HO บทที่ 153 วิดีโอ PART 1
หลังจากที่ซินหยารีบไปที่ห้องปรุงยา วอนเดอร์ริ่งซาวด์กับเว่ยก็คุยกันเงียบ ๆ ต่อกัน เมลติ้งสโนว์ได้แต่ถอนหายใจที่เขาถูกทิ้งให้อยู่กับนกเขาคูรักอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม คราวนี้เขาไม่ยอมให้ตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ชวนอึดอัดก่อนหน้านี้ที่ต้องมานั่งฟังเสียงพลอดนักของพวกเขา
เมลติ้งสโนว์รีบคลิกที่ปุ่มที่อยู่ถัดจากแท็บโปรไฟล์ของเขาอย่างรวดเร็ว ทันทีที่เขาเล่นเพลงจากสถานีวิทยุส่วนตัวของเขาก็เริ่มเล่น มันก็กลบเสียงของคู่รักที่อยู่ใกล้เขาทนัที
เมื่อเห็นว่ามันได้ผลดีแค่ไหน เมลติ้งสโนว์ก็ยิ้มก่อนจะหันกลับมาสนใจวิดีโอที่เขากำลังตัดต่อ เขาต้องการให้มันสมบูรณ์แบบ เพราะเขาแน่ใจว่ามันจะต้องไวรัลแบบครั้งที่แล้ว
แม้ว่ามันจะแตกต่างจากตอนที่ต่อสู้กับราชาเบลลี่บอร์ก ครั้งนี้มันน่ากลัวกว่ามาก เขาค่อนข้างแน่ใจว่าพวกเขาเป็นผู้เล่นกลุ่มแรกที่ต่อสู้กับสัตว์ทะเลยักษ์ เพราะสิ่งแรกที่เขาทำหลังจากเข้าไปในห้องนั่งเล่นของเรือนแพคือพยายามหาคนที่มีประสบการณ์คล้ายกันในกระดานสนทนาแต่ก็ไม่พบอะไรเลย
ส่วนใหญ่ที่เขาสามารถหาได้คือการคาดเดาเกี่ยวกับสัตว์ทะเลยักษ์ แต่ไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่าพวกมันมีอยู่จริง หลังจากที่เขาอัปโหลดวิดีโอนี้แล้ว มันจะต้องสร้างความตื่นตกใจได้อย่างแน่นอน
เขารู้ดีว่าหลังจากนี้ช่องของเขาจะได้รับความนิยมมากกว่าเมื่อก่อนและจะมีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก แม้ว่าเขาอาจจะไม่ต้องการเป็นแร้งเกอร์แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ต้องการที่จะมีชื่อเสียง
เมลติ้งสโนว์ นักผจญภัยที่ไม่ธรรมดา เขานึกภาพออกได้เลย เขาหัวเราะกับตัวเองอย่างเงียบ ๆ เขาเริ่มมองหาเพลงประกอบที่เหมาะกับวิดีโอที่เขาทำ เขาต้องการให้แน่ใจว่าเสียงนั้นฟังดูยิ่งใหญ่อลังการ
สิ่งเดียวที่เกี่ยวกับวิดีโอที่เขาอารมณ์เสียจริง ๆ คือ เขาไม่ได้บันทึกว่าตัวเองเป็นคนฟันหนวดพวกนั้น เขาโง่แค่ไหนที่ลืมบันทึก นั่นอาจเป็นจุดเด่นของวิดีโอเลยก็ได้
'ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ฉันจะไม่ลืมบันทึกวิดีโอ' เมลติ้งสโนว์คิดในขณะที่ถอนหายใจเศร้าสอย
