ตอนที่ 22 ตามที่ต้องการ
การชี้แจ้งก่อนหน้านี้ของเจียงเหยา ทำให้แม่ลู่รู้สึกยินดี แต่เธอเริ่มเข้าใจในการตัดสินใจของลู่ชิงสี
ครอบครัวลู่เป็นครอบครัวปัญญาชน ไม่เหมือนกับครอบครัวอนุรักษ์นิยม ที่มองว่าผู้หญิงต้องอยู่บ้านดูแลลูกและครอบครัว ในฐานะผู้หญิง แม่ลู่รู้ว่าอายุสิบเก้าไม่ใช่อายุที่ดีที่สุดที่จะมีลูก เหตุผลหลักที่ทำให้เธอไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานของพวกเขาตั้งแต่แรก ก็เพราะเจียงเหยายังเด็กเกินไป ที่จะเริ่มต้นชีวิตครอบครัวและเป็นภรรยา เป็นแม่คน
“ในที่สุดเธอก็ได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยแพทย์หนานเจียงตามที่ต้องการแล้วใช่ไหมล่ะ” ลู่อี้ชิงพูดอย่างประชดประชัน เธอไม่แน่ใจว่าพวกเขาคุยเรื่องอะไรกันที่สนาม เธอสงสัยว่าเจียงเหยาจะใช้เล่ห์เหลี่ยมบางอย่าง แม้ว่าเธอจะมีนิสัยเงียบ ๆ แต่ก็ต้องมีเล่ห์กลบางอย่างที่สามารถใช้หลอกล่อลู่ชิงสีให้ตอบรับความต้องการของเธอได้อยู่แล้ว
ในความคิดของลู่อี้ชิง แม้ว่าเธอจะรู้จักน้องชายของเธอเป็นอย่างดี และรู้ว่าเขาเป็นคนฉลาดกว่าคนอื่นสักเพียงไหน ทว่าก็ไม่มีทางที่เขาจะเอาชนะมารยาของผู้หญิงไปได้หรอก เวลาอย่างนี้เหตุผลรึ ความฉลาดรึ จะสู้มารยาหญิงได้
แต่กระนั้นท่าทางของเขาได้เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน จากที่แต่เดิมเงียบขรึม ทว่าตอนนี้กลับชัดเจนและมีชีวิตชีวา
“อี้ชิงพอแล้ว นี่เป็นเรื่องของน้องชายกับภรรยาของเขา อีกอย่างพวกเขาก็คุยกันแล้ว ในเมื่อตัดสินใจกันแบบนั้น เราก็ต้องเคารพการตัดสินใจของพวกเขา” พ่อลู่เข้าใจที่ลู่อี้ชิงประชดออกมาเช่นนั้น เขาพยายามส่งสายตาห้ามปรามขณะที่พูดกับลู่อี้ชิง
ลู่อี้ชิงยักไหล่และเยาะเย้ย “หนูรู้ค่ะ ถ้าลู่ชิงสีมีความสุข ก็ได้” น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและการดูถูกน้องชาย
“เอาล่ะ ๆ หนานเจียงก็หนานเจียง” แม่ลู่กล่าวอย่างประนีประนอม ตาที่พ่อลู่ได้บอกไปแล้ว นี่เป็นการตัดสินใจของพวกเขา หลังจากที่ได้หารือกันแล้ว ในฐานะผู้ใหญ่ พวกเขาไม่ควรเข้าไปยุ่งกับเรื่องของลูกมากจนเกินไป พวกเขาล้วนแต่โต ๆ กันแล้ว มีความรับผิดชอบต่อการสินใจและการกระทำของตัวเอง
อีกอย่างมหาวิทยาลัยแพทย์หนานเจียง ยังเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของทางใต้ ทีนี้แม่ลูกก็สามารถเอาเรื่องนี้ไปคุยโวให้กับเพื่อน ๆ ถึงความฉลาดของลูกสะใภ้ได้อีกทาง
หลังจากเรียนจบเจียงเหยาก็ได้เป็นหมอ มีการงานที่มั่นคง การได้เรียนและทำงานด้านนี้ เธอจะได้พัฒนาความเห็นอกเห็นใจและการดูแลคนอื่น
ที่ผ่านมาแม่ลูกคิดเสมอว่าเจียงเหยา ขาดคุณสมบัติของการดูแลผู้อื่น นั่นอาจเพราะเธอยังอายุน้อย ตอนนี้เธอเลือกที่จะเป็นหมอ ก็ทำให้แม่ลูกสบายใจไปได้อีกเปาะหนึ่ง
ยังไงซะ ถ้าชีวิตคู่ของพวกเขามีความสุข เจียงเหยาเติบโตขึ้นและเรียนรู้วิธีดูแลคนอื่นบ้างก็ดีไม่น้อย
...
หลังจากทานอาหารกลางวันเรียบร้อยแล้ว
ลู่ชิงสีและเจียงเหยาออกจากบ้านไปในเวลาใกล้เคียงกับลู่อี้ชิงและสามีของเธอ คู่สามีภรรยาคู่นั้นรีบกลับไปทำงานตามปกติของพวกเขา
ในขณะที่ลู่ชิงสีและเจียงเหยากำลังมุ่งหน้าไปที่บ้านเจียง บ้านเกิดของเจียงเหยา
ลู่ชิงสีใช้เวลาปั่นจักรยานครึ่งชั่วโมงจากบ้านไปยังหมู่บ้านอี้เตียน
นับตั้งแต่การยกเลิกขายตั๋วเดินทางให้กับผู้เดินสารทั่วไป ทำให้วิธีเดินทางที่พบมากที่สุดก็คือจักรยาน
รถยนต์ถือได้เป็นทรัพย์สินที่หายากและหรูหราในเมืองแห่งนี้ ยกเว้นเสียแต่ครอบครับลู่ แม้ว่าเขาจะสามารถจ่ายไหวแต่เขากลับมองว่าไม่มีความจำเป็นต้องใช้ ในทางกลับกัน ลู่ไห่ชิง ซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองนี้ กลับมีรถยนต์หนึ่งคับที่ใช้ขับไปนอกเมืองพร้อมกับลูกสาวทุก ๆ วันหยุดสุดสัปดาห์
ระหว่างทางเจียงเหยาที่กำลังนั่งอยู่เบาะหลังของจักรยาน ในมือถือไอศกรีมที่ลู่ชิงสีเพิ่งจะซื้อให้เธอ เธอใช้อีกแขนข้างที่เหลือโอบรอบเอวของลู่ชิงสีเพื่อป้องกันตัวเองตกจากจักรยาน
ลู่ชิงสีที่กำลังปั่นจักรยานสัมผัสได้ถึงแขนข้างหนึ่งที่กำลังโอบรอบเอวของตนเอง และยังได้ยินเด็กสาวที่นั่งเบาะหลังส่งเสียงฮัมเพลงขณะกินไอศกรีม ดูท่าเธอคงอารมณ์ดี