บทที่ 20: ราชาสัตว์อสูร
ใต้แสงจันทร์ ณ หมู่บ้านจินยินถาน
เจียงเหอได้นำเก้าอี้ออกมานั่งไถมือถืออย่างเบื่อหน่าย
"มันอะไรกันวะเนี่ย?"
“นี่ก็ครึ่งชั่วโมงแล้ว แต่ไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยเหรอ?”
“หรือว่าเอาศพมาปลูกไม่ได้วะ… เดี๋ยวดิ๊ หรือเพราะตูลืมใส่ปุ๋ยไนโตรเจน”
เจียงเหอเอามือกุมหน้าแล้วยิ้มอย่างขมขื่น “ชัดเลย แต่ถ้าพึ่งจะใส่เอาตอนนี้ก็เสียฟอร์มว่ะ เด๋วลองใส่ดินลึกลับแทนดีกว่า”
เขาหยิบห่อเล็ก ๆ ที่เก็บดินลึกลับออกมาแล้วเทออกมาประมาณหนึ่งในสิบ
ดินลึกลับมีคุณสมบัติสองประการ:
1. ทำให้พืชผลแข็งแรงขึ้น
2. เปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมในช่วงเวลาสั้น ๆ
หลังจากพรวนดินไปสักพัก เจียงเหอก็เอาดินลึกลับโยนใส่
จากนั้นเขาก็ตรวจสอบเวลา—ตอนนี้ตีสองแล้ว
"กลับไปนอนดีกว่า แล้วพรุ่งนี้เช้าตูค่อยมาเช็คอีกทีว่าจะมีต้นอะไรงอกมาหรือป่าว”
หาว~~~ เจียงเหอกลับไปที่ห้องและนอนหลับสบายจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น เขาตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงเห่าของเอ้อเหลิงจื่อ
เมื่อสวมเสื้อผ้าและออกจากห้อง เขาก็พบว่าเอ้อเหลิงจื่อกำลังยืนอยู่ในสนามและกำลังเห่าใส่ต้นไม้ต้นเล็ก ๆ ที่สูงกว่าสองเมตร
ใบไม้ก็เขียวชอุ่ม และยังมีลูกแมวสีดำสนิทตัวหนึ่งห้อยอยู่บนกิ่งไม้ด้วย
มันตัวใหญ่กว่าแมวปกติอยู่นิดหน่อย แต่ออร่าที่แผ่ออกมาจากร่างกายของมันนั้นทรงพลังสุด ๆ แถมมันยังมีสามหาง
เมื่อเจียงเหอมองไปที่แมว หน้าต่างข้อมูลก็ปรากฏขึ้น
[แมวปีศาจสามหาง]
[เลเวล: 3 ขั้นสุดยอด]
[ความสามารถ: ขี่ลม]
เมื่ออ่านข้อความสั้น ๆ นี้ เจียงเหอก็มีท่าทีเปลี่ยนไปและพึมพำ "เกิดอะไรขึ้น? ตูเอาแมวตายเลเวล 1 มาปลูก แต่กลับออกผลมาเป็นแมวปีศาจเลเวล 3…”
จู่ ๆ เขาก็นึกขึ้นได้ “หรือว่ามันจะเป็นผลงานของดินลึกลับ? ไม่สิน่าจะเป็นผลรวมของฟาร์มบวกกับดินลึกลับต่างหาก ไม่เพียงแต่พัฒนาแมวอสูรให้ไปถึงเลเวล 3 เท่านั้น แต่ที่น่ากลัวที่สุดคือมันยังปลุกความสามารถขึ้นมาอีกด้วย!”
'ความสามารถ' ที่กล่าวถึงนั้นเทียบเท่ากับพลังพิเศษของผู้เหนือมนุษย์บางคน และอีกตัวอย่างหนึ่งคือวิดีโอสั้น ๆ ที่เจียงเหอได้เห็น เรื่องที่ว่ามีคนถ่ายภาพจิ้งจอกแดงที่สามารถพ่นไฟในต้าซิงอานหลิงได้
เจียงเหอหันไปหาเอ้อเหลิงจื่อ
“ถ้าเรื่องมันออกมาแบบนี้ เกิดตูเชือดเจ้าเอ้อเหลิงจื่อแล้วเอาศพมันมาปลูก แล้วตูจะได้สุนัขปีศาจเวล 3 มาป่าวน้อ?”
ดูเหมือนมันจะเข้าใจความคิดของเขา เอ้อเหลิงจื่อสั่นระริกและลุกขึ้นยืนบนขาหลัง มันโค้งคำนับอย่างให้เกียรติ แล้วยังทำท่าทางนอบน้อมประจบประแจง...
