883-884
9/10
Ep.883
ช่วงเวลาต่อมา ทุกคนจับกลุ่มกัน เล่นโต้วตี้จู่ และเกมไพ่อื่นๆ
ซูเฉินต้องเตรียมตัวซื้อของ จึงไม่ได้ร่วมเล่นกับทุกคน
แต่ขณะที่เขากำลังเปิด [ร้านค้าวันสิ้นโลก] จู่ๆหวู่หยางก็เดินเข้ามาหยุดข้างๆ เมื่อซูเฉินเงยมองก็พบว่าบนใบหน้าอีกฝ่ายกำลังยิ้มกริ่ม
“หัวหน้าหวู่ มีอะไรให้ผมช่วยรึเปล่า?”
ซูเฉินถามด้วยความสงสัย ไม่กี่วันที่ผ่านมา หวู่หยางและคนอื่นๆได้แต่อยู่ใน [มิติสันโดษ] นานๆทีจะได้เห็นหน้ากัน หรือว่าจะมีเรื่องฉุกเฉินอะไร?
หวู่หยางพยักหน้า เอ่ยถามเสียงแผ่ว “ซูเฉิน ตอนนี้นายน่าจะอายุ 19 ปีแล้วถูกไหม?”
“ก็น่าจะประมาณนั้น” ซูเฉินตอบกลับ เขาไม่ค่อยใส่ใจเรื่องวันเวลานัก ตอนแรกที่ถูกส่งมาเกาะเฉียนหยู เขาอายุแค่ 17 ปีเท่านั้น จากที่คำนวณดูคร่าวๆ คิดว่าปัจจุบันคงอายุ 19 แล้วจริงๆ
“ถ้าอายุ 19 ปีก็เท่ากับโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว” หวู่หยางบ่นพลางครุ่นคิด
“อื๋อ?” ซูเฉินขมวดคิ้ว เขารู้สึกว่ามีบางอย่างแฝงอยู่ในคำพูดของหวู่หยาง
“หัวหน้าหวู่ มีเรื่องอะไรก็ว่ามาตรงๆเถอะ”
ซูเฉินถูจมูกเขา หัวเราะเบาๆ
หวู่หยางกระแอม กล่าวเสียงกระซิบ “ซูเฉิน นายรู้จักกับตันหลินและหยางเฉียนมาก็นานแล้ว ไม่คิดว่าถึงเวลาแต่งงานแล้วหรือ?”
พอฟังก็ฉุกคิดได้ ว่าเขาคบกับตันหลันและหยางเฉียนมาก็ระยะหนึ่งแล้ว ทว่าตลอดสองปีมานี้ได้แต่ตะลอนไปทั่ว ในความเป็นจริงอาจกล่าวได้เลยว่าทั้งสองถูกทอดทิ้งอย่างไม่ใยดี ได้แต่ปล่อยให้พวกเธออ้างว้างหนาวเหน็บ
“หัวหน้าหวู่กำลังจะบอกว่าอยากจัดงานแต่งให้พวกเรา?” ซูเฉินอึ้งไปเล็กน้อย
แม้เขาจะรู้ว่าไม่ช้าก็เร็วต้องแต่งงานกับตันหลินและหยางเฉียน กระนั้น นี่มันกระทันหันเกินไป เขายังไม่ทันตั้งตัว
หวู่หยางพยักหน้า กล่าวว่า “ตอนนี้ถึงเวลาเหมาะสมแล้ว ถ้ารอต่อไปแล้ววันหน้าเข้าสู่มิติภายนอก เกรงว่าจะไม่มีเวลาอีก แล้วเรื่องนี้ก็จะยืดเยื้อต่อไป”
ซูเฉินพอคิดตามก็รู้สึกว่ามันสมเหตุสมผลอยู่เหมือนกัน ดังนั้นกล่าวว่า “เรื่องแต่งน่ะแต่งได้ แต่ผมยังไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย”
