ระบบทักษะพลิกชีวิต - ตอนที่ 33 แค่สุนัขแต่กลับดูถูกคน
ตอนที่ 33 แค่สุนัขแต่กลับดูถูกคน
แม้ว่าฉางเฟิงจะไม่ใช่เมืองใหญ่โตอะไรนัก แต่ก็ยังใหญ่กว่าเมืองเล็กๆอีกเจ็ดหรือแปดเมืองมาก ดังนั้นห้างสรรพสินค้าแห่งนี้จึงนับว่าเป็นห้างสรรพสินค้าที่หรูหรา และใหญ่โตที่สุดของเมืองนี้แล้ว ราคาเสื้อผ้าตั้งแต่ชั้นหนึ่งขึ้นไปชั้นบนนั้น ราคาและแบรนด์เสื้อผ้าก็จะขยับตามขึ้นไปด้วย
เมื่อมาถึง เย่เจียเจียก็ได้ลากเย่โม่ไปที่ร้านเสื้อผ้าชั้นสองทันที นั่นเพราะในชั้นแรกนั้นดูเหมือนจะเป็นร้านเสื้อผ้าขายส่งซะส่วนใหญ่ และมีแบบเสื้อผ้าให้เลือกไม่มากนัก เธอจึงได้ขอให้เย่โม่พาไปซื้อเสื้อผ้าที่ชั้นสองแทน
ตอนนี้เย่โม่มีเงินทองมากมายแล้ว เขาย่อมไม่อยากให้น้องสาวใส่เสื้อผ้าถูกๆอีกต่อไป และได้พาเย่เจียเจียขึ้นไปที่ชั้น 6 ซึ่งเป็นชั้นสำหรับขายสินค้าแบรนด์เนมระดับไฮเอนด์แทน
แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นสินค้าแบรนด์เนมระดับไฮเอนด์แล้ว แต่ราคาก็ยังเป็นแบบที่มีราคาอยู่ที่หนึ่งหรือสองพันหยวนเท่านั้น!
ส่วนประเภทราคาตั้งแต่สี่ห้าพันไปจนกระทั่งเป็นหมื่นขึ้นไปนั้น กลุ่มคนในพื้นที่นี้ดูเหมือนจะไม่มีกำลังซื้อ แบรนด์เหล่านั้นจึงไม่นำมาขาย
แม้ว่าตอนนี้เย่เจียเจียจะรู้ว่าพี่ชายของเธอเริ่มหาเงินได้มากแล้ว แต่เธอเองก็ไม่เข้าใจว่า เย่โม่สามารถไปหาเงินจำนวนมากขนาดนี้มาได้ยังไง และเมื่อเขาพาเธอขึ้นมาที่ชั้น 6 เพื่อซื้อเสื้อผ้าแบรนด์เนม เธอก็เริ่มรู้สึกอึดอัดขึ้นมาทันที
“พี่โม่ พวกเราลงไปซื้อที่ชั้นสองไม่ดีกว่าเหรอ? เสื้อผ้าชั้นนี้มันแพงเกินไป!”
“แพงเหรอ? อีกอย่างเนื้อผ้าก็ดีกว่าเสื้อผ้าข้างล่างมาก!”
ในขณะที่พูดนั้น เย่โม่ก็ได้เดินไปจับเนื้อผ้าของเสื้อตัวหนึ่งซึ่งติดป้ายราคาไว้ที่ 2,388 หยวน ซึ่งเขารู้สึกว่าราคาก็เหมาะสมกับคุณภาพสินค้าดี ไม่ได้แพงอะไรเลย!
แต่สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือ ความเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ ทำให้จิตใจของเขาค่อยๆ เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน หากเป็นก่อนหน้านี้ อย่าว่าแต่เขาจะไม่กล้าคิดที่จะซื้อเสื้อผ้าในราคาสองสามพัน
สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือการเปลี่ยนแปลงในใจของเขาค่อยๆ ทำให้เขาเปลี่ยนไป ถ้าเป็นเมื่อก่อน อย่าว่าแต่ไม่กล้าคิดถึงเรื่องซื้อเสื้อผ้าในราคาสองสามพันหยวนเลย เพราะเพียงแค่ต้องจ่ายเงินซื้อเสื้อผ้าในราคาสองสามร้อยหยวน ก็คงทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดใจไปเป็นเวลานานแล้ว
เย่เจียเจียจ้องมองพี่ชายด้วยสีหน้าประหลาดใจ พร้อมกับร้องถามออกมาด้วยแววตางุนงงสงสัย “พี่คะ! นี่มันราคาสองพันกว่าหยวนเลยนะคะ เงินจำนวนนี้ครอบครัวของเราใช้ได้ทั้งเดือนเชียวนะ! พี่ยังบอกว่าไม่แพงอีกเหรอ?”
