้รับรายได้จากการขุดเหมือง งานเครื่องหนังและการตกปลา แต่จุดแข็งที่ใหญ่ที่สุดของพวกเขาคือการประดิษฐ์ที่ซับซ้อนและนวัตกรรมการขุดเจาะที่เจริญรุ่งเรือง
อย่างไรก็ตาม น่าแปลกที่หมู่บ้านนี้ไม่มีการทำฟาร์มใด ๆ ซินหยาเดาว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้ พวกเขาสามารถซื้อผลผลิตด้วยเหรียญที่พวกเขาสร้างจากทักษะของพวกเขา ในขณะที่เขากำลังคิดอย่างนั้น เขาสังเกตเห็นว่ามี NPC ที่สอนการทำเครื่องหนังในเมือง
ตัวเขาไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ทักษะนี้ แต่เขารู้ว่าเว่ยจะต้องเรียนรู้ทักษะนี้เพื่อที่จะเป็นช่างตัดเสื้อที่ดีขึ้น ถ้าเธอสามารถเรียนรู้การทำเครื่องหนังได้ เธอสามารถนำความรู้นี้มาสร้างเสื้อผ้าที่ออกแบบได้
การได้เห็น NPC ที่สอนทักษะให้กับผู้เล่นทำให้ ซินหยามีความสุขมากที่ได้อัพเกรดแผนที่ของเขาอีกครั้ง ทักษะแผนที่นี้จะเป็นประโยชน์กับเขาในภายหลัง ด้วยวิธีนี้เขาจะไม่ต้องค้นหามากเกินไปเมื่อเขาต้องการเรียนรู้บางสิ่งในภายหลัง
“พี่ดริฟ ลงมาจากเรือได้แล้ว!” เมลติ้งสโนว์ตะโกนเสียงดัง ทำให้ซินหยาหลุดจากภวังค์อย่างรวดเร็ว
เมื่อปิดแผนที่ ซินหยาสังเกตเห็นว่าเรือจอดเทียบท่าแล้วและเว่ยกับ วอนเดอร์ริ่งซาวด์ก็ลงจากเรือแล้ว มีเพียงเมลติ้งสโนว์เท่านั้นที่รอเขา แม้ว่าเขาจะต้องการเข้าไปในหมู่บ้านมากแค่ไหนก็ตาม
ซินหยายิ้มให้กับเด็กชายและพูดว่า "เธอไม่ต้องรอฉันหรอก เข้าไปในหมูบ้านก่อนได้เลย"
“ไม่มีทาง” เมลติ้งสโนว์กล่าวพลางส่ายหัว “ผมจะรอพี่เสมอ เราจะเข้าไปในหมู่บ้านพร้อมกัน”
"ได้สิ ไปกันเถอะ" ซินหยาหัวเราะคิกคัก ขณะที่เขาโอบไหล่ของเด็กหนุ่มไว้และเดินลงจากเรือไปพร้อมกับเขา
ขณะที่ซินหยากับเมลติ้งสโนว์กำลังเดินไปหาเว่ยกับวอนเดอร์ริ่งซาวด์ เขาเห็นว่าพวกเขาดูเหมือนจะคุยกันอะไรบางอย่าง มันคืออะไร เขาก็ไม่รู้ แต่เมื่อเขาพิจารณาแก้มที่แดงก่ำของเธอ เขาก็น่าจะเดาได้
ซินหยาแสร้งทำกระแอมเพื่อยุติการสนทนาของพวกเขา ซินหยามองดูทั้งสองคนแยกจากกัน เขายิ้มเยาะให้กับเพื่อน ๆ ที่ดูสับสน เขารอจนกว่าพวกเขาจะสงบลงพอที่จะพูดได้
“อ้าว ดริฟติ้งคลาวด์เองเหรอ?” เว่ยเริ่มมองที่อื่นนอกจากคนที่เธอกำลังพูดด้วย “ฉันไม่ได้สังเกตการมาของนายเลย”
“ผมพนันได้เลยว่าพี่ไม่ได้ทำอย่างนั้นจริง ๆ” เมลติ้งสโนว์มองจากด้านข้างของซินหยาพร้อมกับพูดเบา ๆ แต่ไม่ดังพอที่เว่ยกับวอนเดอร์ริ่งซาวด์จะได้ยิน
วอนเดอร์ริ่งซาวด์เหลือบมองไปทางเด็กหนุ่มและถามว่า "เธอพูดอะไรหรือเปล่า เมลติ้งสโนว์?"