เขาอยู่ในวันสิ้นโลก การแต่งงานแค่ทำกันง่ายๆก็ได้ ทว่าอย่างไรเสียนี่คือหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่สุดในชีวิต มันไม่ควรเรียบง่ายเกินไป
“วางใจได้ นายแค่ทำหน้าที่ในฐานะเจ้าบ่าวก็พอ ส่วนที่เหลือฉันจัดการเอง” หวู่หยางอาสาด้วยความยินดี
“ถ้างั้นผมคงต้องรบกวนหัวหน้าหวู่แล้ว” ซูเฉินกล่าวอย่างซาบซึ้ง
“พวกเราคนกันเองทั้งนั้น จะเกรงอกเกรงใจกันไปทำไม” หวู่หยางโบกมือ
จากนั้น ข่าวก็ถูกประกาศออกมา
ซูเฉินกำลังจะแต่งงาน นี่ถือเป็นเรื่องใหญ่ ทุกคนไม่มีใครสนใจเล่นไพ่อีกต่อไป ต่างตบเท้าเข้ามาแสดงความยินดี ทั้งยังมอบของขวัญ
ถึงแม้ว่าสิ่งของจะไม่มีราคาแพงอะไร แต่ท้ายที่สุดแล้วนี่คือของแสดงถึงน้ำใจ ซูเฉินรับไว้ด้วยความยินดี กล่าวขอบคุณทุกๆคน
หลังจากนั้น หวู่หยางพาทุกคนตระเตรียมงาน หลังจากวุ่นมาเกือบทั้งวัน งานแต่งงานก็เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ
…
สองชั่วโมงต่อมา ซูเฉินจูงมือตันหลินและหยางเฉียนเข้าห้องหอ
ห้องหอถูกจัดเตรียมไว้บน [รถศึกอัจฉริยะ]
ปัจจุบันด้วยรูปแบบขั้น 8 ของ [รถศึกอัจฉริยะ] มันสามารถสร้างห้องได้นับหลายร้อยห้อง และแต่ละห้องสามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบ แต่ฟังก์ชั่นที่สำคัญที่สุดก็คือ มันมี ‘ฉนวนกันเสียง’ ที่ดีมาก
หลังจากพาเข้าห้องหอ และอุ่นเครื่องกันเล็กน้อย ทั้งสามก็โรมรันกันอย่างดุเดือด
ศึกนี้เริ่มสู้กันตั้งแต่แดดส่องกลางหัวจนฟ้ามืด แล้วดำเนินต่อไปจนดวงอาทิตย์ขึ้นอีกครั้ง
แม้ซูเฉินในฐานะหนึ่งมังกรจะต้องสู้กับสองหงส์ แต่ด้วยร่างกายที่แข็งแกร่งของเขา
สุดท้าย การต่อสู้อันยาวนาน ดำเนินเป็นเวลาสามวันสามคืนจึงจบลง
…
สามวันต่อมา ตามแผนเดิม [รถศึกอัจฉริยะ] เปิดฟังก์ชั่นข้ามเขตแดน มุ่งหน้าสู่ทวีปของพวกต่างเผ่า
เป้าหมายแรกของทวีปเต่าเขียว ครั้งก่อน เผ่าเต่าเขียวภายใต้คำสั่งของสุดยอดห้าเผ่าพันธุ์ พวกมันได้ร่วมมือกับเผ่าพันธุ์อื่น ไล่สังหารมนุษย์บนเกาะเฉียนหยูจนเกือบหมดสิ้น
ด้วยอุปนิสัยของซูเฉิน เป็นธรรมดาที่ต้องตอบโต้กลับ
ดังนั้นเผ่าเต่าเขียวจึงกลายเป็นเป้าหมายแรกที่เขาจะกวาดล้าง
กวาดล้างที่ว่าไม่ใช่แค่อะไรเรียบง่ายอย่างการฆ่า–
–แต่มันคือการทำลายเผ่าพันธุ์เต่าเขียวให้สิ้นซาก!