เขาสัญญากับตัวเองว่าเมื่อสัญญาณแรกของการผจญภัยเริ่มต้นขึ้น เขาจะกดปุ่มบันทึกทันที
สำหรับตอนนี้เขาแค่ต้องการตกแต่งวิดีโอนี้ให้เสร็จ มีบางสิ่งพิเศษที่เขาต้องทำก่อนที่เขาจะอัปโหลด เขาจำเป็นต้องลบส่วนที่เกี่ยวกับรางวัลที่เขาและกลุ่มได้รับ และการกล่าวถึงสถานที่ที่พวกเขากำลังจะมุ่งหน้าไป
เขายังทำให้แน่ใจว่าได้ปิดเสียงและเบลอส่วนเกี่ยวกับเหยื่อระเบิดของดริฟติ้งคลาวด์และทักษะใหม่ของเขา เมลติ้งสโนว์ทราบดีว่าถ้าใครรู้เกี่ยวกับทักษะนั้น มันอาจจะมีปัญหา โดยเฉพาะกับพี่ชายของเขาและกิลด์อื่น ๆ
เขารู้จักพี่ชายของเขาดี เขารู้ว่าเขาจะพยายามใช้ดริฟติ้งคลาวด์เพื่อจุดประสงค์ที่ชั่วร้ายของเขาเอง เขามีโรสลิลลี่ติดตามเขาอยู่แล้ว เขาไม่อยากรู้ว่าพี่ชายของเขาจะทำอะไรถ้าเขารู้เกี่ยวกับทักษะใหม่นี้
'ยิ่งทำให้พี่ชายของฉันไม่รู้มากเท่าไหร่ ดริหติ้งคลาวด์ก็จะปลอดภัยมากขึ้น'
เมลติ้งสโนว์คิดในขณะที่เขากดปุ่มอัปโหลดบนวิดีโอ เขาแทบรอไม่ไหวที่จะได้เห็นทุกคนจะมีปฏิกิริยาอย่างไรต่อเรื่องนี้ โดยคิดว่าเขาแน่ใจว่าได้ส่งลิงก์ไปยังวิดีโอดังกล่าวให้ลูกพี่ลูกน้องของเขาแล้ว เขาอดไม่ได้ที่จะอวดชายคนนั้นสักหน่อย
เมลติ้งสโนว์ไม่รู้เลยว่า วิดีโอของเขาจะสร้างผลกระทบได้มากเกินกว่าที่เขาจินตนาการได้
…
-ในส่วนอื่นของ Haven Online-
ในห้องประชุมเล็ก ๆ ชายสองคนนั่งเผชิญหน้ากันด้วยสีหน้าจริงจัง เรื่องที่พวกเขาพูดคุยทางตันมาตั้งนานแล้วและไม่มีใครยอมถอยแม้แต่ก้าวเดียว
ชายผมดำกลอกตามองชายที่จ้องมองเขาอย่างเย็นชา เขาปล่อยลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด “ปล่อยเรื่องนี้ไปไม่ได้เหรอ?”
"ปล่อยมันไป?" ชายคนนั้นพูดอย่างโกรธเคืองราวกับว่าเขาไม่อยากเชื่อชายตรงหน้าเขาถึงกับพูดคำเหล่านั้น “ฉันเตือนนายแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่นายกลับต้องการให้ฉันปล่อยมันไป!”
“ซาฟเนียร์...” ชายคนนั้นเริ่มพูดแต่ก็ถูกขัดทันที
“อย่ามาห้ามฉันโซล!!” ซาฟเนียร์ตะโกนใส่ชายกล้ามที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขา
เมื่อซื่อซวนรู้ว่าไม่มีทางที่เขาสามารถทำให้ชายตรงหน้าใจเย็นได้ เอาใจชายคนนั้น เขาคิดว่ามันดีที่สุดที่จะยอมแพ้ในสิ่งที่เขาต้องการ
“ก็ได้ ฉันจะช่วยพวกเขาสร้างเมืองขึ้นมาใหม่ ตกลงมั้ย?”