“…”
ไอ้หมานี่มันกลายเป็นคนไปแล้วจริง ๆ ด้วยเว้ย!
ไอคิวของพวกสัตว์อสูรจะพัฒนาขึ้นเช่นเดียวกับระดับเลเวล และว่ากันว่าสัตว์อสูรเลเวล 7 มีสติปัญญาเทียบเท่ากับมนุษย์ผู้ใหญ่ทั่วไป แต่กับเจ้าเอ้อเหลิงจื่อ เจียงเหอประเมินแล้วเห็นว่าไอ้หมาตัวนี้มันฉลาดไปเกินกว่านั้นเรียบร้อยแล้ว
เจียงเหอเตะเอ้อเหลิงจื่อไปทีหนึ่ง แล้วไปเด็ดแมวสามหางลงมาจากต้น
[ติ๊ง!]
[ฟาร์มพอยท์ +200]
การแจ้งเตือนของระบบดังขึ้นในหัว และดวงตาของเจียงเหอก็กวาดมองไปที่แผงควบคุม แล้วสังเกตเห็นว่า EXP ในฟาร์มของเขาเพิ่มขึ้น 20 แต้ม
"เหมียว!"
ในเวลาเดียวกัน เจ้าแมวปีศาจสามหางก็มีชีวิตขึ้นมา
มันแอบซุกตัวเข้าไปในอ้อมแขนของเจียงเหอ แล้วเอาหัวถูไถเพื่อพยายามประจบประแจง
'สัตว์ป่าที่เติบโตในฟาร์มจะซื่อสัตย์ร้อยเปอร์เซ็นต์และจะไม่ทรยศอย่างแน่นอน'
เจียงเหอรู้ทันทีและปล่อยแมวดำออกมาในบ้านด้วยความยินดีและพูดว่า “จากนี้ไป เอ็งจะต้องเฝ้าบ้านด้วยกันกับเอ้อเหลิงจื่อนะ”
ได้แมวนี่ก็ดีเหมือนกัน
เวลาเบื่อ ๆ ก็จับมาเล่นได้
"อ้อใช่ละ ต้องตั้งชื่อให้เอ็งด้วยนี่เนอะ”
เจียงเหอรำพึงกับตัวเองอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพึมพำว่า “ทั้งตัวของมันเป็นสีดำ เอาเป็นราชาทมิฬดีป่ะ? ไม่ดิ ฟังดูหรูหราหมาเห่าไปหน่อย… ด่ำด๊ำ? อืม… เอ็งมีสามหางหนิ งั้นเอ็งชื่อซานเหลิงจื่อละกัน จะได้คู่กับเอ้อเหลิงจื่อด้วย”
แมวปีศาจสามหางกลิ้งไปบนพื้นอย่างมีความสุขกับชื่อใหม่
ในทางกลับกัน เอ้อเหลิงจื่อดูเศร้าโศกและคร่ำครวญงี้ด ๆ อย่างไม่พอใจ
ในเวลาเดียวกัน ยอดของต้นไม้ก็หักโค่นร่วงลงเกิดเสียงดังก้อง และกลายเป็นกองขี้เถ้าสีดำ
เจียงเหอค่อย ๆ เขี่ยผงขี้เถ้าให้กระจายแผ่ออกอย่างคล่องแคล่ว ก่อนที่จะนำเมล็ดแครอทหนึ่งห่อจากในบ้านมาโรยให้ทั่ว
เมื่อทำเสร็จแล้ว ต้นไม้เงินของเขาก็ 'ออกผล' ต่อ
เมื่อมองดูเหรียญเติบโตอย่างรวดเร็วเป็นแบงค์ร้อยหยวนแล้ว เจียงเหอก็เด็ดแบงค์ทั้งหมดออกมาและปาดเหงื่อออกจากหน้าผาก แล้วอุทานด้วยความยินดีว่า “การทำฟาร์มก็ไม่ได้แย่นี่หว่า ตราบใดที่ไม่มีสัตว์อสูรหรือภัยคุกคามจากต่างดาว จะพาหมาแมวไปทำสวนด้วยกันก็เป็นเรื่องที่ดีนี่นา”
ในขณะเดียวกัน ข้าวโพดอีกชุดที่ไม่ได้ปลูกบนขี้เถ้าของแตงกวาก็ให้ผลผลิตออกมา แต่ว่าข้าวโพดที่เก็บเกี่ยวไม่ได้มีอะไรพิเศษมากมายนัก
ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือฝักข้าวโพดมีขนาดใหญ่กว่าปกติ แม้ว่าจะไม่ได้ให้ฟาร์มพอยท์ก็ตาม
ด้วยเหตุนี้เจียงเหอจึงตัดข้าวโพดทั้งต้นและเอาทั้งหมดไปกองทิ้งไว้ เพื่อให้คนเลี้ยงแพะเพื่อนบ้านมาเก็บไป
หลังจากยุ่งมาทั้งวันเจียงเหอก็สามารถหาเวลาว่างได้ซักที เขาซื้อหมั่นโถวสองก้อนเป็นอาหารเช้าและทำเหลียงป้านหวงกวา (แตงกวาเย็น)
เมื่อเขากินเสร็จ หวางซืออวี่ก็โผล่มา
เธอสวมชุดวอร์มและมัดผมหางม้า ทั่วทั้งตัวของเธอตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของสาววัยเยาว์
เธอถือโน้ตมาด้วย และก็ยื่นมันให้เจียงเหอ
บนนั้นมีตัวเลขและตัวอักษร: 32, 33, B, C, D
“นี่อะไรอะ”
เจียงเหอรู้สึกงงงวยหลังจากเหลือบมองโน้ต แต่ไม่นานก็ตระหนักได้เมื่อดวงตาของเขาหันไปถึงหวางซืออวี่
“เอฟเฟกต์สุดยอดขนาดนั้นเลยเหรอวะเนี่ย?” เขาอุทานด้วยความประหลาดใจ “นี่เธอคัพ D แล้วเรอะ? ฉันไม่เห็นรู้เลย!”
