875-876
1/10
Ep.875
“เจ้านาย พบผู้ฝึกตนจำนวนมากในหุบเขา ในบรรดาพวกเขา มีฐานฝึกตนขั้น 10 สามคน” [รถศึกอัจฉริยะ] สแกนหาไม่นาน ก็ตอบกลับมา
“ไม่ต้องสนใจ มุ่งหน้าต่อ” ซูเฉินกล่าว
มีคนมากมายรวมตัวกันอยู่ในหุบเขา คงไม่ใช่ว่ามีสมบัติบางอย่างปรากฏขึ้น หรือที่ตั้งเขตแดนลับถูกค้นพบแล้วหรอกนะ
แต่ไม่ว่าจะเป็นกรณีไหน มันก็คุ้มค่าที่จะเข้าไปดู
[รถศึกอัจฉริยะ] บินมาได้ครึ่งชั่วโมง ก็มาถึงช่วงขอบหุบเขา แล้วลงจอด
การเดินทางครั้งนี้ ส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปทางตรวจสอบเป็นหลัก ไม่จำเป็นต้องเอะอะใหญ่โต
ดังนั้น เขาจึงรวบทุกคนและ [รถศึกอัจฉริยะ] เข้าไปเก็บไว้ใน [มิติสันโดษ] นำนกสำรวจไปกับตนเองเพียงตัวเดียว
เข้ามาในหุบเขา ซูเฉินมองหาใครซักคนที่น่าจะรู้สถานการณ์ แล้วก็ได้ข้อมูลมาว่า ที่นี่มีทางเข้าเขตแดนลับปรากฏขึ้นจริงๆ
เพียงแต่ว่า มันมีม่านป้องกันที่ทรงพลังขวางทางเข้าอยู่ หากมีระดับฝึกตนไม่เพียงพอ ก็ยากที่จะเข้าไป แล้วอีกอย่าง เนื่องจากยังไม่ทราบว่ามีอันตรายใดบ้างในเขตแดนลับ จึงไม่มีใครกล้าเข้าไป
เมื่อทราบสถานการณ์ ซูเฉินก็มุ่งหน้าเข้าไปบริเวณตีนเขา ที่ตรงนี้คือปากทางเข้าเขตแดนลับ และมีคนนับร้อยกำลังรวมตัวอยู่รอบๆ
“เสี่ยวซุ่น นายพอจะตรวจสอบสถานการณ์ข้างในเขตแดนลับได้รึเปล่า?” ซูเฉินเอ่ยถามเสียงแผ่ว
“เจ้านาย ข้ารู้สึกได้ถึงร่องรอยจางๆของกลิ่นอายแห่งชีวิตเล็ดลอดออกมา” นกสำรวจตอบกลับอย่างรวดเร็ว
กลิ่นอายชีวิตจางๆ?
นี่หมายความว่ามีโอกาสเป็นไปได้สูงที่ต้นไม้แห่งชีวิตจะอยู่ข้างในเขตแดนลับ
ซูเฉินพยักหน้า กล่าวกับฝูงชนว่า “ขอทางหน่อย ขอทาง”
“แกเป็นใครวะ? ตัวแห้งยังกะไม้ไผ่ บอกขอทางแล้วคนอื่นต้องให้แกด้วยหรอ?”
ชายวัยกลางคนตัวหนาคนหนึ่งพอเห็นซูเฉินยังเด็ก ก็เอ่ยด้วยสีหน้าเหยียดหยาม
“จะหลีกทางให้ดีๆ หรือกลายเป็นศพ!”
เสียงของซูเฉินเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง ประกายยะเยือกทอวาบในดวงตาเขา
ทันทีที่คำพูดนี้หลุดออกมา บริเวณโดยรอบเงียบสงัดไปชั่วขณะหนึ่ง ฝูงชนหันหน้ามามองซูเฉินเป็นสายตาเดียว
เมื่อเห็นรูปลักษณ์ของซูเฉิน เสียงพึมพำก็ดังขึ้นจากรอบด้าน
“เจ้าเด็กนั่นเป็นบ้าไปแล้วรึไง? เอ่ยปากก็เอะอะจะฆ่าแกงกัน แบบนี้ได้หรือ?”
“รุ่นเยาว์ยังไม่เคยเห็นโลกกว้าง ที่เขามีท่าทีแบบนั้น ก็พอเข้าใจได้”
“เจ้าหมอนั่นกล้าขู่หลินเหยา ฉันกลัวว่าก่อนตายเขาคงถูกทรมานไม่น้อย”
“หลินเหยาไม่ได้เป็นแค่ผู้ฝึกตนขั้น 8 แต่ยังเป็นคนอารมณ์ร้อนเหมือนไฟ เจ้าเด็กนี่หาเรื่องเขา เกรงว่าคงไม่รอด”
…
ใบหน้าของหลินเหยาค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นดุร้าย จ้องเขม็งซูเฉิน ฉีกยิ้มเย็นชา “เจ้าหนู รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? กล้าดียังไงมาพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงแบบนี้ เบื่อชีวิตแล้วใช่ไหม?”
