ตอนที่ 21 โกรธใช่ไหม
แม้ว่าเขาจะปฏิเสธ แต่ดวงตาของเขาสงบนิ่งและดูเหือนนกอินทรีที่มองเหยื่อของมัน ซึ่งทำให้เจียงเหยาสงสัยในคำตอบของเขา
หลังจากนั้นไม่นาน เจียงเหยาก็บ่นออกมาว่า “ไม่ใช่อะไร คุณไม่ได้โกรธเหรอ เห็นชัด ๆ ว่าคุณโกรธ”
“ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่ได้โกรธ สี่ปีนั้นสั้นจะตาย ผมรอได้” ลู่ชิงสีชี้แจ้งน้ำเสียงเคร่งขรึม จากนั้นเขาก็ถอนหายใจด้วยความพ่ายแพ้และเรียกร้อง
“ผมก็บอกแล้วว่าไม่โกรธ แต่คุณก็ไม่เชื่อ บอกผมสิ ว่าผมควรพูดหรือทำอะไรให้มั่นใจว่าผมไม่ได้โกรธ”
คำพูดนี้ถือเป็นการยอมจำนนของลู่ชิงสีต่อเจียงเหยา ขณะที่เธอกำลังสงสัยว่าเขาโกรธ ดูเหมือนว่าเธอจะสนใจจริง ๆ ว่าเธอทำให้เขาไม่พอใจหรือเปล่า
“ถ้าคุณไม่ได้โกรธจริง ๆ ล่ะก็... ยิ้มให้ฉันสิ” เจียงเหยากล่าวและยิ้มกว้างให้กับลู่ชิงสี
ดวงอาทิตย์ที่แผดเผาในฤดูร้อนให้ความรู้สึกเหมือนเป็นเตาธรรมชาติที่อบผู้คนบนโลกใบนี้
ทว่าตอนนี้ อุณหภูมิที่ร้อนอบอ้าวไม่ได้รบกวนลู่ชิงสีเลย
ราวกับว่าเขาไม่รู้สึกถึงความร้อน ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสและอ่อนเยาว์ของเธอ
ลู่ชิงสีตะลึงกับวิวอันแสนหวาน นี่เป็นครั้งแรกที่เจียงเหยายิ้มให้เขา ริมฝีปากชมพูของเธอขดขึ้น เผยให้เห็นฟันขาวเป็นประกายและฟันเขี้ยวอันน่ารัก ลักยิ้มสองข้างปรากฎขึ้นที่ด้านข้างของริมฝีปากของเธอ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความสุขและความหวังที่ทำให้เขานึกถึงทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์ที่เขาได้เห็นในทิเบตขึ้นมาทันใด โปร่งใสและเงียบสงบอย่างสมบูรณ์
“ฮะ” ตามสัญชาตญาณ ลู่ชิงสีหัวเราะเบา ๆ และลูบศีรษะของเธอ
“ผมสาบาน ตราบใดที่คุณมีความสุข ผมไม่มีทางที่จะโกรธ”
คำอธิบายของเขาทำให้เจียงเหยารู้สึกผิดที่สงสัยเขา เธอต้องการขอโทษที่สงสัยเขา
“ผมชอบที่คุณไว้ผมยาว ตอนเรียนมหาวิทยาลัยคุณจะไว้ผมยาวไหม”
บางทีอาจเป็นเพราะการจ้องมองอันเงียบสงบและน่ารักของเธอ ลู่ชิงสีถึงได้โพล่งคำถามออกมาโดยไม่รู้ตัว เขาจำครั้งแรกที่เขาพบเธอได้ ผมของเธอพลิ้วไสวไปตามสายลม และเขาก็ชอบมัน
เมื่อเรียนปีสุดท้ายที่ต้องเรียนอย่างหนัก เธอตัดผมยาวทิ้งเพราะไม่มีเวลาดูแล เธอดูเรียบร้อยและฉลาดในผมสั้น แต่หากผมยาวเธอจะดูอ่อนหวานเรียบร้อย
ทันทีที่เขาพูดจบ เขายิ้มอย่างขมขื่น เธอเพียงแค่ยิ้มให้เขา เขาก็เสียสติไปแล้ว ทำไมเจียงเหยาถึงจะต้องไว้ผมยาวเพียงเพราะเขาชอบมันด้วยเล่า?
ลู่ชิงสีไม่รอคำตอบ “กลับเข้าบ้านกันเถอะ พวกเขารอเราอยู่”
แม้ว่าเขาจะรู้ว่าเจียงเหยาจะปฏิเสธคำขอของเขาและหาข้อแก้ตัวได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทว่าลู่ชิงสีก็ไม่เต็มใจที่จะได้ยินนัก
เจียงเหยาพยักหน้าและวิ่งไปข้างหน้าเพื่อให้ทันลู่ชิงสี ซึ่งอยู่ข้างหน้าเธอเพียงสองก้าว ในที่สุดเธอก็เดินตามเขาทันและเดินเคียงข้างเขา เธอกล่าวว่า “ถ้าคุณชอบ ฉันจะไว้ผมยาว”
น้ำเสียงของเธอว่องไวและเป็นกันเอง แต่ทำให้ลู่ชิงสีสั่น นิสัยที่มักจะปั้นหน้าของเขาช่วยป้องกันอาการสั่นและเขาก็สงบสติอารมณ์ได้อย่างรวดเร็ว และเข้าไปในบ้านพร้อมกับเจียงเหยา
“ไง คุยกันทะลุปรุโปร่งหรือยัง” ลู่อี้ชิงแซวเมื่อเห็นพวกเขาเข้ามา “คุยกันเป็นไงบ้าง”
“เธอจะไปเรียนที่มหาวิทยาลัยแพทย์หนานเจียงตามแผนที่วางไว้ ตอนนี้เธอยังเด็กเกินไปที่จะมีลูก ดังนั้นพวกเราจะรอจนกว่าเธอจะเรียนจบ”
หลังจากนั่งลง ลู่ชิงสีก็ตักซุปให้เจียงเหยาชามหนึ่ง และวางไว้ข้างหน้าเธอ เขาสังเกตเห็นปฏิกิริยาของเธอครู่หนึ่ง ขณะที่เธอหยิบชามขึ้นมาจิบแล้วแอบอมยิ้ม เขาไม่ยิ้มตอบ ทว่าดวงตาเต็มไปด้วยความสุขและความพึงพอใจ เธอไม่รังเกียจที่ใช้ชามร่วมกับเขา
แม่ลู่พยักหน้าให้กับคำพูดของลู่ชิงสี “ใช่แล้วล่ะ ลูกพูดเธอ แม่เกือบลืมไปว่าเจียงเหยาเพิ่งจะอายุสิบเก้า วัยนี้ยังเด็กเกินไปที่จะมีลูก”