“หยุดบ้าได้แล้ว!”
หวางซืออวี่กลอกตาใส่ แล้วดุใส่ด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเล็กน้อย
ถึงกระนั้น เธอก็ฟื้นตัวและพูดอย่างจริงจังว่า “นี่คือข้อมูลที่นายต้องการ องค์กรได้ส่งมาให้แล้ว เพิ่มฉันในวีแชทแล้วเดี๋ยวฉันจะส่งให้”
เมื่อเชื่อมต่อวีแชทเธอก็ส่งข้อมูลให้เขา
เจียงเหอเปิดข้อมูลทันทีและเริ่มศึกษา
ข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้เป็นข้อมูลลับอะไรมากมาย โดยรวมแล้วข้อมูลโดยสรุปของกลุ่มสัตว์อสูรที่ทรงพลังและเหล่าผู้เหนือมนุษย์ทั้งหลายที่ตื่นขึ้นและทรงพลังในช่วงสิบปีนับตั้งแต่พลังวิญญาณฟื้นคืน
ในที่สุดสายตาของเจียงเหอก็มาถึงข้อมูลเกี่ยวกับพวกสัตว์อสูร
“ราชาสัตว์อสูร… สิ่งมีชีวิตที่อยู่เหนือกว่าเลเวล 9? ฆ่าด้วยขีปนาวุธนิวเคลียร์ไม่ได้เหรอ?”
“ไอ้พวกนี้ทั้งหมดมันถูกค้นพบในหัวเซี่ยงั้นเหรอ?”
“ราชาอินทรีทองคำมงกุฎม่วงแห่งเขาคุนหลุนใกล้พรมแดนซีเจียง ราชาจิ้งจอกแดงแห่งต้าซิงอานหลิง ราชาหมาป่าจันทราเงินแห่งเทียนซาน ราชางูเก้าเศียรแห่งทะเลสาบผานหลง… เดี๋ยวก่อน ระเบิดนิวเคลียร์ที่ภูต้าตงนั้นน่ะ…”
เจียงเหอมองขึ้นไปที่หวางซืออวี่ซึ่งดูเคร่งเครียด เธอตอบว่า "ราชาหมาป่าสีเทาแห่งภูต้าตง ได้รับการยืนยันว่าเป็นราชาสัตว์อสูรที่สูงกว่าเลเวล 9 และเป็นหนึ่งในราชาสัตว์อสูรไม่กี่ตัวที่พบในเขตแดนของเรา นิวเคลียร์เมื่อวานนี้ถูกยิงใส่มันจริง ๆ แต่ก็ฆ่ามันไม่ตาย ฉันรู้มาว่าปรมาจารย์ที่เก่งที่สุดของซีเป่ยได้ลุยลึกเข้าไปในภูต้าตงเพื่อไล่ล่าราชาหมาป่า แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีคำตอบเลยว่าผลลัพธ์เป็นอย่างไร”
“เฮ้อ!”
เจียงเหอถอนหายใจและบ่นพึมพำ "เหนือกว่าเลเวล 9 แถมยังไม่กลัวระเบิดนิวเคลียร์ด้วย? แล้วไอ้นิกายเทียนโหมวเนี่ยมันจะมีพวกที่เกินเลเวล 9 อยู่ด้วยไหมหว่า?”