“จะผายลมอะไรนักหนา!” ซูเฉินกระชากเสียง จากนั้นระเบิดพลังแห่งจิตวิญญาณออกไป
“นี่แก …”
หลินเหยาสัมผัสได้ถึงพลังที่มองไม่เห็นกดทับเข้ามา ก่อนที่เขาจะทันอ้าปากพูดครบประโยค ศีรษะก็ถูกบดขยี้ กลายเป็นละอองเลือดไปซะแล้ว
ได้ไงกัน!?
เห็นฉากนี้ เสียงอุทานด้วยความตกใจดังไปทั่ว
สังหารผู้วิวัฒนาการขั้น 8 ได้อย่างง่ายดาย สถานะปรมาจารย์พลังจิตของซูเฉินถูกเปิดเผยอย่างแจ่มแจ้ง
ผู้คนที่เคยหัวเราะเยาะซูเฉินก่อนหน้านี้ ปัจจุบันตัวสั่นงันงกด้วยความหวาดกลัว
“ยังมีใครไม่พอใจอีกไหม?”
ซูเฉินกวาดสายตามองเที่ยวหนึ่ง เอ่ยเสียงเย็น
ภายใต้สายตาของซูเฉิน รอบด้านเงียบเชียบบางเบาราวกับปีกจั๊กจั่น
แม้แต่ผู้ฝึกตนขั้น 10 สามคนที่อยู่ท่ามกกลางฝูงชน ยังมีสมองไม่คิดพูดมากความ
“ก็แค่พวกขยะ!”
ซูเฉินแค่นเสียงเย็น ก้าวตรงไปยังทางเข้าเขตแดนลับ
ตามรายทางที่เขาเดิน ฝูงชนต่างถอยหลังไปหลายก้าว เพราะกลัวว่าจะหลบไม่ทัน แล้วทำให้ซูเฉินโกรธ ชักนำความตายมาสู่ตนเอง
ผู้ฝึกตนขั้น 10 สามคนที่อยู่ใกล้ปากทางเข้ามากที่สุดมองหน้ากัน ยินยอมหลีกทางให้ซูเฉินแต่โดยดี
ซูเฉินมาถึงทางเข้าเขตแดนลับ กวาดสายตาสำรจอย่างลวกๆ สาวเท้ายาวๆเข้าไป
2/10
Ep.876
เมื่อเข้าสู่เขตแดนลับ ซูเฉินเกิดอาการโลกหมุน
“นี่มัน … ค่ายกลเคลื่อนย้าย?”
ซูเฉินเลิกคิ้วขึ้น เขาเคยมีประสบการณ์เดินทางผ่านค่ายกลเคลื่อนย้ายมาแล้วหลายครั้ง เลยทราบดีว่ามันมีกระบวนการอย่างไร
ไม่กี่วินาทีต่อมา อาการโลกหมุนก็ค่อยๆหายไป
ซูเฉินหรี่ตา กวาดมองไปรอบๆ และพบว่าเขาปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางป่าโปร่ง มีหมอกสีเทากระจายไปทั่ว ส่งผลให้ระยะสายตาที่สามารถมองเห็นได้คือประมาณ 100 เมตรเท่านั้น
“เสี่ยวซุ่น นายพอจะสัมผัสตำแหน่งของกลิ่นอายแห่งชีวิตได้ไหมว่าอยู่ตรงไหน”
ซูเฉินถอนสายตากลับมา เอ่ยถามเสียงแผ่ว
“เจ้านาย ทิศทางนั้น” นกสำรวจกางขา ชี้ไปในทิศทางข้างหน้า
ซูเฉินผงกหัว เริ่มมุ่งหน้าไป หลังจากวิ่งไกลออกมาได้ประมาณสามไมล์ เขาก็หลุดจากพื้นที่ป่าโปร่งได้ในที่สุด
ข้างนอกป่าโปร่ง เป็นพื้นที่ราบลุ่มรกร้าง และไม่ไกลออกไป ปรากฏต้นไม้เหี่ยวเฉาขนาดใหญ่ที่มีความสูงหลายพันเมตร ซึ่งปลดปล่อยกลิ่นอายแห่งชีวิตจางๆออกมา
ต้นไม้แห่งชีวิต?