10/10
Ep.884
พอเข้าสู่ทวีปเผ่าศัตรู ซูเฉินสั่ง [รถศึกอัจฉริยะ] ค้นหาที่อยู่ของเผ่าเต่าเขียว
จำนวนโดยรวมของเผ่าเต่าเขียวมีทั้งหมดไม่ถึงล้านตัว หลังจากการสังหารหมู่ไปหลายเมือง จำนวนประชากรของพวกมันก็ลดลงอย่างรวดเร็ว
[รถศึกอัจฉริยะ] ค้นหาอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็เจอเมืองเต่าเขียวเมืองต่อไป แต่จำนวนประชากรมีเพียงไม่กี่หมื่นเท่านั้น
ต่อมา [รถศึกอัจฉริยะ] เร่งความเร็ว หลังจากมาถึงเมือง ซูเฉินเรียกทุกคนออกมา รวมไปถึงพวกสัตว์เลี้ยงวิญญาณ แล้วออกคำสั่งให้ล้างเมือง
เหล่าผู้แข็งแกร่งกระโจนเข้ารุมล้อม ก่อพายุนองเลือดขึ้นอีกครั้ง
ชาวเต่าเขียวมีระดับสูงสุดแค่ขั้น 3 เท่านั้น ในสายตาของซูเฉินและคนอื่นๆ พวกมันด้อยยิ่งกว่ามดซะอีก
ไม่เกินครึ่งชั่วโมง ชาวเต่าเขียวนับหมื่นในเมืองก็ถูกกำจัด
ซูเฉินเก็บชิ้นส่วนเสร็จสิ้น ก็มุ่งสู่เป้าหมายต่อไป
ไม่กี่วันต่อมา [รถศึกอัจฉริยะ] บรรทุกฝูงชนจากใต้สู่เหนือ จากตะวันตกสู่ตะวันออก เปลี่ยนทวีปเต่าเขียวเป็นทะเลเลือด ไม่ต่างจากนรกบนดิน
ในช่วงเวลานี้ ซูเฉินรวบรวมชิ้นส่วนได้นับหมื่นชิ้น หลังจากคัดแยกและแลกเปลี่ยน ส่งผลให้แต้มพลังงานสะสมทั้งหมดทะลุเกิน 100,000 จุด ทำลายสถิติใหม่ได้อีกครั้ง
ซูเฉินรู้ดี ว่าหากไล่ฆ่าแบบนี้ต่อไป คงหลีกเลี่ยงอาการเบื่อหน่ายของทุกคนไม่ได้
เพื่อแก้ไขปัญหานี้ เขาจึงแลกเปลี่ยน [โพชั่นกายภาพ] จำนวนมากเป็นรางวัล เพื่อช่วยเพิ่มขวัญกำลังใจ
เป้าหมายสูงสุดของผู้ฝึกตนคือการยกระดับฐานฝึกตนของตัวเอง หลังจากได้รับ [โพชั่นกายภาพ] ฝูงชนต่างรู้สึกตื่นเต้นยินดี
แม้พวกเขาจะไม่ทราบถึงที่มาของ [โพชั่นกายภาพ] ของซูเฉิน แต่ก็พอคาดเดาได้ว่ามันน่าจะเกี่ยวข้องกับการสังหารพวกต่างเผ่า
…
“ซูเฉิน พวกเต่าเขียวเกือบจะสูญพันธุ์แล้ว เจ้ายังต้องการจะสังหารต่อไปหรือไม่?”