"เปล๊า ไม่ได้พูดอะไรเลย" เมลติ้งสโนว์พูดขณะที่เขาดิ้นเพื่อหนีจากการจิ้มเบา ๆ ตรงซี่โครงของซินหยา “พวกเรามัวรออะไรอยู่ ไปสำรวจหมู่บ้านกันเถอะ”
“เดี๋ยวก่อน ก่อนที่เราจะทำอย่างนั้น ฉันว่าเราควรนัดแนะพูดคุยกันก่อนดีมั้ย?” เว่ยถามขณะมองทางซินหยา
ซินหยาพยักหน้าเห็นด้วย "ที่โรมมิ่งวินด์พูดมาก็เข้าท่า เราเพียงมาที่หมู่บ้านนี้เพื่อขายกระจกแห่งความโกลาหลและค้นหาวิธีค้นหาวงแหวนแห่งนางฟ้าเพื่อใช้งานสร้อยข้อมือของรีแอนนอน”
“งั้นจะให้ใครทำอะไรบ้างล่ะ?” วอนเดอร์ริ่งซาวด์ถาม
“อืม” ซินหยาเริ่มมองที่สมาชิกแต่ละคนในปาร์ตี้ของเขา “ฉันคิดว่าฉันควรไปขายกระจกพร้อมกับเมลติ้งสโนว์เพราะมันง่ายสำหรับฉันที่จะหา NPC ช่างฝีมือ ขณะที่วอนเดอร์ริ่งซาวด์ที่มีทักษะทางสังคมที่สูงกว่าพวกเราที่เหลือ คุณควรสอบถามเกี่ยวกับวงแหวนนางฟ้า”
เว่ยสับสนว่าทำไมซินหยาถึงไม่รวมเธอไว้กับวอนเดอร์ริ่งซาวด์ เธอถามขึ้นว่า "แล้วฉันล่ะ!"
“อย่ากังวลไป ฉันไม่ได้ปล่อยให้เธออยู่เฉย ๆ เมื่อฉันดูแผนที่ก่อนหน้านี้ ฉันพบว่าเธอสามารถเรียนรู้การทำเครื่องหนังในหมู่บ้านนี้ได้ ฉันคิดว่าในขณะที่คุณยังอยู่ที่นี่ เธอควรไปเรียนมัน เพราะมันจะช่วนเรื่องการเป็นช่างตัดเสื้อของเธอได้” ซินหยาอธิบาย
เว่ยยิ้มอย่างซาบซึ้งที่ชายผมสีเขียวสนับสนุนเธอให้เป็นช่างตัดเสื้ออย่างจริงจัง เธอยังรู้ด้วยว่าการทำเครื่องหนังจะเป็นประโยชน์ต่อเธอในระยะยาว
เธอจะสามารถทำเครื่องประดับเครื่องหนังได้ทุกประเภท ตั้งแต่เข็มขัดไปจนถึงสร้อยข้อมือ และถ้าเธอสามารถหารูปแบบที่เหมาะสมได้ เธอก็สามารถทำซองหนังได้ทุกประเภท เว่ยอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขอบคุณซินหยาที่มองหาให้เธอ
“ขอบคุณนะ ดริฟติ้งคลาวด์ที่คิดถึงฉัน” เว่ยบอกชายผมเขียวอย่างจริงใจ
ซินหยายิ้มอย่างอ่อนโยนให้เธอ “อย่าคิดมาก นั่นเป็นหน้าที่ของเพื่อนที่จะทำให้”
“’เพื่อนรัก’ ต่างหาก” เธอเตือนเขาอย่างเงียบๆ
“ใช่ เพื่อนรัก” ซินหยาทวนคำ เขาสามารถบอกได้ว่าเธอต้องการกอดเขาแต่ก็หยุดตัวเองจากการทำเช่นนั้น