ซูเฉินเพ่งมองอย่างตั้งใจ แต่ขณะที่เขากำลังจะเข้าไปดู จู่ๆนกสำรวจก็ร้องเตือนขึ้น “เจ้านาย มีผู้แข็งแกร่งหลายคนซ่อนตัวอยู่บริเวณนี้ และทุกคนล้วนให้ความรู้สึกเป็นอันตรายต่อข้า”
คนที่สามารถให้ความรู้สึกนี้แก่นกสำรวจได้ อย่างน้อยต้องเป็นผู้แข็งแกร่งขั้น 10 ขึ้นไป
ซูเฉินไม่ประมาท ติดต่อหา [รถศึกอัจฉริยะ] เอ่ยถามว่า “เสี่ยวจือ สแกนหารอบๆนี้ให้ที”
“เจ้านาย ที่นี่เหมือนจะเป็นพื้นที่พิเศษ ฉันไม่สามารถสแกนได้” [รถศึกอัจฉริยะ] ตอบทันที
พื้นที่พิเศษ?
ซูเฉินนึกไปถึงมิติห้วงฝันของเมิ่งเก๋อ ในมิติห้วงฝัน [รถศึกอัจฉริยะ] ก็ไม่สามารถสแกนหาใดๆได้เช่นกัน
แต่ไม่ว่าที่นี่จะเป็นมิติห้วงฝันหรือไม่ เขาก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
หลังจากยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ครุ่นคิดพักหนึ่ง ซูเฉินก็เก็บนกสำรวจเข้าไปใน [พื้นที่เลี้ยงสัตว์] จากนั้นตะโกนออกไปข้างหน้าว่า “ออกมา! อย่าทำตัวลับๆล่อๆ!”
“ไม่น่าเชื่อว่าจะถูกพบตั้งแต่แรก เช่นนั้นพวกเราออกไปเจอเขาเถอะ”
ระหว่างนั้นเอง เสียงเย็นเยียบดังมาจากด้านหลังต้นไม้เหี่ยวเฉา แทบจะในทันทีหลังจากนั้น ชายห้าคนก้าวออกมาอย่างช้าๆ
เมื่อได้เห็นรูปลักษณ์ของทั้งห้าอย่างชัดเจน ซูเฉินอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนหัวเราะออกมาเบาๆแล้วพูดว่า “ดูเหมือนพวกแกตั้งใจดักซุ่มโจมตีฉันสินะ”
ชายห้าคนที่ปรากฏตัว พวกเขามาจากเผ่าเทพ , เผ่าอมตะ , เผ่ามายา , เผ่าอสูรศักดิ์สิทธิ์ และเผ่าปีศาจราตรี
เรียกได้ว่าสุดยอดห้าเผ่าพันธุ์ได้มารวมตัวกันที่นี่ ซึ่งจุดประสงค์ของพวกเขานั้นชัดเจน เห็นได้ชัดว่าตั้งใจมาปิดล้อมสังหารซูเฉิน
“ซูเฉิน! ที่นี่คือหลุมฝังศพของเจ้า! ต่อให้เจ้ามีกลวิธีปีนป่ายสู่สวรรค์ ก็อย่าหวังว่าจะหลบหนีออกไปจากที่นี่ได้!” ชาวเผ่าเทพหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
“ก็แค่ขยะห้าตัว คิดจริงๆหรอว่าจะฆ่าฉันได้?”
ซูเฉินเบ้ปาก ท่าทางเหยียดหยามปรากฏขึ้นบนมุมปากเขา
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า … เจ้าช่างของหองเหมือนกับที่ข่าวลือว่าเอาไว้จริงๆ”
ชาวเผ่าปีศาจราตรีหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ก่อนกล่าวเสียงเย็นว่า “ที่นี่ไม่ใช่ทวีปแผ่นดินใหญ่ กำลังรบมิได้ถูกสะกดไว้ เจ้าอย่าหวังว่าจะหลบหนีจากเงื้อมมือพวกเราไปได้”
“แค่ระดับเทวะขั้น 1 ต่อให้มีพวกแกเพิ่มมาอีกสองเท่า ฉันก็ยังสู้ไหว!” ซูเฉินกล่าวด้วยความดูแคลน
เขาสัมผัสได้ว่าที่นี่คือมิติอื่นมาซักพักแล้ว ซึ่งแปลว่ามันไม่ได้อยู่ภายใต้การสะกดพลังของอำนาจเขตแดน
แต่แล้วไง? ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เผ่าเอลฟ์ในขั้น 2 เขายังฆ่ามาแล้ว กับอีแค่ระดับเทวะขั้น 1 มันไม่อยู่ในสายตาเขาเลย
ยังไม่พูดถึงเรื่องที่ว่า ซูเฉินในเวลานี้มีผู้ช่วยอยู่
อย่างฉีมู่เฟิงซึ่งเป็นยอดฝีมือชั้นนำของระดับเทวะขั้น 1 และหุ่นเชิดทองคำระดับเทวะขั้น 1 อีกตัว
ฝ่ายหลังหากติดตั้งหุ่นเชิดระดับเทวะเข้าไป จะสามารถเลื่อนขั้นไปสู่ขั้น 2 ได้ทันที
นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม ต่อให้มีระดับเทวะขั้น 1 ถึงห้าคน มันก็ยังไม่เพียงพอที่จะเข้าตาซูเฉิน