ระหว่างมุ่งหน้าไปยังสถานที่ต่อไป อู๋หยาจื่อเอ่ยถาม
ในความคิดเขา การสังหารชาวเต่าเขียวไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ทว่าการลบล้างเผ่าเต่าเขียว มันออกจะไม่เหมาะสมนัก
เพราะท้ายที่สุดแล้ว หมื่นเผ่าพันธุ์สามารถดำเนินชีวิตได้เรื่อยมาถึงทุกวันนี้โดยไม่เคยมีเผ่าพันธุ์ใดถูกทำลายล้างเลย จึงเกิดความแคลงใจอยู่บ้าง
แต่ซูเฉินไม่สนใจ เพราะเผ่าเต่าเขียวหาไล่ฆ่ามนุษย์ก่อน แม้ว่าการถอนรากถอนโคนชาวเต่าเขียวจะไม่ใช่เรื่องดี แต่อันที่จริงแล้วต้นเหตุเกิดจากความผิดของพวกมันเอง
“งั้นทำลายเผ่าเต่าเขียวบนหุบเขาลูกนี้ แล้วเปลี่ยนไปทวีปอื่นกัน”
ซูเฉินครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง แล้วตอบกลับ
หุบเขายักษ์ที่ยังไม่ทราบที่มาเบื้องหน้าได้รวบรวมชาวเต่าเขียวไว้หลายหมื่นตัว ซึ่งมีแนวโน้มเป็นไปได้สูงว่านั่นคือฐานที่มั่นเดียวที่เหลืออยู่ของเผ่าเต่าเขียว
หากกำจัดเผ่าเต่าเขียวที่นี่ มันแทบไม่ต่างจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เลย
อู๋หยาจื่ออดเดาะลิ้นไม่ได้ ซูเฉินมุ่งมั่นจะสังหารเผ่าพันธุ์ที่เคยทำร้ายเขา แต่แบบนั้น เกรงว่าหมื่นเผ่าพันธุ์อาจหายไปกว่าครึ่ง
เมื่อถึงหุบเขา นกสำรวจร้องเตือนทันใด
“เจ้านาย! ข้ารู้สึกได้ถึงอันตรายบางอย่างภายในหุบเขา ข้างในสมควรมีผู้แข็งแกร่งอยู่”
มีอันตราย?
ซูเฉินเลิกคิ้ว นี่ยังเหลืออันตรายอยู่ในทวีปเผ่าเต่าเขียวอีกหรือ?
เป็นไปได้ไหมว่ามันได้ร้องขอให้ผู้แข็งแกร่งจากที่อื่นมาช่วยเหลือ
คิดได้แบบนี้ ซูเฉินขอให้ [รถศึกอัจฉริยะ] สแกนรอบๆหุบเขา
“เจ้านาย คนที่แข็งแกร่งที่สุดในหุบเขามีแค่ขั้น 3 เท่านั้น” [รถศึกอัจฉริยะ] ตอบ
ขั้น 3 งั้นหรอ?
ซูเฉินไม่รู้สึกโล่งใจ แต่กลับขมวดคิ้วแทน
ความสามารถในการตรวจจับของนกสำรวจนั้นไม่มีทางผิดพลาดอย่างแน่นอน นั่นหมายความว่าผู้แข็งแกร่งในหุบเขา คงมีความสามารถในการซ่อนตัว ถึงป้องกันการสแกนของ [รถศึกอัจฉริยะ] ได้
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นผู้แข็งแกร่งหน้าไหน เมื่ออยู่บนทวีปแผ่นดินใหญ่ ซูเฉินไม่กลัวเลยสักนิด
“เสี่ยวจือ เข้าไปในหุบเขา”
ซูเฉินออกคำสั่ง
“รับทราบ” [รถศึกอัจฉริยะ] เร่งความเร็วเข้าไปในหุบเขา
ข้างในหุบเขากว้างใหญ่มาก ที่สะดุดตาเป็นอย่างแรกเลยก็คือ ชาวเต่าเขียวนับหมื่นกำลังรวมตัวกัน และเบื้องหน้าของพวกมัน มีรูปปั้นหินขนาดใหญ่สี่รูปยืนตระหง่านอยู่
ประติมากรรมหินทุกชิ้นเหมือนจริงราวกับมีชีวิต และรูปลักษณ์ของพวกมันล้วนเหมือนชาวเต่าเขียวทุกประการ