“ตกลง” ซาฟเนียร์กล่าวด้วยรอยยิ้มพอใจเมื่อรู้ว่าเขาชนะ ถ้าโซลฟังเขาตั้งแต่แรกตอนที่เขาบอกเขาว่าพวกหัวกะทิจะทำลาย เออร์นิสเวิร์ธ พวกเขาก็คงไม่เถียงกันตอนนี้
แม้ว่ากิลด์ของพวกเขาจะชนะภารกิจเมืองและช่วย NPC ได้มากที่สุด แต่เมืองก็ถูกทำลายไปไม่มีชิ้นดี เมื่อเมืองถูกรื้อถอน ชาวเมืองก็ต้องย้ายออกไป และเมื่อ NPC ย้ายไปก็จะไม่มีใครเก็บภาษีได้
ดังนั้นวิธีเดียวที่พวกเขาจะได้รับภาษีก็คือถ้ากิลด์ของพวกเขาช่วยสร้างเมืองขึ้นใหม่ โชคดีสำหรับพวกเขา กิลด์ของพวกเขาเต็มไปด้วยช่างฝีมือ และการซ่อมแซมเมืองก็ไม่มีปัญหา ปัญหาเดียวคือพวกเขาต้องการไม้แปรรูป หิน และวัสดุอื่นๆ จำนวนมาก และด้วยเหตุผลบางอย่าง ผู้พัฒนาจึงสร้างมันขึ้นมาเพื่อไม่ให้พวกเขาซื้อมันง่าย ๆ
ซาฟเนียร์มีความรู้สึกว่าทีมผู้พัฒนาดึงสิ่งนี้ออกไป หากไม่มีกิลด์หลายแห่งอยากจะพยายามล้อมเมืองตลอดเวลา วิธีนี้พวกเขาจะคิดก่อนทำ เพราะตอนนี้พวกเขารู้ว่า ถ้าทำลายเมือง พวกเขาจะต้องสร้างใหม่
“อย่าลืมบอกให้พวกเขามาทำงานทันที เราจำเป็นต้องสร้างเมืองใหม่ให้เร็วที่สุด” ซาฟเนียร์บอกเขาขณะลุกขึ้นจากที่นั่ง
“ก็ได้ ก็ได้” ซื่อซวนพูดอย่างอวดดี โบกมือให้เขาด้วยหลังมือ “ฉันจะบอกให้พวกเขาทำเอง”
เมื่อเดินไปที่ประตู ซาฟเนียร์ ก็เปิดประตูออก ก่อนที่เขาจะจากไป เขาก็หันกลับมาและพูดว่า “นายช่วยจริงจังเรื่องนี้ เว้นแต่นายจะไม่ต้องการเงินที่เมืองจะนำมาให้พวกเรา”
ทันทีที่ ซาฟเนียร์ออกไปและประตูปิดสนิท ซื่อซวนก็ยิ้มเยาะ เขาสนุกกับการต่อสู้ด้วยความตั้งใจทุกวันกับเพื่อนของเขา มันสนุกมาก เขาเคยวางแผนที่จะให้พวกหัวกะทิเข้าไปช่วย แต่การได้เห็นชายผู้นี้โกรธจัดเป็นเรื่องที่สนุกมากกว่า
เมื่อเปิดอินเทอร์เฟซของเขา เขาก็ส่งข้อความสั้น ๆ ถึงพวกหัวกะทิแต่ละคน เขาจัดการมันให้พ้นทางอย่างรวดเร็ว ขณะที่เขากำลังจะปิดอินเทอร์เฟซอีกครั้ง เขาเห็นข้อความที่ส่งถึงเขาจากลูกพี่ลูกน้องของเขา
ซื่อซวนสับสนในตอนแรกว่าทำไมเขาถึงไม่สังเกตว่ามันถูกส่งมาเมื่อไหร่ แต่ในไม่ช้าเขาก็จำได้ว่าเขาได้ปิดเสียงการโทรและข้อความระหว่างการบุกโจมของมอนสเตอร์ หลังจากแก้ไขการตั้งค่าแล้ว เขาเปิดข้อความจากเมลติ้งสโนว์และพบว่า มันเป็นลิงค์วิดีโออันหนึ่ง
อยากรู้ว่าเด็กชายจะส่งอะไรให้เขา ซื่อซวนเอนหลังพิงเก้าอี้แล้วเปิดมัน