“เจียเจีย ซื้อไปเถอะน่าไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน! พี่จะบอกอะไรให้ ตอนนี้เงินที่พี่หาได้มันมากมายจนเธอคิดไม่ถึงเชียวล่ะ!”
เย่โม่บอกกับน้องสาวยิ้มๆ แต่ก็จงใจที่จะไม่บอกรายละเอียดอะไรกับเธอมากนัก อีกอย่าง มีเรื่องราวอีกมากมายที่น้องสาวของเขาไม่สมควรจะต้องรับรู้!
ระหว่างที่สองพี่น้องกับพูดคุยกันอยู่นั้น ก็มีเสียงเบาๆดังขึ้น
“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าคุณสองคนสนใจเสื้อผ้าตัวไหนบ้างไหมคะ?”
ทันทีที่ได้ยินดังขึ้นจากด้านหลัง เย่โม่ก็หันหลังกลับไปมอง และพบว่าเป็นเด็กสาวอายุในวัยเดียวกันกับเขา กำลังยืนเอียงอายอยู่ เย่โม่คาดเดาว่าคงจะเป็นพนักงานใหม่ในร้าน เขาจึงตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ผมสนใจชุดนี้ครับ อยากจะขอให้น้องสาวลองหน่อยจะได้มั๊ยครับ?”
แต่ยังไม่ทันที่พนักงานสาวขี้อายจะทันได้เอ่ยปากตอบ เสียงเย็นชาไม่เป็นมิตรก็ดังสวนขึ้นมา
“หลี่หยวน! เข้าไปที่ห้องเก็บของ แล้วก็จัดการเก็บเสื้อผ้าให้เป็นระเบียบเรียบร้อย!”
พนักงานสาวที่ชื่อหลี่หยวนหันกลับไปมองตามเสียง และพบว่าคนที่ร้องตะโกนสั่งเธอนั้นเป็นเสมียนมีอายุคนหนึ่ง
“แต่ฉันกำลังต้อนรับลูกค้าอยู่นะคะ!” หลี่หยวนตอบกลับเสียงเบา เพราะเกรงว่าจะทำให้พนักงานรุ่นพี่ในร้านคนนี้ไม่พอใจ
“ฉันสั่งให้เธอไปทำอะไรก็ไปรีบไปทำ เรื่องลูกค้าเดี๋ยวฉันจัดการเอง!”
พนักงานสูงวัยเดินตรงเข้ามาคว้าแขนของหลี่หยวนไว้ พร้อมกับลากเข้าไปที่ห้องเก็บของ ก่อนจะร้องตะโกนบอกด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจอย่างมาก
“รีบๆเก็บของให้เรียบร้อยล่ะ!”
หลังจากที่หลี่หยวนเดินเข้าไปที่ห้องเก็บของแล้ว พนักงานหญิงมีอายุคนเดิมก็เดินเข้ามาหาเย่โม่กับเย่เจียเจีย พร้อมกับสำรวจสองพี่น้องตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดูถูก
“สรุปจะซื้อหรือไม่ซื้อ?”
“ผมอยากจะขอให้น้องสาวลองเสื้อผ้าชุดนี้ดูก่อนครับ!”
แม้เย่โม่จะรู้สึกไม่ค่อยพอใจกับท่าทีของพนักงานหญิงคนนี้มากนัก แต่ก็ไม่ได้คิดอยากจะสร้างปัญหาให้กับเธอ เพราะถึงอย่างไร ทุกคนต่างก็ต้องดิ้นรนหาเลี้ยงชีพของตัวเอง
“ขอโทษนะคะ! ร้านของเราไม่อนุญาตให้ลองเสื้อผ้าค่ะ ถ้าชอบและคิดว่าเหมาะก็หยิบไปจ่ายเงินได้เลย! แต่ถ้าไม่ซื้อ ก็อย่ามายืนเกะกะร้านค่ะ!”
หลังจากที่ได้ฟังคำพูดของพนักงานหญิงมีอายุคนนี้ อย่าว่าแต่เย่โม่เลย แม้แต่เย่เจียเจียเองยังถึงกับโกรธจนควันออกหู
“คุณพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง? คิดว่าผมไม่มีปัญญาซื้อเสื้อผ้าในร้านงั้นเหรอ?”
น้ำเสียงของเย่โม่เปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้นมาทันที พร้อมกับจ้องมองพนักงานหญิงแน่นิ่ง!
พนักงานหญิงมีอายุคร้านที่จะเสียเวลาทะเลาะกับเย่โม่ เธอจึงได้พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “หึ! ก็ดูจากเสื้อผ้าที่พวกเธอสองคนใส่ ไม่รู้ว่ารวมกันหมดเนื้อหมดตัวแล้วจะถึงพันหยวนรึเปล่ายังไม่รู้เลย? รู้มั๊ยว่าเสื้อผ้าในร้านราคาถูกที่สุดก็ยังราคา 1,888 หยวน! พวกเธอสองคนคิดว่าจะมีปัญญาจ่ายงั้นเหรอ?”