เขาอยากจะกอดเธอเช่นกันแต่เขารู้ว่าเขาคงทำไม่ได้ แต่เขากลับเอื้อมมือออกไปอย่างช้า ๆ และจับมือเธอไว้ เขาเคยอย่างนี้มาก่อน แต่คราวนี้แทนที่จะจับมือปกติ เขากลับเอานิ้วมาพันกับเธอ
เว่ยดูตกใจกับการกระทำของเขา ทำให้เธอนิ่งราวกับกลัวว่าถ้าเธอขยับตัว เธอจะทำลายช่วงเวลานั้น ขณะที่เธอมองลงไปที่มือที่ประสานกัน น้ำตาก็ก่อตัวขึ้นในดวงตาของเธอแต่เธอไม่ร้องไห้ เธอต้องการทำเหมือนว่านี่เป็นเหตุการณ์ปกติ สักวันหนึ่งมันก็จะเป็นอย่างนั้น
อีกสองคนในปาร์ตี้ยังคงนิ่งเงียบขณะที่พวกเขาเฝ้าดูซินหยากับเว่ยที่อบอวลไปด้วยมิตรภาพอันอบอุ่น อย่างไรก็ตาม เวลาเป็นสิ่งสำคัญ
เมลติ้งสโนว์ที่ทนไม่ไหวเขาก็ลากซินหยาออกมาเบา ๆ และบรรยากาศแห่งมิตรภาพก็พังทลาย
ซินหยาเอามือออกจากเว่ยและหันไปมองเมลติ้งสโนว์และพบว่าเด็กหนุ่มอยากจะเข้าไปในหมู่บ้านแล้ว "เอาล่ะเราเข้าไปในเมืองกันเถอะ"
“โอเค” วอนเดอร์ริ่งซาวด์ตอบตกลง “โรมมิ่งวินด์ คุณกำลังมุ่งหน้าไปทางไหน”
“ทางนั้น” เว่ยบอกเขา เธอชี้ไปทางถนนที่ปูด้วยหินซึ่งจะพาเธอไปยังเขตชานเมือง
วอนเดอร์ริ่งซาวด์เงียบไปครู่หนึ่งราวกับกำลังตรวจสอบอะไรบางอย่าง “พอดีเลย ทางนั้นจะพาฉันไปที่ห้องสมุด เราไปด้วยกันไหม?”
“อืมดีเลย คนยิ่งเยอะยิ่งสนุก” เว่ยพูดด้วยรอยยิ้มที่สดใส
"ไปกันเถอะ" วอนเดอร์ริ่งซาวด์บอกกับเธอ
ก่อนที่พวกเขาจะจากไป ซินหยาก็หยุดพวกเขา “เดี๋ยวก่อน! เสร็จแล้วก็ไปเจอกันที่ประตูหมู่บ้านนะ”
“ตกลง” วอนเดอร์ริ่งซาวด์กล่าว “เอาล่ะ พวกเรารีบไปกันเถอะ”
"ทำไมเราต้องออกจากหมู่บ้านนี้อย่างรวดเร็ว" เมลติ้งสโนว์ถามอย่างสับสน พวกเขาเพิ่งมาถึงแต่ก็แปบ ๆ ก็จะออกจากหมู่บ้านไปแล้ว
ซินหยาหันความสนใจไปที่เด็กหนุ่มและอธิบายว่า "นั่นเป็นเพราะวิธีเดียวที่เราจะใช้สร้อยข้อมือก็คือตอนวันเพ็ญซึ่งจะปรากฏในอีกสองสามวัน ถ้าเราพลาดวันนั้นไป พวกเราจะต้องรออีกทั้งเดือนของเกม"
"โอ้!!" เมลติ้งสโนว์อุทาน "ถ้างั้นพวกเราต้องรีบแล้ว!"
เว่ยกับวอนเดอร์ริ่งซาวด์หัวเราะก่อนจะเดินจากไป ซินหยามองดูพวกเขาสองคนเดินไปตามถนนที่ปูด้วยหินด้วยกันและค่อย ๆ ออกจากเขาไปช้า ๆ