ตอนที่ 17 ไม่ไปแล้วค่ะ
เจียงเหยาเหลือบมองไปที่ลู่ชิงสีแล้วหัวเราะ “พี่คะ จริงเหรอ ตลกสิ้นดี แล้วเกิดอะไรขึ้นคะ”
“จากนั้น เขาก็ได้นั่งคนเดียวตลอด เพราะไม่มีใครอยากนั่งข้างเขาน่ะสิ” ลู่อี้ชิงพูดพร้อมกับหัวเราะคิกคัก
“เพื่อนร่วมชั้นของเขากลัวเขาทุกคน แต่ดูเหมือนหมอนี้จะยังไม่รู้ตัว ยังคงเคร่งขรึม ทำหน้าจริงจัง ตอนนั้นเขาไม่มีเวลาและอารมณ์ที่จะสนุกสนาน สิ่งที่เขาทำคือการเรียน เพื่อที่จะเข้าวิทยาลัยเตรียมทหารจินโตให้ได้”
ลู่อี้ชิงถอนหายใจและพูดต่อ “สามครั้ง ตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้ ฉันเห็นเขายิ้มอย่างมีความสุขสามครั้งเท่านั้น ครั้งแรกคือตอนที่เขาได้รับจดหมายตอบรับจากวิทยาลัยเตรียมทหารจินโต ครั้งที่สองคือตอนที่เขากลับมาบ้านเมื่อปลายทีปที่แล้ว โดยไม่มีสาเหตุ ครั้งที่สาม ตอนงานแต่งงานของเธอ เพื่อน ๆ เขาบอกว่าเขาหัวเราะเหมือนคนโง่ โดยเฉพาะในช่วงงานเลี้ยงแต่งงาน จากที่ฉันเห็นน่ะ มันเป็นรอยยิ้มโง่ ๆ ชัด ๆ”
“กินซะ” ลู่ชิงสีสั่ง ฟังดูเหมือนราชาผู้ออกคำสั่ง เขาฟื้นคืนสีหน้าปกติ เมื่อลู่อี้ชิงกำลังดื่มด่ำกับความทรงจำของเธอ
หลังจากพูดแล้ว ลู่ชิงสีก็ก้มหน้าลงและกินอาหารกลางวันอย่างรวดเร็ว เขาได้รับการฝึกฝนให้ทานข้าวให้เร็วที่สุด แม้ว่าเขาจะจงใจทานช้าลงเมื่อทานอาหารที่บ้าน ความเร็วยังคงแซงหน้าเจียงเหยาที่กินข้าวช้าอย่างประหลาดใจ
“หายากที่เราจะได้กินข้าวพร้อมหน้ากันแบบนี้ ฉันจะไปหยิบไวน์มา มาดื่มด้วยกันเถอะ” คุณนายลู่ประกาศอย่างกะทันหัน เธอลุกขึ้นยืน เดินไปที่ห้องครัวด้วยรอยยิ้มแล้วหยิบไวน์ที่เธอทำเองออกมาจากตู้เย็น
น่ายินดีอย่างยิ่งที่ได้ดื่มไวน์เย็น ๆ ในช่วงฤดูร้อน แม้แต่ลู่ชิงสียังชื่นชอบรสชาตินี้
“ตอนอยู่ที่กองทัพ ผมล่ะคิดถึงไวน์มาก” ลู่ชิงสีมองเจียงเหยา “นี่คุณก็เรียนจบมัธยมแล้ว อยากลองดื่มหน่อยไหม?”
“ชิงสีพูดถูก เจียงเหยา วันนี้ต้องฉลองให้กับเธอ ขอแสดงความยินดีที่ได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัยแพทย์หนานเจียง ต่อไปครอบครัวเราก็จะมีหมอแล้วนะ” พ่อลู่พูดด้วยเสียงหัวเราะอารมณ์ดี “เธอกำลังจะเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว นั่นก็หมายความว่าเป็นสาวใหญ่แล้ว ไวน์ของแม่สามีอร่อยมาก ต้องลอง ต้องลอง”
“ฉลอง?” เสียงแหลมของลู่อี้ชิงก้องกังวานในทันที แต่ก่อนที่เธอจะพูดต่อ จ้าวจวนซ่งก็รีบพูดขึ้น “ใช่ เราควรฉลอง! เจียงเหยาจะเป็นนักศึกษาเร็ว ๆ นี้ พวกเราภูมิใจในตัวเธอมากนะ! แม้ว่าจะผ่านมาสักระยะแล้ว การจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ ต้องได้รับการตอบรับอีก ในเมืองนี้มีนักศึกษาหญิงเพียงไม่กี่คนหรอก น้อยคนที่จะได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ คะแนนตอนเรียนมัธยมของเจียงเหยาก็อยู่อันดับต้น ๆ ของเมือง เป็นนักเรียนดีเด่น ที่สามารถเข้าเรียนมหาวิทยาลัยชื่อดังได้ เราควรฉลอง!”
จ้าวจวนซ่งรู้ดีถึงอารมณ์ของภรรยาของเขา เหมือนกับเป็นหลังมือของตนเอง ไม่ต้องสงสัยเลยว่า หากภรรยาของเขายังโจมตีเรื่องนี้กับเจียงเหยาต่อ อาหารกลางวันคงได้จบลงที่การทะเลาะของพี่น้องและจากกันอย่างไม่มีความสุข
ลู่ชิงสีมองไปที่จ้าวจวนซ่ง เจียงเหยาเปล่งเสียงออกมาก่อนที่เขาจะพูดอะไร
“แม่คะ พ่อคะ ฉันตัดสินใจแล้วคะ ว่าจะไม่ไปเรียนที่มหาวิทยาลัยแพทย์หนานเจียง”
เจียงเหยาคิดเรื่องนี้ตั้งแต่วินาทีที่เธอได้รับจดหมายตอบรับ หรืออาจเป็นตอนที่จดหมายนั้นถูกโยนใส่หน้าเธอ
“พ่อคะ แม่คะ ฉันขอโทษที่ดื้อและเห็นแก่ตัว ฉันคิดถึงแต่เรื่องของตนเอง ไม่ได้คิดถึงพวกท่านกับชิงสีเลย ฉันเสียใจจริง ๆ คะ ฉันไม่ควรสมัครที่หนานเจียง แต่ฉันก็ได้ทำไปแล้ว และตอนนี้ก็สายเกินไปที่จะเสียใจกับการตัดสินใจนั้น ดังนั้น ฉันจึงตัดสินใจว่าจะไม่ไปที่หนานเจียง”
“เธอจะไม่ไปเหรอ?” คุณนายลู่ตะโกนออกมาเสียงแหลม “เธอไม่อยากเรียนมหาวิทยาลัยแล้วเหรอ?”