หลังจากได้ยินคำพูดดูถูกของพนักงานขายสูงวัยคนนี้เข้า เย่โม่ก็แทบลืมตัวตบหน้าเธอไป แต่นับว่ายังโชคดีที่สัญชาติญาณของเขาบอกว่า ไม่ควรทำร้ายร่างกายผู้หญิง!
เย่โม่สะกดกลั้นความโกรธภายในใจไว้ และทำท่าล้วงกระเป๋ากางเกงคล้ายกำลังค้นหาอะไรบางอย่าง แต่ความจริงแล้ว เขากำลังเรียกเงินจำนวนสามแสนหยวนออกมาจากพื้นที่ระบบ!
เย่โม่โบกธนบัตรสีแดงปึกใหญ่ไปมาตรงหน้าพนักงานหญิงสูงวัยทันที แล้วสีหน้าที่ดูถูกเหยียดหนาม ก็พลันเปลี่ยนเป็นโลภอยากได้ขึ้นมาทันที!
“คุณผู้ชายอยากจะลองเสื้อผ้าเหรอคะ? ได้เลยค่ะ ไม่มีปัญหา! ฉันจะไปหาไซส์ที่พอดีตัวมาให้นะคะ ว่าแต่น้องสาวของคุณผู้ชายใส่ไซส์อะไรเหรอคะ?”
พนักงานหญิงสูงวัยเปลี่ยนจากสีหน้าท่าทางจองหองอวดดี มาเป็นถ่อมเนื้อถ่อมตัวมีมารยาทขึ้นมาทันที และเวลานี้ แทบจะคุกเข่าลงแทบเท้าเย่โม่ด้วยซ้ำไป
เย่เจียเจียรู้สึกไม่คุ้นเคยกับคนประเภทนี้นัก เธอจึงรีบดึงแขนเสื้อของเย่โม่ชวนให้เขารีบออกจากร้าน เย่โม่เข้าใจน้องสาวดี แต่เขาต้องการซื้อเสื้อผ้าให้เธอสักชุดสองชุดก่อน
ไม่เพียงเท่านั้น หลายวันนี้เขาเองก็มัวแต่ยุ่งๆ จนไม่มีเวลาหาซื้อเสื้อผ้าให้กับตัวเองเลย ทุกวันนี้ก็ใส่แต่เสื้อผ้าเก่าๆที่มีอยู่ เพราะฉะนั้นในวันนี้เขาจึงต้องการจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จทีเดียว
“ไม่จำเป็น! เดี๋ยวผมไปเลือกเอง!”
“ได้ค่ะ! ถ้าอย่างนั้นฉันจะเดินตามไปช่วยแนะนำอยู่ใกล้ๆนะคะ!”
เย่โม่คร้านที่จะปฏิเสธ จากนั้นจึงได้เดินเลือกเสื้อผ้าภายในร้านไปเรื่อยๆ ถ้าชอบตัวไหนก็หยิบออกมาโยนใส่มือของพนักงานหญิงสูงวัยที่เดินตามมา จนเวลานี้เสื้อผ้าได้กองอยู่เต็มมือของเธอ!
แม้ว่าเสื้อผ้าแบรนด์เนมในห้างสรรพสินค้าเมืองฉางเฟิงจะไม่ใช่แบบที่แพงที่สุด แต่ก็มีคนในเมืองไม่มากนักหรอกที่จะมาซื้อเสื้อผ้าแพงๆแบบนี้ใส่ เท่าที่ผ่านมา ลูกค้าหน้าเดิมๆก็จะซื้อเฉลี่ยแค่เดือนละสามพันหยวนเท่านั้น
แต่เวลานี้ เสื้อผ้าที่กองอยู่ในมือของพนักงานหญิงสูงวัยนั้น เรียกได้ว่าน่าจะราวสามถึงสี่พันหยวนได้ แบบนี้แล้วเธอจะไม่อยากบริการได้ยังไง?
“เอาล่ะ! คุณเอาแบบทั้งหมดนี้ไปเลือกไซส์มาให้ผม เสื้อผ้าผู้ชายของเป็นไซส์ L ส่วนเสื้อผ้าสตรีของเป็นไซส์ของน้องสาวผม!”
“ได้ค่ะ! คุณผู้ชายรอสักครู่นะคะ!”
เย่โม่เดินไปนั่งรอที่เก้าอี้รับรองลูกค้าพร้อมกับเย่เจียเจีย ที่ตอนนี้กำลังตกใจจนพูดอะไรไม่ออก!
--------------------------
ติดตามนิยายแปลสนุกๆอีกหลายเรื่องได้ที่เพจ : แปลสนุก